ตอนที่ 621 ผู้นำตระกูลออกโรง! พ่อเวินปรากฏตัว
ไม่ใช่การต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิต แต่กลับฆ่าคนอย่างไม่มีสาเหตุต่อหน้าคนมากมาย
แถมคนที่ถูกฆ่ายังเป็นคุณหนูสายตรงของตระกูลฝาน
ต่อให้มีโลกแพทย์แผนโบราณหนุนหลังก็คุ้มกันอะไรอิ๋งจื่อจินไม่ได้
รอไปเข้าคุกศาลสถิตยุติธรรมได้เลย!
ไม่ว่าอย่างไรแพทย์แผนโบราณลงมือฆ่าคนก็ถือเป็นเรื่องใหญ่
เกิดเรื่องนี้ลือออกไปยังจะมีคนในโลกแพทย์แผนโบราณนับถืออิ๋งจื่อจินอีกเหรอ
“ตาแก่ ประสาทหรือเปล่า” พอเจียงฮว่าผิงหายอึ้งสติก็กลับมา สีหน้าเย็นชาลงในทันที “นี่มันไม่ใช่สิบแปดมงกฎแล้ว นี่เรียกว่ารนหาที่ตายแบบเต็มเหนี่ยว”
นายใหญ่ฝานพูดเสียงแข็ง “คุณนายหลิง พูดจาให้มีศีลธรรมบ้าง อีกอย่าง ทางที่ดีหัดดูตัวเองเสียบ้าง”
“เป็นแค่คนธรรมดา ไม่มีวรยุทธ์ อาจตายได้ทุกเมื่อในโลกจอมยุทธ์…โอ๊ย!”
เขาร้องเสียงเจ็บปวด ถูกหลิงฉงโหลวตบกระเด็นไปกองบนพื้น
หลิงฉงโหลวชักมือกลับ สายตาอาฆาต “แกน่ะจะตายก่อน”
“หลิงฉงโหลว!” ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลฝานมีสีหน้าขรึมลง “เกินไปแล้วนะ”
“คุณหนูตระกูลฝานของพวกคุณหมดลมหายใจแล้ว พวกคุณยังไม่รีบเชิญแพทย์แผนโบราณมารักษาเธออีก ยังจะมัวทำตัวกร่างอยู่ตรงนี้” หลิงฉงโหลวหัวเราะ “ดูท่าเธอจะเป็นเพียงเครื่องมือสำหรับพวกคุณสินะ”
“ยังจะรักษาได้อีกเหรอ” ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลฝานฟังแล้วก็แทบหัวเราะ เขาชี้อิ๋งจื่อจิน “ตระกูลฝานไม่เหลือแพทย์แผนโบราณแม้แต่คนเดียวแล้ว พวกเราจะไปให้ใครมารักษาได้ ไม่เห็นเข็มทองสามเล่มนี้ที่ตัดลมหายใจของจื่อซีเหรอ”
อิ๋งจื่อจินแววตาเย็นชา “ทำไมฉันต้องฆ่าเธอด้วย”
“เพราะเธอมันใจแคบ!” ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลฝานแสยะยิ้ม “เธอสั่งย้ายแพทย์แผนโบราณทั้งหมดของตระกูลฝาน ทำให้คนตระกูลฝานร่วมพันคนเจ็บป่วยก็ไม่มีคนรักษา!”
“จื่อซีก็แค่มาขอร้องเธอ แต่เธอกลับฆ่าจื่อซี เสียแรงที่เป็นหมอ!”
“หนอย ตระกูลฝานของพวกแกข่มขู่แพทย์แผนโบราณไร้สังกัดไม่ให้มาร่วมงานกับพวกเรา พ่ออิ๋งใช้วิธีเดียวกันเล่นงานกลับ กลายเป็นจิตใจคับแคบเสียอย่างนั้น” เจียงหรานก็แสยะยิ้ม “ทำไมสองมาตรฐานแบบนี้ล่ะ”
ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลฝานชะงัก
“ผู้อาวุโสใหญ่ฝาน ถ้าผมจำไม่ผิด อาณาเขตที่พวกคุณอยู่ก็มีโรงหมออยู่ไม่น้อย” หลิงฉงโหลวยิ้ม “คนที่ไปมีแค่แพทย์แผนโบราณที่ประจำอยู่บ้านตระกูลฝานหรือเปล่า เจ็บป่วยไม่รู้จักไปโรงหมอเหรอ”
โรงหมอของโลกจอมยุทธ์ก็เทียบเท่าโรงพยาบาล
แพทย์แผนโบราณที่ประจำอยู่ในตระกูลจอมยุทธ์ก็เหมือนแพทย์ส่วนตัวที่ตระกูลใหญ่ในโลกปุถุชนเชิญมาบ้าน
พอไม่มีแพทย์แผนโบราณประจำอยู่ในตระกูลก็แค่ทำให้ศักยภาพของตระกูลถดถอย ไม่ได้ส่งผลต่อการรักษา
ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลฝานอับอายโมโหมาก พูดกระแทกเสียง “จื่อซีก็แค่ป่วยนิดหน่อย”
“ไหนว่าเธอไม่มีลมหายใจแล้วไงล่ะ” อิ๋งจื่อจินย่อตัวนั่งลง พับแขนเสื้อขึ้น “ขอดูหน่อย ตายจริงหรือเปล่า”
“ห้ามแตะต้องนะ!” ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลฝานตวาดเสียง “เธอฆ่าจื่อซีแล้วยังคิดจะแตะต้องศพของจื่อซีด้วยเหรอ”
“ได้ งั้นไม่แตะ” อิ๋งจื่อจินยืดตัวขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “แต่ฉันต้องขอเตือนพวกคุณไว้ ถ้าไม่เอาเข็มทองที่ปักอยู่ตรงคอเธอออกภายในสิบนาที เธอได้ตายจริงๆ แน่”
“พูดเหลวไหล!” แววตาของผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลฝานเริ่มหลุกหลิก “เธอฆ่าจื่อซีไปแล้วยังจะให้จื่อซีตายอีกครั้งหรือไง”
อิ๋งจื่อจินตอบ “งั้นก็ตามใจ”
ผู้อาวุโสใหญ่ตระกูลฝานโมโหท่าทีไม่แยแสของอิ๋งจื่อจินจนแทบกระอักเลือด
ในที่สุดเวลานี้นายใหญ่ฝานก็ตั้งสติได้ มุมปากยังมีเลือดไหลอยู่
ดวงตาของเขาแดงก่ำ “ท่านผู้นำตระกูล ตระกูลหลิงจะรังแกกันเกินไปแล้ว! ตระกูลฝานของเราเป็นอันดับเจ็ดของโลกจอมยุทธ์ ถูกย่ำยีขนาดนี้ได้เหรอครับ!”
“ใช่” ชายชราเดินเข้ามาจากทางประตู มองตรงไปที่อิ๋งจื่อจินแล้วพูดขึ้น “จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ เธอฆ่าคนในตระกูลฉัน ต้องชดใช้ด้วยชีวิต”
“ถ้าไม่ไปศาลสถิตยุติธรรมก็ตายอยู่ตรงนี้”
พอคำพูดนี้ออกมาทุกคนก็หน้าถอดสี
แม้แต่เจียงหรานยังรู้สึกได้ถึงกำลังภายในที่เคลื่อนไหวอยู่ของชายชราคนนี้ คลื่นพลังรุนแรงมาก
เกินกว่าระดับปรมาจารย์จอมยุทธ์ไปมาก!
“พ่ออิ๋ง” มือของเจียงหรานชุ่มไปด้วยเหงื่อ “ฉันจะไปโทรหาพ่อฟู่”
วรยุทธ์ของฟู่อวิ๋นเซินเทียบเท่ารุ่นผู้นำตระกูลของตระกูลใหญ่
เจียงหรานยังไม่ทันกดเบอร์ก็ได้ยินเสียงดุดันพูดขึ้น เจือไปด้วยความเย็นชา
“ตระกูลฝานคิดว่าตระกูลหลิงไม่มีใครแล้วหรือไง”
เจ้าของเสียงลงมาจากด้านบน
เจียงหรานเงยหน้าก็พบว่าหลังคาถูกเปิดออก “…”
พอเห็นคนที่มาหลิงฉงโหลวก็อึ้ง “ท่านผู้นำตระกูลออกมาแล้วเหรอครับ”
หลิงเสวียน ผู้นำตระกูลหลิง และยังเป็นคนที่อายุยืนที่สุดของตระกูลหลิงในตอนนี้
อายุสองร้อยปี วรยุทธ์ก็อยู่ที่ประมาณสองร้อยปี
ผู้นำตระกูลฝานคนนี้ฝีมือยังด้อยกว่าผู้นำตระกูลหลิง
คลื่นพลังอันแรงกล้าเริ่มมอดลง
นายใหญ่ฝานโมโหจนกระอักเลือด “พวกแก…”
รุ่นผู้ตระกูลของตระกูลจอมยุทธ์ส่วนใหญ่จะปลีกวิเวกเก็บตัวกันหมด ตระกูลฝานก็เช่นกัน
ผู้นำตระกูลหลายคนตายไปในระหว่างที่ฝึกเพื่อไปในขั้นที่สูงกว่า
นึกไม่ถึงว่าผู้นำตระกูลหลิงจะออกมาในเวลานี้
“คนนี้ก็คือคุณอิ๋งเหรอ” หลิงเสวียนไม่สนใจคนตระกูลฝาน แต่หันไปกำมือคารวะให้อิ๋งจื่อจินก่อน “ขอบคุณคุณอิ๋งมากที่ช่วยตระกูลหลิงไว้ ผมขอรับประกันว่า ตราบใดที่วันนี้ผมไม่ตาย ตระกูลฝานก็ไม่มีทางทำให้คุณอิ๋งบาดเจ็บได้”
พอได้ยินแบบนี้หลิงฉงโหลวก็อดตะลึงไม่ได้ “ท่านผู้นำตระกูล”
“เกรงใจเกินไปแล้วค่ะ” แววตาของอิ๋งจื่อจินวูบไหว พยักหน้าพลางยิ้ม “แค่เรื่องเล็กๆ ไปศาลสถิตยุติธรรมสักหน่อยแล้วกันค่ะ”
คนตระกูลฝานดวงตาเป็นประกาย
พยานบุคคลมีพร้อม ถ้าไปถึงศาลสถิตยุติธรรม อิ๋งจื่อจินก็อย่าหวังจะได้ออกมาอีก
หลิงเสวียนขมวดคิ้ว “ฉงโหลว นายไปศาลสถิตยุติธรรมกับฉันด้วย”
หลิงฉงโหลว “ครับท่านผู้นำตระกูล”
…
อีกด้านหนึ่ง
บ้านตระกูลเซี่ย
เซี่ยเนี่ยนเดินเข้าไปในเรือนไผ่ที่อยู่ริมทะเลสาบ คารวะด้วยความนอบน้อม “ท่านผู้นำตระกูล”
คนตรงหน้าเป็นชายอาวุโสที่อยู่ในชุดตัวยาวสีเทา ผมและเคราเป็นสีขาวเทา ลักษณะท่าทางตามแบบฉบับของคนโบราณ
นี่ก็คือผู้นำตระกูลเซี่ย เซี่ยฮ่วนหราน
อายุย่างเข้าสามร้อยยี่สิบปี วรยุทธ์สูงถึงสามร้อยเก้าสิบปี
ภายใต้สถานการณ์ที่เฟิงซิวไม่มีข่าวคราว เซี่ยฮ่วนหรานต่างหากที่เป็นจอมยุทธ์อันดับหนึ่ง
เซี่ยฮ่วนหรานกวักมือเรียก “เนี่ยนเนี่ยน ดูท่าทางอารมณ์ดี มีเรื่องอะไรรึ”
“ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเก็บมาใส่ใจหรอกค่ะ” เซี่ยเนี่ยนพูดแบบไม่แคร์ “แค่กำจัดพวกมดที่รกหูรกตาเท่านั้นเองค่ะ”
ในสายตาของเธอ อิ๋งจื่อจินยังไม่คู่ควรแม้แต่เป็นคนถือรองเท้าให้เธอ
เซี่ยฮ่วนหรานพยักหน้า ไม่ได้ถามมากอีก
ในเมื่อเป็นมดก็ไม่ควรค่าให้เธอสนใจ
ราวกับเซี่ยเนี่ยนนึกอะไรออก “ท่านผู้นำตระกูลคะ หนูเล่นสนุกได้ตามใจชอบใช่ไหมคะ”
“แน่นอน” เซี่ยฮ่วนหรานหัวเราะร่า “เนี่ยนเนี่ยนวางอำนาจในโลกจอมยุทธ์ได้เลย มีผู้นำตระกูลหนุนหลังให้ ใครยังจะกล้าหือกับเนี่ยนเนี่ยนได้อีก”
คิดจะลงมือกับเนี่ยนเนี่ยนก็ต้องคำนึงก่อนว่ามีความสามารถนั้นหรือเปล่า ต้องแบกรับการล้างแค้นจากเขา
เซี่ยเนี่ยนก็หัวเราะ
เมื่อสิบกว่าปีก่อน ไม่ได้นานมาก
ตระกูลหลิ่วที่เป็นอันดับสี่ของโลกจอมยุทธ์ได้ถูกเซี่ยฮ่วนหรานกำจัด
ทุกคนในตระกูล ชายหญิงเด็กแก่ ทั้งหมดถูกกวาดล้างไม่มีเหลือแม้แต่คนเดียว
เรื่องนี้ได้ทำให้คนจำนวนมากเกิดความไม่พอใจ
ผู้อาวุโสทั้งหมดของศาลสถิตยุติธรรมต่างโกรธมาก เห็นพ้องต้องกันว่าตระกูลเซี่ยทำผิดใหญ่หลวง
แต่เซี่ยฮ่วนหรานมีวรยุทธ์ที่สูงเกินไป จอมยุทธ์คนอื่นๆ ก็ได้แต่กล้าโมโห แต่ไม่กล้าพูด สุดท้ายเรื่องก็เงียบไป
นับแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องเซี่ยเนี่ยนอีก
“อยากจะไปรังแกใครก็ตามสบาย แต่ว่าอย่าไปยุ่งกับหลินชิงจยาดีกว่า” เซี่ยฮ่วนหรานขมวดคิ้ว “เฉิงหย่วนมองเธอเป็นลูกสะใภ้”
“ช่วงหลายปีมานี้สหพันธ์จอมยุทธ์แข็งแกร่งขึ้นมาก ฉันก็ไม่อยากมีเรื่องกับสหพันธ์จอมยุทธ์หรอก เดี๋ยวจะเจ็บหนักกันทั้งสองฝ่าย”
เฉิงหย่วนก็คือประธานสหพันธ์จอมยุทธ์
เซี่ยเนี่ยนดูถูก “หนูก็ไม่อยากลงมือทำร้ายหลินชิงจยาหรอกค่ะ ยัยนั่นวรยุทธ์แค่หกสิบปี ก็แค่รักษาคนเป็นนิดหน่อย ขยะ”
ส่วนเย่ว์ฝูอีของตระกูลเย่ว์ วรยุทธ์พอๆ กับเธอ
แต่เย่ว์ฝูอีเอาแต่เก็บตัวฝึก ไม่ยุ่งกับใคร
แต่ไหนแต่ไรมาเธอเลือกรังแกแค่พวกที่อ่อนแอ
“ท่านผู้นำตระกูลคะ ลองคำนวณเวลาก็น่าจะได้แล้ว” เซี่ยเนี่ยนยืนขึ้น ปากแดงผุดรอยยิ้ม “หนูไปดูละครฉากใหญ่ที่ศาลสถิตยุติธรรมก่อนนะคะ”
“ไปเถอะ” เซี่ยฮ่วนหรานพยักหน้าแล้วพูดต่อ “ฉันจะเก็บตัวระยะสั้น อาจจะสามสี่เดือน ช่วงนี้ฉันจะไม่อยู่บ้านตระกูลเซี่ย”
เขายังอยากบรรลุขึ้นไปอีกให้ถึงขั้นเฟิงซิว
รอวรยุทธ์ของเขาก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น เขาก็จะกุมโลกจอมยุทธ์ไว้ในมือได้อย่างสิ้นเชิง
ต่อไปจะมีแค่ตระกูลเซี่ย ไม่ใช่สามตระกูลใหญ่หลิน เซี่ย เย่ว์
เซี่ยเนี่ยนรับทราบ เดินออกจากเรือนไผ่
…
ศาลสถิตยุติธรรม
คนของตระกูลหลิงกับตระกูลฝานเดินทางมาถึงศาลสถิตยุติธรรม เจอกับเซี่ยเนี่ยนพอดี
เซี่ยเนี่ยนกับนายใหญ่ฝานส่งสายตารู้กัน เข้าใจแล้วว่าตระกูลฝานกำลังได้เปรียบ
ยืมมือคนอื่นฆ่าคน เธอไม่ต้องเปลืองแรงเลยสักนิด
สบายจริงๆ
ตระกูลฝานต้องการไปหาฝ่ายตัดสิน
เรื่องนี้ต้องให้หัวหน้าฝ่ายตัดสินจัดการ
ตอนที่ผ่านฝ่ายตรวจตรา อิ๋งจื่อจินก็หยุดลง “ลุงหลิงคะ พวกลุงไปกันก่อน หนูจะไปหาคนคนหนึ่ง”
“ไม่ได้!” นายใหญ่ฝานพูด “ใครจะไปรู้ว่าเธอจะหนีหรือเปล่า เธอห้ามหายไปจากสายตาของพวกเรา!”
เซี่ยเนี่ยนหัวเราะ “เธออย่าบอกนะว่าคนที่เธอต้องการหาอยู่ที่นี่”
เธอชี้ไปที่ป้าย “รู้หรือเปล่าว่านี่คือที่ไหน”
ฝ่ายตรวจตราศาลสถิตยุติธรรม ห้องทำงานของก้งเฟิ่ง
คิดว่าใครก็เข้าไปได้เหรอ
เซี่ยเนี่ยนพูด “ไม่ต้องเดินไปก่อนหรอก พวกเราจะรออยู่ตรงนี้ ดูซิว่าคนที่เธอต้องการหาคือใคร”
ประตูถูกเปิดออกจากด้านในในเวลานี้พอดี
มีคนเดินออกมา
หลิงฉงโหลวอยู่ใกล้ มองเห็นใบหน้าของคนคนนั้นก่อน
เขาชะงัก “คุณเวิน?”