ตอนที่ 871 มาหาถึงหน้าประตู!
ในโรงพยาบาล
“ด้วยอาการของประธานถังจะต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทำไมถึงเพิ่งมาเอาจนป่านนี้ล่ะ? พวกคุณไม่รู้เหรอว่าถ้ามาช้าไปนิดเดียว เขาอาจจะไม่รอด?”
คุณหมอผู้ดูแลอาการออกมาจากห้องผ่าตัด เขายื่นมือดึงผ้าปิดจมูกลงแล้วกล่าวตำหนิ
เมื่อผู้ช่วยที่อยู่หน้าประตูห้องผ่าตัดได้ยินว่าเขารอดแล้วถึงจะโล่งอกขึ้นมาได้
พอได้ยินที่คุณหมอตำหนิก็ไม่กล้าแย้งสักประโยคเดียว
ได้แต่บ่นในใจเงียบๆ : ไม่ใช่ว่าเขาไม่เกลี้ยกล่อม แต่เขาเกลี้ยกล่อมไม่ได้! ตอนนี้คุณซั่งซินกำลังท้องอยู่ อย่าว่าแต่ให้ประธานถังมาโรงพยาบาลเลย เขายังพยายามป้องกันไม่ให้โรคหัวใจกำเริบเพื่อไม่ให้คุณซั่งซินรู้จนเกือบจะไม่กินยาแล้ว
เขารักเธอเท่าชีวิต รักจนไม่คิดชีวิต…
ความรักประเภทนี้จะให้เขาเกลี้ยกล่อมอย่างไร?
“คุณหมอครับ อย่างงั้นอาการของประธานถังเป็นยังไงบ้างครับตอนนี้?” ผู้ช่วยถามด้วยความเป็นห่วง
เมื่อได้ยินดังนั้น คุณหมอก็ส่ายหน้าและตอบไปว่า
“ไม่ค่อยดี ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าดูแลตัวเองดีดีและให้ความร่วมมือกับการรักษาอย่างจริงจัง บางทีอาจจะยื้อต่อไปได้อีกหนึ่งปีครึ่ง แต่คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าประธานถังรนหาที่ตายเอง ผู้ป่วยที่ไม่ให้ความร่วมมือแบบนี้ช่วยกลับมาคราวนี้ได้ เกรงว่าคราวหน้าคงพูดยาก”
พอคุณหมอพูดจบก็ทอดถอนใจ
ก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
คนที่เรียกลมเรียกฝนในด้านธุรกิจไม่สามารถหลีกหนีจากกลลวงของโชคชะตาได้ จะต้องจากไปทั้งยังหนุ่มยังแน่น
“ผมให้คนย้ายประธานถังไปเฝ้าสังเกตอาการที่ห้องผู้ป่วยวีไอพีแล้ว คราวนี้ไม่ว่าจะยังไงจะต้องให้เขาพักอยู่ดูอาการอีกสองสามวัน ห้ามเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก!” คุณหมอพูดจบก็จากไป
ตอนที่ผู้ช่วยกลับไปที่ห้องผู้ป่วยวีไอพี ถังหยวนซือก็ตื่นขึ้นมาพอดี
พอลืมตาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ยิ้มมุมปากเยาะเย้ยตัวเอง
เมื่อนึกถึงอะไรบางอย่างสายตาพลันเปลี่ยนไป เขามองไปทางผู้ช่วยด้วยหน้าตาจริงจัง ขยับริมฝีปากพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงของเขากลับแหบแห้ง
“ประธานถังอยากถามเรื่องคุณซั่งซินใช่ไหมครับ? ไม่ต้องเป็นห่วงครับเธอสบายดี พ่อบ้านเพิ่งส่งข่าวมาบอกว่าคุณซั่งซินเข้าใจว่าคุณออกไปทำงานนอกสถานที่ เธอทานข้าวเย็นคนเดียวเสร็จแล้วก็กลับไปพักผ่อนที่ห้อง”
ผู้ช่วยรายงานด้วยความเคารพ
เมื่อได้ยินชื่อซั่งซิน สายตาถังหยวนซือก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน
สายตาสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่เป็นประกายแห่งความรักใคร่
เมื่อเห็นภาพนี้ผู้ช่วยก็รู้สึกแสบจมูกอยู่หน่อยๆ
ไม่รู้ว่าควรบอกถังหยวนซืออย่างไรว่าตอนนี้คนที่ต้องเป็นกังวลไม่ใช่ซั่งซิน แต่เป็นตัวเขาเอง
ที่คุณหมอหมายถึงคือเขาเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว…
“ถ้าฉันเป็นอะไรไป ช่วยส่งเธอกลับบ้านตระกูลซั่งด้วย” ถังหยวนซือเหมือนดูออกว่าผู้ช่วยอยากจะพูดอะไร เขาเอ่ยอย่างแผ่วเบา
น้ำเสียงแหบแห้งแฝงไปด้วยความหยาบเหมือนถูกับก้อนหิน พูดออกมาแต่ละคำอย่างยากลำบาก
ผู้ช่วยฝืดคอ “ประธานถัง…”
“ถ้าฉันไม่ตายง่ายๆ ก็รอไปก่อน รอจนกว่าเด็กจะครบสามเดือนแรก จนลมหายใจในครรภ์คงที่แล้วค่อยส่งเธอกลับไป” พอถังหยวนซือพูดจบ ลมหายใจก็เปลี่ยนเป็นหดหู่เล็กน้อย
ไอสองครั้งอย่างอดไม่ได้
ผู้ช่วยจึงรีบรินน้ำให้เขาดื่ม
อยากจะพูดปลอบใจเขาสักหน่อย พออ้าปากก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
ในห้องผู้ป่วยตลบอบอวลไปด้วยความสิ้นหวังจนทำให้คนหายใจไม่ออก…
ขณะนี้นอกโรงพยาบาลมีรถแท็กซี่จอดอยู่ข้างทาง
ประตูรถเปิดออก ซั่งซินลงจากรถอย่างคล่องแคล่ว
เงยหน้ามองโรงพยาบาลที่อยู่ตรงหน้า…
ที่นี่ก็คือโรงพยาบาลที่เหนียนเสี่ยวมู่เจอถังหยวนซือพักอยู่
เธอให้คนตรวจสอบดูแล้วและพบว่าตระกูลถังเป็นหุ้นส่วนโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้
ถ้าถังหยวนซือเป็นโรคหัวใจกำเริบจริงๆ เขาจะต้องมาที่นี่!
ตอนที่ 872 ฟาดสักยก!
ซั่งซินกำโทรศัพท์ไว้ในมือและเดินเลี่ยงฝูงชน
ถ้าเธอเดาไม่ผิด สถานที่ที่เหนียนเสี่ยวมู่เจอถังหยวนซือเมื่อคราวที่แล้วก็คือห้องผู้ป่วยพิเศษของถังหยวนซือ
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงจำหมายเลขห้องไม่ได้
แต่เหนียนเสี่ยวมู่ไม่เหมือนกัน
เมื่อได้ผ่านตา เธอจะไม่มีทางลืม เธอบอกหมายเลขห้องผู้ป่วยและโรงพยาบาลที่เธอเคยเจอถังหยวนซือเมื่อครั้งที่แล้วให้ซั่งซินโดยไม่ต้องรอให้ซั่งซินถาม
พร้อมกับไม่ลืมกำชับเธอ : ถ้าเขายังปิดบังเรื่องอาการป่วยของตัวเอง เธอเดินเข้าไปฟาดเขาสักยกก่อน ไม่ต้องลังเล ผู้ชายประเภทนี้ชอบคิดว่าเขาสามารถทำให้เธอมีความสุขได้ด้วยการเสียสละตัวเอง มันน่าฟาดนัก!
ซั่งซินมีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่ในใจ เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น
เมื่อเข้าไปในโรงพยาบาลก็ตรงไปขึ้นลิฟต์
เดิมทียังกังวลว่าพอเธอเข้าไปในห้องผู้ป่วยวีไอพี เธออาจจะโดนรปภ.ขวางไว้
แต่ไม่คิดเลยว่าระหว่างทางไม่มีอุปสรรคใดๆเลย
ใจเธอคิดว่าประจวบเหมาะที่มาในช่วงเวลาเปลี่ยนกะหรือเปล่า จึงไม่ได้คิดอะไรมากและเดินตรงไปยังหมายเลขห้องผู้ป่วยที่เหนียนเสี่ยวมู่ให้ไว้
เดินไปจนถึงหน้าประตูก็หยุดเท้าลงทันที
ระหว่างทางที่เดินทางมาโรงพยาบาล เธอโมโหมากพอๆ กับเหนียนเสี่ยวมู่
ในหัวคิดเอาไว้แล้วว่าถ้าเขาผลักไสเธอด้วยสาเหตุโรคหัวใจกำเริบ เธอจะไม่เกรงใจเขาเด็ดขาด!
แต่พอตอนนี้มายืนอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วยของโรงพยาบาลจริงๆ ใจเธอกลับกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ถ้าให้เธอเลือกระหว่างเขาป่วยกับเขาไม่ชอบเธอ เธอยอมให้เขาไม่ชอบเธอจริงๆ ก็เลยไม่ยอมอยู่กับเธอยังจะดีเสียกว่า เธอไม่อยากเห็นเขาเป็นอะไร…
ไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนที่เธอได้ยินข่าวว่าเขาอยู่โรงพยาบาลมาจากปากเหนียนเสี่ยวมู่ เธอกลัวแค่ไหน
เช่นเดียวกับตอนที่เขายังเป็นเด็ก เนื่องจากเขาสุขภาพไม่ดีจึงต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบ่อยๆ
ทุกหนึ่งหรือสองปีจะต้องทำการผ่าตัดหนึ่งครั้ง
ตอนที่เขาทำการผ่าตัด เธอจะนั่งยองๆ อยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด มองไปที่แสงสีแดงเหนือประตูห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ เธอเอาแต่ภาวนาตั้งแต่ไฟสว่างจนปิดไฟ
กลัวว่าเขาจะเหมือนกับแม่ของเธอที่จู่ๆ ก็ไม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว…
ไม่ว่าใครจะเกลี้ยกล่อมเธอก็ไม่มีประโยชน์ เธอจะดูให้ได้ว่าเขาไม่เป็นอะไรถึงจะจากไป
สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปจนกระทั่งเขาทำการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจสำเร็จและถูกรับกลับไปยังบ้านตระกูลถัง
เธอไม่ได้เป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว เธอกลัวจนไม่กล้ายกมือเคาะประตู
ซั่งซินตั้งสติ เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูห้องผู้ป่วย
สูดหายใจเข้าลึกๆ หมุนลูกบิดอย่างแรงแล้วผลักเข้าไป!
“ปัง——”
ทันทีที่ผลักประตูไปจนสุดก็มีเสียงดังขึ้นมา
ซั่งซินยืนอยู่หน้าประตูพลางมองไปยังห้องโล่งๆ ที่อยู่ตรงหน้า เธออึ้งในทันที!
กะพริบตาปริบๆ เดินเข้าไปข้างในอย่างไม่ตายใจ หาไปทั่วห้องผู้ป่วยวีไอพีขนาดใหญ่หนึ่งรอบ ห้องน้ำก็ไม่เว้น
ไม่มีคนจริงๆ ด้วย
ห้องผู้ป่วยห้องนี้ว่าง
ผ้าห่มวางบนเตียงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยว่ามีคนเคยนอนมาก่อน
เธอเดาผิด?
เห็นได้ชัดว่าเธอน่าจะผิดหวัง แต่จู่ๆ เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ยกมุมปากด้วยรอยยิ้มที่ผ่อนคลายและเดินออกไป
เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ก็โทรศัพท์ไปหาถังหยวนซืออีกครั้ง พอได้ยินเสียงสัญญาณปิดเครื่องก็ขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้แสดงอาการผิดหวัง เธอจึงเดินเข้าไปในลิฟต์
ขณะนี้ถังหยวนซือกำลังนอนอยู่บนเตียงห้องผู้ป่วยที่อยู่ถัดจากห้องที่เธอผลักเข้าไป เขาดูคนที่ปรากฏตัวในภาพกล้องวงจรปิด ดวงตาสีเข้มเป็นประกายด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
ผู้ช่วยยังสูดหายใจอยู่ข้างๆ
“โชคดีที่คราวนี้พ่อบ้านพบว่าคุณซั่งซินออกจากบ้านได้ทันเวลา พวกเราถึงเฝ้าสังเกตว่าเธอมาถึงโรงพยาบาลแล้ว ถ้าเมื่อกี้เราเคลื่อนไหวช้าไปหน่อยเดียว จะต้องโดนจับได้แน่ๆ!”