ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 1026 สะพานเซียนสู้ประมุข

เหล่าประมุขในหมู่คนผู้ยิ่งใหญ่ต่างลงมือ เข้าสู่การต่อสู้ดุเดือด ต่างฝ่ายล้วนเผชิญหน้ากับการโจมตีของอีกฝ่ายได้ทุกเวลา

ถึงแม้ว่าประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยจะกันประมุขประจิมหลางชิงไว้ได้ แต่ว่าสภาวะโจมตีของประมุขอิสานหลิวเจิงกู่ก็ยังคงถูกประมุขพายัพเลี่ยนจู่หลินขัดขวาง

แค่การเสียเวลาไปเล็กน้อยนี้ นักพรตเทียนอี้ ประมุขบูรพาก็บรรลุถึงด้านหลัง แล้วต่อยหมัดหนึ่งใส่

ตอนนี้บนมือของนักพรตเทียนอี้มีสายฟ้าสีเขียวที่แตกต่างจากประกายอัสนีสีม่วงของหลิวเจิงกู่วนเวียนอยู่ เนื่องจากได้รับสืบทอดจากจักรพรรดิอายุวัฒนาหนานจี๋เหมือนกัน สายสืบทอดของอารามสูงส่งจึงฝึกฝนวิชาสายฟ้า

คัมภีร์อายุวัฒนามีความสามารถครอบจักรวาล นอกจากผู้ฝึกฝนจะมีพลังชีวิตมากมายแล้ว ยังใช้สายฟ้าเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกาย รับพลังงานที่แข็งแกร่งได้ มาตรแม้นว่าจะรุนแรงไม่เท่าวิชาเทพสายฟ้าของตำหนักขุยสายฟ้า ทว่าวรยุทธ์ของอารามสูงส่งก็ดุดันมากเช่นกัน

หมัดประกายอัสนีแดนเซียนนี้ เป็นท่าไม้ตายลับที่ถูกบันทึกอยู่บนคัมภีร์อายุวัฒนา

นักพรตเทียนอี้ใช้ปัญจธาตุเปลี่ยนเป็นตาย เปลี่ยนปราณชีวิตให้เป็นปราณความตาย จากนั้นก็กระตุ้นท่าหมัดประกายอัสนีแดนเซียน ลงมือสุดกำลัง มีอานุภาพสุดเปรียบปาน!

“เปิด!” หลิวเจิงกู่ถูกเขาลอบตีเข้ามาด้านหลัง แต่เขาก็ไม่ได้รีบร้อน สูดหายใจตวาดขึ้นราวกับสายฟ้า สั่นสะเทือนเขตตะวันอาคเนย์จนผืนดินสั่นภูเขาสะเทือน

ชายชราสวมมงกุฎม่วงไม่ได้หลบ ขณะเดียวกันบนร่างก็มีประกายอัสนีสีทองทะลักขึ้นมา การไหลของเวลาในมิติรอบๆ คล้ายกับกำลังจะหยุดนิ่งในชั่วพริบตา

ทุกอย่างราวกับไม่เปลี่ยนแปลงไปชั่วนิรันดร์ คงอยู่ชั่วกาลนานไม่เสื่อมคลาย

หมัดประกายอัสนีแดนเซียนของนักพรตเทียนอี้พุ่งใส่ประกายอัสนีสีทอง ไม่มีการระเบิดสะเทือนฟ้าดิน ไม่มีกระแสอากาศที่ปั่นป่วนไปทั่ว

พริบตานี้เหมือนกับหยุดนิ่ง กลายเป็นชั่วนิรันดร์

สายฟ้านิรันดร์ สายฟ้าที่ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ห้าของสายฟ้าเซียนทั้งเก้า!

ชั่วนิรันดร์กับพริบตา ขั้วตรงข้ามแห่งเวลา

หากศึกษาความหมายของชั่วนิรันดร์และชั่วพริบตาได้ ย่อมเห็นถึงความลับของกาลเวลา

สายฟ้าเซียนทั้งเก้ามีความสามารถแตกต่างกัน สายฟ้านิรันดร์กับสายฟ้าชั่วพริบตาที่ถูกจัดอยู่ในอันดับห้าและอันดับหก เมื่อประสานกันแล้วจะก่อเกิดเป็นความหมายที่แท้จริงของกาลเวลา

วิธีต่อสู้ของหลิวงเจิงกู่ดุดัน บ้าคลั่ง และสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล แต่เมื่อมีสายฟ้านิรันดร์อยู่กับตัว ขอแค่ไม่ก้าวข้ามขีดจำกัด ลมปราณญาณจริงแท้ธาตุสายฟ้าของประมุขอิสานผู้นี้ก็แทบจะไร้ขีดจำกัด

วิชาสายฟ้าชนิดนี้ใช้ปกป้องร่างกาย ทั้งยังมีพลังป้องกันแข็งแกร่ง

หลิวเจิงกู่ใช้สายฟ้านิรันดร์ต้านทานหมัดของนักพรตเทียนอี้ ร่างกายส่ายไหว ใบหน้าสีบานเย็นซีดขาว จากนั้นก็กลับคืนสู่ลักษณะเดิมในชั่วอึดใจ

เขาสูญเสียโอกาสไปเพราะว่าเลี่ยนจู่หลิน แต่เขายกได้ก็วางได้ ไม่สนใจจวงเซินอีก ชักมือกลับมาแทงใส่จุดอ่อนตรงทรวงอกของนักพรตเทียนอี้!

นักพรตเทียนอี้ตาเป็นประกาย สายฟ้าสีเขียวเต้นเร่าในม่านตาสองข้าง แต่ในส่วนลึกสุดกลับปรากฏสายฟ้าสีม่วง!

พลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกขั้นหนึ่ง!

การระเบิดพลังนี้ เยี่ยนจ้าวเกอคุ้นเคยเป็นอย่างดี

นั่นคือสายฟ้าชั่วพริบตา!

ในตอนที่ได้เศษชิ้นส่วนดวงตาของราชาสายฟ้ามาจากเซี่ยงอีหยาง ลูกศิษย์ของอารามสูงส่ง เยี่ยนจ้าวเกอก็คาดเดาออก และมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่านักพรตเทียนอี้ ประมุขบูรพาจะบรรลุวิชาสายฟ้าชั่วพริบตา

ตอนนี้เมื่อเขาใช้ออกมาก็ไม่ธรรมดาอย่างที่คาดไว้ ด้วยเดิมทีเขาเป็นมนุษย์เซียน พลังในตอนนี้ลุกไหม้และระเบิดอย่างฉับพลัน เพียงชั่วอึดใจเดียวพลังระเบิดอันน่ากลัวก็ทำให้เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าประมุขอิสานหลิวเจิงกู่เสียอีก

เมื่อสองมือประสานกัน ก็กระแทกเข้าใส่หอกยาวสีดำอมเขียวที่เกิดจากประกายอัสนี หักทวนยาว บดขยี้แสงสายฟ้ามากมาย!

หอกยาวแหลกสลาย กลายเป็นแสงสายฟ้ากระจัดกระจายไปทั่วสี่ทิศ ทำให้ฟ้าดินรอบๆ อาบอยู่ในพายุสายฟ้าโดยสมบูรณ์

เสาสายฟ้าหยาบใหญ่หลายต้นผ่าลง พุ่งใส่ผิวทะเล จากนั้นก็เจาะทะลวงผืนสมุทร จากนั้นเสาสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนค่อยตั้งตรงแผ่กระจาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นนรกสายฟ้าโดยสิ้นเชิง

ขณะนี้น่านน้ำของดินแดนจิตคุณธรรมที่เขากว่างเฉิงอยู่อันตรายยิ่งกว่าดินแดนสุทธทัศน์ ที่มีพายุแม่เหล็กไร้สิ้นสุดพัดโหมเสียอีก

จอมยุทธ์ที่ยังไม่สำเร็จถึงขั้นสะพานเซียน อย่าว่าแต่ถูกสายฟ้าผ่าโดน ต่อให้หลุดเข้าไปในอาณาเขตสายฟ้านี้ เพียงแค่เวลาสั้นๆ ก็จะถูกระเบิดเป็นผุยผง ไม่อาจรอดออกไปได้

การระเบิดในครั้งนี้ทำลายหอกราชาเทพสายฟ้าของหลิวเจิงกู่ และทำให้ลมหายใจของนักพรตเทียนอี้เบาลงหลายส่วน แต่ว่าเขาก็ยังสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ไม่ทันไรก็กลับสู่สภาพเดิม

นักพรตเทียนอี้ศึกษาวิชาสายฟ้าชั่วพริบตาอยู่หลายปี เดิมทีมีระดับพลังฝึกปรือสูงล้ำอยู่แล้ว อีกทั้งยังบรรลุการควบคุมมัน จึงปรับระดับการระเบิดของสายฟ้าชั่วพริบตาได้ดั่งใจนึก ไม่ได้เผาไหม้พลังของตัวเองจนหมดสิ้นในครั้งเดียว

ตอนนี้เอง หลิวเจิงกู่จู่โจมมาอีก สายฟ้าระเบิดติดต่อกัน สภาวะเหมือนกับไม่มีสิ้นสุด

นักพรตเทียนอี้มีใบหน้าเคร่งเครียด เขาเปลี่ยนแปลงกระบวนท่า ใช้อ่อนสยบแข็ง ถ่วงเวลาหลิวเจิงกู่อีกคน

เงาแสงสาดส่อง ภาพการต่อสู้ของประมุขผู้ยิ่งใหญ่ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ในเขตเพลิงทักษิณทางตะวันตกและเขตหยางเทียนทิศใต้ทางตะวันออก

จอมยุทธ์จำนวนนับไม่ถ้วนถอนใจชมเชย

คิดถึงตอนนั้น ประมุขทักษิณจวงเซินใช้หนึ่งสู้สี่ เผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าเช่นพวกแม่เฒ่ากระบี่อาคเนย์และหลงฮั่นหวาที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดพร้อมกัน ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ใช้ความสามารถที่แท้จริง กลับเคลื่อนมีดเหลือที่ว่าง[1]

ในตอนนี้ เมื่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับเดียวกัน ยอดฝีมือระดับประมุขเหล่านี้จึงค่อยแสดงฝีมือของตนออกมาอย่างแท้จริง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเหตุใดระหว่างจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ กับขั้นเก้าจึงแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

ทว่าในการต่อสู้ครั้งนี้กลับมีตัวตนที่ไม่สอดคล้อง ท้าทายความรู้ของผู้คนอยู่

สิ่งที่ท้าทายทัศนคติอันแข็งแกร่งของผู้คนคือ ตัวตนเช่นนี้มีไม่ต่ำกว่าหนึ่ง!

เลี่ยนจู่หลินเห็นหลิวเจิงกู่ถูกนักพรตเทียนอี้พัวพันไว้อีกครั้ง ก็ย้ายความสนใจไปที่เขากว่างเฉิงซึ่งอยู่ตรงหน้า

แต่ในตอนนั้นเอง ตรงหน้านางพลันมีประกายดาบสายหนึ่งสว่างขึ้น

ประกายดาบกระจัดกระจาย ธรรมชาติคล้ายเกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะมัน

จิตดาบอันแข็งแกร่งซึ่งเกรี้ยวกราดอหังการ กลายเป็นดาบผ่าฟ้า ฟันใส่ทะเลสีชาดและเจ้าของทะเลสีชาดอยู่เหนือเขากว่างเฉิง!

ทะเลสีชาดที่ยิ่งใหญ่รุนแรงซัดลงพร้อมพลิกตัว สุดท้ายถึงกับถูกประกายดาบแหวกออกตรงกลาง!

ประกายดาบทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นขั้นตอนการสร้างโลกตั้งแต่เปิดฟ้าผ่าดิน ไปจนถึงการทำลายฟ้าดิน

ไม่ใช่การเปิดฟ้าดินธรรมดา ไม่ใช่การสร้างสู่การทำลายธรรมดา แต่ว่าเป็นขั้นตอนที่สมบูรณ์ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดจบ ดังนั้นจึงไม่อาจขัดขวาง!

การสร้างสรรค์แปรเปลี่ยน สภาวะยิ่งใหญ่ขึ้น ม้วนคลุมทุกสิ่ง บดขยี้ทุกอย่าง!

แม้จะเป็นทะเลสีชาดที่ประมุขพายัพเลี่ยนจู่หลินควบคุม ก็ยังถูกทำลายจากตรงกลาง น้ำทะเลพากันแหวกออกไปสองข้าง!

คนที่ออกดาบในตอนนี้ บนที่แห่งนี้มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น

เยี่ยนตี๋ เจ้าสำนักเขากว่างเฉิงคนปัจจุบัน!

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียระยะกลาง สู้กับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ขั้นประมุขในหมู่คนตรงๆ!

สองตาของประมุขประจิมเลี่ยนจู่หลินสาดประกาย สีหน้าจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

นางพลันพลิกมือวูบหนึ่ง!

แสงสีขาวบังเกิดขึ้นบนท้องทะเลสีชาดพอย่างไร้เค้าลาง รวมตัวกัน ใสดุจดั่งผิวกระจก

เป็นวรยุทธ์ของสายทะเลสีชาด แสงสีชาดหยินหยางแปรเปลี่ยน

ประกายกระจกสีขาวสายหนึ่งสาดลง ดูเล็กละเอียด แต่บริเวณที่มันผ่านล้วนพาให้ชีวิตขาดสะบั้น

จิตสังหารและปราณปีศาจที่อยู่ด้านในแข็งแกร่งกว่าทะเลสีชาดเมื่อครู่ พลังงานรวมตัวกันเป็นเส้นเดียวโดยสมบูรณ์ เป้าหมายคือเยี่ยนตี๋เพียงคนเดียว!

เยี่ยนตี๋หาได้เกรงกลัวไม่ ทิศทางที่คมดาบมุ่งไปไม่สั่นไหว ฟันใส่เลี่ยนจู่หลินโดยตรง!

………………..

[1] เคลื่อนมีดเหลือที่ว่าง หมายถึง กระทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้อย่างเชี่ยวชาญจนดูง่ายดาย

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset