ตอนที่ 1216: กวาดล้างนิกายใต้พิภพ (2)
ทันใดนั้นเอง ทรายข้างใต้ก็เริ่มปั่นป่วนอย่างรุนแรง โถงศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมา และค่อย ๆ ปลดปล่อยพลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลออกมา
“นั่นคือโถงศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืดของนิกายใต้พิภพ” เจียงหวังตะโกนออกมาทันที ในขณะที่มองโถงศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ที่ค่อย ๆ โผล่พ้นทราย เขาเคร่งเครียด แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจี้ยนเฉินนั้นมีวิธีการที่จะทำลายมันได้ แต่การป้องกันที่แข็งแกร่งของมันก็ยังกดดันเขาทางด้านจิตใจอยู่ดี นี่เป็นเพราะถ้าพวกเขาทำลายมันไม่ได้ พวกเขาก็ไม่สามารถแตะต้องนักฆ่าที่อยู่ในนั้นได้ และมันต้องใช้พลังของเซียนจักรพรรดิเท่านั้นถึงจะทำลายมันได้
โถงศักดิ์สิทธิ์ทุกอันในทวีปเทียนหยวนถูกเซียนจักรพรรดิสร้างขึ้นมา ดังนั้นพวกมันจึงมีพลังของเซียนจักรพรรดิ แม้ว่าพลังนี้จะไม่สามารถใช้ทำร้ายใครนอกโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่โครงสร้างของมันก็ยังเป็นปราการที่แข็งแกร่งอยู่ดี มันไม่ใช่อะไรที่เซียนราชาสามารถทำลายได้แม้ว่าจะอยู่ในขั้นสูงสุด
“นิกายใต้พิภพมีอยู่มาเป็นแสนปีบนทวีปเทียนหยวน ดังนั้นเจ้าจะทำลายมันได้ง่าย ๆได้อย่างไร นิกายดาบโลหิตอ่อนด้อย ? แม้แต่ความแข็งแกร่งของฮุสตันที่สุดยอดเมื่อพันปีก่อน ก็ยังไม่สามารถทำให้พวกเจ้ากวาดล้างพวกเราได้เลย ดังนั้นข้าอยากจะรู้ว่าพวกเจ้าจะจัดการกับพวกเราอย่างไรในวันนี้” เสียงที่โกรธเกรี้ยวของเหลาฉีดังออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ ภายใต้การควบคุมของเหลาฉี โถงศักดิ์สิทธิ์นั้นขยายตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่จะมาอยู่ด้านหน้าของเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ มันพุ่งลงมาพร้อมพลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาล
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างเย็นชา ชิ้นหยกปรากฏขึ้นในมือเงียบ ๆ และเขาก็บีบจนชิ้นหยกแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“หัวหน้านิกาย ถอยกันเถอะ” เจียงหวังแนะนำอยู่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน ก่อนที่จะถอยไปพร้อมกับห้าผู้อาวุโสและสี่ผู้พิทักษ์อย่างรวดเร็วเพื่อพยายามที่จะหนีออกจากบริเวณที่ถูกปกคุลมจากโถงศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าโครงสร้างจะไม่ได้มีความสามารถในการโจมตี แต่ก็ไม่มีใครในพวกเขาที่ต้องการที่จะโดนกดลงไปบนพื้นทราย
อย่างไรก็ตาม ในตอนที่พวกเขากำลังจะถอยออกไป จู่ ๆ พลังมิติก็เกิดขึ้นที่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน ห่างออกไปจากเขา 10 เมตร มิติก็กระเพื่อมอย่างรุนแรงและฉีกเปิดออก และกลายเป็นประตูมิติหลากสีออกมา
พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลไหลออกมาจากประตูมิติในตอนที่มันเกิดขึ้นมาและแผ่กระจายไปรอบ ๆ อากาศรอบ ๆ เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวเพราะพลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลที่ทำให้อากาศหนาแน่นขึ้น กลุ่มจอมยุทธของนิกายดาบโลหิตก็แข็งทื่อไปเช่นกัน นอกเหนือจากเจียงหวังคนที่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 แล้ว ผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์ก็รู้สึกเหมือนว่าพวกเขากำลังจมน้ำต่อหน้าแรงกดันนี้ พวกเขารู้สึกเหมือนสูญเสียความสามารถในการหายใจไป
เจียงหวังและผู้อาวุโสตกใจ ในขณะที่ผู้พิทักษ์ทั้งสี่ยังอยู่ในท่าทางปกติ แรงกดดันนั้นเหนือกว่าหัวหน้านิกายคนก่อนมาก ทำให้พวกเขาเชื่อว่า พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับเซียนจักรพรรดิ
โถงศักดิ์สิทธิ์ลดตัวลงมาจากรวดเร็ว ในขณะที่มันเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ และบดบังดวงอาทิตย์เหมือนเมฆดำ
ในขณะที่เรื่องนี้เกิดขึ้น รุยจิน หงเหลียนและเฮยยู่ก็ออกยืนข้างกันจากประตูมิติ พวกเขาสังเกตเห็นโถงศักดิ์สิทธิ์บนท้องฟ้าทันทีที่พวกเขามาถึง และความเหยียดหยามก็ปรากฏขึ้นในแววตาของพวกเขา
รุยจินยกมือขึ้นช้า ๆ และดันโถงศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ด้วยมือขวาของเขา เสียงแตกดังขึ้น มือของรุยจินดันให้โถงศักดิ์สิทธิ์หยุดตกลงมาทันที เหมือนว่าโถงศักดิ์สิทธิ์ใหญ่กำลังถูกมือข้างเดียวของเขาถืออยู่
สายตาของเจียงหวัง ผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์หรี่เล็กลง การหยุดโถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยมือเพียงข้างเดียวไม่ใช่อะไรที่เซียนราชาขั้นสูงสุดสามารถทำได้ พวกเขาทั้งหมดนิ่งอึ้งจากความแข็งแกร่งที่รุยจินแสดงออกมา แม้ว่าพวกเขาจะได้ยินข่าวลือมาว่าเจี้ยนเฉินนั้นมีจอมยุทธที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเซียนจักรพรรดิ 3 คนอยู่เคียงข้าง แต่พวกมันก็ยังเป็นแค่ข่าวลือ พวกเขาคิดว่าข่าวลือเหล่านั้นมันเกินจริง แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นในวันนี้เป้นสิ่งที่ยืนยันข่าวลือนั้น หนึ่งในพวกนั้นสามารถหยุดการตกลงมาของโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวได้อย่างสบายสบาย ด้วยความเข้าใจของพวกเขา มีเพียงเซียนจักรพรรดิเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้
นอกเหนือไปจากสี่ผู้พิทักษ์ที่เคยเห็นความแข็งแกร่งของทั้งสามคนนี้มาก่อนแล้ว ความคิดเห็นของคนอื่นทั้งหมดที่มีต่อรุยจิน หงเหลียนและเฮยยู่ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาทั้งหมดเคารพทั้งสามคนนี้อย่างไม่ปิดบัง
ในตอนนี้ มือของรุยจินก็กระตุกทันที และรอยแยกเหมือนฟ้าผ่าก็ปรากฏขึ้นมา โถงศักดิ์สิทธิ์ถูกโยนสูงขึ้นไปในอากาศด้วยการกระตุกของมือของเขา
“เซียนจักรพรรดิ ? เจ้าเป็นเซียนจักรพรรดิงั้นหรือ ? นี่มันเป็นไปไม่ได้ นอกเหนือไปจากมารราคะแล้ว ไม่มีเซียนจักรพรรดิคนอื่นบนทวีปเทียนหยวนอีกแล้วนี่” เสียงที่ตื่นกลัวของเหลาฉีดังออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ แต่บางอย่างก็ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาในไม่ช้า เหลาฉีตะโกนออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ “ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นจอมยุทธสัตว์อสูรทั้งสามที่ติดตามหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนี…”
ไม่มีใครสนใจเหลาฉีแม้ว่าเขาจะเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ในเวลาเดียวกัน แสงสายสีทองก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน รุยจินเอาดาบมังกรศักดิ์สิทธิ์ออกมาและถือไว้เหนือหัวของเขา พลังแห่งการมีอยู่ของเขาพุ่งพรวดขึ้น จากนั้นเขาก็ฟันไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์
หลังจากที่โจมตี ปราณดาบมังกรทองยาวร้อยเมตรก็ปรากฏขึ้นมา มันมีพลังงานดั้งเดิมอยู่ พลังงานที่มีแต่ราชันที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตดั้งเดิมเท่านั้นที่สามารถควบคุมมันได้ พลังที่แม้แต่เซียนจักรพรรดิยังต้องหลีกเลี่ยง
ปราณดาบใหญ่กระแทกเข้ากับโถงศักดิ์สิทธิ์ และก็เกิดเสียงระเบิดอื้ออึงอย่างรุนแรง โถงศักดิ์สิทธิ์สั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่จะแยกออกเป็นสองส่วน ในขณะที่เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
โถงศักดิ์สิทธิ์ถูกผ่าออกเป็นสองเสี่ยงจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวของรุยจิน !
“ปะ ปะ เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้…” เหลาฉีร้องออกมาอย่างเหลือเชื่อ โถงศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่นิกายใต้พิภพพึ่งพาได้มากที่สุด มันยังเป็นไพ่ตายในการป้องกันตัวเองของพวกเขา แต่มีคนที่ทำมันแยกเป็นสองเสี่ยงได้ ความยิ่งใหญ่ที่น่ากลัวนั้นทำให้เหลาฉีกลัวมาก
หงเหลียนและเฮยยู่จ้องไปที่ซากของโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ตกลงมาอย่างแอบตกใจ แม้ว่าทั้งสองสามารถทำลายโถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยอาวุธที่มีพลังงานดั้งเดิมของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำมันได้อย่างง่ายดายเหมือนรุยจิน คนที่ผ่าโถงศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ออกเป็นสองเสี่ยงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“รุยจิน เจ้าต้องใกล้จะตัดผ่านแล้วแน่เลย” หงเหลียนหันไปหารุยจินทันที ไฟสีแดงเต้นอยู่ในดวงตาของนางเหมือนเปลวเพลิง
รุยจินเก็บอาวุธและตอบกลับอย่างเฉยเมย “ข้าถึงกำแพงนั้นแล้ว ข้าเชื่อว่า ข้าจะได้เป็นเซียนจักรพรรดิภายใน 50 ปีนี้”
เจี้ยนเฉินตกตะลึง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยินดี เขาถามอย่างตื่นเต้น “ผู้อาวุโสรุยจิน ท่านกำลังจะเป็นเซียนระดับจักรพรรดิอย่างนั้นหรือ ? ”
รุยจินยิ้มให้กับความตื่นเต้นของเจี้ยนเฉิน เขาพูด “เหตุผลที่ทำไมโลกนี้ถึงไม่ค่อยมีเซียนจักรพรรดิ ก็เพราะว่ามันขาดพลังงานดั้งเดิม ดาบและเกราะมังกรศักดิ์สิทธิ์ของข้ามีพลังนั่น ดังนั้นการตัดผ่านจึงไม่ใช่ปัญหา ก็เหมือนกับหงเหลียนและเฮยยู่นั้นแหละ มันแค่ขึ้นอยู่กับเวลา”
เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเข้าลึกและสงบลงอย่างช้า ๆ แต่เขาก็พบว่ามันยากที่จะข่มความยินดีเอาไว้ในใจ มันเหมือนว่าเขาได้เห็นตอนที่สามคนนี้ได้เป็นเซียนจักรพรรดิแล้วในอีกไม่กี่ศตวรรษ
ตู้ม! ตู้ม!
ในตอนนี้ เสียงระเบิดสองเสียงก็ดังขึ้นมาใกล้ ๆ โถงศักดิ์สิทธิ์ไม่มีพลังที่จะลอยอยู่ได้แล้วหลังจากที่ถูกผ่าออกเป็นสองเสี่ยงจากรุยจิน ดังนั้นมันจึงตกลงบนพื้นทราย นักฆ่าที่อยู่ในชุดดำพุ่งออกมาจากซากของโถงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว และหนีออกไปไกลที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้
“อย่าให้ใครหนีไปได้ ฆ่าให้หมด ! ” สายตาของเจี้ยนเฉินเย็นชา และเขาก็สั่งให้จอมยุทธของนิกายดาบโลหิตโจมตี ก่อนที่เขาจะใช้ทักษะมายาพริบตาไปถึงที่เหนือซากของโถงศักดิ์สิทธิ์ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเขากลายเป็นภาพติดตา ในขณะที่เขาแทงไปที่นักฆ่าที่ออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ และเขาฆ่าคนไปเป็นสิบในพริบตา
เจียงหวัง ผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์ไล่ล่านักฆ่าที่หนีไปในทุกทิศทาง แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงเซียนผู้คุมกฎและเซียนราชาที่ไม่ได้ฆ่าใครมากมายมาก่อน แต่พวกเขาก็ยังตามล่าพวกนักฆ่านี้เพื่อที่จะกวาดล้างนิกายใต้พิภพ
ถ้าแม้ว่าทัณฑ์สวรรค์จะเกิดขึ้นจากการสังหารคนจำนวนมาก แต่มันก็จะเกิดเมื่อสังหารคนไปหลายแสนหรือมากกว่านั้น นิกายใต้พิภพมีเพียงไม่กี่พันคนและมือของพวกเขาทุกคนก็ย้อมไปด้วยเลือด พวกเขายิ่งต้องกังวลน้อยกว่าในเรื่องที่จะเกิดทัณฑ์สวรรค์
ในตอนนี้ของที่นิกายใต้พิภพพึ่งพาได้มากที่สุดก็หายไปแล้ว นักฆ่าทั้งหมดได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากทางจิตใจ ทุกคนสูญเสียและเสียกำลังใจในการต่อสู้ ทันทีที่พวกเขาออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ พวกเขาก็พุ่งหนีออกไปไกลทันที
เจียงหวัง ผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์ทุ่มสุดตัวในการฆ่านักฆ่าที่กำลังหนี พวกที่ระดับต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎก็เหมือนมดปลวก แม้แต่เซียนสวรรค์ยังไม่มีพลังที่จะต่อต้านความสามารถของเซียนผู้คุมกฎได้ เพียงแค่คิด เซียนผู้คุมกฎก็สามารถพันธนาการมิติและทำให้นักฆ่าของนิกายใต้พิภพติดอยู่กับที่ก่อนที่จะถูกฆ่าไปอย่างง่ายดาย
ในตอนนี้ นักฆ่ามากกว่าสิบคนของนิกายใต้พิภพที่ใส่เครื่องแบบเหมือนกันก็พุ่งออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์ โดยซ่อนตัวเองอยู่ในกลุ่มคน ทันทีที่พวกเขาออกมาข้างนอก พวกเขาก็หลอมรวมเข้ากันมิติและหนีออกไปอย่างรวดเร็วกลายเป็นภาพพร่ามัว
“นั่นมันเซียนผู้คุมกฎของนิกายใต้พิภพ อย่าให้ใครหนีไปได้ ! ” เจียงหวังตะโกน เขารามือจากเซียนสวรรค์ที่เขาพันธนาการเอาไว้และไล่ตามเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ไป
ผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์ก็ล้มเลิกในเหยื่อเล็ก ๆเช่นกัน ทั้งหมดไล่ตามเซียนผู้คุมกฎไป
รุยจินสร้างผนึกขึ้นมาในมือทันทีและตะโกนออกมา “ทักษะลับของเผ่ามังกร เขตแดนมังกร ! ” หลังจากนั้นแสงสีทองก็ขยายออกจากมือของรุยจินและครอบคลุมไปรอบ ๆ ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ มันปกคลุมไปกว่าพันกิโลเมตรในพริบตา
อาณาเขตในรัศมีหนึ่งพันกิโลเมตรกลายเป็นสีทองอ่อน นี่เป็นเขตแดนมังกรของรุยจิน ซึ่งเปลี่ยนให้อาณาเขตรอบ ๆ เป็นอาณาเขตของตัวเอง นอกเหนือไปจากหงเหลียน รุยจิน เจี้ยนเฉิน นูบิสและคนของนิกายดาบโลหิตแล้ว คนอื่นทั้งหมดก็เหมือนติดอยู่ด้วยแรงที่มองไม่เห็น ทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้ช้ามาก พวกเขารู้สึกว่าเหมือนอยู่ในโคลน มีเพียงเซียนผู้คุมกฎเท่านั้นที่สามารถต่อต้านความช้านี้ได้ถ้าทุ่มเต็มกำลัง คนที่ระดับต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎนั้นไม่สามารถขยับตัวได้เลยแม้แต่น้อย