ตอนที่ 598 ความแตกต่างของอิ๋งจื่อจิน เปิดเผยออกมาหมด!
ราวกับเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าคำพูดของอิ๋งจื่อจินนั้นผิด เด็กหนุ่มจึงเดินไปตรงหน้าทุกคนแล้วลองกระทืบพื้น
ไม่เกิดอะไรขึ้น
เด็กหนุ่มหันไปทำสีหน้ายิ้มเยาะ “ยังไง ทำไมต้องหยุด คุณคงไม่ได้เห็นว่าสมุนไพรบนเขามีเยอะ อยากจะยึดครองคนเดียวใช่ไหม”
“เพราะชิงเสวี่ยสุขภาพไม่เอื้ออำนวยหรอก ถึงแข่งกับคุณไม่ได้ ไม่อย่างนั้น…”
เขายังไม่ทันพูดจบพื้นก็เริ่มสั่นสะเทือน เกิดหลุมลึก
อยู่ๆ พื้นก็หายไป
เด็กหนุ่มหล่นพรวดลงไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
เขามีสีหน้าตื่นตระหนก ร้องตกใจ
ทันใดนั้นก็มีมือของใครคนหนึ่งคว้าเสื้อของเขาไว้แล้วดึงตัวเขาขึ้นมา
อิ๋งจื่อจินปล่อยมือ สายตาหยุดที่กับดักที่อยู่ๆ ก็โผล่มา สังเกตอยู่สักพัก
หลุมกับดักขนาดใหญ่แบบนี้เอาไว้จับสัตว์
หนังสัตว์กับกระดูกของสัตว์บางชนิดเอาไปทำยาได้ มีกับดักแบบนี้อยู่ไม่น้อยในโลกแพทย์แผนโบราณ
แต่นี่เป็นภูเขาที่พวกเขาใช้ฝึก ทำไมถึงมีของแบบนี้ได้
เด็กหนุ่มตกใจเหงื่อแตก แข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงไปนั่งบนพื้น
คนอื่นๆ ก็ตกใจเหมือนกัน
เมิ่งชิงเสวี่ยขมวดคิ้ว
“เห็นหรือยัง นี่ก็คือความแตกต่างระหว่างนายกับคุณอิ๋ง” ฝูเฉินนั่งยอง พูดประชด “ชอบมองคนอื่นในแง่ร้ายนัก ต่อไปใจกล้าให้ได้มากกว่านี้สิ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวได้ตายโดยไม่รู้ตัว”
เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง ใบหน้าแดงก่ำร้อนผ่าว ที่มากกว่าคือความอับอาย “ขะ ขอโทษ”
เขาเม้มริมฝีปาก พอยืนขึ้นก็ไม่ได้ไปหาเมิ่งชิงเสวี่ยอีก
อิ๋งจื่อจินไม่ได้มองเขา เธอหันไปพูด “ทุกคนลงเขา”
“คุณจื่อจิน ตื่นตูมเกินไปหรือเปล่า” แพทย์แผนโบราณคนหนึ่งพูดด้วยความลังเล “ก็แค่กับดัก พบได้บ่อยๆ เราออกมาฝึกจะกลัวของพวกนี้ไม่ได้”
มากันแค่ปีละครั้ง
แพทย์แผนโบราณคนอื่นก็ลังเลไม่ขยับ
หลังจากฝึกจบ แพทย์แผนโบราณรุ่นระดับอาจารย์ก็จะมอบรางวัลให้พวกเขาตามผลงานที่ทำได้
พวกเขาไม่อยากพลาด
ฝูเฉินขมวดคิ้ว “คนตระกูลฝูลงเขาให้หมด”
คำพูดของฝูเฉินได้ผลมาก
ต่อให้เขาจะขี้เกียจอย่างไรก็ยังคงเป็นอันดับหนึ่งในรุ่นหนุ่มสาวของตระกูลฝู อัจฉริยะของตระกูลฝูมีเขาเป็นผู้นำ
ฝูเฉินเดินตามอิ๋งจื่อจิน คนอื่นๆ ก็เดินตามเขา
อันหลิงกับอันเมี่ยวเมี่ยวมองหน้ากัน
อิ๋งจื่อจินพูดแบบนี้ออกมาย่อมไม่มีทางไร้เหตุผล
อันหลิงคิด สุดท้ายก็พูดขึ้น “คนตระกูลอันทุกคนก็ลงเขาด้วย”
คราวนี้ลงไปกันเกินครึ่ง
คนของสมาพันธ์โอสถเลยกลายเป็นแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ส่วนหนึ่งตามอิ๋งจื่อจินลงเขาไป
อีกส่วนยังอยู่ที่เดิม
อิ๋งจื่อจินเลื่อนระดับในสมาพันธ์โอสถเร็วมาก แม้แต่ประธานสมาพันธ์โอสถก็ยังชมเธอไม่ขาดปาก ถ้าบอกว่าไม่อิจฉาคงโกหก
แพทย์แผนโบราณคนหนึ่งของตระกูลเมิ่งมองเมิ่งชิงเสวี่ย “ชิงเสวี่ย พวกเราก็ลงเขาบ้างไหม”
“จะมีเรื่องอะไรได้” เมิ่งชิงเสวี่ยเม้มริมฝีปาก ชักหมดความอดทน “แน่นอนว่าถ้าพวกคุณเชื่อเธองั้นก็ตามเธอลงไปได้เลย ฉันจะขึ้นไปเอง”
ผู้คลั่งไคล้เมิ่งชิงเสวี่ยอีกคนพูดอย่างไม่แคร์ “เดิมทีกับดักแบบนี้ก็พบเจอได้บ่อยอยู่แล้ว แค่มันลวงตาไปหน่อย จะเกิดเรื่องอะไรได้ พวกเขาขี้ขลาด พวกเราตระกูลเมิ่งยังจะกลัวอีกเหรอ”
“การฝึกครั้งนี้ตระกูลฝูกับตระกูลอันไม่ได้อะไรกลับไปเลย ตระกูลเมิ่งก็จะข่มพวกเขาได้”
สีหน้าของเมิ่งชิงเสวี่ยถึงดีขึ้น
เธอหมุนล้อเก้าอี้รถเข็นด้วยตัวเอง อ้อมกับดักตรงนั้นแล้วไปข้างหน้าต่อ
แพทย์แผนโบราณที่เหลือก็ตามเธอไป
เกิดเหตุการณ์ขึ้นในเวลานี้
ในขณะที่คนกลุ่มหนึ่งขึ้นเขา อีกกลุ่มหนึ่งลงเขา อยู่ๆ ภูเขาทั้งลูกก็เกิดการสั่นสะเทือน
เท้าของอิ๋งจื่อจินหยุดชะงัก สีหน้าตกใจ เธอตะโกน “รีบถอย!”
พูดจบเธอก็จับอันเมี่ยวเมี่ยวที่อยู่ข้างตัวกลิ้งไปด้านข้าง
ขณะที่อิ๋งจื่อจินพูดฝูเฉินก็ขยับตัว รีบผลักคนอื่นๆ ไปทางด้านขวา
วินาทีถัดมาก็เกิดรอยแยกตรงจุดเดิมที่เมื่อครู่พวกเขายืนอยู่
อันเมี่ยวเมี่ยวหน้าซีด “คะ คุณจื่อจิน ดูเหมือนจะเป็นระเบิด”
เดิมทีระเบิดก็เป็นหนึ่งในสี่การค้นพบอันยิ่งใหญ่ของยุคโบราณ โลกแพทย์แผนโบราณย่อมมีใช้
“ไม่ใช่แค่ระเบิด” อิ๋งจื่อจินยืนขึ้น ค่อยๆ เงยหน้า
มีเสียงกรีดร้องของผู้หญิง
ตรงนั้นมีเสือตัวใหญ่อยู่หนึ่งตัว แต่เห็นได้ชัดว่าแตกต่างกับในสวนสัตว์ของโลกภายนอก
มันเป็นประเภทเดียวกับงูน้ำที่เคยถูกอิ๋งจื่อจินฆ่า แต่แข็งแกร่งกว่างูน้ำตัวนั้น
ร่างกายของมันแผ่ซ่านความน่ากลัว สูสีกับปรมาจารย์จอมยุทธ์
สัตว์ป่าขนาดใหญ่แบบนี้ แพทย์แผนโบราณไม่มีทางเลี้ยงไว้ เพราะควบคุมไม่ได้
ต่อให้เป็นโลกจอมยุทธ์ก็ต้องถูกจอมยุทธ์ที่วรยุทธ์สูงส่งขังไว้
อย่างไรเสียพวกคนอายุน้อยในโลกจอมยุทธ์ก็มีวรยุทธ์ไม่สูง หากบังเอิญเจอสัตว์ป่าที่เทียบเคียงได้กับปรมาจารย์จอมยุทธ์แบบนี้ จุดจบถ้าไม่ตายก็พิการ
แพทย์ผิดจรรยาบรรณ!
ไม่ใช่แค่ฝูเฉิน ในสมองของพวกอันหลิงกับอันเมี่ยวเมี่ยวก็ปรากฏคำนี้เหมือนกัน
ก่อนที่แพทย์ผิดจรรยาบรรณจะใช้คนเป็นหนูทดลองก็จะทำการทดลองในตัวสัตว์ก่อน
เคยมีสัตว์ป่าขนาดใหญ่ตัวหนึ่งบุกเข้าบ้านตระกูลเมิ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลเมิ่งมีจอมยุทธ์ปกป้อง สัตว์ป่าตัวนั้นคงบดขย้ำตระกูลเมิ่งจนไม่เหลือสักคน
หลังเกิดเรื่องก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า แพทย์ผิดจรรยาบรรณใช้วิธีที่ผิดแผก รวมถึงใช้สมุนไพรต้องห้าม เปลี่ยนสัตว์ธรรมดาให้กลายเป็นแบบนี้
อันเมี่ยวเมี่ยวหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม “ยะ…แย่แล้ว!”
วันนี้บนเขามีอัจฉริยะรุ่นหนุ่มสาวของโลกแพทย์แผนโบราณมารวมตัวกันหมด เป็นความหวังแห่งอนาคต
เรียกได้ว่ามารวมกันครบยกเว้นคนที่สุขภาพไม่ดีกับคนที่ติดธุระอื่น
ถ้าวันนี้พวกเขาตายกันอยู่ที่นี่ทั้งหมด โลกแพทย์แผนโบราณก็ไม่ต่างอะไรกับดับสูญ
ต่อให้ไม่ดับสูญ ในอนาคตอีกหลายสิบปีข้างหน้าก็จะขาดตอน
แบบนี้คือต้องการฆ่าทุกคนในครั้งเดียว
แผนชั่วที่แพทย์ผิดจรรยาบรรณวางแผนมาหลายสิบปี ในที่สุดก็ลงมือวันนี้
พวกแพทย์แผนโบราณส่วนใหญ่ร่างกายอ่อนแอ ถึงแม้จะเคยเรียนวิชาป้องกันตัว แต่มีเหรอจะสู้สัตว์ป่าได้
“หนีก่อน!” แววตาของอิ๋งจื่อจินเย็นชาลง “คนที่ไม่มีวรยุทธ์ให้ใช้เข็มเงินกับเข็มทอง เอาต้นไม้หรือก้อนหินเป็นเกราะกำบัง”
ให้เธอฆ่าเสือตัวนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย
“ภูเขาลูกนี้ทางสมาพันธ์โอสถกับสามตระกูลใหญ่เคยมาสำรวจหมดแล้ว!” ฝูเฉินพูดเสียงแข็ง “ไม่มีทางมีกับดักกับสัตว์ขนาดใหญ่ได้!”
มาฝึกฝนก็จริง แต่ก็ต้องกำจัดอันตรายอื่นๆ ด้วย
นี่ก็หมายความว่าในบรรดาคนระดับสูงของโลกแพทย์แผนโบราณมีแพทย์ผิดจรรยาบรรณปะปนอยู่!
“เลิกพูดเถอะ” อิ๋งจื่อจินล้วงเข็มทองสามเล่มที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมา
หนึ่งเล่มถูกปักเข้าจุดลมปราณตรงบ่าของฝูเฉิน
ทันใดนั้นฝูเฉินก็รู้สึกว่ากำลังภายในของตัวเองพลุ่งพล่าน เกิดลมที่ใต้เท้า วิ่งเร็วขึ้นมาก
ส่วนเข็มอีกสองเล่มถูกปักไปที่ส่วนท้องของเสือ
สัตว์ป่าส่งเสียงคำราม ไม่เพียงแต่จะไม่ถอยหลัง กลับยิ่งบ้าคลั่ง
“ไป” อิ๋งจื่อจินเช็ดฝุ่นบนใบหน้า พูดเสียงเย็นชา “วิ่งไปข้างหน้า อย่าหันกลับมา”
…
ตอนบ่าย
เมืองตี้ตู
บ้านตระกูลจี้
เวินเฟิงเหมียนออกมาจากห้องทดลอง ในมือมีสารเคมีสองขวด
ฟู่อวิ๋นเซินหันมายิ้มพลางพูด “คุณลุงวิจัยได้แล้วเหรอครับ”
หลังจากที่เวินเฟิงเหมียนรับช่วงต่อตระกูลจี้ เขาก็กลับมาเริ่มทำการทดลองของเกาะเล็กเมื่อยี่สิบปีก่อนอีกครั้ง
เวินเฟิงเหมียนส่ายหน้าเล็กน้อย “เปล่า ยังหรอก แต่ก็แน่ใจได้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่อยู่บนโลก อาจเป็นอุกกาบาต แต่ก็ไม่เหมือน เอาเป็นว่าไม่สอดคล้องกับธาตุชนิดไหน เป็นสิ่งที่แปลกมาก”
ฟู่อวิ๋นเซินหรี่ตาเพ่งมอง “ก็ไม่แน่หรอกครับ มีความเป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่อาจมาจากสถานที่ที่คล้ายโลกจอมยุทธ์”
ในโลกจอมยุทธ์ยังมีสิ่งมีชีวิตจำนวนไม่น้อยที่โลกภายนอกบอกว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว
อย่างค่างห้าสี
เมื่อศตวรรษที่แล้วประเทศจีนประกาศว่าค่างห้าสีตัวสุดท้ายได้ตายลง สูญพันธุ์อย่างสิ้นเชิง
แต่มีอยู่เต็มภูเขาลูกหนึ่งในโลกจอมยุทธ์
และก็มีแร่จำนวนไม่น้อยที่ไม่มีในตารางธาตุ
การทดลองบนเกาะเล็กเมื่อยี่สิบปีก่อนมีควันพิษเดธปรากฏ เห็นได้ชัดว่าต้องการหยุดการวิจัย
ควันพิษเดธปรากฏอีกครั้งที่เมืองมหาวิทยาลัยของยุโรปเมื่อปีที่แล้ว เพราะอยากฆ่าพวกเด็กอัจฉริยะด้านวิทยาศาสตร์
เวินเฟิงเหมียนวางขวดสารเคมีลง “เยาเยาล่ะ”
“ไปฝึกเก็บสมุนไพรกับพวกเด็กๆ ครับ” ฟู่อวิ๋นเซินพยักหน้า “เธอกังวลว่าครั้งนี้คุณลุงเริ่มการทดลองนั้นอีกครั้งจะเป็นการล่อคนกลุ่มนั้นมาอีก เลยให้ผมแวะมาดูครับ”
“ลุงจะเกิดเรื่องอะไรได้ เด็กคนนี้นี่” เวินเฟิงเหมียนถอนหายใจ “เธอรู้จักแต่เป็นห่วงคนอื่นตั้งแต่เด็ก”
จิตรู้สำนึกและความทรงจำของอิ๋งจื่อจินไม่ได้ฟื้นคืนช่วงสิบกว่าปีนั้นอย่างสมบูรณ์ ตอนใช้ชีวิตอยู่ที่อำเภอชิงสุ่ย เธอยอมกินเนื้อสัตว์น้อยลงหน่อยเพื่อเอาให้เวินเฟิงเหมียนกิน
ช่วงหลายปีนั้นพวกเขาใช้ชีวิตมาแบบนี้
เวินเฟิงเหมียนถามต่อ “เยาเยาจะฝึกเสร็จเมื่อไร”
“ถ้าตามกำหนดการที่แล้วๆ มาของโลกแพทย์แผนโบราณก็สองวันหนึ่งคืนครับ” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม “แต่คืนนี้ผมเตรียมขึ้นเขาไปหา เธอค่อนข้างเลือกกิน”
“ได้” เวินเฟิงเหมียนถอดชุดที่ใส่ทำการทดลอง เขาล้างมือ “ตอนเย็นลุงไปด้วยแล้วกัน”
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้
ฟู่อวิ๋นเซินกดรับ “ฮัลโหล”
“เกิดเรื่องแล้วครับคุณชาย!” อวิ๋นซานพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน “วันนี้คุณอิ๋งกับพวกแพทย์แผนโบราณขึ้นไปฝึกบนเขา เมื่อกี้ได้รับแจ้งข่าวว่าเขาถล่มครับ!”