ตอนที่ 819 ปีศาจสาว
แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เหนียนเสี่ยวมู่ต้องการ
“มีแค่นี้เหรอ?” เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าจากเอกสาร มองไปทางเลขา
“โครงการที่เจิ้งเหยียนจัดการมีการเจรจายังไงให้สำเร็จ? เธอมีประวัติความสัมพันธ์อะไรหรือเปล่า? แม้จะเป็นคนรักตามข่าวซุบซิบที่นักข่าวสร้างกระแสก็ได้”
“……”
เลขาที่ถูกเธอถามถึงกับอึ้ง เธอรีบส่ายหน้า
ไม่มีเลย
นอกจากการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับเจิ้งเหยียนที่ถูกหยิบขึ้นมาโดยชาวเน็ตบางส่วนบนโลกออนไลน์
รูปลักษณ์ที่สวยงามของเจิ้งเหยียน ความเคลื่อนไหวที่เป็นจุดสนใจ หากว่ากันตามเหตุผลก็ย่อมดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้มาก แต่ชีวิตส่วนตัวของเธอกลับดำเนินไปอย่างเงียบๆ
ไม่ใช่แค่ไม่มีเรื่องอื้อฉาว แต่นอกจากงานก็ไม่ค่อยมีการคบหาสมาคมมากนัก
ช่างเป็นคนที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกับเธอราวฟ้ากับเหว
เหนียนเสี่ยวมู่ “ไม่เป็นไร คุณออกไปก่อน”
“ค่ะ” เลขาเดินไปถึงหน้าประตู พอประตูเปิดออกก็เจอผู้ช่วยหยางยืนอยู่ที่หน้าประตู เธอสะดุ้งเล็กน้อย
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ที่เพิ่งนั่งลงบนเก้าอี้เห็นผู้ช่วยหยางก็เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
เขาไม่ได้อยู่กับอวี๋เยว่หานหรอกหรือ ทำไมถึงมาที่แผนกประชาสัมพันธ์
“ผู้จัดการเหนียน ผมรู้มาว่าแผนกประชาสัมพันธ์กำลังเจรจาความร่วมมือกับเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ พอดีผมมีข้อมูลเกี่ยวกับเจิ้งเหยียนอยู่บ้าง ก็เลยเอามาให้คุณ คุณลองดูซิว่าใช้ได้ไหม”
ผู้ช่วยก้าวมาข้างหน้าพลางยื่นเอกสารในมือส่งให้เหนียนเสี่ยวมู่
เหนียนเสี่ยวพลิกอ่านดู พบว่าเนื้อหาข้างในแตกต่างกับที่พวกเขาตรวจสอบโดยสิ้นเชิง สายตาพลันเปลี่ยนไป
“ข้อมูลพวกนี้…”
เหนียนเสี่ยวมู่อยากถามเขาว่าไปหามาจากไหน แต่ผู้ช่วยรีบบอกมาว่า
“นี่เป็นความคิดของผมเองครับ คุณชายหานไม่ได้ให้ผมเอามาส่ง!”
เมื่อพูดจบก็ดูเหมือนจะตระหนักได้ว่าตัวเองเผยความลับไปแล้ว เขากระดากอายจนหูแดง
“……”
เหนียนเสี่ยวมู่ถึงกับผงะ
เธอเหม่อลอยมองผู้ช่วย หลังจากนั้นไม่กี่วิก็สังเกตเห็นว่าเลขาที่ลืมออกไปกำลังอยู่หน้าประตูด้วยความตกตะลึงเช่นกัน จากนั้นก็กลับมามีสติ!
ขณะที่กำลังจะพูด ผู้ช่วยก็รีบร้อนเอ่ยขึ้นมาว่า “ผมเอาเอกสารมาส่งแล้ว หากผู้จัดการเหนียนไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับไปที่ห้องทำงานท่านประธานก่อนนะครับ”
ผู้ช่วยวิ่งหนีอย่างทุลักทุเล
ในห้องทำงานจึงเหลือแค่เหนียนเสี่ยวมู่และเลขาที่ยังตกตะลึงอยู่ที่หน้าประตู
ทั้งสองต่างก็เธอมองฉัน ฉันมองเธอ โดยไม่พูดอะไรไปสักพัก
ตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่กำลังจะยอมรับความสัมพันธ์ของเธอกับอวี๋เยว่หาน เลขาเห่าก็ก้าวไปข้างหน้าและตบบ่าเธออย่างเห็นใจ
“ผู้จัดการเหนียน ไม่ต้องเครียด แม้ฉันจะรู้ว่าโครงการเจิ้งซื่อไม่ได้เจรจากันได้ง่ายๆ ถึงขนาดที่ตอนนี้แม้แต่ท่านประธานก็เริ่มให้ความสนใจกับโครงการนี้และแอบกดดันคุณมากขนาดนี้ แต่คุณสบายใจได้ เพื่อนร่วมงานทั้งแผนกของเราจะร่วมต่อสู้ไปกับคุณจนถึงที่สุดแน่นอน!”
เหนียนเสี่ยวมู่ “???”
เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันตั้งสติ เลขาที่ปลอบใจเธอจนเสร็จสรรพก็ยังไม่ไปไหน ยืนอยู่ข้างๆ เธอและทำท่า “สู้ๆ ” ให้เธอ
เหนียนเสี่ยวมู่กระตุกมุมปากเล็กน้อย นิ่งไปไม่กี่วิก็กลับมานั่งที่ของตัวเอง เปิดเอกสารที่อยู่ตรงหน้า
เมื่ออ่านเนื้อหาข้างต้น เหนียนเสี่ยวมู่ก็มีท่าทางจริงจังขึ้นมา
ข้อมูลที่ผู้ช่วยส่งมานั้นครอบคลุมมาก ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเจิ้งเหยียนได้รับการบันทึกไว้อย่างชัดเจนในหน้ากระดาษ A4 เหล่านี้
อธิบายตัวเจิ้งเหยียนที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อบรรลุเป้าหมาย นี่มันไม่เกินไปเลยสักนิด!
เจิ้งเหยียนโจมตีจุดอ่อนคนได้ดีมากโดยใช้สิ่งที่อีกฝ่ายใส่ใจมากที่สุดมาเจรจากับอีกฝ่าย
ดังนั้นเธอจึงมีชื่อที่รู้จักกันดีในวงการธุรกิจว่า : ปีศาจสาว
ตอนที่ 820 ตระกูลใหญ่ที่แท้จริง
ตระกูลเจิ้งเคารพวัฒนธรรมเก่าแก่ รูปแบบตระกูลเจิ้งจึงเป็นไปตามแบบฉบับบัณฑิตลัทธิขงจื๊อ
แนวทางเจิ้งเหยียนแตกต่างกับรูปแบบตระกูลเจิ้งอย่างมากในวงการธุรกิจ
ทว่าผลลัพธ์กลับดีสุดๆ
ใครๆ ต่างก็รู้ดีว่าในตระกูลเจิ้งมีคนที่รับมือยากอยู่คนหนึ่ง นั่นคือคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเจิ้ง
เมื่อเทียบกับลูกชายตระกูลเจิ้งแล้ว ลูกสาวตระกูลเจิ้งคนนี้น่ากลัวยิ่งกว่า
คนที่เคยเจรจากับเจิ้งเหยียน ท้ายที่สุดก็ได้ทำการประเมินเธอด้วยความประหลาดใจเป็นเสียงเดียวกันว่า : ทำให้คนหวาดกลัว แพ้ด้วยความเลื่อมใส
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่เข้าใจจุดนี้
พูดกันตามเหตุผล หากเจิ้งเหยียนใช้วิธีสกปรกในการเอาชนะการทำความร่วมมือจริง คนที่เคยร่วมมือกับเธอย่อมมีความทรงจำที่เลวร้ายต่อเธอ
ทำไมถึงแพ้ด้วยความเลื่อมใสอย่างคำพูดนี้ล่ะ?
“คุณคิดยังไงกับการร่วมมือกับเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ครั้งนี้ มีความเห็นอะไรไหม?” เหนียนเสี่ยวมู่เปิดเอกสารพลางหันไปทางเลขา
เลขารีบเดินมาตรงหน้าเธอ “อย่างอื่นฉันไม่กล้าพูดถึง แต่ฉันได้ยินมาว่าเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ค่อนข้างให้ความสำคัญกับความร่วมมือในครั้งนี้มาก คนที่ถูกส่งไปเจรจาครั้งนี้เดิมทีไม่ใช่เจิ้งเหยียน แต่เป็นน้องชายของเธอ ต่อมาเจิ้งเหยียนก็ได้ออกคำสั่งเด็ดขาดว่าตัวเองจะเอาชนะความร่วมมือนี้ให้ได้ ไม่อย่างงั้นเธอจะรับผิดชอบด้วยการลาออก ถึงได้มีการเปลี่ยนคนกะทันหัน”
ถึงอย่างไรข่าวนี้ก็ไม่ควรเผยแพร่ออกไป
แต่เมื่อเผยแพร่ออกมาแล้ว
ก็อาจจะเป็นข่าวโคมลอยหรือไม่ก็มีคนลอบจัดการเจิ้งเหยียนอยู่เบื้องหลัง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าน้องชายคนที่ถูกเธอทำให้กลายเป็นแพะรับบาปจะแค้นเคืองที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ
“คุณรู้สถานการณ์ในตระกูลเจิ้งไหม?” เหนียนเสี่ยวมู่ตาเป็นประกายเล็กน้อย
“ประธานเจิ้งมีลูกชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เป็นพวกอนุรักษ์นิยม รักชาติและวัฒนธรรมเก่าแก่มาก กิจการภายใต้การดูแลของตระกูลเจิ้งมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมทางด้านวัฒนธรรมจีนอันดีงามมาโดยตลอด”
เลขาพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไป
สายตาเปลี่ยนเป็นซับซ้อนเล็กน้อยและตัดไปอีกเรื่อง
“อันที่จริงถ้าพูดถึงผู้ที่ส่งเสริมวัฒนธรรมจีนอันดีงามและส่งเสริมการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ก็น่าจะเป็นตระกูลมั่วทางเมือง N ช่วงจุดสูงสุดของตระกูลมั่วในตอนแรกๆ แทบทุกคนล้วนเคยได้ยินคุณงามความดีของตระกูลนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น…”
เลขาถอนหายใจเงียบๆ และพูดถึงตระกูลเจิ้งต่อ
“ได้ยินมาว่าตระกูลเจิ้งกับตระกูลมั่วสนิทสนมกันอยู่บ้าง ตอนนั้นประธานเจิ้งก็ได้รับอิทธิพลจากเพื่อนเก่า ถึงได้ชื่นชอบวัฒนธรรมเก่าแก่ ต่อมาด้วยความช่วยเหลือของตระกูลมั่ว ตระกูลเจิ้งจึงค่อยๆ พัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ ประธานเจิ้งเคยกล่าวต่อหน้าสาธารณะชนอยู่หลายครั้งว่าหากไม่มีมรดกวัฒนธรรมจีนอันดีงาม ก็จะไม่มีเจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ในวันนี้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมวัฒนธรรมจีนอันดีงาม”
โดยปกติแซ่มั่วนี้พบเห็นได้น้อยมาก
เหนียนเสี่ยวมู่ประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก แต่เมื่อพูดถึงความร่วมมือทางธุรกิจ เธอควรจะใส่ใจกับทัศนะคติความร่วมมือครั้งนี้กับตระกูลเจิ้งก่อน
“เจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์มีผลิตภัณฑ์ที่ดี บริษัทตระกูลอวี๋ก็มีช่องทางการขายที่ดี การร่วมมือของทั้งสองบริษัทเป็นทางเลือกตลาดโดยที่ต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์”
เลขารีบตอบรับ “ใช่ค่ะ ดังนั้นคณะตัวแทนที่เจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์ส่งมาในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นคณะตัวแทนที่โดดเด่นที่สุดในบริษัทของพวกเขา”
“ทัศนะคติของเจิ้งเหยียนค่อนข้างน่าสนใจ” เหนียนเสี่ยวมู่หรี่ตา จมอยู่ในความคิด
หากพูดกันตามเหตุผล ในเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างเห็นความสำคัญกับความร่วมมือนี้มาก นั่นก็ควรจะเก็บอาการและท่าที
ทว่าท่าทีขู่ขวัญของเจิ้งเมื่อคราวที่แล้ว
ดูเหมือนเธอจะต้องการทำให้ความร่วมมือยุ่งยาก
เธอต้องการจะทำอะไร?
เหนียนเสี่ยวมู่ย้ายสายตากลับมาที่ข้อมูล
ข้อมูลที่ผู้ช่วยเอามาให้เธอได้อธิบายอย่างชัดเจนเกี่ยวกับท่าทีของเจิ้งเหยียนในวงการธุรกิจ แต่มีเพียงส่วน เดียวที่หายไป