ประมุขประจิมหลางชิงแต่งกายแบบนักศึกษาคล้ายกับเหมาหยวนเซิง แต่ว่าภายนอกสวมทับด้วยเสื้อคลุมเต๋าชิ้นหนึ่ง เขาไว้เครายาวสีดำสามแฉกไว้ใต้ข้าง ตัดแต่งเป็นระเบียบยิ่ง
“พวกเรามีศัตรูร่วมกัน นั่นก็คือเฉาเจี๋ย” หลางชิงว่า “เขากว่างเฉิงที่เพิ่งผงาดขึ้นมาเป็นตัวแปรที่อยู่เหนือความคาดหมาย”
“ดูจากตอนนี้ เขากว่างเฉิงนี่เหมือนกับสุนัขเฝ้าประตูที่เฉาเจี๋ยเลี้ยงไว้ หากไม่ถอนตะปูดอกนี้ออก เขาโถงทองทองจะมั่นคงเหมือนเดิม”
หลางชิงพูดพลางส่ายศีรษะอย่างแช่มช้า “ข้าเองก็อยากจะถอนตะปูดอกนี้เช่นกัน แต่ว่าตอนนี้ทำไม่ได้”
จวงเซินไม่ได้รู้สึกว่าหลางชิงกำลังบอกปัด กลับถามอย่างเยือกเย็นว่า “พี่หลางได้ยินข่าวอะไรมาหรือ”
“ข้าครั้งนี้ที่มาเพราะคิดบอกต่อท่าน” หลางชิงพยักหน้า “จักรพรดิแพรงามกลับโลกซ้อนโลกแล้ว นอกจากนี้ยังมีข่าวส่งมาจากยอดเขาอัศจรรย์ ว่าเขาตั้งใจคุ้มครองเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิง”
พอพูดจบ จอมยุทธ์เนินต้นจักพรรรดิก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น
ท่าทีที่ชัดเจนขนาดนี้ของจักรพรรดิแพรงามอยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขา แต่ว่าไม่มีคนพูดถึงข้อสงสัยนี้
ประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยมีความสำคัญแนบแน่นกับจักรพรรดิแพรงาม ส่วนประมุขประจิมหลางชิงกับเฉาเจี๋ยแม้ว่าจะเป็นน้ำกับไฟ แต่เขาก็นับว่าสนิทสนมกับอวิ๋นฉือจักรพรรดิแพรงามยิ่ง
สำหรับความขัดแย้งระหว่างเฉาเจี๋ยกับหลางชิง หลังจากที่จักรพรรดิแพรไกล่เกลี่ยไม่เป็นผล ก็จะอยู่ตรงกลางไม่ช่วยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
แต่สำหรับเนินต้นจักรพรรดิแล้ว นี่เป็นภูเขาที่ยากจะข้ามผ่าน
จวงเซินถามอย่างแช่มช้า “เป็นเรื่องราวตั้งแต่เมื่อใด”
“แทบจะพร้อมกับที่พวกเราออกฌาน” หลางชิงตอบ “เห็นได้ชัดว่าเขาวางแผนไว้แต่แรก จักรพรรดิเอกภพยังไม่กลับจากมิติต่างแดน พวกเราไปฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ตอนนี้ มีแต่จะชนกำแพงเสียเปล่าๆ”
คำพูดของหลางชิงค่อนข้างเกรงใจแล้ว
สำหรับหลางชิงที่มีความสัมพันธ์กับจักรพรรดิแพรไม่เลว บางทีอาจจะแค่ชนกำแพง แต่สำหรับจวงเซินกับเนินต้นจักรพรรดิ เกรงว่าจะไม่ได้แค่ชนกำแพงเท่านั้น
มีคนโพล่งขึ้นว่า “สมมติว่าพวกเราเพียงเล่นงานแค่เขากว่างเฉิง ไม่เล่นงานเขาโถงทอง จักรพรรดิแพรงามจะลงมือหรือไม่”
หลางชิงไม่ได้รู้สึกไม่พอใจต่อการสอดปากของเขา เพียงพยักหน้าช้าๆ
จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิสีหน้าสั่นไหวเล็กน้อย “หรือว่าข่าวลือส่วนหนึ่งจะเป็นจริง จักรพรรดิแพรคิดเลือกเขยให้บัวแดงฟู่ถิงหรือ คนที่นางถูกใจคือโจรน้อยแซ่เยี่ยนนั่นหรือขอรับ”
พอได้ฟังคำพูดนี้ จวงเซินก็มองหลางชิง สีหน้าฉายแววค้นหา
แม้ว่าทั่วทั้งเนินต้นจักรพรรดิจะเกลียดเยี่ยนจ้าวเกอเข้ากระดูกดำ แต่ก็จำเป็นต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนหนุ่มที่ในไม่กี่ปีมานี้ ผงาดขึ้นมาได้โดดเด่นที่สุดบนโลกซ้อนโลก และเป็นอัจฉริยะบุรุษอายุน้อย
ฉายามนุษย์เซียนผู้ถูกเนรเทศแพร่หลายในเขตเพลิงทักษิณอย่างกว้างขวางเช่นกัน
“ไม่อาจบอกได้ว่าไม่มีแน่นอน แต่สมควรไม่ใช่” หลางชิงส่ายหน้า “ข่าวที่ส่งมาจากยอดเขาอัศจรรย์คือ เยี่ยนจ้าวเกอเคยช่วยเหลือฟู่ถิง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการทดแทนบุญคุณ”
จวงเซินครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวว่า “ทางจักรพรรดิแพรใช่ว่าจะลงมือได้”
“โอ้?” หลางชิงมองจวงเซินอย่างเหนือความคาดหมายเล็กน้อย
เหมาหยวนเซิงที่อยู่ด้านข้างยามนี้กระแอมขึ้น กล่าวเสริมว่า “ไม่ใช่ว่าข่าวที่ประมุขประจิมท่านได้ยินมามีข้อผิดพลาด ความหมายของศิษย์พี่เจ้าสำนักก็คือ จักรพรรดิแพรบางทีอาจตั้งใจช่วยเหลือ แต่พอถึงตอนนั้นกลับไม่แน่ว่าจะมีเวลา”
หลางชิงขมวดคิ้ว “หมายความว่าอย่างไร”
จวงเซินลดเสียงกล่าวหลายประโยค หลางชิงสีหน้าพลันแปรเปลี่ยน
“กำลังจะเชิญพี่หลางช่วยตรวจสอบดูอยู่พอดี ว่าวิธีของข้าใช้ได้หรือไม่” จวงเซินกล่าว
หลางชิงหลังจากขบคิดครู่หนึ่งก็พยักหน้าช้าๆ “ความหวังมีไม่น้อย มีโอกาสสำเร็จสูงยิ่ง”
เขาหันไปมองจวงเซิน “ดูเหมือนพี่จวงวางแผนมานานแล้ว”
จวงเซินเอ่ยอย่างสงบนิ่ง “ในตอนนั้นเพื่อเขาโถงทอง ถึงแม้จักรพรรดิแพรกับจักรพรรดิเอกภพจะเกิดความขัดแย้งกัน แต่ข้าเองก็เตรียมการณ์ไว้แล้ว”
“แต่ตอนนี้เพื่อเยี่ยนจ้าวเกอนั่นและเขากว่างเฉิง”
“พี่หลางไม่ต้องผิดหวังไป ถ้าหากข้าคาดไว้ไม่ผิด ครั้งนี้เฉาเจี๋ยจะต้องลงมือช่วยเหลือเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิงแน่นอน ศัตรูของพวกเรายังคงมีร่วมกัน”
หลางชิงเอ่ย “พี่จวงกล่าวไม่ผิด แต่ในเมื่อท่านใช้กระบวนท่านี้ ข้าคิดว่าเราควรจะรอก่อน”
จวงเซินพยักหน้า “รอจักรพรรดิเอกภพกลับมาหรือ”
“ไม่ผิด ลูกผู้ชายแก้แค้น สิบปีก็ไม่สาย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ต้องรอนานถึงสิบปี” หลางชิงกล่าว “จักรพรรดิแพรลงมือ มีจักรพรรดิเอกภพขัดขวาง จักรพรรดิแพรไม่ลงมือ พวกเราย่อมต้องชนะ ไม่ได้มีโอกาสเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย”
“วิธีการของพี่จวงท่านมีความมั่นใจไม่น้อย แต่ว่าพวกเราจำเป็นต้องคิดถึงสถานการณ์ที่จักรพรรดิแพรกลับมาทันด้วย”
จวงเซินสีหน้าสงบนิ่ง ก่อนที่เขาจะเอ่ยอย่างเชื่องช้า “พี่หลางกล่าวไม่ผิด ความจริงต่อให้จักรพรรดิแพรลงมือไม่ได้ เมื่อพวกเราสองคนผนึกกำลังกันก็ไม่ใช่ว่าสำเร็จสิบมั่นใจเก้า ข้าเดิมทีคิดเชื้อเชิญคนมาช่วยเหลืออีก”
หลางชิงถาม “ท่านเตรียมจะหาใคร”
“รูปร่างหน้าตาของเยี่ยนจ้าวเกอนั่น ศิษย์พี่หลางคงจะทราบ” จวงเซินไม่ตอบกลับถาม “ท่านรู้สึกว่าเขาหน้าตาคล้ายคนผู้หนึ่งหรือไม่”
หลางชิงตากลายเป็นคมกริบ ในสมองมีภาพเงาแสงของเยี่ยนจ้าวเกอที่ตนเคยเห็นลอยขึ้นมา จากนั้นก็จับคู่กับคนอื่นๆ ที่อยู่ในความทรงจำ
จวงเซินไม่พูดถึงยังพอว่า แต่เพราะการกล่าวเตือนนี้ หลางชิงจึงเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้ว
“เสวี่ยชูฉิง ศิษย์หลานของหูเยว่ซินหรือ” หลางชิงขมวดคิ้ว “พวกเขามีความสัมพันธ์ทางสายเลือด? แม่ลูก? ถึงแม้ว่าหน้าตาจะคล้ายกันอยู่หลายส่วนจริงๆ กระนั้นคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่หน้าตาละหม้ายเหมือนกันก็มีอยู่ถมไป…
พูดถึงตรงนี้ ประมุขประจิมหลางชิงก็พลันหยุดลง ดวงตาเป็นประกาย คล้ายนึกอันใดออก
จวงเซินว่า “ไม่ผิด ถ้าหากหน้าคล้ายกันก็ไม่นับเป็นอย่างไร แต่ข้าสังเกตเห็นเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องที่เฉาเจี๋ยปกป้องผู้สืบทอดสำนักประกายกาฬ พวกเราล้วนทราบ แต่โจรน้อยแซ่เยี่ยนนั้นเมื่อเข้าไปในสุสานจักรพรรดิประกายกาฬ ต่อให้ไม่มีอาวุธเซียน ก็ต้องได้มรดกของอิ่นเทียนเซี่ยไปแน่ เขาไม่ใช่ผู้สืบทอดที่แท้จริงของสำนักประกายกาฬ เฉาเจี๋ยไม่โมโหยังพอว่า แต่ถึงกับคอยดูแลเขามาโดยตลอดเช่นนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ”
หลางชิงได้ยินคำพูดของจวงเซินก็ลูบหนวดเคราของตัวเอง “สงสัยว่าผู้สืบทอดของหูเยว่เซินจะได้รับเบาะแสที่อิ่นเทียนเซี่ยเคยทิ้งไว้มาโดยบังเอิญ เยี่ยนจ้าวเกอนั่นเพราะเกี่ยวข้องกับผู้สืบทอดของหูเยว่ซิน ดังนั้นเฉาเจี๋ยจึงให้ความสำคัญกระมัง”
“ไม่ถูกต้อง…” หลางชิงส่ายหน้า ดวงตาหรี่เล็กลง “ไม่ใช่ได้มาโดยบังเอิญ ดูจากตอนนี้แล้ว หูเยว่ซินกับอิ่นเทียนเซี่ยเดิมทีอาจเป็นคนรู้จักกันอยู่แล้ว ดังนั้นของที่อิ่นเทียนเซี่ยนำกลับมาจึงตกไปอยู่ในมือของหูเยว่ซิน ตอนนี้ค่อยตกไปอยู่ในมือศิษย์หลานของนาง!”
เขาลืมตาขึ้น “จักรพรรดิประกายกาฬผู้ประเสริฐ กลยุทธ์ข้ามฟ้าปิดทะเลอันประเสริฐ ผู้รับช่วงต่อจากเขาเดิมทีไม่ใช่ลูกศิษย์หลานศิษย์ของสำนักประกายกาฬ แต่เป็นผู้สืบทอดของหูเยว่ซิน”
จวงเซินพยักหน้า “เฉาเจี๋ยจะมากจะน้อยก็เป็นคนที่รู้เรื่อง”
หลางชิงมองเขา “เมื่อเป็นเช่นนี้ คนที่ท่านคิดตามมาช่วยเหลือ…”
“สหายร่วมเส้นทางเทียนอี้ฝั่งทิศตะวันออก” จวงเซินตอบ “เลี่ยนจู่หลินแห่งฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ”
นักพรตเทียนอี้ ผู้ปกครองเขตสุราลัยบูรพา ผู้ดูแลอารามสูงส่งแห่งเขาเมฆเลือน ประมุขบูรพา
เลี่ยนจู่หลิน ผู้ปกครองเขตฟ้าสงัดพายัพ ผู้ครองทะเลสีชาด ประมุขพายัพ
………………..