คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 644 ตัวตนใหม่ เจออวี้เซ่าอวิ๋น

ตอนที่ 644 ตัวตนใหม่ เจออวี้เซ่าอวิ๋น

อิทธิพลในเมืองแห่งโลกแบ่งเป็นอย่างไร มานูเอลกับผู้ช่วยของเขาไม่รู้

แต่เห็นได้ชัดว่าเมืองแห่งโลกมีอิทธิพลขนาดใหญ่ ต้องการเอาชีวิตของเกอร์เวน

พูดให้ถูกคือ ต้องการขัดขวางไม่ให้ยานอวกาศข้ามจักรวาลถูกค้นพบได้สำเร็จ

อิ๋งจื่อจินเป็นนักวิจัยอันดับหนึ่งของโปรเจ็กต์ทดลองนี้ เป็นภารกิจหลัก

ถ้าพวกคนของเมืองแห่งโลกรู้ มีเหรอจะปล่อยเธอไว้

นักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยล้วนสติเฟื่อง รวมถึงมานูเอลด้วย ล้วนกระหายเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้น

มือข้างหนึ่งของอิ๋งจื่อจินวางอยู่บนประตู ไม่ได้คิดจะให้คนของมานูเอลเข้าไป หลุบตาลง “ดินแดนแห่งอารยธรรมขั้นสูงของมนุษย์เหรอ”

“คุณอิ๋งไม่เคยได้ยินก็ไม่แปลกหรอกครับ” ผู้ช่วยยิ้มเล็กน้อย “เพราะความลับนี้ คนที่มีคุณสมบัติไม่ถึงก็ไม่มีทางได้รู้ ส่วนศาสตราจารย์โชคดีที่ได้รู้ครับ”

“คิดๆ ดูศาสตราจารย์เกอร์เวนคงไม่เคยพูดถึงให้คุณอิ๋งฟังใช่ไหมครับ”

สายตาของอิ๋งจื่อจินเรียบเฉย สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ จะปิดประตูใส่

“คุณอิ๋ง!” ผู้ช่วยสีหน้าเปลี่ยน

เขาเอามือข้างหนึ่งดันไว้ มืออีกข้างจะจับบ่าของอิ๋งจื่อจิน

แต่มือของผู้ช่วยยังไม่ทันจะได้แตะถูกเสื้อผ้าของเธอก็ถูกล็อกไว้กลางอากาศ

มีแรงมหาศาลจับมือเขาไว้

เป๊าะ

เสียงนั้นดังอย่างชัดเจนท่ามกลางความเงียบ

เป็นเสียงกระดูกหัก

ผู้ช่วยทนไม่ไหว ร้องเสียงดัง เหงื่อผุดเต็มหน้าผาก

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ แผ่ซ่านแรงกดดัน

ฟู่อวิ๋นเซินก้มมองพลางยิ้ม “จะใช้มือทำอะไร ไม่อยากมีอยู่แล้วเหรอ”

น้ำเสียงของเขายังคงอ่อนโยน แต่กลับชวนให้รู้สึกถึงอันตรายอย่างบอกไม่ถูก

ผู้ช่วยถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าหวาดกลัว “คุณ คุณ…”

“จะไปเมืองแห่งโลกได้หรือเปล่าไม่ขอรบกวนคุณดีกว่า” ฟู่อวิ๋นเซินหันไป มือข้างหนึ่งกดโทรหาพนักงานเคาน์เตอร์ของโรงแรม “เอาคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากที่นี่”

พอพนักงานรับสายก็ลนลานอย่างเห็นได้ชัด รีบให้ยามขึ้นมาทันที

“คุณรู้หรือเปล่าว่าเมืองแห่งโลกคืออะไร” ผู้ช่วยข่มความโกรธ “ก่อนที่ผมจะพูดให้พวกคุณฟัง พวกคุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย!”

เทคโนโลยีและความร่ำรวยของเมืองแห่งโลกไม่ใช่สิ่งที่เจ็ดทวีปสี่มหาสมุทรจะเทียบได้

ผู้ช่วยแสยะยิ้ม “เชิญคุณอิ๋งช่วยเกอร์เวนให้เต็มที่เลยครับ เมืองแห่งโลกไม่มีทางยอมให้ยานอวกาศข้ามจักรวาลถูกคิดค้นขึ้นมาได้สำเร็จแน่”

“คุณช่วยเขา มีแต่จะทำให้ชีวิตของคุณไม่ปลอดภัย!”

สายตาของฟู่อวิ๋นเซินเย็นชาอาฆาตในทันที

ผู้ช่วยอ้าปาก ยังไม่ทันจะได้พูดต่อก็ถูกยามมาลากตัวออกไปแล้ว

ฟู่อวิ๋นเซินปิดประตู ดอกตาดอกท้อขรึมลง “เยาเยา เธอไปเมืองแห่งโลกก็อันตรายมาก”

เมืองแห่งโลกแยกจากเจ็ดทวีปสี่มหาสมุทรอย่างสิ้นเชิง ข่าวคราวของทั้งสองฝั่งก็ไม่ได้เชื่อมต่อถึงกัน

ไม่เหมือนอยู่โลกจอมยุทธ์ อย่างน้อยก็ใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตร่วมกับโลกปุถุชน

ต่อให้พวกเขาโด่งดังมากในเจ็ดทวีปสี่มหาสมุทร แต่พอเข้าไปในเมืองแห่งโลกก็ไม่มีใครรู้จักพวกเขา

“สู้คุณไม่ได้หรอก” อิ๋งจื่อจินหาวหวอด พูดอย่างสบายๆ “พวกคนที่ไล่ฆ่าคุณป้าตอนนั้นยังอยู่ในที่ลับ ดูจากข้อมูลของซีนาย ตระกูลอวี้ไม่มีทางสงบราบเรียบแน่”

ในฐานะที่เป็นผู้มีอิทธิพลด้านกองกำลังในบรรดาสองอิทธิพลใหญ่ของเมืองแห่งโลก ในตระกูลอวี้มีแต่จะอันตรายยิ่งกว่าโลกจอมยุทธ์

“พี่ชายไม่ไปตระกูลอวี้” ฟู่อวิ๋นเซินโอบเธอ จับศีรษะเธอให้ซบอกของเขา พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำเย็นชา “เมืองแห่งโลกไม่มีอะไรให้พี่ชายต้องอาลัยอาวรณ์ พี่ชายล้างแค้นเสร็จก็จะกลับฮู่เฉิง พวกเราเปิดร้านน้ำชากันดีไหม”

มือของอิ๋งจื่อจินหยุดชะงัก กอดเอวที่บางแต่แข็งแรงของเขาไว้แน่น “ได้ เลี้ยงแมวสักสองสามตัวด้วยนะ”

“หืม?” ฟู่อวิ๋นเซินปล่อยเธอ งอนิ้วดีดหน้าผากเธอหนึ่งที ยิ้มมุมปาก “แมวที่ดื้อเหมือนกับเธอน่ะเหรอ”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา กอดหมอนอิงแล้วกลับไปที่โซฟา ดูทีวีต่อ

ไม่นานอาหารเย็นก็เสร็จ

กลิ่นหอมเผ็ดโชยกรุ่น ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย มีครบทั้งกลิ่น สี และรส

ทั้งสองคนนั่งที่โต๊ะกินข้าว

“พูดถึงสำนักผู้วิเศษ ฉันนึกถึงเรื่องหนึ่ง” อิ๋งจื่อจินเอามือเท้าคาง เลิกคิ้ว “ผู้บัญชาการมีอยู่ฉายาหนึ่ง เดวิล”

ไพ่ทาโรต์เป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยมาก

เดวิล หมายเลขสิบห้า

เป็นไพ่ใบที่สิบหกในสำรับใหญ่ยี่สิบสองใบ

ซึ่งก็หมายความว่า ในบรรดาผู้วิเศษยี่สิบสองคนจะต้องมีผู้วิเศษเดวิลอยู่ด้วย

“หืม?” ฟู่อวิ๋นเซินอึ้งเล็กน้อย ทันใดนั้นก็หัวเราะ พูดเสียงเนือย “พี่ชายไม่ได้เป็นคนตั้งนะ เป็นเพราะคนตะวันตกมองว่าเดวิลร้ายกาจและอันตรายต่างหาก”

“หลังจากที่พี่ชายฆ่าเป้าหมายที่เป็นภารกิจอันดับหนึ่งก็ถูกตั้งฉายาแบบนั้น”

อิ๋งจื่อจินนวดหัว “คนที่ถูกเรียกว่าเดวิลมีเยอะมาก”

แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นผู้วิเศษ

ฟู่อวิ๋นเซินวางจานลง เงยหน้าขึ้น “เยาเยา เรียกเด็กคนนั้นมาสิ”

“เด็กเหรอ” อิ๋งจื่อจินพูด “เธอบอกว่าตัวเองโตกว่าคุณอีกนะ”

“พี่ชายเป็นสามีที่ว่าตามภรรยา ตามเธอ กดเด็กคนนั้นไว้สองสามรุ่น”

“…”

พอซีนายได้รับสายก็ใส่รองเท้าแตะวิ่งมาจากห้องข้างๆ

เธอขยี้ตา นั่งลงที่โต๊ะกินข้าว

บรรยากาศของทั้งสามคนเป็นไปอย่างเงียบสงบ คล้ายพ่อแม่ลูก

อิ๋งจื่อจินจับตะเกียบ สุดท้ายก็ถามขึ้น “เธอมีข้อมูลอย่างอื่นของผู้วิเศษเดวิลอีกไหม”

“แค่กๆๆ!” ซีนายสำลัก รู้สึกตะลึง “ผู้วิเศษเดวิลเหรอ ทำไมอยู่ๆ พวกเธอก็นึกถึงผู้วิเศษคนนี้ล่ะ”

ท่าทางของอิ๋งจื่อจินสบายๆ “แค่ลองถามดู”

“ผู้วิเศษเดวิลลึกลับที่สุดในบรรดาผู้วิเศษทั้งยี่สิบสองคนแล้ว” ซีนายขมวดคิ้ว “ข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้วิเศษคนนี้ ล่าสุดก็เป็นเรื่องเมื่อสามร้อยปีก่อนแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะผู้วิเศษเป็นอมตะ ฉันคงสงสัยว่าผู้วิเศษคนนี้ตายไปแล้วด้วยซ้ำ”

“แล้วจะแน่ใจได้ไงว่ายังอยู่”

“ด้านนอกสำนักผู้วิเศษมีอัญมณียี่สิบสองชิ้น ถ้าผู้วิเศษคนไหนไม่อยู่แล้ว อัญมณีที่เป็นตัวแทนก็จะแตกสลาย”

สำนักผู้วิเศษใช้วิธีนี้เพื่อบอกว่าเมืองแห่งโลกมีผู้วิเศษทั้งสิบสองคนปกป้องอยู่ ชาวเมืองวางใจได้

“อีกอย่าง ฉันเคยอ่านบันทึก ผู้วิเศษคนนี้ไม่ใช่คนดีอะไร” ซีนายพูดเสียงเบา “อาจถูกผู้วิเศษคนอื่นร่วมมือกันจับขังไว้ก็ได้ เรื่องของผู้วิเศษ คนธรรมดาอย่างพวกเราไม่มีสิทธิ์ได้รู้หรอก”

ฟู่อวิ๋นเซินฟังอยู่

สมองปรากฏภาพความทรงจำแวบผ่าน

มือของเขาชะงัก ดวงตาหลุบลง กินข้าวต่อ

ด้านนอก

ผู้ช่วยขึ้นเครื่องบินแล้วยังคงหวาดกลัวไม่หาย “ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”

“จากการเทียบด้วยรูป เขาเป็นประธานโซนเอเชียแปซิฟิกของวีนัสกรุ๊ปครับ” เจ้าหน้าที่เทคนิคมือสั่น “อีกทั้งยังเป็นคุณชายเจ็ดของตระกูลฟู่ในฮู่เฉิงประเทศจีน โด่งดังมากในเมืองจีน ได้รับเลือกให้เป็นเทพบุตรขวัญใจอันดับหนึ่งครับ”

ผู้ช่วยมองข้ามเรื่องความโด่งดัง ขมวดคิ้ว “เป็นแค่ประธานโซนเอเชียแปซิฟิกเหรอ”

“ครับ” เจ้าหน้าที่เทคนิคค้นต่อ “แต่ช่วงนี้ดูเหมือนวีนัสกรุ๊ปจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ท่าทางจะเป็นการโยกย้ายตำแหน่ง มีข่าวหลุดมาว่าทางสำนักงานใหญ่จะยกโซนเอเชียแปซิฟิกให้โยเซฟครับ”

โยเซฟก็คือประธานโซนยุโรป

ผู้ช่วยพยักหน้า

ตำแหน่งประธานโซนเอเชียแปซิฟิกแบบนี้ทางสำนักงานใหญ่เปลี่ยนได้ตามใจชอบ ถึงขั้นที่ไม่มั่นคงเท่าพวกพนักงานระดับกลางถึงล่างด้วยซ้ำ

ก็แค่นักธุรกิจ งั้นก็ไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ

ผู้ช่วยครุ่นคิดแล้วส่งข้อความหามานูเอล

[อิ๋งจื่อจินปฏิเสธครับศาสตราจารย์ ทำตามแผนบีได้เลยครับ]

อีกด้านหนึ่ง

เมืองฮู่เฉิง ประเทศจีน

คฤหาสน์ตระกูลฟู่

ฟู่อี้หันกลับจากบริษัท

เขาถอดเสื้อคลุมยื่นให้พ่อบ้าน จากนั้นก็ไปนั่งพักสายตาที่โซฟา

ปีครึ่งก่อนหน้านี้ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในฮู่เฉิง ทำให้สมาชิกในตระกูลฟู่ร่อยหรอไปเยอะมาก แต่ฟู่ซื่อกรุ๊ปกลับรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ

ฟู่อี้หันเป็นลูกชายคนโตสายตรงของตระกูลฟู่ แต่เขาไม่ได้คิดจะแต่งงานอีก

ออดประตูดังขึ้นในเวลานี้

ฟู่อี้หันลืมตา สีหน้าฉายแววสงสัยเล็กน้อย

แขกของเขามีเยอะมาก แต่คนที่จะมาเยี่ยมถึงบ้านตระกูลฟู่กลับมีไม่เยอะ

ฟู่อี้หันเดินไปเปิดประตูแล้วพูดอย่างสุภาพ “ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ”

พอเห็นใบหน้าคนที่มาอย่างชัดเจนสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

ชั่วขณะนั้นฟู่อี้หันราวกับเห็นฟู่อวิ๋นเซินในอีกยี่สิบปีให้หลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา

ชายวัยกลางคนมีสีหน้าคมเข้ม แววตาคมปลาบ

คล้ายมีดที่ถูกลับจนแหลมคมพร้อมที่จะถูกใช้งาน

รังสีกดดันแผ่ซ่าน

ต่อให้เป็นฟู่อี้หันที่คุมฟู่ซื่อกรุ๊ปมานานขนาดนี้ก็ยังต้านทานความน่ายำเกรงไว้ไม่อยู่

เขาขมวดคิ้ว ความคิดเหลือเชื่อปรากฏขึ้นในหัวสมอง “คุณ…”

แต่มือกลับเร็วกว่าความคิดของเขา

ฟู่อี้หันกำมือแน่น ชกเข้าไปที่หน้าชายวัยกลางคน

ใช้แรงเยอะมาก ทำเลือดไหลออกจากมุมปากของอวี้เซ่าอวิ๋น

เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่มีใครตั้งตัว

รวมถึงตัวอวี้เซ่าอวิ๋นเอง

อัศวินที่ยอดเยี่ยมของตระกูลอวี้ ต่อให้เป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์ก็ทำเขาบาดเจ็บไม่ได้

ตระกูลอวี้แสดงถึงอำนาจการต่อสู้ที่เด็ดขาด และก็เพราะพวกเขามีสายเลือดพิเศษ มีหลายอย่างที่เหนือกว่าชาวเมืองแห่งโลกทั่วไป เช่น ความเร็ว พลัง เป็นต้น

คนคุ้มกันที่อยู่ข้างๆ โมโหมาก ชักดาบออกจากฝัก จ่อคอของฟู่อี้หัน “บังอาจ!”

เป็นคนธรรมดากล้าไม่เคารพหัวหน้าตระกูลอวี้เชียวเหรอ!

เซ่าอวิ๋นยกมือขึ้นทันที ห้ามคนคุ้มกันไว้ พูดด้วยเสียงเย็นชา “ถอยไป”

หัวหน้าคนคุ้มกันกำมือแน่น สุดท้ายก็เก็บดาบอย่างไม่ยินยอมเท่าไร ถอยกลับไป

เซ่าอวิ๋นเช็ดเลือดที่มุมปาก “คุณฟู่ครับ ขอเข้าไปคุยด้วยหน่อยได้ไหมครับ”

ฟู่อี้หันจ้องเขาอยู่หลายวินาที สุดท้ายก็ยอมให้เข้าไป

เซ่าอวิ๋นอึกอักเล็กน้อย “คุณฟู่ครับ ผมอยากถามว่าคุณชายเจ็ดเขา…อยู่ที่ไหนเหรอครับ”

ที่จริงไม่ต้องให้เซ่าอวิ๋นพูด ฟู่อี้หันแค่ดูจากลักษณะภายนอกก็เดาได้แล้วว่าคนคนนี้เป็นใคร

คราวนี้เขาแน่ใจยิ่งกว่าเดิม

ฟู่อี้หันกำมือแน่น “คุณคือผู้ชายคนนั้น”

ทอดทิ้งฟู่หลิวอิ๋ง ปล่อยให้เธอกลับมาคลอดลูกที่ฮู่เฉิงคนเดียว

แววตาของเซ่าอวิ๋นวูบไหวเล็กน้อย “ขอโทษครับ ผมเพิ่งได้รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผม…”

“ไม่ คุณไม่รู้” ฟู่อี้หันสูดลมหายใจเข้าลึก แสยะยิ้ม “คุณไม่รู้หรอกว่าพอเขาเกิดมาก็ไม่มีพ่อ และคุณก็ไม่รู้หรอกว่าตอนเขาอายุสองขวบต้องเจอกับอะไร ยิ่งไปกว่านั้นคุณไม่เคยรู้เลยว่าเขามีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ได้ยังไง!”

เรื่องบางอย่าง แม้แต่ฟู่อี้หันก็เพิ่งมารู้ตอนหลัง

เขาถูกผู้เฒ่าฟู่เลี้ยงดูมาอย่างว่าที่ผู้สืบทอดฟู่ซื่อกรุ๊ปมาตลอด ตระกูลฟู่ก็เข้มงวดกับเขามาก

แต่ต่อให้เป็นตอนเขาอายุสิบขวบ อย่างมากก็แค่เรียนเยอะหน่อย ไม่เคยต้องเสี่ยงอันตราย

แต่ฟู่อวิ๋นเซินล่ะ

แต่เล็กจนโตเดินอยู่บนคมหอกคมดาบมาตลอด

ไม่เคยมีสักวันที่จะได้อยู่อย่างสงบสุข

หัวใจของเซ่าอวิ๋นหดเกร็ง เจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทง “ขอโทษครับ ผม…หมดสติไปสามปี ถ้า…”

แต่น่าเสียดายที่ย้อนเวลาไม่ได้

แววตาของฟู่อี้หันขรึมลง “คุณเป็นใครกันแน่”

นั่นฟู่หลิวอิ๋งเชียวนะ

หนึ่งในสองหญิงงามแห่งฮู่เฉิง

ฉลาดเพียบพร้อม มีแต่คนอยากสู่ขอ ขนาดไฮโซเมืองตี้ตูก็ยังมาทาบทามถึงที่

แต่สุดท้ายกลับมีจุดจบแบบนั้น

เซ่าอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เล่าเรื่องทั้งหมดในเมืองแห่งโลกให้ฟัง

ฟู่อี้หันกำมือแน่นกว่าเดิม “ในสายตาของพวกคุณ พวกเราเป็นแกะที่เชือดได้ตามใจชอบงั้นเหรอ”

เขาไม่พูดอะไรอีก “คุณไปเถอะ”

เซ่าอวิ๋นแขนสั่น “คุณฟู่”

“จบแค่ตรงนี้” ฟู่อี้หันถอยหลังหนึ่งก้าว “ผมเองก็ไม่ได้โกหกคุณ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าอวิ๋นเซินอยู่ที่ไหน”

ฟู่อวิ๋นเซินสร้างภาพลักษณ์ให้คนในฮู่เฉิงทั้งหมดเข้าใจว่าเป็นคุณชายเสเพล แต่กลับแอบพัฒนาอิทธิพลของตัวเองอย่างเงียบๆ

ตราบใดที่เขาไม่ยินยอมก็ไม่มีใครหาตัวเขาเจอ

แน่นอนว่าด้วยความคิดที่เห็นแก่ตัว ฟู่อี้หันก็ไม่อยากให้เซ่าอวิ๋นไปรบกวนฟู่อวิ๋นเซิน

หลังจากผู้เฒ่าฟู่เสีย อิ๋งจื่อจินก็ฉุดฟู่อวิ๋นเซินขึ้นมาได้

เขาไม่อยากเห็นฟู่อวิ๋นเซินกลับไปจมดิ่งอีก

เซ่าอวิ๋นพูดเสียงเบา “ครับ ขอบคุณคุณฟู่มากครับ ผมจะไปตามหาต่อ”

เขายกมือเพื่อบอกให้คนคุ้มกันวางกล่องที่นำมาด้วยไว้บนพื้น “นี่เป็นของขวัญ ผม…”

“ไม่จำเป็น” ฟู่อี้หันพูดขัดจังหวะ น้ำเสียงเย็นชายิ่งกว่าเดิม “คุณอาเสียไปตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีก่อน คุณปู่กับคุณย่าก็ตายไปหมดแล้ว”

“ตระกูลฟู่เป็นครอบครัวคนธรรมดา ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลอวี้ของพวกคุณ”

เซ่าอวิ๋นสีหน้าเปลี่ยน ซีดเหมือนกระดาษ แทบหายใจไม่ทั่วท้อง

หัวใจเจ็บปวดเป็นระลอก คล้ายถูกไฟแผดเผา

เซ่าอวิ๋นลุกขึ้นเงียบๆ

ในขณะเดียวกันเขาก็ครุ่นคิด

คนพวกนั้นที่ฟู่อี้หันเล่าเป็นใครกันแน่

คนที่คุณนายผู้เฒ่าอวี้ส่งมาเหรอ

ประตูคฤหาสน์ถูกเปิดออกอีกครั้ง

บนสิ่งปลูกสร้างที่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตร

เรย์กดไมโครโฟนที่หู ดวงตาฉายแววอาฆาต ขยับมือ

ฟึ่บ!

ใบมีดขนาดเท่านิ้วก้อยได้พุ่งออกจากมือด้วยความเร็วสูงสุดทะลวงอากาศ ตรงเข้าหาขมับของฟู่อี้หัน

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset