บทที่ 118 ผมชอบคุณนิดหน่อย
บทที่ 118 ผมชอบคุณนิดหน่อย
ซูโย่วอี๋นั่งที่ที่นั่งข้างคนขับ
จากนั้น ทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก และลู่เฉินก็ได้โทรศัพท์ติดต่องานเพื่อแจ้งแผนกต่าง ๆ ให้จัดเตรียมแผนฉุกเฉิน
จนถึงตอนนี้ ลู่เฉินได้มอบหมายงานจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงรายงานการวิเคราะห์เหตุการณ์ การประชาสัมพันธ์ และการแก้ปัญหา
แม้แต่การจัดการประชุมออนไลน์
ซูโย่วอี๋ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ แต่มองไปที่ลู่เฉินด้วยความงงงวย
ตอนนี้เขายุ่งมาก เขาจะปล่อยให้เธอกลับบ้านคนเดียว หรือให้คนขับรถไปส่งเธอโดยที่ไม่ต้องไปด้วยตัวเองก็ได้
แต่ทำไม พอคิดถึงเรื่องนี้ ทุกอย่างที่ลู่เฉินทำกลับดึงดูดใจของเธอนัก
คิ้วของเขาเข้ารูป สวย หนา และหากเขาขมวดคิ้วแม้จะเพียงเล็กน้อย มันก็ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามไม่น้อย
หางตายกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขาไม่ยิ้ม เขาจะดูจริงจังมาก แต่เมื่อเขายิ้ม เขาจะดูสดใสและน่ารัก
จมูกโด่งทรงสวยและริมฝีปากกระจับ
กับลูกกระเดือกสุดเซ็กซี่นั่น
เมื่อรถหยุดที่หน้าหมู่บ้าน การประชุมออนไลน์ของลู่เฉินก็สิ้นสุดลง
“กลับได้แล้ว”
ซูโย่วอี๋ที่ปลดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้วแต่เธอยังไม่ขยับตัว เพราะจู่ ๆ ดันมีความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวจึงถามออกไปว่า “ลู่เฉิน คุณชอบฉันบ้างไหม?”
หลังจากพูดอย่างนั้น เธอรู้สึกว่าคำถามของเธอตรงไปตรงมาเกินไป ใบหน้าของหญิงสาวจึงเปลี่ยนเป็นสีแดง แม้แต่หูของเธอเองก็ด้วย
หลังจากที่ไม่ได้ยินคำตอบของลู่เฉิน หัวใจที่กระสับกระส่ายของซูโย่วอี๋ก็ค่อย ๆ สงบ
“ฉันขอโทษ ฉันคงคิดมากไปเอง”
เธอเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่ลู่เฉินกลับคว้าข้อมือเรียวของเธอไว้แล้วพูดว่า “คุณกำลังจะหนีเหรอ?”
ซูโย่วอี๋รู้สึกอับอายมาก การที่ลู่เฉินปฏิเสธที่จะตอบเธอก็ดูเหมือนเป็นการปฏิเสธเธอทางอ้อมอย่างไรอย่างนั้น
“ทำไมคุณถึงคิดว่าผมชอบคุณ?”
ซูโย่วอี๋รู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้ากำลังเยาะเย้ยตัวเองอยู่ ความเย่อหยิ่งภายในใจของเธอกำลังหลอกหลอนตัวเธอเอง ดังนั้นน้ำเสียงของเธอจึงตะกุกตะกัก “ฉันก็แค่หลงตัวเองมากไป… คิดซะว่าฉันไม่เคยพูดประโยคนั้น และคุณไม่ได้ยินมัน ตกลงไหม?”
“ไม่ ผมได้ยิน และผมกำลังถามคุณว่า ทำไมคุณถึงคิดว่าผมชอบคุณ”
ลู่เฉินกำลังไล่ต้อนเธอ ซึ่งทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก “ทั้งที่คุณยุ่งอยู่ แต่คุณก็ยังพาฉันกลับบ้าน”
“แค่นั้นเหรอ?”
ซูโย่วอี๋บอกความคิดที่ฟุ้งซ่านในหัวให้ลู่เฉินฟัง เพราะเห็นว่าเขากำลังถามอย่างจริงจังไม่ได้เยาะเย้ย
“คุณตัดสินใจออกมาปกป้องฉันในงานแถลงข่าว ทั้งที่คุณจะยกเลิกการเซ็นสัญญากับฉันก็ได้ เพราะยังไงคุณก็เป็นนักธุรกิจที่จะต้องคิดถึงผลประโยชน์ของบริษัทเป็นสำคัญ”
ลู่เฉินคิดตามที่เธอพูด “แล้วมีอะไรอีก?”
“ตอนที่ฉันจมน้ำ คุณก็เป็นคนช่วยชีวิต ทั้งที่คุณเป็นคนรักความสะอาดขนาดนั้น”
“ตอนที่แม่ของเฉินซีซีตบฉัน แต่คุณก็ยังมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน ปกป้องฉัน”
“คุณยังสอนฉันถึงวิธีค้นหาความรู้สึกของความรัก”
ลู่เฉินขมวดคิ้วและพูดว่า “ผมเดาได้ว่าคุณชอบผมจากสิ่งที่ผมทำให้คุณ”
“พฤติกรรมที่คุณพูดถึงอาจค่อนข้างปกติในสายตาคนอื่น แต่คุณกลับรู้สึกแตกต่าง เพราะคุณชอบผม และคุณอาจจะมองว่ามันเป็นอะไรที่พิเศษ”
เป็นครั้งแรกที่ซูโย่วอี๋เข้าใจช่องโหว่ในคำพูดของเธอ “คุณบอกว่าอาจจะ”
ลู่เฉินไม่ตอบสนอง
ส่วนซูโย่วอี๋นิ่งไปสักพักหนึ่งก่อนจะพยายามแกะข้อมือของตัวเองจากมือของอีกฝ่ายแล้วพูดว่า “ลู่เฉิน คุณช่วยลืมมันไปได้ไหม วันนี้ฉันจะกลับก่อน ฉันเข้าใจดีว่าคุณหมายถึงอะไร ฉันแค่ถามเพื่อความแน่ใจว่า นี่ฉันกำลังหลงตัวเองอยู่หรือเปล่า”
ลู่เฉินปล่อยมือแล้วพูดว่า “ไม่”
“จากที่คุณถาม ผมก็ต้องการยืนยันเหมือนกันว่าผมชอบคุณหรือเปล่า”
ซูโย่วอี๋ที่กำลังจะเปิดประตูก็หยุดชะงัก
หมายความว่ายังไง?
เขาควรจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุดสิ?
ต้องมาถามคนอื่นด้วยหรือไง?
ลู่เฉินมองเข้าไปในตาของเธอแล้วพูดอีกครั้งว่า “ผมคิดว่าผมน่าจะชอบคุณนิดหน่อย”
ซูโย่วอี๋ไม่อยากจะเชื่อ “คุณคือลู่เฉินใช่ไหม?”
“ใช่”
“คุณรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่”
“ผมรู้”
“คุณไม่รังเกียจที่ฉันเคยแต่งงานแล้วเหรอ?”
“แน่นอน”
“ตอนผมเห็นคุณนอนกับผู้ชายคนอื่น ผมก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความหึงหวงที่พลุ่งพล่านจากส่วนลึกของหัวใจได้ แต่เมื่อผมเห็นคุณถูกทำร้าย ผมก็ไม่สามารถควบคุมความปรารถนาที่จะปกป้องและความเห็นอกเห็นใจที่พลุ่งพล่านในตัวผมได้เช่นกัน”
“ผมแค่ต้องการส่งคุณกลับบ้านอย่างปลอดภัย ไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น”
เขาชอบเธอ…
ลู่เฉินกำลังวิเคราะห์การกระทำของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา และซูโย่วอี๋ต้องยอมรับว่าหัวใจของเธอตอนนี้เหมือนเรือที่ลอยอยู่กลางทะเลสาบที่มีคลื่นซัดไปมาตลอดเวลา
เธอรู้สึกร้อนในอก
บรรยากาศในรถกลายเป็นความคลุมเครือทันที
“อืม เข้าใจแล้ว คุณกลับไปเถอะ”
ครั้งนี้ ลู่เฉินไม่ได้รั้งเธอไว้ เขามองเธอเข้าไปในบ้านและก็จากไป
ขณะที่ซูโย่วอี๋เดินอยู่บนถนน เธออดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับน้ำเสียงและสีหน้าที่ลู่เฉินบอกเธอว่าเขาชอบเธอเล็กน้อย
ลู่เฉินกล้าบอกชอบเธอได้ยังไง?
โดยเฉพาะหลังจากเกิดเรื่องในวันนี้ ลู่เฉินก็ยังยอมรับว่าเขาชอบเธอ!
ต้องบอกว่ามันค่อนข้างจะคาดไม่ถึงและ… เขาน่ารักมาก
ขณะที่ ซูโย่วอี๋กำลังใกล้ถึงบ้าน เธอก็เห็นชายคนหนึ่งยืนรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน
มันคือเฉินเฉิน
ผู้ชายสารเลวที่เธอยังจำได้ไม่ลืม!
เขามาทำอะไรอยู่ที่หน้าประตูบ้านของเธอ เขาไม่ได้ไปทำงานหรือยังไง?
เฉินเฉินมองตรงไปที่ซู่โย่วอี๋ด้วยความประหลาดใจและความหลงใหล การได้มาเห็นเธอตัวเป็น ๆ ดูเทียบไม่ได้เลยกับในมือถือ
“โย่วอี๋…”
ซูโย่วอี๋หยุดอย่างรวดเร็ว “คุณเฉิน ฉันบอกคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอว่า คุณไม่สมควรที่จะเรียกชื่อนี้”
“อีกอย่าง คุณกำลังขวางทางฉันอยู่ กรุณาหลีกทางด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกรปภ.”
เฉินเฉินชูมือในอากาศอย่างยอมแพ้และมองเธออย่างระมัดระวัง “โย่วอี๋ อย่าทำแบบนี้”
น้ำเสียงของเขาค่อนข้างวิงวอน
จู่ ๆ ซูโย่วอี๋ก็นึกถึงตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก ที่เฉินเฉินก็ดูกล้า ๆ กลัว ๆ กับเธอมาก เขาจะมองเธอทุกครั้งที่เธอกินหรือทำอะไรเพราะกลัวว่าจะไปยั่วโมโหเธอ
เขากลัวว่าเธอจะไม่พอใจ
เฉินเฉินเป็นสุภาพบุรุษและเป็นลูกชายที่ดีต่อหน้าครอบครัวและเพื่อนฝูงเสมอ เขาเป็นที่ชื่นชมและถูกยกย่อง ทั้งยังมีความอดทนอดกลั้นและเอาอกเอาใจเก่ง
ซูโย่วอี๋รู้สึกประทับใจในสิ่งนั้น และเธอก็ติดตามเขาอย่างสุดหัวใจเป็นเวลาสิบปี
แต่ตอนนี้ ซูโย่วอี๋อยากจะหัวเราะให้กับตัวเอง “คุณกำลังแสดงให้ใครดู? มันน่าขยะแขยงจริง ๆ”
“ผมขอโทษ โย่วอี๋ ผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายคุณจริง ๆ ผมแค่หมกมุ่นอยู่กับเหอมี่มี่มากเกินไปในตอนนั้น ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมรักคุณเสมอ”
“ความรักของคุณนี่ราคาถูกจริง ๆ นะ”
ซูโย่วอี๋ตะคอกอย่างเย็นชาและเดินไปหนีเฉินเฉิน เพื่อเปิดประตู
แต่ถึงอย่างนั้น เฉินเฉินก็ดึงเธอกลับมาและพูดว่า “โย่วอี๋กลับมาอยู่ด้วยกันเถอะ ตราบใดที่คุณกลับมาอยู่กับผม ผมจะชี้แจงกับสื่อเองว่าเป็นผมเองที่นอกใจคุณก่อน และพิสูจน์ความจริงว่าข่าวที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตมันไม่จริง”
คำพูดนี้ทำให้ซูโย่วอี๋ตื่นขึ้นในทันที เธอกำลังหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ แต่ไม่รู้ว่ารูปเหล่านี้มันมาจากไหน
มีรูปถ่ายมากมายในข่าว ไม่มีใครสามารถปล่อยมันออกมาได้นอกจากเธอและเฉินเฉิน
ดวงตาของซูโย่วอี๋หรี่ลงและพูดว่า “คุณจงใจปล่อยภาพนั้นงั้นเหรอ? เพียงเพื่อบังคับให้ฉันกลับไปหาคุณอีกครั้ง”
ดวงตาของเฉินเฉินเจ็บปวดและพูดว่า “ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น หลังจากที่มีข่าวออกมา ผมก็ไปดูโทรศัพท์เครื่องเก่าของผมและพบว่ามีคนมายุ่งวุ่นวายกับมัน ภาพที่หลุดออกไป เหอมี่มี่เป็นคนทำ”
ทุกอย่างสมเหตุสมผล
เหอมี่มี่เกลียดเธอและต้องการทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อสร้างข่าวลือและใส่ร้ายเธอ!
“โย่วอี๋ ตอนนี้แม้คุณจะมีชื่อเสียงไม่ดี แต่ผมก็ไม่สนใจ ตราบใดที่คุณยังอยู่กับผม…”