ตอนที่ 781 ท่าป๋าเฟิงผู้เกรี้ยวกราด
ดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งมิได้หยุดพักอยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนั้น
หลังจากที่หนิงซือเหยียนประกาศยกทัพไปปราบปรามกองทัพชายแดนเหนือ พวกเขาก็ได้เคลื่อนพลอย่างเร่งด่วนไปยังเซียวเหอหยวน
หลังจากที่ทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งออกไปจากหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ได้ราวครึ่งชั่วยาม กองทัพชายแดนเหนือ 200,000 นายภายใต้บัญชาของเผิงเฉิงอู่ก็ได้มาถึงเป่ยเฟิงภูเขาผิงหลิง
ทว่าพวกเขากลับมิพบร่องรอยของทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งในเมืองเป่ยเฟิงภูเขาผิงหลิงนี้เลย !
หรือว่าจะมีการรายงานผิดพลาด ?
มิใช่ว่าฟู่เสี่ยวกวนต้องการให้รวมตัวกันที่นี่หรอกหรือ ?
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้รับรายงานจากผู้สอดแนม คาดมิถึงว่าทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งจะเดินทางไปยังเซียวเหอหยวนแล้ว
พวกเขาไปทำอันใดที่นั่นกัน ?
พวกเขาจะไปทำอันใดที่ไหนก็มิสำคัญแล้ว เนื่องจากสิ่งสำคัญคือรายงานของผู้สอดแนมได้มีการยืนยันแล้วว่าฟู่เสี่ยวกวนอยู่ในกองทัพทหารดาบเทวะกองที่หนึ่ง !
ด่านภูเขาเยี่ยนแตกพ่าย เมืองซินโจวแตกยับ มีทหารเสียชีวิตที่เมืองซินโจวมากกว่า 50,000 นาย อีกทั้งยังมีชาวบ้านที่มาช่วยป้องกันเมืองเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 500,000 คน… ในใจของเผิงเฉิงอู่กำลังหลั่งโลหิต
ผลตอบแทนสำหรับการสังหารฟู่เสี่ยวกวนนี้ คุ้มค่าแล้วจริง ๆ หรือ ?
การเป็นศัตรูกับฟู่เสี่ยวกวน… หากอีกฝ่ายรอดพ้นไปได้ ราชวงศ์หยูจะสามารถชดเชยค่าตอบแทนราคาสูงนี้ได้หรือ ?
ทว่าในวันนี้ลูกศรได้ยิงออกไปแล้ว ย่อมมิสามารถย้อนกลับได้แล้ว ค่าตอบแทนที่สูงส่งเทียมฟ้าก็ได้จ่ายไปแล้ว เยี่ยงไรฟู่เสี่ยวกวนก็ต้องตาย !
เขาตั้งสติและกลับมาเป็นผู้นำกองทัพ 200,000 นายนี้อีกครา จากนั้นก็บัญชาให้เคลื่อนพล พวกเขาเคลื่อนพลลงมาจากเป่ยเฟิงภูเขาผิงหลิงราวกับคลื่นทะเล
……
……
ณ ฮวงถิง พระราชวังป๋ายจินฮ่าน
“นี่คือกองกำลังป้องกันเมืองของข้าเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“นี่คือทหารรักษาการณ์กองกำลังป้องกันเมืองที่ข้าฝากชีวิตไว้เยี่ยงนั้นหรือ ? ”
ท่าป๋าเฟิงที่อยู่บนบัลลังก์สูงเดินวนไปเวียนมา “3 วัน เป็นเวลา 3 วันเท่านั้น กองกำลังป้องกันเมืองทั้งแปดทิศก็ถูกศัตรูยึดไปแล้วสามทิศ อีกทั้งทหารดาบเทวะยังอยู่ดีมีสุข นั่งทานข้าว 1 มื้อภายในกองกำลังป้องกันเมืองทั้งสามอีกด้วย ! ”
“ทุกกองกำลังป้องกันเมืองมีทหารรักษาการณ์ 50,000 นาย ทว่าศัตรูที่พวกเจ้าเผชิญหน้าด้วยมีไม่เกิน 5,000 นาย ! มีเพียง 5,000 นายเท่านั้น ! ทั้งที่กองกำลังป้องกันเมืองมีมากกว่าศัตรูถึงสิบเท่า ! คาดมิถึงว่าจะใช้เวลาเพียง 3 วันก็ทะลวงได้แล้ว…”
เขาจดจ้องไปยังเหล่าเสนาบดีด้านล่างด้วยสายตาดุดัน “กองทัพดาบสวรรค์ 400,000 นายโจมตีซินโจว กองรักษาการณ์ซินโจวมีเพียง 60,000 นายแต่ใช้เวลากว่า 10 วันถึงจะสามารถเข้ายึดครองได้ ! หลังจากยึดได้แล้วยังถูกเผาตายไปถึง 100,000 นาย ! ”
เขาถอนหายใจยาวเหยียดและลดน้ำเสียงลง “ข้าใช้พลังใจทั้งหมดในการรวบรวมแปดอาณาเขต คัดเลือกทหารที่ยอดเยี่ยมที่สุด 400,000 นาย ใช้วิธีการฝึกเยี่ยงทหารดาบเทวะมาฝึกฝนอยู่ 1 ปี…”
“เดิมทีข้าคิดว่าการลงใต้ครานี้ย่อมมิเป็นไรอย่างแน่นอน แต่คาดมิถึงว่าจะผิดพลาดไปเสียทุกอย่าง”
“กองทัพดาบสวรรค์ 400,000 นายในวันนี้เหลือเพียง 250,000 นายเท่านั้น นี่เพิ่งก้าวออกไปนอกแคว้นเท่านั้น พวกเจ้าบอกข้ามาสิว่าสงครามครานี้จะต่อสู้เยี่ยงไร ? เกรงว่าเมื่อไปถึงแม่น้ำแยงซีคงจะเหลือทหารเพียงแค่ 25 นาย ! ”
“การต่อสู้กับราชวงศ์หยูมิราบรื่น แล้วเหตุใดทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งถึงโจมตีแคว้นฮวงของข้าได้อย่างราบรื่นกัน ? ”
เขายืนอยู่เบื้องหน้าบัลลังก์มังกร ตบฝ่ามือลงกับโต๊ะเสียงดังปังจนโต๊ะตัวนั้นแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
“หกอาณาเขตธง มิมียุ้งฉางของธงใดหลงเหลืออยู่เลย ม้าศึกทั้งหมดในทุ่งหญ้า มิเหลือแม้แต่ตัวเดียว แล้วยังถูกทะลวงกองกำลังป้องกันเมืองไปอีก 3 แห่ง…”
เขาตะคอกเสียงดังลั่น “รีบประกาศราชโองการของข้าออกไปว่า ให้กองกำลังป้องกันเมืองทั้งห้าทิศที่เหลืออยู่ไปรวมพลกับกองทหารรักษาการณ์ และตามหาทัพหลักของทหารดาบเทวะให้จงได้ ! ”
“ให้ท่าป๋าเจียนแม่ทัพใหญ่ของกองทัพดาบสวรรค์นำทัพกลับไปช่วยเหลือ และต้องกวาดล้างทหารดาบเทวะให้สิ้นซาก ! ”
ทันใดนั้นก็มีเหยี่ยวส่งสารตัวหนึ่งบินเข้ามา และเกาะลงที่บ่าของเขา
เขายื่นมือดึงกระดาษแผ่นนั้นออกมา แววตาสั่นเทาเล็กน้อย จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางเหล่าขุนนาง “ฟู่เสี่ยวกวนอยู่ในกองทัพทหารดาบเทวะกองที่หนึ่ง พวกเขากำลังมุ่งไปยังเซียวเหอหยวน… กองทัพชายแดนเหนือ 200,000 นายกำลังไล่ตามทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งไป และยังมีกองทัพที่มุ่งมาจากเกาเชวียซายอีก 100,000 นายกำลังตรงไปยังเซียวเหอหยวนด้วยเช่นเดียวกัน”
เขาชะงักงันไปชั่วครู่ จากนั้นก็ตรัสออกมาว่า “แถลงราชโองการของข้าออกไปว่า ให้ทหารองครักษ์ที่ประจำการในฮวงถิง 200,000 นายออกเดินทางไปด้วยทั้งหมด ระดมพลรวมกับกองรักษาเมือง 300,000 นายโดยให้ท่าป๋าหยูเป็นผู้บัญชาการ จากนั้นให้มุ่งหน้าไปยังเซียวเหอหยวนเพื่อกวาดล้างกองทัพของฟู่เสี่ยวกวนให้สิ้นซาก ! ”
“ทูลฝ่าบาท องครักษ์แห่งฮวงถิงมิสามารถเคลื่อนพลไปที่ใดได้พ่ะย่ะค่ะ ! ”
“หากมิยอมเคลื่อนพล เจ้าจะรอให้ฟู่เสี่ยวกวนมาโจมตีก่อนหรือเยี่ยงไร ? ขอเพียงฟู่เสี่ยวกวนตาย สงครามครานี้พวกเราก็จะได้รับชัยชนะ ! ”
“ส่วนเรื่องอื่นนั้น รอให้ฟู่เสี่ยวกวนตายเสียก่อน ข้าจะไปเจรจากับฮ่องเต้อย่างแน่นอน”
……
……
ภูเขาผิงหลิง เมืองเป่ยเฟิง ฟู่เสี่ยวกวนกำลังอ่านรายงานฉบับล่าสุดที่ฝูงมดนำมาให้
เขาหัวเราะร่าเพราะสุดท้ายท่าป๋าเฟิงก็ติดเบ็ดเข้าแล้ว เขาแทบจะส่งทหารทั้งหมดไปยังเซียวเหอหยวน จากที่เห็นในตอนนี้เหมือนว่าตัวตนที่แท้จริงของเขายังมิถูกเปิดเผย
ท่าป๋าเฟิงต้องการกลืนกินทหารดาบเทวะในคำเดียว และต้องการเชือดฟู่เสี่ยวกวนในดาบเดียว
ล่อเสือออกจากภูเขา จากที่ดูในปัจจุบันก็ถือว่าสำเร็จ
“เหตุใดต้องไปที่เซียวเหอหยวน ? ” ซูม่อจ้องมองไปทางฟู่เสี่ยวกวนแล้วเอ่ยถามขึ้นมา
“เพราะเซียวเหอหยวนมีแม่น้ำสายใหญ่ การต่อสู้ในที่ราบมิเป็นผลดีต่อทหารดาบเทวะสักเท่าใด ทหารม้าของชาวฮวงนั้นเก่งกาจ และทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งก็มิใช่คนจากยุทธภพที่สามารถบินไปบินมาบนท้องนภาได้ตามใจชอบ การเผชิญหน้ากับทหารม้าที่พุ่งโจมตีจะทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส”
“แม่น้ำเซียวจะสามารถสกัดการพุ่งโจมตีของทหารม้าได้เยี่ยงนั้นหรือ ? ”
“ใช่ ! ทหารดาบเทวะกองทัพที่หนึ่งและสองมุ่งหน้าไปยังเซียวเหอหยวน เยี่ยงไรก็ซ่อนตัวจากท่าป๋าเฟิงมิได้หรอก แน่นอนว่าซ่อนตัวจากเผิงเฉิงอู่มิได้ด้วยเช่นกัน ท่าป๋าเฟิงจะต้องรวบรวมกองกำลังขนาดใหญ่เข้าโจมตีเป็นแน่ แม่น้ำเซียวจึงจะเป็นเกราะกำบังที่ดี กองทัพที่หนึ่งและสองจะสามารถลงมือจัดการกับทัพของเผิงเฉิงอู่ได้ก่อน”
ซูม่อครุ่นคิด จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้นมาว่า “แล้วพวกเราจะทำเยี่ยงไรต่อไปดี ? ”
“มิใช่เราแต่เป็นท่าน ตอนนี้ท่านต้องรีบพาทุกคนเดินทางมุ่งไปโจมตีฮวงถิงและต้องยึดฮวงถิงเอาไว้ โดยจับเป็นท่าป๋าเฟิงมาให้ข้า ! ”
ซูม่อตกตะลึงงัน “เจ้ามิไปเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
ฟู่เสี่ยวกวนยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ข้ายังมีเรื่องอื่นต้องจัดการ”
ซูม่อมิทราบว่าฟู่เสี่ยวกวนยังมีเรื่องอันใดต้องจัดการอีก “ปล่อยเจ้าไปเพียงคนเดียวมันอันตรายจนเกินไป ! ”
“ท่านวางใจเถิด ข้ามีเทพธนูอยู่ข้างกายและในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่นี้จะมีอันตรายอันใดได้กัน ท่านรีบไปจัดทัพและออกเดินทางเถิด ยิ่งพวกท่านยึดฮวงถิงได้เร็วเท่าใด สงครามเซียวเหอหยวนก็จะจบลงเร็วขึ้นเท่านั้น… ดังนั้น ท่านต่างหากที่เป็นหมากสำคัญที่สุดและเป็นตัวกำหนดชัยชนะคราสุดท้าย ! ”
ฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างถึงที่สุด เขาตบบ่าของซูม่อเบา ๆ “ศิษย์พี่แปด… รักษาตัวด้วย ! ”
ซูม่อสูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปโดยมิเอ่ยอันใดออกมา
ภายในระยะเวลาอันสั้น กองพลอิสระดาบเทวะ 5,000 นายก็ได้ลงไปจากเป่ยเฟิงภูเขาผิงหลิง มุ่งหน้าไปยังฮวงถิงที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้
ยอดเขาแห่งนี้จึงเงียบสงัดขึ้นมาทันใด
เป่ยหวังฉวนหันไปมองแผ่นหลังของฟู่เสี่ยวกวน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าแผ่นหลังดูกำยำขึ้นมา
องค์ชายพระองค์นี้… เมื่อตอนที่อยู่ในเมืองเปียนเฉิง โชคดีที่เขามิโดนลูกธนูของข้าสังหาร !
พระองค์กำหนดแผนการอยู่ในกระโจม แต่กลับสามารถกำหนดชัยชนะที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้ได้ เป็นชายหนุ่มที่เก่งกาจอย่างแท้จริง !
ความรุ่งเรืองของราชวงศ์อู๋อยู่ใกล้แค่เอื้อม !
ในยามนี้ฟู่เสี่ยวกวนได้ขมวดคิ้วมุ่น สถานการณ์ในสนามรบได้เปลี่ยนไปมิรู้กี่รอบ ท้ายที่สุดแล้วมันคือการประลองศักยภาพว่าผู้ใดจะแข็งแกร่งกว่ากัน
ทหารดาบเทวะ 130,000 นายเผชิญหน้ากับการล้อมของกองทัพชายแดนเหนือ 200,000 นายและทัพใหญ่ 500,000 นายของชาวฮวง… ต่อให้ชนะ ก็คงเป็นชัยชนะที่น่าสลด
ทหารดาบเทวะ 130,000 นายคือหัวใจของข้า มิสามารถปล่อยให้สูญเสียมากจนเกินไปได้ !
ดังนั้นเขาจึงมิได้ตามซูม่อไปยึดพระราชวังป๋ายจินฮ่าน
เนื่องจากเขาต้องการไล่ตามเผิงเฉิงอู่
“ท่านเป่ย… พวกเรารีบออกเดินทางกันโดยเร็วเถิด”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“หลังจากไล่ตามกองทัพชายแดนเหนือทันแล้ว คงต้องขอให้ท่านลงมือ…ยิงลูกศรใส่เผิงเฉิงอู่สักดอก ! ”
“…แต่อย่ายิงให้ตายล่ะ ! ”