ตอนที่ 841 ฉันเคยเห็นมากับตา!
เมื่อได้ยินคำว่ายังมี “ของขวัญ” อื่นอีก เหนียนเสี่ยวมู่ก็ขนลุกขึ้นมา
ไม่น่าแปลกที่โบราณจะมีคำที่กล่าวว่าสาวงามแฝงด้วยพิษร้าย ตอนนี้ในใจเธอ เจิ้งเหยียนไม่ใช่ “จิ้งจอกสาว” ธรรมดาทั่วไป แต่เป็นปีศาจแมงมุมที่ที่คายใยพิษได้
อย่างไรก็ตามไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหนก็ต้องทำให้ถึงที่สุดเพราะอย่างไรนี่ก็เกี่ยวข้องกับเจรจาธุรกิจที่สำคัญ เธอจะกลัวไปไม่ได้
เหนียนเสี่ยวมู่กระแอม “คุณอยากจะพูดอะไรก็พูด ไม่ต้องเล่นลูกไม้ ฉันขอพูดคำพูดไม่น่าฟังไว้ก่อน ฉันรู้สไตล์การเจรจาธุรกิจของคุณ ส่วนเงื่อนไขที่เจิ้งซื่อเอ็นเตอร์ไพรส์เสนอมา ทางเราจะพิจารณา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะขายข้อดีให้ฉันหน่อยเดียวแล้วฉันจะยอมแบบไม่มีเงื่อนไข”
“ผู้จัดการเหนียนลองฟังของขวัญที่ฉันจะมอบให้คุณก่อนแล้วค่อยตัดสินใจก็ยังไม่สาย”
เมื่อพูดถึงความร่วมมือ สีหน้าสบายใจของเจิ้งเหยียนก็หายไป
ชาก็ไม่ดื่ม
เธอวางถ้วยชาลง สองมือค้ำบนโต๊ะ สายตาจ้องมองไปทางเหนียนเสี่ยวมู่และพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ฉันได้ยินมาว่าผู้จัดการเหนียนกำลังตามหาคน ถ้าฉันสามารถให้ข้อมูลถานเปิงเปิงได้…”
“คุณว่าอะไรนะ?” เหนียนเสี่ยวมู่ลุกจากเก้าอี้
เมื่อเผชิญหน้ากับแววตาเลศนัยของเจิ้งเหยียนก็อดร้อนใจไม่ได้ เธอนั่งลงอีกครั้ง
“ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าที่คุณพูดมาเป็นจริงหรือเท็จ? คุณต้องการแลกเปลี่ยนความร่วมมือมูลค่าหลายร้อยล้านจากฉันด้วยข่าวเท็จ คุณดูถูกใครกัน?”
“จะเป็นข่าวเท็จหรือไม่ ผู้จัดการเหนียนก็ฟังที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ให้จบก่อนก็ได้ แล้วค่อยตัดสินใจเองว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ” เจิ้งเหยียนเปลี่ยนท่านั่ง
“ถานเปิงเปิงเกิดมาในตระกูลแพทย์ มีความเฉลียวฉลาดในด้านการแพทย์ที่ไม่ธรรมดามาตั้งแต่ยังเด็ก ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะด้านการแพทย์ เธอเรียนหนังสือไปตามลำดับขั้น นอกจากข้ามชั้นแล้วก็ไม่เคยทำเรื่องนอกกรอบ ทำตามความคาดหวังของตระกูลตลอดมาจนกลายมาเป็นแพทย์…”
“คุณอยากเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฉันฟังเนี่ยนะ?” เหนียนเสี่ยวมู่พูดตัดบท
เจิ้งเหยียนยิ้มพลางส่ายหน้า “แน่นอนว่าไม่ใช่แค่นี้ เธอไม่ต้องรีบร้อน”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
จะพูดก็พูดมาซะดีๆ ต่างคนก็ต่างเป็นผู้หญิง เธอจะทำตัวออเซาะไปทำไม!
เหนียนเสี่ยวมู่มองเจิ้งเหยียนโดยไม่สามารถบอกได้ว่าเธอมีข่าวเกี่ยวกับถานเปิงเปิงจริงหรือไม่กันแน่
ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อยและพูดทันทีว่า
“ถานเปิงเปิงเป็นลูกสาวคนเดียวในครอบครัว เธอเรียนแพทย์ตามความหวังของครอบครัว มีอะไรน่าแปลกล่ะ”
“ลูกสาวคนเดียวอะไร? ตระกูลถานไม่ได้มีเธอเป็นลูกแค่คนเดียว ถานเปิงเปิงยังมีพี่ชายคนนึง ฉันเคยเห็นมากับตา!” เจิ้งเหยียนตอบโต้โดยไม่คิด
เมื่อได้ยินดังนั้นสีหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ก็เปลี่ยนไปในทันที!
“คุณเคยเจอพี่ชายของถานเปิงเปิงด้วยเหรอ?”
เด็กผู้ชายที่อยู่ในรูปนั้น
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่เคยแน่ใจมาก่อนว่านั่นคือพี่ชายแท้ๆของถานเปิงเปิง เพราะเธอคิดไม่ถึงว่าถานเปิงเปิงมีพี่ชาย ทำไมถานเปิงเปิงไม่เคยพูดถึงมาก่อน?
“เคยเห็นและยังเคยเล่นด้วยกันด้วย เขาเหมือนถานเปิงเปิงที่เป็นคนเงียบๆไม่ชอบพูดอย่างกับท่อนไม้…”
เจิ้งเหยียนชะงักไปสักพัก สายตาก็เปลี่ยนเป็นมืดมนเล็กน้อย
“แต่ว่าเขาโชคไม่ดี เสียชีวิตตอนที่ยังเด็กมาก เพราะฉะนั้นคำพูดที่เธอเพิ่งพูดมาเมื่อกี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร ตระกูลถานเรียนแพทย์มาหลายชั่วอายุคน พอมาถึงถานเปิงเปิงที่เหลือเธอเพียงคนเดียว ถ้าเธอไม่เรียนก็ไม่มีใครเรียนแล้ว”
“….” เสียชีวิต
เหนียนเสี่ยวมู่นึกประหลาดใจขึ้นมา ยังไม่ทันได้เข้าใจกับข่าวนี้ เจิ้งเหยียนก็พูดขึ้นมาว่า
“ฉันบอกให้ก็ได้นะว่าถานเปิงเปิงไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน เงื่อนไขคือ…เธอต้องไปจากคุณชายหาน!”
ตอนที่ 842 คำตอบของเธอ
“……”
เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้พูดไปในทันที เพียงมองเธอด้วยสายตาเย็นชาเล็กน้อย
เจิ้งเหยียนเพิ่งจะบอกว่าเธอตายใจกับอวี๋เยว่หานไปแล้ว ตอนนี้กลับมาบอกให้เธอไปจากอวี๋เยว่หาน
ใจผู้หญิงช่างเหมือนเข็มก้นมหาสมุทร
ถ้าเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เหนียนเสี่ยวมู่คงตอบตกลงเมื่อได้ยินว่าเจิ้งเหยียนรู้ที่อยู่ของถานเปิงเปิง
แต่ตอนนี้เป้าหมายที่กำลังอยู่บนโต๊ะเจรจาธุรกิจคืออวี๋เยว่หาน
เขาเป็นคนมีชีวิตจิตใจ ไม่ใช่เนื้อหมูที่จะขายเป็นกิโลได้!
“เธออย่าเพิ่งรีบปฏิเสธฉัน ฟังเงื่อนไขทั้งหมดให้จบก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ” เจิ้งเหยียนโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย โดยเอนไปใกล้เหนียนเสี่ยวมู่ จากนั้นก็บอกข้อเรียกร้องทั้งหมดของตัวเองทีละคำทีละประโยคด้วยแววตาเป็นประกาย
หลังจากพูดจบ บรรยากาศภายในห้องทำงานก็เงียบไปเป็นแถบ
ท่ามกลางความเงียบเหลือเพียงเสียงลมหายใจของกันและกัน
“เธอพิจารณาให้ดีแล้วกัน ถ้าเธอตกลง ฉันจะเสนอเบาะแสที่อยู่ของถานเปิงเปิงให้ แต่ถ้าเธอไม่ตกลง เธอก็ตามหาถานเปิงเปิงเองก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าจะเจอเมื่อไหร่”
เจิ้งเหยียนพิงพนักเก้าอี้พลางรอเหนียนเสี่ยวมู่ตัดสินใจอย่างเงียบๆ
เดิมทียังคิดว่าเหนียนเสี่ยวมู่จะพิจารณาเงื่อนไขนี้นาน
หรือปฏิเสธเธอไปตรงๆ
ถึงอย่างไรเจิ้งเหยียนก็สอบถามได้มาว่าถานเปิงเปิงเป็นเพื่อนรักของเหนียนเสี่ยวมู่
ทิ้งแฟนตัวเองเพื่อเพื่อนรัก ฟังดูแล้วการตัดสินใจแบบนี้ก็ค่อนข้างหนักใจจริงๆ
แต่ทันทีที่เธอพูดจบ เหนียนเสี่ยวมู่ก็พูดอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันตกลง!”
“……”
นี่เป็นอีกครั้งที่เจิ้งเหยียนเดาทางเหนียนเสี่ยวมู่ไม่ถูก
แต่คราวนี้เธอกลับเผยรอยยิ้มที่บรรลุผลชั่วร้ายออกมา
-
เหนียนเสี่ยวมู่ตอบตกลงเงื่อนไขของเจิ้งเหยียนแล้ว เธอจึงโทรศัพท์ติดต่อกับอวี๋เยว่หานเพื่อนัดทานอาหารเย็นด้วยกันโดยไม่ลังเล
ในห้องทำงานท่านประธาน ผู้ช่วยรับสายด้วยความตื่นเต้นอีกนิดเดียวที่ยังไม่ได้กระโดด
ผู้จัดการเหนียนเป็นฝ่ายนัดคุณชายหานทานอาหารเย็น ซึ่งนั่นก็หมายความว่าพวกเขาคืนดีกันแล้ว!
การที่ทั้งสองคืนดีกัน เขาก็ไม่จำเป็นต้องมาคอยรองรับอารมณ์คุณชายหานในแต่ละวัน กลัวว่ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมาหน่อยก็จะโดนแช่แข็งกลายเป็นน้ำแข็งแกะสลัก
ผู้ช่วยนำเรื่องไปแจ้งอวี๋เยว่หานและรอเขาตอบรับ
พอหลังจากที่พูดเสร็จก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ เขาพูดด้วยความกังวล
“คุณชายหาน ทำไมผู้จัดการเหนียนไม่เรียกให้คุณกลับไปทานข้าวล่ะ แต่นัดไปทานข้าวที่ร้านอาหารข้างนอก? หรือว่ามีอะไรแอบแฝง?”
“……”
ที่โต๊ะทำงาน อวี๋เยว่หานที่เพิ่งยิ้มออกมาก็กลายเป็นแข็งทื่อพลางเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาเย็นเฉียบ
ผู้ช่วยตัวสั่นเทา “ผมมีธุระ ขอตัวก่อน!”
ละเลงน้ำมันบนฝ่าเท้า ไปล่ะ!
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เหนียนเสี่ยวมู่ตั้งใจไม่ออกไปตามเวลา หลังจากเพื่อนร่วมงานในแผนกไปหมดแล้ว เธอก็สะพายกระเป๋าเดินออกจากห้องทำงาน
เมื่อก่อนเธอก็ทำแบบนี้ ทำตัวลับๆล่อๆลงไปยังที่จอดรถชั้นใต้ดินและกลับบ้านพร้อมกับอวี๋เยว่หาน
เรื่องเดียวกันแต่ตอนนี้ก็ทำได้อย่างชำนาญ
ตอนที่รอเธอลงมาถึงที่จอดรถชั้นใต้ดิน อวี๋เยว่หานก็ยืนรออยู่ที่ประตูรถเรียบร้อยแล้ว
ดูท่าทางก็เพิ่งจะลงมาเหมือนกัน
ร่างสง่างามของเขายืนอยู่ที่ข้างประตูรถ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิอากาศยังคงหนาวอยู่เล็กน้อย เขาไม่ได้สวมเสื้อโค้ทมีเพียงสเวตเตอร์คอเต่าสีเทาอ่อน
เป็นแบบสบายๆและดูผ่อนคลาย ดูแล้วไม่เหมือนกับเพิ่งเลิกงาน แต่เหมือนนัดเดตกับแฟนสาวในวันหยุดสุดสัปดาห์เสียมากกว่า
สเวตเตอร์คอเต่าคลุมปลายคางที่ดูดีของเขา เขาหลุบตาลงเล็กน้อย หากมองจากด้านข้าง ขนตายาวๆนั้นเหมือนกับพัดขนาดเล็กที่กำลังวางอยู่บนเปลือกตา…
ความหล่อที่สร้างความหายนะต่อประเทศชาติทำให้เธออยากจะเข้าไปซบในอ้อมกอด และจูบปลายคางเขาแรงๆสักสอง