ตอนที่ 1695 : นายน้อยแห่งนิกายจุลกระบี่
เจี้ยนเฉินส่ายหน้าตอบกลับด้วยความขมขื่น ความคิดของสาวน้อยผู้นี้เกินคาดจริง ๆ
“หยานเอ๋อ อย่าหยาบคาย” ผู้นำพูดขึ้นมา เขาเคร่งขรึมและทำตัวเหมือนกับเครียด
โม่หยานแลบลิ้นออกมาและพูดขึ้น “ท่านพ่อโกรธ งั้นข้าก็จะไม่พูดต่อแต่ เจี้ยนเฉิน เจ้าน่ะต้องพยายามให้มากกว่านี้และทะลวงผ่านขึ้นไปขอบเขตเทพให้เร็วที่สุด เมื่อเจ้าขึ้นถึงขั้นศักดิ์สิทธิ์แล้ว เจ้าถึงจะมีสิทธิไล่ตาม พี่ซีหยู” โม่หยานพูดจบก็ได้เดินตามผู้นำไปหาซีหยู
เจี้ยนเฉินยิ้มออกมาและมองไปที่แผ่นหลังของโม่หยาน ก่อนจะเดินเอามือไพล่หลังไปยังที่พักของเฉินเจี้ยน เขาไม่ได้สนใจคำพูดของโม่หยานเลย
ตอนนั้นเจี้ยนเฉินได้หรี่ตาลงและหันกลับมามองไปยังทางเข้าตระกูลโม่
ตอนนั้นมีเกวียนทองบินเข้ามายังตระกูลโม่จากไกล ๆ มันมีสัตว์อสูรที่เหมือนกับม้า 6 ตัวลากเกวียนนี้ พวกมันกระพือปีกและบินเข้ามาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าสัตว์อสูรพวกนี้จะแข็งแกร่งพอกับเซียนจักรพรรดิ แต่พวกมันก็ไม่ได้ช้ากว่าจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมเลย
มันมีผู้คุ้มกันในชุดขาวกว่า 20 คนที่อยู่ขอบเขตดั้งเดิมซึ่งประจำอยู่ทั้งสองฝั่งของเกวียน ชุดของพวกเขาสลักเครื่องหมายเหมือนกับกระบี่ทองเล็ก ๆ เอาไว้
เกวียนสีทองนี้พุ่งเขามาอย่างรวดเร็วและลงมาจอดที่ทางเข้าของตระกูลโม่แทบจะทันที ทหารที่นำมาได้พูดกับยามของตระกูลโม่ “นายน้อยนิกายจุลกระบี่ได้มาเยี่ยม ทำไมเจ้ายังไม่ไปรายงานอีก ? ”
ยามผู้นั้นไม่กล้าที่จะชักช้าและรีบวิ่งเข้ามาในบ้านเพื่อรายงานข่าว
ผู้นำและผู้อาวุโสตระกูลโม่ยังคงยินดีกับซีหยูที่ได้ทะลวงผ่าน ตอนที่เกวียนสีทองมาที่บ้านตระกูลโม่ ซีหยูก็คิ้วขมวดเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น “ท่านพ่อ นายน้อยจากนิกายจุลกระบี่มาอีกแล้ว”
สีหน้าของโม่หยานเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินแบบนั้น นางได้ถามขึ้นมาทันที ” อะไรกัน ? ยู่ฟานผู้นั้นมาอีกแล้วหรือ ? ไม่ เราให้เขาเข้ามาในบ้านไม่ได้ ข้าเกลียดเขา ไล่เขาไปที ”
ผู้นำถอนหายใจออกมาและพูดขึ้นว่า ” ให้นายน้อยเข้ามา” แม้ว่าผู้นำจะไม่ได้พูดออกมาดังนักแต่มันก็ดังก้องไปทั่วหลายกิโลเมตรและยามที่ดูแลประตูก็ได้ยินมัน
การมาถึงของนายน้อยนิกายจุลกระบี่นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทำการรายงาน จอมยุทธขอบเขตเทพทุกคนในตระกูลโม่รับรู้ได้ทันทีที่นายน้อยผู้นี้มาถึง
ไม่นานชายหนุ่มที่อายุประมาณ 20 ปีก็ได้เข้ามาในตระกูลโม่ เขาใส่ชุดหรูหราสีขาวและหน้าตาก่อนข้างหล่อเหล่ายกเว้นแค่เขาเหมือนจะป่วยเล็กน้อย สายตาเขาดูไม่แวววาว สายตาของเขาเหมือนกับแฝงไปด้วยความคิดแย่ ๆ บางอย่าง
ข้าง ๆ นายน้อยนั้นมีชายวัยกลางคน 2 คนเดินมาข้าง ๆ ทั้งสองคนแผ่พลังกดดันออกมาจากตัว พวกเขามีแรงกดดันที่มีแค่จอมยุทธขอบเขตเทพจะมีได้
ด้านหลังนั้นคือผู้คุ้มกันขั้นแลกเปลี่ยน 20 คน พวกนั้นต่างก็ไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมาและมีท่าทีเย็นชา
ผู้อาวุโสต่างก็มองคนกลุ่มนี้เดินเข้ามาอย่างใจเย็น มีแค่ซีหยูที่ขมวดคิ้วและมองไปที่ชายคนนั้นด้วยท่าทีรังเกียจ สำหรับโม่หยานแล้ว ใบหน้าของนางนั้นสลดอย่างมาก
“คารวะท่านลุงโม่และพี่ซีหยู” นายน้อยมาอยู่ตรงหน้าผู้นำและโค้งให้ทั้งสองคน
“เพ้ย ! ใครกันที่เป็นลุงของเจ้ากัน ? และใครกันที่เป็นพี่ซีหยูของเจ้า ? ยู่ฟาน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ? ฟังนะ เจ้าเรียกพ่อข้าว่าลุงและเจ้าเรียกพี่ซีหยูเช่นนี้ไม่ได้ เจ้าควรเรียกนางว่าผู้อาวุโสซีหยูหรือไม่ก็ผู้อาวุโสซี เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? ” โม่หยานลุกขึ้นยืนมือเท้าสะเอวและด่าออกมา
นายน้อยไม่ได้โกรธ เขากลับยิ้มให้กับโม่หยานและพูดขึ้นว่า “น้องโม่หยานอารมณ์ร้อนจริง ๆ ”
“เพ้ย ! ใครเป็นน้องเจ้า ? ใครเป็นน้องเจ้ากัน…” โม่หยานแทบจะพุ่งเข้าใส่ เพราะความโกรธนี้จึงทำให้นางหน้าแดงขึ้นมา
“หยานเอ๋อ เขาเป็นแขก เจ้าทำตัวหยาบคายเช่นนี้ได้อย่างไร ? ข้าสอนเจ้าว่าอย่างไรในอดีต” ผู้นำมองไปที่โม่หยานพร้อมคิ้วที่ขมวด
” ฮึ่ม ! ” โม่หยานฮึดฮัดออกมาและไม่ได้พูดอะไรต่อ
“ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหาอันใด ลุงโม่ น้องโม่หยานก็เป็นแบบนี้แหละ มันไม่ใช่ความผิดของนาง มันไม่ใช่ความผิดของนางเลย” นายน้อยพูดด้วยรอยยิ้ม เขามองไปที่โม่หยานอยู่บ่อย ๆ พร้อมสายตาที่แสดงความโรคจิตออกมา แม้วาเขาจะซ่อนมันไว้อย่างดีแต่เขาก็ไม่อาจจะปิดบังมันจากผู้อาวุโสตระกูลโม่ได้
ผู้อาวุโสต่างก็ไม่ชอบชายหนุ่มผู้นี้ แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะล่วงเกินอีกฝ่ายมากเกินไปเพราะอีกฝ่ายเป็นถึงนายน้อยของนิกายจุลกระบี่
ผู้นำเดินไปหาชายวัยกลางคนสองคนข้างนายน้อยและป้องมือให้ “ข้าไม่คิดว่าผู้อาวุโสโม่ชานและ ผู้อาวุโสโม่หยุนจะมาด้วย เชิญ เข้าไปในห้องด้วยกันกับข้า ”
โม่ชานและโม่หยุนป้องมือให้ผู้นำพร้อมกัน โม่ชานได้พูดขึ้นมา ” ดี ท่านผู้นำ เจ้าคงรู้เป้าหมายที่เรามาในวันนี้ ไปคุยรายละเอียดกันในห้องจะดีกว่า” หลังจากนั้นเขาก็พูดกับนายน้อย “ยู่ฟาน เรามีเรื่องต้องพูดคุยกับหัวหน้าตระกูล มันก็นานแล้วที่เจ้าไม่ได้พบกับคุณหนู ทำไมเจ้าไม่ไปพูดคุยกับนางล่ะ ? ”
“ได้ ลุงชาน” ยู่ฟานตอบกลับด้วยความสุภาพ เขาตื่นเต้นอย่างมาก
“หยูเอ๋อ มากับข้า หยานเอ๋อ ต้อนรับนายน้อยด้วย เจ้าเข้าใจรึไม่ ? ” ผู้นำพูดก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับ ซีหยู, โม่ชานและโม่หยุน เพื่อพูดคุยกัน
ผู้อาวุโสตระกูลโม่ทุกคนต่างก็กลับไปยังที่พักของตัวเอง
“นั่นคือนายน้อยของนิกายจุลกระบี่หรือ ? ” เจี้ยนเฉินมองจากไกล ๆ จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าและเดินไปยังที่พักของเฉินเจี้ยนต่อ
หลังจากที่ผู้นำและผู้อาวุโส 2 คนจากนิกายจุลกระบี่จากไป นายน้อยก็ได้เอ่ยกับโม่หยานว่า “น้องโม่หยาน ไปกันเถอะ ครั้งที่แล้วข้ารีบมาที่นี่และต้องรีบกลับไปด้วย เจ้ายังไม่พาข้าไปเดินเล่นรอบบ้านเลย ข้าได้ยินมาว่าทะเลดอกไม้ในสวนของเจ้านั้นงดงามอย่างมาก เจ้าต้องพาข้าไปดูให้ได้ในครั้งนี้”
โม่หยาน ก้มหน้าและดูเหมือนจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย นายน้อยคนนี้หล่อเหลาแต่โม่หยานไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย กลับกันแล้วนางรังเกียจเขาอย่างมาก อันที่จริงแล้วนางรู้สึกรังเกียจทุกครั้งไม่ว่าจะเจอเขาตอนไหนก็ตาม
แต่พ่อของนางได้บอกให้นางต้อนรับนายน้อยผู้นี้ นางไม่กล้าที่จะขัดคำสั่งของพ่อและทิ้งยู่ฟาน ไป ยังไงซะนางก็ต้องไว้หน้าพ่อตัวเอง
ตอนนั้นโม่หยานเห็นเจี้ยนเฉินที่กำลังเดินหนีไป ตาของนางเป็นประกายขึ้นมาทันทีและได้ตะโกนขึ้นมา “เจี้ยนเฉิน ! ”