ตอนที่ 629 ความจริงเปิดเผย!
เด็กผู้หญิงอ้าปากจะพูด “ระ…”
คำว่า ‘วัง’ ยังไม่ทันออกจากปาก อิ๋งจื่อจินก็ขยับแล้ว
เธอจัดการทำให้นักฆ่าที่ซ่อนตัวอยู่โดยรอบสลบทีละคนด้วยความเร็วดุจฟ้าผ่ายังไม่ทันได้ปิดหู
นักแม่นปืนที่ปักหลักอยู่บนตึกสูงพอเห็นแบบนี้ก็ตะลึงไปชั่วขณะ “เร็วเข้า ยิงปืน! หยุดเธอให้ได้!”
ถึงแม้ในบรรดานักฆ่าที่มาวันนี้จะไม่มีนักฆ่าสิบอันดับแรก แต่อย่างน้อยก็เป็นนักล่าที่ติดชาร์ต ถูกจัดการง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ
ถึงห้านาทีหรือเปล่า
“ปังๆ!”
เสียงปืนดังไม่หยุด แต่ไม่มีสักนัดที่ทำอิ๋งจื่อจินบาดเจ็บได้
กระสุนทั้งหมดหล่นพื้นห่างจากเธอไปครึ่งเมตร
เดินฝ่าฝนกระสุนอย่างแท้จริง
เด็กผู้หญิงเงียบไป
เธอขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีก เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองมองผิดหรือเปล่า
นักล่าที่ยังมีสติพอเห็นแบบนี้ก็ตะลึง
กำลังภายในสำแดงภายนอก ปรมาจารย์จอมยุทธ์!
จอมยุทธ์จีน!
เสียงของนักล่าที่ทำหน้าที่รับสมัครพรรคพวกในครั้งนี้ได้ลอดผ่านอุปกรณ์ส่งข่าวเข้าหูทุกคน “รีบถอย!”
“ไป! ไป อย่าสู้กับจอมยุทธ์!”
แม้แต่ครึ่งนาทีก็ยังไม่ถึง นักล่าที่ไล่ล่าเด็กผู้หญิงก็หนีหายไม่มีเหลือ
“…”
เกิดความเงียบทั่วทั้งถนน
อิ๋งจื่อจินหันไป ยกมือขึ้น เก็บกำลังภายใน
ขาของเด็กผู้หญิงถึงขยับได้
เธอกระโดดลงมา เงียบชั่วครู่แล้วชี้นักล่าที่นอนอยู่บนพื้น “จะกองพวกเขาไว้แบบนี้เหรอ”
“จะมีคนมาจัดการ” อิ๋งจื่อจินเอาแขนเสื้อลง “ฉันขี้เกียจ”
ในเมื่อเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นเป้าหมายที่ไอบีไอคุ้มกัน ไอบีไอก็ย่อมส่งคนมาจับนักล่าพวกนี้กลับไปขังในคุกสากล
ส่วนจะขังนานเท่าไรก็ไม่ใช่เรื่องของเธอแล้ว
“งั้นก็ดี ขอบคุณนะที่ช่วย ไว้วันหลังพวกเรา…” เด็กผู้หญิงยังไม่ทันพูดจบก็ถูกหิ้วขึ้นมา
วินาทีถัดมาเธอก็ตาลาย
เมื่อสายตากลับมามองเห็นชัดอีกครั้งทั้งสองคนก็เปลี่ยนไปอยู่อีกที่แล้ว
อิ๋งจื่อจินยังจับบ่าของเด็กผู้หญิงอยู่ หรี่ตาเล็กน้อย “ที่แท้ก็เธอ”
ถึงแม้ความจำของเธอจะไม่ได้แย่ แต่ก็จำคนที่เคยเจอในสนามบินเมื่อสองปีก่อนไม่ได้
อย่างมากก็แค่คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยมีเรื่องแบบนี้
ตอนนี้นึกขึ้นมาได้เป็นเพราะอายุของเด็กคนนี้
อายุหกขวบ แต่พฤติกรรมที่แสดงออกกลับไม่สอดคล้องกันอย่างสิ้นเชิง
สองปีแล้ว แต่อายุของเด็กคนนี้กลับไม่เพิ่มขึ้น
จุดนี้แพทย์แผนโบราณทำไม่ได้ เป็นไปได้แค่ว่าเคยกินยาเล่นแร่แปรธาตุเข้าไป
เด็กผู้หญิงแอบงง “หมายความว่าไง เราเคยเจอกันเหรอ”
“เคยเจอกันที่สนามบินเมื่อสองปีก่อน” อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง “ครั้งที่แล้วลืมถามว่าชื่ออะไร”
“อ่อ ฉันลืมไปแล้ว แต่เมื่อสองปีก่อนฉันเคยมาที่ยุโรปจริง ฉันชื่อซีนาย เรนเกล พวกเธอรู้กันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” เด็กผู้หญิงดิ้น “นี่ สาวน้อย วางฉันลงนะ ฉันบอกแล้วว่าฉันอายุมากกว่าเธอ”
“ใช่เธอจริงด้วย” อิ๋งจื่อจินมองรูปที่ฟู่อวิ๋นเซินให้เธอมา “ใครตามฆ่าเธอ”
“ยังจะมีใครอีกล่ะ” ซีนายกำหมัดแน่น “ผู้หญิงบ้าคนหนึ่ง ขังฉันไว้ตั้งนาน รอฉันหาหลานสาวเจอก่อนเถอะ คอยดูนะ ยัยนั่นจะต้องไสหัวออกไป…เดี๋ยวนะ!”
แววตาของเธอแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เธอคงไม่ใช่คนที่ผู้หญิงคนนั้นเชิญมาจากสำนักผู้วิเศษเพื่อมาจับฉันใช่ไหม ช่วยฉันก็เพื่อให้ฉันลดความระแวง พอฉันตายใจก็จะพาฉันกลับไป”
เมื่อกี้เธอสังเกตดูดีๆ
เมื่อกี้เด็กสาวคนนี้ไม่ได้ใช้อาวุธหรือเทคโนโลยีขั้นสูงอะไรก็ไล่นักล่าพวกนั้นไปได้แล้ว
นอกจากคนที่มีความสามารถพิเศษของสำนักผู้วิเศษแล้วยังจะมีใครเก่งแบบนี้อีก
อิ๋งจื่อจินปล่อยเธอ ถอยหลังหนึ่งก้าว “สำนักผู้วิเศษเหรอ”
“เธอไม่ใช่คนของสำนักผู้วิเศษเหรอ” ซีนายนวดข้อมือ เดินวนรอบอิ๋งจื่อจิน “ไม่มั้ง โลกของพวกเธอมีคนเก่งขนาดนี้ด้วยเหรอ ครั้งล่าสุดที่ฉันออกมาก็ไม่เห็นเจอคนที่เก่งขนาดเธอเลยนะ”
ครั้งล่าสุดเธอยังตั้งใจไปที่โลกใต้ดินของยุโรปด้วย ทหารรับจ้างระดับเอสพวกนั้นก็แค่พอสูสีสู้กับคนรับใช้ในบ้านเธอได้
อิ๋งจื่อจินจับประเด็นสำคัญได้ “โลกของพวกเธอเหรอ”
“อ๊ะ ไม่สิ ฉันพูดผิด โลกของพวกเรา พวกเรา” ซีนายกระแอม “ในเมื่อเธอไม่ใช่คนของสำนักผู้วิเศษ งั้นฉันไปล่ะ วาสนานำพาค่อยพบกันใหม่”
แต่เธอหนีไปไม่ได้
ถูกผนึกจุดลมปราณไว้
อิ๋งจื่อจินหยิบกระดาษออกมาเช็ดเหงื่อ “เธอพูดมากเหลือเกิน ฉันช่วยเธอได้ ก็จับเธอโยนกลับไปได้เหมือนกัน”
ซีนายเสียใจ “งั้นเธอคิดจะทำอะไร”
อิ๋งจื่อจินมองเธอ “ฉันถามเธอตอบ สถานที่ที่เธอมาชื่ออะไร เข้าไปยังไง”
ประโยคนี้ทำเอาซีนายเริ่มระแวง
เธอลังเล “เธอไม่ใช่คนที่นั่น รู้ไม่ได้”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า หิ้วซีนายขึ้นมาเป็นครั้งที่สาม เตรียมโยนให้นักล่าพวกนั้น
“อ๊าๆ บอกแล้วๆ” ซีนายกอดแขนอิ๋งจื่อจินไว้แน่น น้อยอกน้อยใจ “เธอเคยได้ยินปริศนาบนโลกที่ไม่ได้รับการไขหรือเปล่า”
อิ๋งจื่อจินถึงได้หยุด ใช้กำลังภายในปิดกั้นพื้นที่บริเวณโดยรอบ หลุบตาลง “เธอหมายถึงอะไร”
“เยอะแยะ” ซีนายชูนิ้ว “อย่างเช่น มีเรือสำราญหายไปอย่างไร้ร่องรอยในท้องทะเลบางแห่ง สิบกว่าปีให้หลังเรือลำนั้นก็ปรากฏอีกครั้ง แต่คนบนเรือกลับเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “เรื่องแบบนี้มีเยอะมาก”
“ใช่ พวกเขาหลุดเข้าไปในเมืองแห่งโลก แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ พอเข้าไปก็จะถูกขับไล่ออกมา” ซีนายพูด “แต่ระหว่างที่กลับออกมาอาจเจอปัญหาบางอย่าง เข้าไปในเขตควอนตัมอะไรพวกนี้ ห้วงอวกาศกับคลื่นเวลา ยุ่งยากจัง ฉันล่ะเกลียดฟิสิกส์”
อิ๋งจื่อจินพูดเสียงเบา “เมืองแห่งโลกเหรอ”
ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างรุนแรงปรากฏขึ้น
เมืองแห่งโลก
“เฮ้อ เธอก็โชคดีนะที่มาเจอฉันที่นี่ ถ้าฉันพูดตอนอยู่ในเมือง เธอไม่ได้ยินหรอก” ซีนายทำท่าทางเหมือนคนแก่ “ต่อให้เป็นภาษารูปปากก็ไม่มีประโยชน์ ข้อความสารพัดก็จะถูกระบบเซ็นเซอร์หมด ไม่มีวิธีอะไรเลย”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “อืม ฉันรู้ แล้วเข้าไปยังไง”
“ขอแค่เธอมีบัตรผู้อยู่อาศัยของเมืองแห่งโลกก็เข้าไปได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเกิดถูกคนของสำนักผู้วิเศษจับเข้าจะแย่เอา ในพื้นที่ทะเลแถวนี้ก็มีทางเข้าอยู่”
ซีนายนับเวลา “แต่ก็อีกสี่เดือนกว่าจะเปิด ไม่เปิดฉันก็เข้าไปไม่ได้”
“สี่เดือน” อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้ว “เวลากระชั้นไปหน่อย”
เธอไม่รู้ว่าในสี่เดือนนี้วรยุทธ์ของเธอจะคืนกลับมาได้เท่าไร
เห็นได้ชัดว่าเมืองแห่งโลกมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าโลกที่เธออยู่ไปไกลมาก ถึงขั้นที่ล้ำกว่าวิชาเล่นแร่แปรธาตุและวิทยายุทธ์
“ฉันได้ยินผู้อาวุโสในตระกูลบอกว่า เมื่อไม่กี่ศตวรรษก่อน ถ้ามีคุณูปการใหญ่หลวงหรือมีจุดที่เก่งอื่นๆ ก็จะถูกทางสำนักผู้วิเศษเชิญไปที่เมืองแห่งโลก” ซีนายพูดต่อ “อนุญาตให้พวกเขากลายเป็นผู้อาศัยในเมืองแห่งโลกเป็นกรณีพิเศษ”
“แต่ก็ไม่ได้รับคนข้างนอกเข้ามาอย่างน้อยก็ร้อยปีแล้ว ได้ยินว่าสำนักผู้วิเศษเกิดเรื่องบางอย่าง ห้ามรับคนบนโลกเข้ามาอยู่อาศัย”
“เข้าใจแล้ว” อิ๋งจื่อจินรวบรวมข้อมูลเสร็จก็เงียบไปชั่วครู่ “ครั้งก่อนที่เจอกันเธอยังบอกว่าฉันคล้ายหลานสาวของเธอ”
“ฉันเคยพูดเหรอ” ซีนายลูบหัว “เอ่อ บอกตามตรงนะ ฉันบอกกับคนอย่างน้อยหกเจ็ดสิบคนว่าหน้าคล้ายหลานสาวของฉัน ปรากฏว่าสุดท้ายพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ทั้งนั้น”
อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “เอาอะไรมาตัดสินว่าคล้ายเหรอ”
“ก็ต้องหน้าตาสวยน่ะสิ” ซีนายพูดเต็มปากเต็มคำ “ยีนของตระกูลเรนเกลมีเหรอจะด้อย”
“…”
“แต่ก็เป็นไปได้ที่เธอจะเป็นหลานสาวของฉันจริงๆ สาวน้อย เกิดที่ไหนล่ะเรา”
“ฮู่เฉิงประเทศจีน”
“งั้นก็ไม่ใช่แล้ว” ซีนายขมวดคิ้ว “ถึงฉันจะไม่รู้ว่าหลานสาวของฉันอยู่ที่ไหน แต่แน่ใจได้ว่าเธอเป็นคนตะวันออกที่โตในยุโรป”
อิ๋งจื่อจินไม่สนใจเรื่องนี้ เธอพูด “เรามาตกลงกัน ฉันจะช่วยเธอตามหาหลานสาว เธอพาฉันเข้าเมืองแห่งโลก”
“เธอจะเข้าเมืองแห่งโลกไปทำอะไร” ซีนายแอบสงสัย “ดูเหมือนเธอจะตามหามันมานานแล้ว”
อิ๋งจื่อจินสายตาเย็นชา “ล้างแค้น”
ซีนายคิดแล้วพูดขึ้น “ตกลง ฉันพาเข้าไปแค่คนเดียวก็ได้อยู่หรอก”
อิ๋งจื่อจินตอบอืม “หลานสาวของเธอมีจุดเด่นอะไร”
“หน้าตาดี” ซีนายกลุ้มใจ “ฉันไม่รู้จุดเด่นอื่นแล้ว ครั้งนี้กว่าฉันจะหนีออกมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ ไม่ได้เอาตัวอย่างดีเอ็นเอของพี่สะใภ้ใหญ่ฉันออกมาด้วย ตรวจดีเอ็นเอไม่ได้แน่นอน”
อิ๋งจื่อจินไม่อยากสนใจเธอ หันตัวเดินออก
“เอ๊ะ ฉันพูดจริงนะ พี่สะใภ้ใหญ่ฉันก็ถือเป็นคนงามที่พบได้ยากของเมืองแห่งโลก” ซีนายรีบตามไป “พี่ใหญ่ของฉันก็หล่อเหลาเอาการ แสดงว่าหลานสาวของฉันยิ่งต้องหน้าตาดีแน่นอน”
อิ๋งจื่อจิน “ทางที่ดีเงียบๆ หน่อย”
ซีนาย “…อ่อ”
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้
อิ๋งจื่อจินกดรับ
ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน “ฮัลโหล จื่อจิน นี่อาจารย์เฉินนะ”
“อาจารย์เฉิน?” เท้าของอิ๋งจื่อจินหยุดชะงัก “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ”
“คือแบบนี้ เดิมทีเรื่องนี้ไม่ควรเอามารบกวนเธอ” อาจารย์เฉินร้อนใจ “เพราะนี่เป็นเรื่องที่คนเป็นอาจารย์อย่างพวกเราจัดการไม่ดีเอง”
อาจารย์ย่อมต้องปกป้องนักศึกษาของตัวเองให้ดี
จะปล่อยให้นักศึกษาออกไปต่อสู้เองก็ไม่ได้
อาจารย์เฉินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสองวันนี้ให้ฟัง “แต่เหล่าจั่วไม่กลับมาสักที อาจารย์ก็เลยสงสัยว่าเขาจะถูกคนของศูนย์ฟิสิกส์สากลจับตัวไว้”
“พวกเขาไม่มีทางทำร้ายเหล่าจั่วหรอก แต่บทความของเธอจะยุ่งยาก เอากลับมาไม่ได้”
สายตาของอิ๋งจื่อจินเย็นชาลง “ศูนย์ฟิสิกส์สากลเหรอคะ”