ตอนที่ 222 ขออภัย ข้าพูดผิดอีกแล้ว
เห็นได้ชัดว่าราชันทมิฬมิได้พอใจกับหินหุนหยวน 200 ก้อน ที่เผ่าพยัคฆ์ดำนำมาให้เท่าไรนัก
ที่สำคัญที่สุดก็คือก่อนหน้านี้พี่ต้นไม้บอกเขาว่า ได้ส่งคนไปหาหินหุนหยวนให้นายท่านแล้ว
ด้วยฝีมือของพี่ต้นไม้แล้ว หินหุนหยวนที่จะหามาได้ย่อมมิใช่น้อย ๆ
ส่วนเขาจะสามารถนำหินหุนหยวนกลับไปจากเทือกเขาแดนใต้ได้หรือไม่นั้น จึงมิใช่เรื่องสำคัญอีก
และการที่เผ่าพยัคฆ์ดำนำของมามอบให้เพื่อเป็นการขออภัยในเวลานี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะความหวาดกลัวในคำขู่ของพี่ต้นไม้ก่อนหน้านี้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจะมิปล่อยโอกาสที่จะได้กลั่นแกล้งเผ่าพยัคฆ์ดำไปอย่างแน่นอน
แต่หากตอนไปจากเทือกเขาแดนใต้ เขาสามารถนำหินหุนหยวนกลับไปได้ด้วย ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดีมิน้อย
ทว่าหลังจากที่เหล่าผู้แข็งแกร่งของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณเห็นเฮยเซี่ยวนำหินหุนหยวน 200 ก้อนออกมานั้น ต่างก็เผยสีหน้าตื่นตระหนกออกมา
หินหุนหยวน 200 ก้อน !
เผ่าพยัคฆ์ดำมั่งคั่งมิน้อยเลย !
เผ่าจิ้งจอกวิญญาณเองแม้จะเก็บสะสมมาหลายปีก็ยังมีเพียงมิกี่ก้อนเท่านั้น แต่เผ่าพยัคฆ์ดำกลับนำหินหุนหยวน 200 ก้อนมามอบให้ได้อย่างง่ายดาย
เช่นนี้แล้วจะมิให้พวกเขาตกใจได้เยี่ยงไรกัน ?
แต่หลังจากที่ราชันทมิฬเอ่ยออกมา มิเพียงแต่เหล่าผู้แข็งแกร่งของเผ่าจิ้งจอกวิญญาณที่มีสีหน้าเปลี่ยนไป แม้แต่พวกเฮยฉางซานและเฮยเซี่ยวเองก็อดที่จะเกิดความฉงนขึ้นมามิได้
‘นี่คือหินหุนหยวน 200 ก้อนเชียวนะ ! ’
‘เจ้ายังมิพอใจอีกงั้นหรือ เช่นนั้นเจ้าต้องการเท่าไรกันแน่ถึงจะพอใจ ? ’
‘เจ้าปีศาจตนนี้ช่างโลภมากจนมิรู้จักพอจริง ๆ ! ’
หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เฮยเซี่ยวและเฮยฉางซานที่ใบหน้าเรียบนิ่งก็ลอบสื่อสารกันทางสายตาเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มประจบออกมา “ราชันทมิฬ ข้าขอเรียนตามตรงหินหุนหยวนนี้เป็นของวิเศษฟ้าดินโดยแท้จริง ด้วยสายตาอันกว้างไกลของเจ้าคงจะทราบดี”
“หินหุนหยวน 200 ก้อนนี้เป็นสิ่งที่เผ่าพยัคฆ์ดำของเราสะสมมานับล้านปี หากท่านยังมิพอใจอีกล่ะก็ ให้เวลาข้าอีกสักหน่อย ข้าจะสั่งคนในเผ่าให้ไปสืบหาจากทั่วทุกที่ในเทือกเขาแดนใต้ เจ้าว่าเช่นนี้ดีหรือไม่ ? ”
ความจริงแล้วหลายปีมานี้เผ่าพยัคฆ์ดำเองก็สะสมหินหุนหยวนเอาไว้มิน้อยเช่นกัน
แต่เฮยเซี่ยวรู้ซึ้งถึงความโลภของราชันทมิฬ ยิ่งไปกว่านั้นเผ่าพยัคฆ์ดำและราชันทมิฬยังมีอดีตต่อกันมิน้อย
เช่นนั้นเขาจึงนำหินหุนหยวน 200 ก้อนที่ผู้เฒ่าชิวหลงทิ้งเอาไว้มาก่อน รอจนราชันทมิฬปฏิเสธแล้ว ค่อยขอร้องอ้อนวอนอีกครั้ง
เช่นนี้แล้วก็จะยังพอมีช่องทางให้เจรจาตกลงกันได้อยู่
ราชันทมิฬเหลือบมองใบหน้าจริงใจของเฮยเซี่ยว ก่อนมุมปากจะค่อย ๆ โค้งขึ้น
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเจ้าเอ่ยเช่นนี้แล้ว ข้าก็จะยอมหยวน ๆ ให้ก็แล้วกัน”
พูดถึงตรงนี้แล้วราชันทมิฬก็ได้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ทุกคนตกใจจนแทบจะตกเก้าอี้ออกมา “หินหุนหยวนอย่างน้อย 500 ก้อน!”
“จุดประสงค์ที่พวกเจ้ามาในวันนี้ข้าคาดเดาได้ตั้งแต่ทีแรกแล้ว หากก่อนที่ข้าจะไปจากเทือกเขาแดนใต้ เผ่าพยัคฆ์ดำของเจ้าสามารถมอบหินหุนหยวนจำนวน 500 ก้อนให้ได้ ข้ารับปากพวกเจ้าเมื่อกลับไปแล้ว ข้าจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้พี่ต้นไม้ฟังอย่างแน่นอน”
ได้ยินเช่นนั้นผู้แข็งแกร่งเผ่าปีศาจทั้งหมดที่อยู่ที่นั่น ต่างก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
‘หินหุนหยวน 500 ก้อน ! ’
‘เจ้าราชันทมิฬผู้นี้ละโมบเกินไปแล้วกระมัง ! ’
‘อีกทั้งภายในระยะเวลาสั้น ๆ การจะหาหินหุนหยวน 500 ก้อนนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปมิได้เลย ! ’
ในตอนนั้นเองมุมปากของเฮยฉางซานก็กระตุกเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกับราชันทมิฬว่า “เด็กน้อย นี่คือหินหุนหยวน หาใช่ศิลาวิญญาณ หญ้าวิญญาณ ที่ใช้ในการบำเพ็ญเพียรทั่วไปไม่”
ราชันทมิฬเพียงแค่ปรายตามองเฮยฉางซานที่ยังคงมีท่าทางแข็งกระด้าง พร้อมกับเย้ยหยันว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเผ่าพยัคฆ์ดำของพวกเจ้าจะมาหาข้าอีกทำไมกัน ? ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตาเฮยฉางซานจึงแข็งกร้าวขึ้นทันที และมีสีหน้าเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“จ้าวปีศาจพยัคฆ์ดำ ข้ายอมรับว่ายังมิใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า”
ราชันทมิฬมองเฮยฉางซาน แล้วยักไหล่ข้างหนึ่ง “แต่ข้าจะขอเตือนเจ้าสักอย่าง หากเจ้ากล้าสังหารข้าล่ะก็ ถึงเวลานั้นเกรงว่าคงจะมิใช่พี่ต้นไม้ ที่จะมาถามหาความรับผิดชอบอีก แต่จะเป็นนายท่านของข้าที่จะมายังเทือกเขาแดนใต้ด้วยตนเอง”
“นายท่านของข้าเก่งกาจเพียงใดนั้น เกรงว่าคงมิต้องให้ข้าพูดอะไรให้มากความกระมัง?”
เฮยเซี่ยวได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะเอ่ยอย่างน่าสงสารว่า “ราชันทมิฬ ห้าร้อยก็ห้าร้อย ข้าจะกลับไปตามหาหินหุนหยวนเดี๋ยวนี้”
ราชันทมิฬแสยะยิ้มออกมา ขณะมองเฮยฉางซานที่มีหน้าตาดุดัน พร้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า “ขอโทษที เมื่อครู่ข้าพูดผิดไป ต้องเป็นแปดร้อยถึงจะถูก!”
“เด็กน้อย เจ้าอย่ารังแกกันให้มากไปหน่อยเลย ! ”
เฮยฉางซานคำรามก้องออกมาทันที
ราชันทมิฬหัวเราะออกมาอย่างมิแยแส พร้อมเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “ขอโทษที ข้าพูดผิดไปอีกแล้ว ต้องเป็นหนึ่งพันก้อนต่างหาก!”
สิ้นเสียงก็มีเงาพยัคฆ์ดำขนาดใหญ่เงาหนึ่ง แผ่ออกมาจากกายของเฮยฉางซานในทันที ขณะเดียวกันไอพลังที่ปกคลุมอยู่รอบกายก็ดุดันขึ้นอย่างมิอาจประมาณได้
ความจริงแล้วเวลานี้เฮยฉางซานกำลังโมโหอย่างมาก !
มิใช่!
พูดให้ถูกก็คือ ถูกยั่วโมโหจนแทบจะระเบิดออกมาแล้ว !
เขาเฮยฉางซานทั่วทั้งเทือกเขาแดนใต้ พลังเป็นรองเพียงผู้อาวุโสที่เป็นอมตะเท่านั้น ผู้ที่อยู่ในระดับตบะบำเพ็ญเพียรเดียวกัน แทบจะมิมีผู้ใดที่จะต่อกรกับเขาได้
แต่บัดนี้จักรพรรดิปีศาจตัวเล็ก ๆ ตนหนึ่ง กลับกล้าท้าทายอำนาจของเขาถึงเพียงนี้
ดูก็รู้ว่าเวลานี้เฮยฉางซานนั้น อึดอัดใจมากเพียงใด !
ขณะเดียวกัน เมื่อเห็นว่าเฮยฉางซานแทบจะทนมิไหว
ใบหน้าของราชันทมิฬแม้มิได้เผยสีหน้าใด ๆ ออกมามากนัก ทว่าภายในใจกลับรู้สึกเบิกบานราวกับดอกไม้ผลิ
‘แม้ข้าจะมีตบะบารมีเป็นเพียงจักรพรรดิปีศาจ แต่เบื้องหลังของข้ามีพี่ต้นไม้และนายท่านคอยหนุนหลังอยู่ เจ้าเฮยฉางซานต่อให้จะเป็นจ้าวปีศาจที่เก่งกาจแล้วจะเยี่ยงไรเล่า ? ’
‘ก็ยังถูกข้ายั่วยุโดยที่ทำอะไรมิได้อยู่ดีนั่นแหละ ! ’
‘ความรู้สึกเช่นนี้…’
‘เยี่ยม ! ’
‘เยี่ยมสุด ๆ ! ’
‘ช่างเยี่ยมมาก ๆๆๆๆๆ จริง ๆ ! ’
แม้เวลานี้ภายในใจของราชันทมิฬจะคิดเช่นนั้น แต่เขาก็พร้อมที่จะหยิบภาพราชันทมิฬออกมา และเตรียมวิ่งหนีได้ตลอดเวลาเช่นกัน
ตอนนั้นเองเมื่อเห็นว่าเฮยฉางซานกำลังจะระเบิดพลังออกมา ถูซื่อที่มีใบหน้าเย็นชาก็ได้ลุกขึ้นยืนทันที
“จ้าวปีศาจพยัคฆ์ดำ ท่านจะลงมือที่นี่เยี่ยงนั้นหรือ ? ”
ถูซื่อดวงตาแววโรจน์ หมอกแสงปกคลุมรอบกาย ไอปีศาจแผ่ออกมา หาได้หวาดกลัวผู้แข็งแกร่งเช่นเฮยฉางซานไม่
“ปึ้ง ! ”
สิ้นเสียงเฮยเซี่ยวก็คุกเข่าลงกับพื้นด้วยสีหน้ามิสู้ดีทันที
“ท่านบรรพบุรุษ เวลานี้ท่านต้องอดทนเอาไว้นะขอรับ หากร่างจริงของผู้อาวุโสท่านนั้นมายังเทือกเขาแดนใต้จริง ๆ เผ่าพยัคฆ์ดำของเราจะพบกับหายนะคราใหญ่เป็นแน่ขอรับ ! ”
เฮยเซี่ยวมองเฮยฉางซาน พร้อมเอ่ยขอร้องกับเขาทางจิต
เฮยฉางซานมุมปากกระตุกอย่างห้ามมิอยู่ ก่อนจะแค่นเสียงออกมา จากนั้นจึงหมุนตัวเดินออกจากถ้ำไป
เมื่อเห็นแผ่นหลังที่เดินจากไปของเฮยฉางซาน เฮยเซี่ยวผู้เป็นหัวหน้าเผ่าพยัคฆ์ดำก็เกิดความรู้สึกร้องไห้มิออกขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
เดิมที่ตามแผนการเขาวางเอาไว้ ตอนที่ราชันทมิฬยื่นข้อเสนอเป็นหินหุนหยวน 500 ก้อน ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่เขาพอจะรับได้
แต่ด้วยคำพูดของท่านบรรพบุรุษ หินหุนหยวนกลับเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ก้อน
เช่นนี้แล้วการจะคลี่คลายความแค้นในครั้งนี้ เผ่าพยัคฆ์ดำจำต้องจ่ายด้วยราคาที่แสนแพง
นี่คือบรรพบุรุษที่ยังมีชีวิตอยู่จริง ๆ ใช่หรือไม่ !
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เฮยเซี่ยวก็ฉีกยิ้มที่ดูราวกับจะร้องไห้ออกมา พร้อมเอ่ยกับราชันทมิฬว่า “ราชันทมิฬ สามารถ… ลดจำนวนหินหุนหยวนลงเหลือสัก 500 ก้อนได้หรือไม่ เยี่ยงไรเสียหินหุนหยวน…”
ราชันทมิฬได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นก็ลูบหน้าผากตัวเองเบา ๆ ก่อนเอ่ยขัดขึ้นว่า
“ช่วงนี้ข้าเป็นอะไรไป เหตุใดความจำถึงได้แย่ลงเช่นนี้…”
ราชันทมิฬเอ่ยยังมิทันจบประโยค เฮยเซี่ยวก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตื่นตกใจ
“หนึ่งพันก็หนึ่งพัน ข้าจะรีบกลับไปตามหาหินหุนหยวนให้เดี๋ยวนี้”
เอ่ยจบเฮยเซี่ยวกลัวว่าราชันทมิฬจะกลับคำอีก จึงรีบนำผู้แข็งแกร่งเผ่าพยัคฆ์ดำทั้งสอง แปลงกายเป็นสายลมพัดออกจากถ้ำไปทันที
เห็นเช่นนั้นแล้วเหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่าจิ้งจอกวิญญาณต่างก็มองหน้ากัน ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างอดมิได้
แต่ว่าเมื่อพวกเขามองราชันทมิฬอีกครั้ง แววตาที่มองกลับเปลี่ยนไปจากเดิม