ตอนที่ 1064: เยี่ยมตระกูลหวงกู่
เจี้ยนเฉินออกไปจากโถงประชุมพร้อมกับโหยวเยว่ ทั้งสองไปหาพ่อแม่ของเจี้ยนเฉินก่อน ในระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกัน ไป๋หยุนเทียนพูดถึงเรื่องการแต่งงานระหว่างเจี้ยนเฉินและโหยวเยว่อีกครั้ง แต่พวกเขาทั้งสองก็หลีกเลี่ยงมัน
เจี้ยนเฉินในตอนนี้มีความแข็งแกร่งเพียงพอแล้วที่จะปกป้องตัวเองและคนรอบตัวเขาได้ แต่ก็ยังมีหลายเรื่องที่เขายังต้องจัดการ เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะคิดถึงเรื่องการแต่งงาน
ในอีกมุมหนึ่ง โหยวเยว่ในตอนนี้ก็มีโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มเช่นกันกับวิธีการฝึกฝนของนางฟ้าเฮายู่ ในตอนนี้ จุดประสงค์ของนางคือการเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยการทุ่มเทกำลังทั้งหมดให้กับการฝึกฝน นางคงจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานอีกครั้งเมื่อนางมีกำลังพอที่จะช่วยเจี้ยนเฉินได้
เมื่อร่ำลากับไป๋หยุนเทียนและเจียงหยางป้าแล้ว โหยวเยว่ก็ไม่ได้อยู่กับเจี้ยนเฉินนานนัก นางเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งเพื่อออกไปยังอวกาศเพื่อฝึกฝน
“เมื่อข้าไปส่งลุงเจียง ทวดไป๋ไฮ หยางหลิง และผู้อาวุโสหวงเทียนป้าที่เมืองทหารรับจ้างแล้ว ข้าจะไปที่ตระกูลผู้พิทักษ์ทันทีและให้พวกเขาปลดผนึกของทวดเจียงหยาง ซู หยุนคงออก” เจี้ยนเฉินคิดหลังจากที่ออกจากห้องของพ่อแม่ของเขา เหตุผลหลักที่เขาไปที่เมืองอัคนีครั้งล่าสุดคือการไปรับไป่ไฮมากับเขา เขาวางแผนที่จะทิ้งไป่ไฮไว้ที่เมืองทหารรับจ้างเพื่อที่เสี่ยวหลิงจะได้ดึงความลึกลับของธรรมชาติมาเพื่อให้เขาเข้าใจได้
“ในตอนนี้มีแค่ผู้อาวุโสหวงเทียนป้า ตระกูลหวงอยู่ค่อนข้างใกล้จากที่นี่พอดี ดังนั้นข้าจะไปที่นั่นด้วยตัวเอง” เจี้ยนเฉินพุ่งออกไปเหมือนลูกปืนใหญ่ และขึ้นสูงไปบนท้องฟ้าด้วยความเร็วที่เร็วมาก เขาพุ่งไปที่ทิศทางที่ตระกูลหวงอยู่ และหายไปในพริบตา
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงสาวงามในหัวของเขา เขาคิด “มันก็หลายปีมาแล้ว ข้าสงสัยจริงว่าหลวนเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง ด้วยความสามารถของนาง นางคงจะพัฒนาไปอย่างมากในหลายปีที่ผ่านมานี้” เจี้ยนเฉินเร่งความเร็วขึ้นไปมากกว่าเดิมหลังจากที่คิด
ตระกูลหวงอยู่ห่างออกไป 30,000 กิโลเมตรจากอาณาจักรเกอซุน ด้วยความเร็วของเจี้ยนเฉิน เขาจึงใช้เวลาเพียง 1 ชั่วยามเท่านั้นก่อนที่จะมาถึงที่ภูเขาที่สวยงามที่เต็มไปด้วยพลังธรรมชาติซึ่งเป็นที่ตั้งของตระกูลหวง
เจี้ยนเฉินลดระดับลงที่หน้าทางเข้าเขต เขาไม่ได้ลบพลังแห่งการมีอยู่ของเขา ดังนั้นจอมยุทธของตระกูลหวงจึงรู้ทันทีที่เขามาถึง เซียนสวรรค์หลายคนพุ่งออกมาทันที พวกเขาประหลาดใจเมื่อพวกเขาจำเจี้ยนเฉินได้ และใบหน้าที่เคร่งเครียดของพวกเขาก็ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม พวกเขาต้องรับเจี้ยนเฉินเข้าไปในตระกูลอย่างสุภาพ
ด้วยชื่อเสียงของเจี้ยนเฉินในทวีปตอนนี้ ตระกูลสันโดษเกือบทั้งหมดก็ได้ยินชื่อของเขาแล้ว ระดับสถานะของเขาในตอนนี้เทียบไม่ได้กับในอดีต ตระกูลหวงดีใจมากกับการมาเยี่ยมเยียนอย่างกะทันหันของเขา ไม่เพียงแต่ผู้อาวุโสของตระกูลจะออกมาต้อนรับเขาด้วยตัวเอง แม้แต่คนรุ่นก่อนก่อนก็ยังหยุดฝึนฝนและออกมาด้วย
เจี้ยนเฉินอายุน้อยที่สุดในหมู่พวกเขา แต่เขาก็เป็นเซียนราชาอยู่ดี เขาเป็นที่มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่มีข้อถกเถียงบนทวีปที่ถือเอาความแข็งแกร่งเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง
เจี้ยนเฉินค่อนข้างปรับตัวยากเล็กน้อยกับเรื่องที่ทุก ๆ คนของตระกูลหวงออกมาต้อนรับเขา กลังจากที่พูดคุยกับผู้อาวุโสเล็กน้อย เขาก็ตัดเข้าประเด็น “ท่านผู้อาวุโส ข้ามาในครั้งนี้เพื่อที่จะมาพบผู้อาวุโสหวงเทียนป้า ข้าขอถามได้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหนตอนนี้ ? “
“บรรพชนอยู่ในการฝึกฝนมาตลอดและเขาไม่ได้ออกมาหลายปีแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปหาเขาถ้าเจ้าต้องการจะพบท่านบรรพชน” ผู้อาวุโสพูด ก่อนที่จะบินไปที่ด้านหลังของภูเขาพร้อมกับเจี้ยนเฉินและจอมยุทธอีกสองสามคนของตระกูล
ในไม่ช้า เจี้ยนเฉินก็มาถึงที่สันเขาที่มีรูปร่างเหมือนดาบ ซึ่งเป็นที่ที่หวงเทียนป้าเก็บตัวฝึกฝน มันถูกปกคลุมไปด้วยม่านพลัง และภายในนั้นก็มีกระท่อมไม้เก่า ๆ อยู่หนึ่งหลัง
“ลูกหลานขอคารวะท่านบรรพชน น้องเจี้ยนเฉินได้มาที่ตระกูลของพวกเรา” ผู้อาวุโสพูดอย่างเคารพหน้ากระท่อมที่อยู่ในม่านพลัง
เจี้ยนเฉินจ้องอย่างเฉยเมยไปที่กระท่องและความสงสัยก็ปรากฏขึ้นในตาของเขา เขาพูด “ท่านผู้เฒ่า ไม่จำเป็นต้องเรียกต่อหรอก ผู้อาวุโสหวงเทียนป้าไม่อยู่ในนั้น”
“อะไรนะ ? ท่านบรรพชนไม่อยู่ที่นี่ ? ” ผู้อาวุโสนิ่งอึ้งไป
เจี้ยนเฉินพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะขยายพลังแห่งการมีอยู่ของเขาออก มันปกคุลมไปทั่วรัศมีพันกิโลเมตรเพื่อที่จะหาร่องรอยของหวงเทียนป้า แต่เขาก็ไม่พบอะไร
“ถ้าข้าหาเขาไม่พบในรัศมีพันกิโลเมตร การขยายพลังแห่งการมีอยู่ออกไปมากกว่านี้ก็คงมีผลลัพธ์ออกมาเหมือนเดิม ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสจะไม่อยู่ที่ตระกูลในตอนนี้” เจี้ยนเฉินคิด
ผู้อาวุโสคิดเล็กน้อยแล้วพูด “น้องชาย หวงหลวนเป็นลูกศิษย์ของบรรพชนตระกูลหวงกู่ นางอยู่ที่ตระกูลหวงกู่ตลอดเพื่อฝึกฝน บรรพชนของเราปฏิบัติต่อนางเหมือนเป็นสมบัติ ในเมื่อบรรพชนไม่อยู่กับพวกเรา เขาอาจจะที่ตระกูลหวงกู่เพื่อไปพบนางก็เป็นได้”
“หวงหลวนอยู่ที่ตระกูลหวงกู่” เจี้ยนเฉินทวนคำในใจ จากนั้นเขาก็พูดออกมา “เช่นนั้นข้าจะไปที่ตระกูลหวงกู่”
เจี้ยนเฉินปฏิเสธความพยายามในการที่จะรั้งให้เจี้ยนเฉินอยู่ต่อของผู้อาวุโสและจากไปทันทีหลังจากที่รู้ว่าตระกูลหวงกู่อยู่ที่ไหน
ตระกูลหวงกู่ตั้งอยู่ทางใต้ และซ่อนอยู่ในป่าที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและสัตว์อสูร น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันมีอยู่
หอคอยสูงพันเมตรตั้งอยู่กึ่งกลางของตระกูล หอคอยนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในตระกูลเพราะมันเป็นที่ซึ่งบรรพชนใช้ในการฝึกฝน
ชายชราที่ดูโทรมลอยอยู่กลางอากาศในห้องชั้นบนสุดของหอคอย ห้องถูกผนึกอย่างสมบูรณ์และมืดเล็กน้อย มีชายคนหนึ่งถูกหุ้มไปด้วยโซ่หนาใหญ่ เขาดูเหมือนขอทาน ชายชรามีความแข็งแกร่งมาก ทุก ๆ ครั้งที่เขาขัดขืน โซ่ก็จะสั่นไหว แต่เขาก็ไม่สามารถหลุดเป็นอิสระได้ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน
“เจ้าคนต่ำช้า ! เจ้าจะต้องชดใช้ในเรื่องนี้ ! ถ้าข้าหลุดไปได้ ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ ! ” เสียงของชายชราแหบห้าวไปด้วยโทสะ
ตรงหน้าเขามีบรรพชนตระกูลหวงกู่ยืนอยู่ บรรพชนมีท่าทางสบายและเหยียดออกมา “หวงเทียนป้า เจ้ายังคิดว่าเจ้าจะยังมีโอกาสที่แก้แค้นได้อีกงั้นหรือ ? ทำไมเจ้าไม่คิดถึงสภาพของเจ้าในตอนนี้เลย ? เจ้าคิดว่าตัวเจ้ายังมีความสามารถที่จะหลุดเป็นอิสระได้อีกหรือ ? เจ้าควรจะเลิกคิดแบบนั้นซะ”
“ต่ำช้า ตระกูลหวงของข้าไม่เคยทำอะไรให้กับตระกูลหวงกู่ของเจ้า ทำไมเจ้าถึงได้ทำกับข้าเช่นนี้ ? ” หวงเทียนป้ากัดฟัน เขาดูซอมซ่อและไม่มีความรุ่งโรจน์เหมือนก่อนหน้านี้เลย