เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) – ตอนที่ 1855: ห้วงจิตสำนึกที่น่ากลัว

ตอนที่ 1855: ห้วงจิตสำนึกที่น่ากลัว

มีสวนที่เงียบสงบที่ใช้พื้นที่ขนาดใหญ่มากในเมืองหลวง เจี้ยนเฉิน, ซีหยูและโม่หยานพักที่นั่นชั่วคราว มีคนรับใช้ทั้งหมด 100 คนที่รับใช้พวกเขาที่เรือน

ขั้นเหนือเทพจากเมืองหลวงได้มอบเรือนให้กับเจี้ยนเฉินอย่างกระตือรือร้นหลังจากเขารู้ว่าเจี้ยนเฉินไม่มีที่พักอยู่ในเมืองหลวง เขากระตือรือร้นอย่างมาก

เดิมที เจี้ยนเฉินต้องการที่จะอยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง แต่เขาพบว่ามันยากที่จะตัดรอนน้ำใจของขั้นเหนือเทพ ดังนั้นเขาจึงต้องปักหลักอยู่ที่นั่นกับซีหยูและโม่หยาน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ยอมรับมันเป็นของขวัญจากขั้นเหนือเทพ เขาวางแผนที่จะพักที่นี่ชั่วคราว

เจี้ยนเฉินยืนอยู่ตรงกลางห้องหนึ่ง เขานำโลงผลึกที่มีไคย่าออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม และวางลงบนพื้นอย่างอ่อนโยน

ในเวลาเดียวกัน กล่องที่เต็มไปด้วยค่ายกลก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา ขณะที่เขาเอาค่ายกลออกไปทีละชั้น พลังแห่งการมีอยู่ลึกลับก็เริ่มซึมซับสิ่งรอบตัว

เมื่อสัมผัสกับพลังแห่งการมีอยู่นั้น ดวงตาของสัตว์อสูรกลืนสวรรค์เจ็ดสีที่อยู่บนโลงผลึกจึงสว่างขึ้นทันที มันกระพือปีกขณะบินไปรอบ ๆ เจี้ยนเฉิน ดวงตาเล็ก ๆ ที่ฉลาดของมันเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

เจี้ยนเฉินจ้องไคยะซึ่งนอนอยู่ในโลง เขาบ่นว่า “ไคยะ เจ้าหลับมานานแล้ว ข้าหวังว่าคราวนี้ข้าจะปลุกเจ้าได้ เพื่อให้เจ้าสามารถเปิดตาและมองไปที่โลกเซียนอันยิ่งใหญ่” เจี้ยนเฉินค่อย ๆ แกะฝากล่องออก ดอกบัวสีดำถูกวางไว้อย่างเงียบ ๆ มันมีทั้งหมด 9 กลีบ และแต่ละกลีบมีพลังแห่งการมีอยู่ที่น่าอัศจรรย์ซึ่งดูเหมือนว่าจะสะท้อนกับโลกราวกับว่ากฎของโลกถูกทอไปกับมัน

ดอกไม้นั้นเป็นบัวดึงวิญญาณที่เจี้ยนเฉินจัดการซื้อมาจากสมาคมการค้าของราชสำนัก หลังจากประมูลมาด้วยราคาที่สูงมาก

เจี้ยนเฉินเอาดอกบัวออกจากกล่องอย่างระมัดระวังและค่อย ๆ วางลงในปากของไคยะ ในขณะเดียวกัน เขาก็ให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของไคยะ

สัมผัสทางวิญญาณของเจี้ยนเฉินสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าดอกบัวสีดำสนิทค่อย ๆ ละลายในปากของไคยะ มันกลายเป็นของเหลวสีดำให้ไคยะดูดซับ และทั้งหมดก็รวมตัวกัน ณ วิญญาณของนาง

สิบนาทีต่อมาดอกบัวหายไปจากปากของไคยะ ไคยะดูดซับฤทธิ์ของดอกบัวจนหมด

เจี้ยนเฉินจ้องไคย่าอย่างใกล้ชิดขณะที่เขาเฝ้าดูการตอบสนอง ดอกบัวดึงวิญญาณนั้นมีคุณภาพสูงในบรรดาสมบัติสวรรค์ที่สามารถจัดการกับปัญหาของวิญญาณได้ ตามความเป็นจริงก็ถือได้ว่าเป็นระดับสูง ถ้ามันไม่สามารถปลุกไคยะได้ เขาก็หมดหาทาง

5 นาที …

10 นาที…

15 นาที…

เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ อย่างไรก็ตาม การไม่ตอบสนองของไคยะก็ทำให้เจี้ยนเฉินเป็นห่วง ราวกับว่าบัวดึงวิญญาณไม่ได้ทำอะไรกับนางเลย และนางก็ยังเป็นเหมือนเดิม

ตอนนี้ ในหัวของไคยะ ภายในความลึกของห้วงจิตสำนึกของนางซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เจี้ยนเฉินจะค้นพบ มีอาณาเขตที่ยิ่งใหญ่ มันดูเหมือนว่าจะมีขนาดใหญ่เท่ากับจักรวาล นี่คือห้วงจิตสำนึกของไคยะ

ถ้าเจี้ยนเฉินได้เห็นห้วงจิตสำนึกของนาง เขาจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน ไคยะเป็นเพียงเซียนจักรพรรดิคนหนึ่ง แต่ห้วงจิตสำนึกของนางนั้นมีขนาดที่ไม่น่าเชื่อ สามารถอธิบายได้อย่างแท้จริงว่าไร้ขอบเขต

ไม่ต้องเอ่ยถึงราชเทพที่มาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตเทพ แต่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นก็จะรู้สึกสับสนลอย่างท่วมท้นหากพวกเขารู้ว่านางมีห้วงจิตสำนึกขนาดใหญ่

แม้กระทั่งผู้ที่มาถึงขอบเขตตั้งต้นก็จะมีห้วงจิตสำนึกเพียงหนึ่งในสิบของขนาดของไคยะ

ในขณะนี้เองที่จุดประกายของแสงปรากฏขึ้นในห้วงจิตสำนึกสีดำที่ไม่มีขอบเขต มันขยายตัวอย่างรวดเร็ว และไม่กี่วินาทีต่อมา มันก็กลายเป็นดวงอาทิตย์ขนาดเล็ก มันส่องประกายด้วยสีทั้งหมดของคลื่นความถี่ที่ส่องสว่างส่องสว่างบริเวณเล็ก ๆ ของห้วงจิตสำนึก

หลังจากที่มีแสงสีรุ้งปรากฏขึ้น ห้วงจิตสำนึกก็เริ่มสั่นไหวเบา ๆ ร่องรอยของกฎของโลกที่มีพลังอันน่ากลัวเริ่มที่จะขยายออกไปจากความสว่าง ซึ่งแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง ดูเหมือนว่ามันจะพยายามเติมเต็มห้วงจิตสำนึกทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ห้วงจิตสำนึกนั้นกว้างใหญ่เกินไป ลูกบอลแสงสีรุ้งไม่สามารถส่องสว่างได้ทุกซอกทุกมุม ดังนั้นร่องรอยที่ปล่อยมาจึงไม่มีทางใกล้พอที่จะเติมได้ทั่วทั้งพื้นที่

“ ยัง…ไม่พอ…”

ทันใดนั้นก็มีเสียงถอนหายใจในห้วงจิตสำนึก มันอ่อนแอมาก ตามความเป็นจริงแล้ว มันก็ยังพยายามที่จะรวมคำทั้งสามเข้าด้วยกัน

ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็ตื่นเต้นเพราะเขาเห็นดวงตาของไคย่าสั่นเบา ๆ ราวกับว่านางกำลังพยายามเปิดตา

“ไคยะ ไคยะ ตื่นขึ้นมา…” เจี้ยนเฉินเรียกด้วยความหวังว่าจะทำให้ไคย่าตื่นขึ้นมา นางไม่ได้สติมานานกว่าร้อยปี

ในขณะนี้ริมฝีปากของไคยะสั่นเทาเบา ๆ มันเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ราวกับว่าพยายามดิ้นรนเพื่อเปล่งเสียงคำสองสามคำ

“ ยัง…ไม่พอ…”

คำสามคำนี้เงียบมากเหมือนเสียงยุง คนธรรมดาจะต้องดิ้นรนเพื่อฟังมันแม้ว่าพวกเขาจะวางหูไว้ข้างปากของนาง

อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นขั้นเหนือเทพผู้ยิ่งใหญ่ แม้ว่าเสียงของไคยะจะเบามาก แต่เขาก็ยังได้ยินทุกคำพูดของนางอย่างชัดเจน

“ ยังไม่พอ ? เจ้าหมายถึงอะไร ? ” เจี้ยนเฉินรู้สึกประหลาดใจและสับสน

หลังจากพูดคำสามคำแล้ว ไคย่าก็เงียบลงอีกครั้งกลับสู่สภาวะก่อนหน้า

“ ยังไม่พอรึ ? บัวดึงวิญญาณไม่เพียงพอที่จะปลุกไคยะหรือ ? ” เจี้ยนเฉินไตร่ตรองด้วยคิ้วที่ขมวด อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาเบิกกว้างในไม่ช้า หลังจากนั้นในขณะนี้เขาพบว่าเรื่องนี้ไม่น่าเชื่อเลย

“เป็นไปได้อย่างไร ? แม้ในโลกเซียน บัวดึงวิญญาณก็เป็นสมบัติสวรรค์ มันเกินพอที่จะรักษาแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขั้นราชาเทพ ไคย่าเป็นเพียงเซียนจักรพรรดิ การใช้มันรักษาน่าจะเพียงพอ” เจี้ยนเฉินปฏิเสธสมมติฐานของเขาเพราะมันไม่น่าเชื่อ

อย่างไรก็ตาม,เขาเริ่มลังเลหลังจากนั้นไม่นาน ความไม่แน่นอนท่วมท้นใบหน้าของเขา ในที่สุดเขาก็กัดฟันและนำไผ่จิตวิญญาณม่วงต้นสุดท้ายออกมาจากแหวนมิติแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม เขาสกัดน้ำและหยดลงไปที่หว่างคิ้วของไคยะ

“ถ้าบัวดึงวิญญาณยังไม่เพียงพอ น้ำหยดนี้ก็น่าจะเพียงพอ น้ำหยดนี้มีปราณหยานหวงอยู่ในนั้น ดังนั้นมันจึงมีมูลค่าไม่น้อยกว่าบัวดึงวิญญาณอันล้ำค่า มันอาจจะมีค่ามากกว่าด้วยซ้ำ” เจี้ยนเฉินคิด

หลังจากน้ำหยดนั้นไหลซึมเข้าไปในหัวของไคย่าแล้ว แสงสีรุ้งที่อยู่ลึกลงไปภายในห้วงจิตสำนึกส่องสว่างทันที ในขณะเดียวกัน ร่องรอยของกฎของโลกก็ขยายออกไปอีก

น้ำหยดนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์กับไคยะ เพียงแต่เจี้ยนเฉินต้องใช้มันมากขึ้นถ้าเขาต้องการปลุกไคยะให้ตื่น

อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเห็นการขาดการตอบสนองจากไคยะโดยสิ้นเชิง เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและรู้สึกสิ้นหวัง

อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นในไม่ช้าหลังจากนั้นและเขาก็ทรงตัวขึ้นมา เขากล่าวว่า “ดูเหมือนว่าน้ำที่สกัดจากไผ่จิตวิญญาณม่วงนั้นไร้ประโยชน์ ข้าจึงต้องใช้บัวดึงวิญญาณครั้งที่สองหรือสมบัติสวรรค์อื่น ๆ ที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บให้กับวิญญาณได้ หากทำเช่นนั้นไคยะน่าจะตื่นขึ้นมา” เจี้ยนเฉินไม่กลัวการขาดแคลนบัวดึงวิญญาณ หากมีไม่เพียงพอ เขาสามารถค้นหาชิ้นที่สอง, สามหรือสี่ได้ เขากลัวว่าไคย่าจะไม่ตอบสนองหลังจากดูดซับบัวดึงวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงไม่มีแนวทางเกี่ยวกับสภาพของนาง หากสิ่งนั้นเกิดขึ้น เขาจะต้องเลือกวิธีอื่นเพื่อลองช่วยไคยะ

สัตว์อสูรกลืนสวรรค์เจ็ดสีล้มตัวลงนอนบนโลงผลึกอีกครั้ง ดูเหมือนว่ามันจะหมดกำลังใจเพราะเจี้ยนเฉินไม่สามารถปลุกไคยะได้

“ ข้าควรไปที่พระราชวังและถามราชาศักดิ์สิทธิ์ ในฐานะที่เป็นราชาเทพ ราชาศักดิ์สิทธิ์จะมีความรู้มากกว่าขั้นเหนือเทพ มาดูกันว่าข้าจะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสมบัติสวรรค์ใดก็ได้ที่สามารถเยียวยาวิญญาณจากเขาได้หรือไม่” เจี้ยนเฉินเก็บโลงผลึกแล้วจึงเดินออกไป

Chaotic sword god

Chaotic sword god

Chaotic sword god
Status: Ongoing

Comment

Options

not work with dark mode
Reset