คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 612 พ่ออิ๋งจัดหนัก

ตอนที่ 612 พ่ออิ๋งจัดหนัก

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงแผ่ซ่าน ทำให้เฉียวตงสร่างเมาในชั่วพริบตา

ถ้าเป็นยามปกติ เขาจะตะลึงในความงามแน่นอน และก็จะเกิดความคิดไม่ดี

แต่ตอนนี้เฉียวตงไม่มีอารมณ์คิดอย่างอื่น

เขาถูกบีบคอแน่น หายใจลำบาก แต่ก็ยังพอมีเสียงลอดออกมาได้

เฉียวตงตกใจเหงื่อแตกร้องเสียงหลง “แก…แกคือหลิงเหมียนซี!”

คนที่โด่งดังที่สุดในตระกูลหลิงคือหลิงเหมียนซี

เพราะเธอเก่งมาก ไม่ด้อยไปกว่าจอมยุทธ์มากพรสวรรค์อย่างเย่ว์ฝูอี เซี่ยเนี่ยน และหลินชิงจยาแม้แต่น้อย

ปกติผู้หญิงสู้ผู้ชายไม่ได้ในด้านฝึกวรยุทธ์ แต่หลิงเหมียนซีกลับเอาชนะผู้ชายเก่งๆ ได้ไม่น้อย

เธอยังสาว อีกไม่กี่ปีไม่แน่อาจนำเซี่ยเนี่ยนก็เป็นได้

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ตระกูลเซี่ยอยากฆ่าเธอมาตลอด

แต่โลกจอมยุทธ์ก็ใหญ่มาก มีหลายคนที่ไม่เคยเห็นหลิงเหมียนซี

กอปรกับหลิงเหมียนซีไม่เหมือนเซี่ยเนี่ยนที่ชอบออกไปทำตัวกร่างในโลกจอมยุทธ์ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เธอชอบแต่งตัวเป็นชายไปร่วมประลอง

เฉียวตงมองเด็กสาวตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่น สับสนไปชั่วขณะ แต่ก็รู้สึกผิดปกติ

มะ…ไม่ถูกสิ

บันทึกอัจฉริยะล่าสุดบอกว่าหลิงเหมียนซีอายุย่างสิบเก้าปี วรยุทธ์อยู่ที่หกสิบห้าปี

อย่างมากก็ได้แค่สู้เสมอตัวกับเขา

ต่อให้เขาเมาอยู่ ก็ไม่มีทางถูกหลิงเหมียนซีล็อกตัวได้อย่างง่ายดายขนาดนี้

ถ้าอย่างนั้นเด็กสาวคนนี้เป็นใคร!

โลกจอมยุทธ์มีจอมยุทธ์ฝีมือดีเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร

ความคิดของเฉียวตงตีกันไปหมด พูดติดขัด “แก…แก”

ยังไม่ทันพูดจบก็มีเด็กสาวเดินเข้ามาอีกคน

รูปร่างสูง ผิวพรรณขาวผ่อง

หลิงเหมียนซีหิ้วเฉียวถิงที่สลบอยู่เข้ามา

เธอปล่อยมือ โยนไปตรงหน้าเฉียวตงเหมือนโยนขยะ ยิ้มพลางพูด “เรียกฉันเหรอ อยากเจอฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”

“เป็นเกียรติจริงๆ ที่แกรู้จักฉันด้วย”

เฉียวตงยังไม่หายตกใจ เขาตะโกน “แกคือหลิงเหมียนซี งั้นคนนี้เป็นใคร!”

และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ บริเวณห้องของเขามีคนคุ้มกันที่ฝีมือไม่ด้อยไปกว่าเขา

เสียงของเขาไม่ลอดออกไปเลยเหรอ

หรือคนอื่นๆ ในตระกูลเฉียวหลับกันหมดแล้ว

“ปรมาจารย์จอมยุทธ์นี่ดีจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรฉันจะบรรลุบ้าง” หลิงเหมียนซีคล้ายอ่านความคิดของเฉียวตงออก เธอเท้าคาง “ปิดกั้นเสียงและความเคลื่อนไหวในระยะสิบกิโลเมตรได้ คนที่อยู่ในนี้เรียกจนคอแตก คนข้างนอกก็ไม่มีทางได้ยิน”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “เธอเก่งมากแล้ว ด้วยศักยภาพของเธอ ขอแค่มีเวลาเพียงพอก็พร้อมจะบรรลุปรมาจารย์จอมยุทธ์ได้ทุกเมื่อ”

เธอไม่เหมือนหลิงเหมียนซี เธอแค่กลับมาฝึกซ้ำอีกครั้ง ย่อมไปได้เร็วกว่ามาก

ถ้าหลิงเหมียนซีอายุเท่าเซี่ยเนี่ยนก็ใช่ว่าวรยุทธ์จะด้อยกว่า

บทสนทนาของทั้งสองคนทำให้เฉียวตงหัวหมุน แข้งขาอ่อนแรง

นี่มันใช่คำพูดของมนุษย์เหรอ

อะไรคือบรรลุปรมาจารย์จอมยุทธ์ได้ทุกเมื่อ!

“จัดการเขายังไงดี” อิ๋งจื่อจินหลุบตาลงเล็กน้อย พูดเสียงเย็นชา “จับหัวโขกดีไหม”

มือของเธอที่ล็อกคอเฉียวตงอยู่ออกแรงมากขึ้น ยิ้มพลางพูด “โขกแบบนี้เหรอ”

ตึง!

เฉียวตงยังตะลึงอยู่ แต่หัวถูกกระแทกเข้ากับกำแพงแล้ว

ความเจ็บปวดที่ไม่เคยมีมาก่อนแผ่ซ่านออกจากจุดนี้ สะเทือนเส้นประสาท

ปากเปิดออก เจ็บปวดร้อนผ่าว มีเลือดไหลไม่หยุด หยดลงบนพื้น

เฉียวตงร้องครวญคราง “โอ๊ย!”

อิ๋งจื่อจินพูด “หรือว่าแบบนี้”

เธอยกมือขึ้นอีกครั้ง เปลี่ยนวิธีจับหัวของเฉียวตงกดใส่กำแพง

เฉียวตงร้องด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง “หยุด! หยุด! ขอร้อง…ไว้ชีวิตด้วย!”

เขาพูดไม่เป็นลำดับ เริ่มอ้อนวอน “ปล่อยฉันไป ปล่อยฉัน ขอร้อง ไว้ชีวิตฉันเถอะ ฉันไม่กล้าแล้ว ไม่กล้าอีกแล้ว”

อิ๋งจื่อจินไม่ปรานี พูดด้วยเสียงเรียบเฉย “นับมาเดี๋ยวนี้ว่าอัดเขาไปกี่ครั้ง ฉันจะคืนให้สองเท่า”

ตึงๆๆ…

กำแพงเต็มไปด้วยรอยร้าว

“แค่นี้ก็ร้องแล้วเหรอ แค่นี้ก็ทนไม่ไหว” หลิงเหมียนซีก้มตัว ขยับเข้าไปใกล้ พูดเสียงเย็นชา “ฉันรู้จักนิสัยน้องชายของฉันดี ต่อให้เจ็บแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางส่งเสียงร้อง แต่เขาเพิ่งอายุสิบเก้า สิบเก้าเองนะ”

คนอายุเท่านี้ล้วนถูกปกป้องทั้งนั้น

ขอแค่เจียงหรานยอม เขาจะใช้ชีวิตอยู่ในตี้ตูหรือฮู่เฉิงไปตลอดก็ได้ หรือจะไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยในเมืองนอกก็ยังได้

ไม่จำเป็นต้องกลับมาอยู่โลกจอมยุทธ์ที่มีแต่การแข่งขันอย่างโหดเหี้ยม

หลิงเหมียนซีพูดเสียงเบามาก “ตอนซ้อมเขา ทำไมไม่คิดปล่อยเขาไปบ้างล่ะ”

เฉียวตงพูดไม่ออกอีกต่อไป ได้แต่ร้องโอดครวญ

หลิงเหมียนซียกมือ ปล่อยกำลังภายในหักแขนขวาของเฉียวตงด้วยความโหดเหี้ยมขั้นสุด

“ไอ้แก่ อายุตั้งแปดสิบกว่าแล้วร้องเหมือนหมา”

อิ๋งจื่อจินหันมาเลิกคิ้วพูด “เสี่ยวเหมียน ฉันชอบหมานะ น่ารักดี”

หลิงเหมียนซีขอโทษอย่างจริงใจทันที “โทษทีๆ อาอิ๋ง ที่ฉันลบหลู่หมา”

สมองของเฉียวตงตื้อไปหมด ครั้งนี้ไม่เหลือแม้แต่แรงจะร้องแล้ว

ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็สลบไป

อิ๋งจื่อจินปล่อยมือ

เฉียวตงหล่นลงไปบนพื้น ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

“อาอิ๋ง ได้แล้วล่ะ” หลิงเหมียนซีหรี่ตาเล็กน้อย “ถึงแม้ตระกูลเฉียวของพวกเขาจะมีตระกูลฝานหนุนหลัง แต่ก็เชิญแพทย์แผนโบราณเก่งๆ มาไม่ได้หรอก อีกทั้งเฉียวตรงก็เป็นแค่สมาชิกทั่วไป ไม่ใช่สมาชิกคนสำคัญ”

“เธอใช้ศาสตร์มืดสิบสามเข็มถึงจะทำให้หรานหรานฟื้นได้ แต่เขาไม่มี ถ้าโชคดี ไม่แน่อาจจะยังฟื้นขึ้นมาได้อีก”

เอาคืนด้วยวิธีเดียวกัน

เฉียวตงฟื้นไม่ได้งั้นก็ต้องนอนเป็นผักแล้ว

ตระกูลเฉียวกิจการใหญ่โต จะเอายามาช่วยเลี้ยงอาการของเขาไว้ไหมก็ยังไม่รู้

อยู่ๆ หลิงเหมียนซีก็นึกขึ้นมาได้ เมื่อก่อนเนี่ยอี้เคยบอกเธอว่า

ตอนฟู่อวิ๋นเซินอายุสิบกว่าเคยซ้อมสมาชิกสายตรงตระกูลเมิ่งจนนอนเป็นผัก

สมกับเป็นสามีภรรยา

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ชี้ไปที่เฉียวถิงบนพื้น “เขา เก็บไว้ให้เจียงหราน”

หลิงเหมียนซีปัดมือ “ไป พวกเรากลับเถอะ”

บ้านตระกูลหลิง

อิ๋งจื่อจินเอายาให้เจียงหราน เป็นยาที่ทำจากสมุนไพรที่ฉาเซิ่งปลูก สรรพคุณดีมาก

หลังจากได้นอนไปหนึ่งคืน เจียงหรานก็รู้สึกว่ากลับมากระโดดโลดเต้นได้แล้ว

แต่เจียงฮว่าผิงไม่ยอมให้เขาลงจากเตียง ถือชามโจ๊กเข้ามา

เจียงหรานซึ้งใจมากแต่ก็ปฏิเสธ “แม่ ผมอยากกินหมูน้ำแดง ผัดเปรี้ยวหวานลูกชิ้น เนื้อตุ๋น…”

“พอๆๆ” เจียงฮว่าผิงยกมือห้าม “คิดไว้ก่อน รอหายดีเมื่อไรค่อยกินของพวกนั้น”

เจียงหรานบ่นพึมพำ “ก็ได้”

เจียงฮว่าผิงตบบ่าของเขา พูดเสียงเบา “ต่อไปถ้าเจอเรื่องแบบนี้ก็ปกป้องตัวเองให้ดีก่อน ไม่ร่วมประลองก็ไม่เป็นไร วันหน้ายังมีโอกาส”

เจียงหรานเม้มริมฝีปาก กำผ้าห่มแน่น “ผมก็แค่อยากแบ่งเบาภาระของทุกคนบ้าง”

ขอเพียงแต่เขามีสถานะที่สูงพอในศาลสถิตยุติธรรม ตำแหน่งนายใหญ่ของหลิงฉงโหลวก็ไม่ถึงกับถูกสมาชิกสายอื่นจ้องตาเป็นมัน

เจียงฮว่าผิงเงียบไปชั่วขณะแล้วยิ้มพลางพูด “แม่รู้”

“น้องหรานหรานตื่นแล้วเหรอ” หลิงเหมียนซีถือกล้องวิดีโอเข้ามาในเวลานี้ “มา ดูนี่ จะได้อารมณ์ดี”

เจียงหรานงง “อะไรเหรอ”

หลิงเหมียนซีเปิดคลิปที่ซ้อมเฉียวตงเมื่อคืนให้เขาดู

เจียงหรานดูจบก็อึ้ง “พี่กับพ่ออิ๋งแอบออกไปจริงเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ” หลิงเหมียนซีพูดต่อ “เฉียวถิงยกให้นาย ซัดให้หมอบบนลานประลอง ทำได้ใช่ไหม”

“ไม่มีปัญหา” เจียงหรานยกนิ้วโป้ง “พ่ออิ๋งเท่จริงๆ…พี่ พี่ก็เท่”

เจียงฮว่าผิงขมวดคิ้ว “เป็นแบบนี้ยังจะขึ้นเวทีประลองอีกเหรอ”

“ขึ้นไหว” เจียงหรานตบอก “ลูกผู้ชายอกสามศอก แผลแค่นี้ไม่เท่าไรหรอก”

เจียงฮว่าผิงหมั่นไส้ “ถ้าจื่อจินไม่อยู่นายก็ยังนอนเป็นผักอยู่”

“ขึ้นได้ค่ะ” อิ๋งจื่อจินเดินเข้ามาแล้วโยนยาให้หนึ่งขวด “เชื่อว่าแพทย์แผนโบราณเป็นสิ่งมหัศจรรย์”

เจียงฮว่าผิงถอนหายใจ “กลัวว่าอีกหน่อยยังจะมีเรื่องมากกว่านี้ ศาลสถิตยุติธรรม เห้อ…”

คนคุ้มกันของศาลสถิตยุติธรรมมีหลายหมื่น คนที่วรยุทธ์สูงกว่าเจียงหรานก็มีเยอะมาก

แถมตระกูลหลิงยังไม่มีใครทำงานอยู่ในศาลสถิตยุติธรรม

เจียงหรานกินยาเสร็จก็ถาม “พ่อล่ะ”

“อยู่ข้างนอก” เจียงฮว่าผิงตอบ “มิน่าวันนี้ตระกูลเฉียวถึงมาหาแต่เช้า น่าจะเพราะเรื่องเมื่อคืน”

เจียงหรานเครียดขึ้นมาทันที “งั้นคณะผู้อาวุโส…”

“ไม่เป็นไร” หลิงเหมียนซีส่ายมือ “คุณอาไม่ได้ทำเสียหน่อย นายนอนไปเถอะ พวกเราจะออกไปดูหน่อย”

อิ๋งจื่อจินกับหลิงเหมียนซีออกไปด้วยกัน เจียงฮว่าผิงเดินนำ

พอเข้าไปในห้องโถงด้านหน้าก็ได้ยินเสียงตวาดด้วยความโมโห

“หลิงฉงโหลว แกกล้ามากนะ!”

คนที่พูดคือผู้อาวุโสสามตระกูลเฉียว เขาโมโหมาก “แกส่งคนลอบเข้าไปในบ้านตระกูลเฉียว ทำร้ายคนจนนอนเป็นผักไปหนึ่งคน อีกคนหมดสติ คิดจะทำอะไร”

หลิงฉงโหลวสีหน้าเรียบเฉย พูดอย่างใจเย็น “ผู้อาวุโสสาม ไม่มีหลักฐานก็อย่ามากล่าวหา เมื่อวานเย็นผมตบหน้านายใหญ่เฉียวไม่กี่ทีก็กลับแล้ว”

“จากนั้นก็ไปคุมพวกเด็กๆ ฝึกอยู่ที่สนามฝึก ผู้อาวุโสใหญ่ก็อยู่ด้วย เป็นพยานได้”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset