ตอนที่ 1121: สัตว์เทวะ
เจี้ยนเฉินพุ่งตัวต่อหน้าทุกคนและดึงยุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมาจากแหวนมิติทันที เขาพูดด้วยเสียงต่ำว่า “เจ้าต้องระวังและป้องกันตัวเองให้ดี ข้าจะช่วยถ่วงเวลาให้” เจี้ยนเฉินไม่กล้าประมาทในขณะที่เผชิญหน้ากับฝูงมดทะยานฟ้า พลังบรรพกาลไหลเข้ามาในตัวเขาอย่างรุนแรง มันเติมเต็มทุกชิ้นส่วนของร่างกาย เขาผลักการป้องกันของร่างบรรพกาลจนถึงขีดสูงสุด
“ข้าคงประหลาดใจเลยหากว่ามดทะยานฟ้าเหล่านี้จะกินพลังบรรพกาลหรือทนต่อการโจมตีของพลังบรรพกาล” เจี้ยนเฉินคิดในใจ เขาได้เข้าใกล้กำแพงของมดทะยานฟ้าในเวลาอันรวดเร็ว เขาตรงไปข้างหน้าและแทงปราณกระบี่จำนวนมหาศาลออกไปด้วยแสงไฟสีดำที่เร็วราวกับสายฟ้า
ปราณกระบี่จำนวนมากบินผ่านฝูงมดเหมือนมังกร มันส่งเสียงระเบิดหลายครั้ง ปราณกระบี่สับฝูงมดเหมือนมีดร้อน ๆ ที่หั่นเนย มันปะทะเข้ากับมดทะยานฟ้านับไม่ถ้วน มันผ่านก้อนหินด้านหลังฝูงและในที่สุดก็หายไปพร้อมกับเสียงดังสะท้อนบาดแก้วหู
ในทันใดฝูงมดทะยานฟ้าที่อัดแน่นมาจำนวนมากก็ตกลงมาจากท้องฟ้า เส้นทางยาวว่างเปล่าปรากฏขึ้นเมื่อปราณกระบี่ผ่านไปในขณะที่พื้นดินเต็มไปด้วยมด
เจี้ยนเฉินยินดีเมื่อเขาเห็นสิ่งนี้. พลังบรรพกาลของเขานั้นแตกต่างจากพลังงานธรรมดา แม้ว่ามดเหล่านี้จะมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีพลังงาน แต่พวกมันก็ไม่ได้มีภูมิคุ้มกันต่อพลังบรรพกาล
โชวชูหยุนและลุยจุนรู้สึกตื่นเต้นทันทีเมื่อเห็นเจี้ยนเฉินฆ่ามดมากมายด้วยปราณกระบี่ พวกเขาเดาไว้นานแล้วว่าพลังงานที่เจี้ยนเฉินใช้นั้นแตกต่างกัน แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่ามันทรงพลังและมันสามารถทำร้ายฝูงมดได้
อย่างไรก็ตามการแสดงออกทางสีหน้าของพวกเขาแข็งตัวอย่างรวดเร็ว มดที่ตกลงมาบนพื้นก็เริ่มกางปีกและบินขึ้นอีกครั้ง มีเพียงส่วนน้อยมากที่ตายจากการโจมตีของเจี้ยนเฉิน
สีหน้าของเจียนเฉินก็เปลี่ยนไปเช่นกัน การโจมตีของเขานั้นทรงพลังพอ ๆ กับการโจมตีของ เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 แต่จริง ๆ แล้วมันกลับล้มเหลวในการฆ่ามดทะยานฟ้าที่อยู่ในระดับเซียนปฐพี ฉากนี้ทำให้เขาตกใจมาก
“มดทะยานฟ้าเหล่านี้ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ พวกมันอาจไม่สามารถต้านทานพลังบรรพกาลของข้าได้ทั้งหมด แต่มันก็ลดประสิทธิภาพของพลังบรรพกาลลงไปมาก” เจี้ยนเฉินถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ จักรวาลนั้นกว้างใหญ่อย่างแท้จริงสำหรับสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่
ทางที่เปิดโล่งด้วยปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเต็มไปด้วยมดทะยานฟ้าอีกครั้ง ดูเหมือนว่ามดจะสร้างกำแพงกั้นอากาศป้องกันจากเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ พวกมันต้องการดักจับพวกเขาที่นั่น
ในขณะเดียวกันมดในบริเวณใกล้เคียงก็เดินเข้าหาเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว พวกมันค่อยล้อมรอบพวกเขา และลดปริมาณพื้นที่ที่พวกเขาสามารถเคลื่อนที่ได้
เจี้ยนเฉินจับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิในมือขวาไว้แน่น แสงมืดครึ้มยิงออกมาอย่างรุนแรง และเขาก็ระเบิดปราณกระบี่เข้าไปในฝูงมดอีก 3 ครั้ง มันทำให้มีทางผ่านขนาดใหญ่ชั่วคราว
ไปกันเถอะ ! เจี้ยนเฉินตะโกนใส่ผู้คนข้างหลังก่อนที่จะพุ่งทะลุผ่านเส้นทาง เมื่อเท้าของเขาร่อนลงบนพื้นซึ่งเต็มไปด้วยมด เขาจึงรู้สึกได้ถึงการกระดุกกระดิกจากข้างใต้
นักผจญภัยฟ้าครามหวาดกลัว พวกเขาติดตามเจี้ยนเฉินไปอย่างใกล้ชิด หากไม่ใช่เพราะเจี้ยนเฉินดึงดูดความสนใจของมด พวกเขาคงไม่รอดชีวิตอย่างแน่นอน
เจี้ยนเฉินพุ่งเข้าหาฝูงมด ตอนนี้เขาก็ถูกรายล้อมไปด้วยฝูงมดที่หนาแน่น เขาใช้กระบี่แทงออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดตาข่ายพร่ามัวรอบตัวเขา เขาสับมดขนาดเท่ากำปั้นตรงหน้าเขาเป็นสองส่วน
ภูมิคุ้มกันของมดกับการโจมตีพลังงานนั้นทรงพลังมากจนปราณกระบี่ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย
ประสิทธิภาพของพลังบรรพกาลที่มีต่อมดลดลงอย่างมาก เป็นผลให้เจี้ยนเฉินต้องพึ่งยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและความแข็งแกร่งของร่างกายของตัวเองในการฆ่ามด เขาสามารถฆ่ามดได้มากมายในทุกการเคลื่อนไหว เสียงร้องของโลหะจะดังขึ้นเมื่อยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเขาพุ่งชนร่างของมดที่เหมือนกับเหล็ก
เจี้ยนเฉินใช้กระบี่อย่างมีประสิทธิภาพในขณะนั้น แต่มีมดมากเกินไป พวกมันมาหาเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถรับมือกับการโจมตีทั้งหมดจากทุกทิศทางได้แม้กระทั่งด้วยทักษะกระบี่อันรวดเร็วของเขา มดทะยานฟ้าขนาดใหญ่สองสามตัวพุ่งเข้าหาหลังของเขา มันพยายามกัดเขาอย่างดุร้ายด้วยขากรรไกรล่าง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปก็ไม่น่าเชื่อ ขากรรไกรแหลมของมดไม่สามารถเจาะผิวหนังของเจี้ยนเฉินได้
ความสามารถที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของมดคือการต่อต้านพลังงานในทุกรูปแบบ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พวกมันสามารถคุกคามเซียนราชาได้ อย่างไรก็ตาม ร่างบรรพกาลของเจี้ยนเฉินก็สามารถทนต่อการโจมตีจากเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 ได้โดยไม่ได้รับอันตรายใด ๆ นี่ไม่ใช่การป้องกันที่เกิดจากพลังงานแต่เป็นเพราะเขาหนังเหนียว นี่คือสาเหตุที่มดไม่สามารถกัดเขาได้
ทันใดนั้นมดบนหลังของเจี้ยนเฉินก็พ่นของเหลวสีขาวออกมา เจี้ยนเฉินรู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนบนหลังของเขาและควันที่ปรากฏขึ้นหลังจากของเหลวสีขาวตกลงมา
นี่เป็นพิษกัดกร่อนที่ร้ายแรงอย่างมาก มันทรงพลังมากจนเขารู้สึกถึงความเจ็บปวดแม้จะอยู่ในร่างบรรพกาลก็ตาม อย่างไรก็ตามมดนั้นอ่อนแอเกินไป พวกมันอยู่ในระดับเซียนปฐพี ดังนั้นแม้ว่าพวกมันจะใช้ทุกอย่างที่มีก็ตาม พวกมันก็ไม่สามารถผ่านร่างบรรพกาลของเขาไปได้
หากเป็นเซียนราชาคนอื่น มดเหล่านี้จะหมายถึงความตายอย่างแน่นอน พวกเขาไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือนของเจี้ยนเฉิน และด้วยความสามารถของเซียนราชาซึ่งไร้ประสิทธิภาพ มันจึงทำให้ม่านพลังงานไร้ประโยชน์สำหรับมด พวกเขาจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีได้เลย
ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่เบื้องหลังเจี้ยนเฉินก็ร่ำไห้คร่ำครวญอย่างเจ็บปวด. รวมถึงโชวชูหยุนและลุยจุน พวกเขาถูกฝูงมดปิดกั้น การโจมตีของมดทะยานฟ้าได้ผ่านชั้นป้องกันพลังงานของพวกเขาด้วยความสามารถตามธรรมชาติและแทงขากรรไกรล่างลึกเข้าไปในร่างกายและดูดซับพลังงานของพวกเขาอย่างรวดเร็ว ฝูงมดได้ระบายเลือดและพละกำลังของพวกเขาออกไปช้า ๆ
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นสิ่งนี้ ตอนแรกเขาไม่ต้องการพึ่งความช่วยเหลือจากภายนอก แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก โชวชูหยุนและคนอื่น ๆ กำลังตกอยู่ในอันตราย เขาดึงวัตถุเซียนออกมาทันทีและดูดพวกเขากับมดเข้าไป
เจี้ยนเฉินจะสามารถจัดการกับฝูงมดได้อย่างง่ายดายหากไม่มีโชวชูหยุนและคนอื่น ๆ เป็นตัวถ่วงสำหรับเขา เขาใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิอย่างต่อเนื่องเพื่อกำจัดมดที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นมดฝูงใหญ่ก็บินขึ้นมา พวกมันมีสีฟ้าแตกต่างจากมดบินได้ทั่วไป อย่างไรก็ตามพวกมันก็อยู่ในระดับของเซียนสวรรค์เท่านั้น
มดยังไม่สามารถทำอันตรายเจี้ยนเฉินได้ เขาฆ่าพวกมันอย่างไร้ความปราณีด้วยการฟาดกระบี่
ในไม่ช้ามดทะยานฟ้ากว่ายี่สิบตัวซึ่งมีขนาดเท่ากับครึ่งหนึ่งของมนุษย์ธรรมดาก็บินมา พวกมันมีสีฟ้าเข้มและอยู่ในระดับเซียนผู้คุมกฎ
มดทะยานฟ้าระดับเซียนผู้คุมกฎแข็งแกร่งกว่ามดในระดับเซียนปฐพี เมื่อพวกมันกัดเจี้ยนเฉินด้วยกรามคม เขารู้สึกเหมือนถูกแทงด้วยเข็ม กรดจากการกัดทำให้ร่างกายของเจี้ยนเฉินรับรู้ถึงความเจ็บปวดและเปลี่ยนเป็นสีแดงสดราวกับว่ามันถูกไฟไหม้ เขารู้สึกปวดแสบปวดร้อน
เจี้ยนเฉินตกตะลึง หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาก็ไม่อาจยืนยันได้ว่ามดในระดับเซียนราชาจะออกมาปรากฏตัวหรือไม่ มันจะลำบากมากถ้าเขาต้องเจอมดที่ทรงพลังเช่นนั้นจริง ๆ
เคล้ง ! เคล้ง !
เจี้ยนเฉินพุ่งออกมาอย่างแรงเท่าที่จะทำได้ เขาส่งมดเซียนผู้คุมกฎทั้งสองบินไปข้างหน้า หลังจากนั้นเขาก็พุ่งไปเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และในที่สุดก็หลุดพ้นจากฝูงมด เขาไม่หยุดและมุ่งหน้าไปไกล
เสียงหึ่งอย่างต่อเนื่องสั่นสะเทือนอากาศด้านหลังเขา ฝูงมดที่หนาแน่นตามเจี้ยนเฉินมาโดยมีมดเซียนผู้คุมกฎบินอยู่ด้านหน้า
ทันใดนั้นด้วยเสียงร้องแปลก ๆ จากด้านหลัง ฝูงมดก็หยุดไล่ตามเจี้ยนเฉินทันที แม้แต่มดเซียนผู้คุมกฎตัวใหญ่ก็หยุดเช่นกัน
เจี้ยนเฉินมองกลับมาและดวงตาของเขาก็แข็งเป็นหินทันที มดตัวหนึ่งมีขนาดเท่ากำปั้นมี 6 ปีกลอยอยู่ในท้องฟ้าขณะที่แสงสีแดงและแสงสีส้มหมุนรอบตัวมัน ดูเหมือนว่าจักรพรรดิจะลงมาที่พลเมืองของตน
“มดทะยานฟ้าระดับเซียนราชา,ราชามด !” หัวใจของเจี้ยนเฉินหยุดเต้นไปชั่วครู่ เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังเช่นนี้ในหมู่มด. แม้ว่ามันจะไม่มีพลังใกล้เคียงกับมังกรอสรพิษม่วง แต่การรับมือกับมันคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน
เจี้ยนเฉินเริ่มสงสัยว่าเซียนราชาสามารถทำอันตรายต่อราชามดทะยานฟ้าได้หรือไม่
“ข้าน่าจะออกมาพ้นจากอาณาเขตของมดทะยานฟ้าเรียบร้อยแล้ว. โชคดีที่มดทะยานฟ้าไม่ได้ไล่ตามมา ไม่เช่นนั้นข้าก็คงต้องหนีกระเจิงต่อไป” เจี้ยนเฉินดีใจอย่างลับ ๆ พลังบรรพกาลมีประสิทธิภาพต่อมดระดับเซียนปฐพีเล็กน้อยมาก ดังนั้นมันคงแทบจะไม่มีผลใด ๆ ต่อราชามดทะยานฟ้า
” มันเป็นสัตว์อสูรกลืนสวรรค์เจ็ดสี ข้าไม่เคยคิดเลยว่าสัตว์ร้ายกาจสวรรค์เช่นนี้จะอาศัยอยู่ที่นี่” ทันใดนั้นเสียงของจิตวิญญาณกระบี่ก็ดังก้องผ่านหัวของเจี้ยนเฉิน มันเต็มไปด้วยความตกใจและน่าประหลาดใจจนเจี้ยนเฉินเองก็อึ้งอย่างสับสน
“จือหยิง เจ้ารู้จักราชามดทะยานฟ้าด้วยหรือ ? ” เจี้ยนเฉินประหลาดใจ เขารู้ว่าสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตที่มาจากจิตวิญญาณกระบี่ไม่ใช่สิ่งธรรมดา
“นายท่าน มดทะยานฟ้าที่อยู่ท่ามกลางแสงไฟสองสีเป็นสัตว์เทวะเด็ก มันยังไม่พัฒนาอย่างสมบูรณ์ เมื่อแสงรอบ ๆ มันเพิ่มเป็น 7 สี มันจะกลายเป็นสัตว์เทวะที่แท้จริง มันสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างในโลก มันจะมีพลังมหาศาลและจัดการได้ยากมาก” จือหยิงอธิบาย