ตอนที่ 670 สงครามปะทะ ฆ่าเซี่ยเนี่ยน!
“!”
นายใหญ่เซี่ยที่อยู่บนอัฒจันทร์ผู้ชมก็ยืนขึ้น
ท่าทางตกใจมาก เกือบตกอัฒจันทร์
นายใหญ่เซี่ยเบิกตาโพลง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
จอมยุทธ์!
มีแค่จอมยุทธ์ที่สามารถใช้กำลังภายในทำให้ยืนกลางอากาศได้ อีกทั้งยังต้องเป็นจอมยุทธ์ที่วรยุทธ์ห้าสิบปีขึ้นไปด้วย!
นี่มันเป็นไปได้ยังไง!
อิ๋งจื่อจินเป็นแพทย์แผนโบราณไม่ใช่เหรอ
นายใหญ่เซี่ยสีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก กัดฟันพูด “แย่แล้ว ถูกตบตา!”
ถ้าไม่ติดว่าพวกเขาคิดว่าอิ๋งจื่อจินเป็นเพียงแพทย์แผนโบราณที่ต่อสู้ไม่เป็นแม้แต่น้อย มีเหรอที่เซี่ยเนี่ยนจะเซ็นสัญญาต่อสู้เสี่ยงตาย
คนอื่นๆ ก็ตกใจมากเช่นกัน ยกเว้นคณะผู้อาวุโสของศาลสถิตยุติธรรมกับพวกหลิงฉงโหลว
“คุณจื่อจินเป็นทั้งจอมยุทธ์ทั้งแพทย์แผนโบราณเลยเหรอ!”
“เป็นทั้งจอมยุทธ์ทั้งแพทย์แผนโบราณ ไม่รู้ว่าระหว่างเธอกับคุณชิงจยาใครเก่งกว่ากัน”
“เฮ้อ ขนาดคุณชิงจยายังไม่กล้าท้าสู้เสี่ยงตายกับเซี่ยเนี่ยนเลย เอาแค่จุดนี้ฉันว่าวรยุทธ์ของคุณจื่อจินสูงกว่า”
หลินจิ่นอวิ๋นย่อมได้ยินคำพูดพวกนี้ สีหน้าค่อยๆ บึ้งลง
แต่ไหนแต่ไรมาหลินชิงจยามีชื่อเสียงเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งที่เป็นทั้งจอมยุทธ์และแพทย์แผนโบราณ
ตอนนี้ชื่อเสียงนี้กลับถูกแย่งไปหน้าตาเฉย
“พวกเขาพูดถูกค่ะ” หลินชิงจยาไม่สนใจ กลับเกิดความสนใจด้วยซ้ำ “วรยุทธ์ของเธอเหนือกว่าลูก”
พ่อบ้านหลินยิ้ม “เหนือกว่าแล้วจะมีประโยชน์อะไรครับ เธอไม่กล้าฆ่าเซี่ยเนี่ยนแน่นอน ไม่อย่างนั้นคนที่เกี่ยวข้องกับเธอจะต้องตายกันหมด ใครจะกล้ากระตุกหนวดเซี่ยฮ่วนหราน”
คดีนองเลือดของตระกูลหลิ่วจวบจนทุกวันนี้ก็ยังคงสดใหม่
สีหน้าของหลินจิ่นอวิ๋นถึงได้ดีขึ้นมาก
ถูกต้อง
ไม่ว่าวันนี้ผลการต่อสู้เสี่ยงตายจะเป็นอย่างไร อิ๋งจื่อจินไม่มีทางลงเอยด้วยดี
บนเวทีประลอง
“อิ๋งจื่อจิน เก็บซ่อนเก่งจริงนะ!” สีหน้าของเซี่ยเนี่ยนค่อยๆ เย็นชาลง บึ้งตึงหาใดเปรียบ “นึกไม่ถึง นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเธอจะเป็นทั้งจอมยุทธ์ทั้งแพทย์แผนโบราณ เก่ง เก่งเหลือเกินนะ!”
ขณะพูดทันใดนั้นเธอก็หัวเราะออกมา “แต่เธอเป็นทั้งจอมยุทธ์ทั้งแพทย์แผนโบราณแล้วไงล่ะ วรยุทธ์ของเธอจะสูงไปกว่าฉันได้เหรอ”
เธอ เซี่ยเนี่ยนเป็นถึงอัจฉริยะอันดับหนึ่งในรุ่นหนุ่มสาวของโลกจอมยุทธ์เชียวนะ!
ต่อให้เป็นเย่ว์ฝูอีในตอนนี้ก็ยังต้องพ่ายแพ้ให้เธอ
เป็นทั้งจอมยุทธ์ทั้งแพทย์แผนโบราณ ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางเก่งไปกว่าเธอที่มุ่งฝึกเพียงอย่างเดียว
มีใครบ้างที่จะเก่งหลายอย่างพร้อมกัน
“ฉันจะพูดมากกับเธอไปทำไมกันนะ” เซี่ยเนี่ยนหัวเราะ “ยังจะบอกว่ามาฆ่าฉัน ควรเป็นฉันที่เก็บชีวิตเธอมากกว่า!”
ยังไม่ทันพูดจบเซี่ยเนี่ยนก็ก้าวเท้า รวบรวมกำลังภายในแล้วปล่อยโจมตี
วิธีการโจมตีของตระกูลเซี่ยโหดเหี้ยมมาแต่ไหนแต่ไร เซี่ยเนี่ยนเล็งไปที่ศีรษะของอิ๋งจื่อจิน
ทว่าไม่เพียงแต่จะไม่ถูกเป้าหมาย อิ๋งจื่อจินกลับหลบได้อย่างสบายๆ ด้วยซ้ำ
พลั่ก!
เซี่ยเนี่ยนถูกถีบเข้าที่ท้อง ร่างกระเด็นออกไป
“เนี่ยนเนี่ยน!” นายใหญ่เซี่ยตกใจ “เนี่ยนเนี่ยน ใช้ท่าไม้ตายเลย รีบฆ่าให้จบๆ ไป!”
ไม่รู้ทำไม เขาชักสังหรณ์ใจไม่ค่อยดี
คล้ายกับกำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
ลูกถีบนี้ไม่ได้ทำให้เซี่ยเนี่ยนบาดเจ็บมากนัก แต่ทำให้เธอขายหน้าอย่างสิ้นเชิง
เซี่ยเนี่ยนประคองตัวให้มั่นคง สีหน้าขรึมลง “อิ๋งจื่อจิน แกตายแน่!”
เธอโจมตีอีกครั้งด้วยความรุนแรงและโหดเหี้ยม
แต่ทุกครั้งก็ไม่โดนแม้แต่ชายเสื้อของอิ๋งจื่อจิน
เซี่ยเนี่ยนทำตัวเหิมเกริมมาจนชิน หลายเรื่องไม่มีทางคิดให้ดีก่อน
เธอไม่ได้คำนึงเลยว่าอิ๋งจื่อจินแค่แกล้งยั่วโมโหเพื่อกัดกร่อนสภาพจิตใจของเธอทีละน้อย
เซี่ยเนี่ยนคิดเข้าข้างตัวเองว่าวรยุทธ์ของอิ๋งจื่อจินด้อยกว่า ไม่อย่างนั้นไม่มีทางไม่ยอมโจมตีโดยตรง เอาแต่หลบ
แต่เธอหมดความอดทนต่อการสู้กันแบบนี้
“อิ๋งจื่อจิน แกมันน่าหงุดหงิดนัก!” แววตาของเซี่ยเนี่ยนดุดัน “หลอกให้ฉันเซ็นสัญญาต่อสู้เสี่ยงตาย แผนสูงนักนะ! ทำไมตายยากตายเย็นแบบนี้”
“หลอกเหรอ” อิ๋งจื่อจินหลบการโจมตีของเซี่ยเนี่ยนได้อย่างสบายๆ “คิดมากแล้ว เธอไม่ได้สำคัญขนาดนั้น”
คำพูดนี้ทำให้เลือดในกายเซี่ยเนี่ยนพลุ่งพล่าน หายใจหอบแรง “ได้ ดีมาก ฉันจะทำให้แกเห็นว่าความอวดดีของแกมันนำพาอะไรมาให้!”
เซี่ยเนี่ยนถอยหลังหนึ่งก้าวท่ามกลางการจับจ้องของทุกสายตา
เธอล้วงยาเม็ดสีน้ำตาลออกมาจากแขนเสื้อแล้วใส่ปากกลืนลงคอ
ชั่วขณะนั้นที่ยาซึมเข้าร่างกาย คลื่นพลังบนตัวเซี่ยเนี่ยนก็รุนแรงขึ้น
ผิวทะเลสาบที่อยู่ด้านหลังเธอเกิดคลื่น มีเสียงดังหึ่งๆ
“แย่แล้ว!” เจียงหรานสีหน้าเปลี่ยน “ยัยผู้หญิงที่น่าขยะแขยงคนนี้ยังจะกินยาด้วยเหรอ!”
จอมยุทธ์คนอื่นๆ ก็ตกตะลึงกันมาก
“นั่นยาอะไรน่ะ”
“ได้ยินว่าก่อนเซี่ยฮ่วนหรานจะเก็บตัวฝึกได้ให้ยาเม็ดนั้นกับเซี่ยเนี่ยนไว้ มีกำลังภายในส่วนหนึ่งของเขา ทำให้วรยุทธ์ของเซี่ยเนี่ยนเพิ่มขึ้นได้หลายสิบปีในระยะเวลาสั้นๆ”
“แย่แล้วๆ คราวนี้อิ๋งจื่อจินจบสิ้นแล้ว น่าเสียดายที่เธอไม่มีคนหนุนหลัง จึ๊ๆ”
เซี่ยเนี่ยนแสยะยิ้ม “จบที่ตรงนี้แหละ”
คลื่นกำลังภายในอันหนักหน่วงสะเทือนผิวทะเลสาบอีกครั้ง
เกิดเกลียวคลื่นสูงสิบกว่าฟุตค่อยๆ ก่อตัวเป็นกำแพงน้ำขนาดมหึมา
มีเพียงกำลังภายในที่สำแดงภายนอกเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างของน้ำได้
หลินจิ่นอวิ๋นแทบหยุดหายใจ “วรยุทธ์ของเธอใกล้เคียงกับปรมาจารย์จอมยุทธ์แล้ว!”
ปรมาจารย์จอมยุทธ์เชียวนะ!
แล้วจะสู้ยังไง
อิ๋งจื่อจินเหลือบมองกำแพงน้ำขนาดมหึมา “มีแค่นี้เหรอ”
“อะไรคือมีแค่นี้” เซี่ยเนี่ยนยิ้มประชด “จะตายอยู่รอมร่อแล้วยังจะอวดดี ตายซะเถอะ!”
สองเท้าของเธอลอยเหนือพื้น พุ่งทะยานขึ้น
ชายเสื้อเสียดสีกับอากาศจนเกิดเสียงดัง
เซี่ยเนี่ยนที่อยู่กลางอากาศปล่อยมีดออกไปยี่สิบเล่ม ทอประกายคมปลาบ
แต่อิ๋งจื่อจินยังคงนิ่งไม่ไหวติง
“ใกล้เคียงกับปรมาจารย์จอมยุทธ์งั้นเหรอ” อิ๋งจื่อจินเงยหน้า ยิ้มเล็กน้อย “แต่น่าเสียดายที่เธอก็ยังไม่ใช่อยู่ดี”
เซี่ยเนี่ยนจุกที่ลำคออย่างไม่ทันตั้งตัว
มีมือบีบคอเธอไว้
กำลังภายในที่เธอปล่อยออกมาอย่างหนักหน่วงได้ถูกกดไว้ หายวับในชั่วพริบตาอย่างไร้ร่องรอย
การสู้กลับอย่างกะทันหันทำให้ผู้ชมทั้งหมดต่างนิ่งอึ้งไป
นายใหญ่เซี่ยดวงตาเบิกโพลง ร้องเสียงหลง “เนี่ยนเนี่ยน!”
ในเวลานี้เอง…
ฟึ่บ!
มีดบินยี่สิบเล่มนั้นหยุดค้างกลางอากาศทั้งหมด
ไม่ขยับเขยื้อนใดๆ แม้แต่น้อย
ทุกอย่างบ่งบอกชัดเจนแล้ว
กำลังภายในสำแดงภายนอก ปรมาจารย์จอมยุทธ์!
“!”
ตะลึงกันทั้งสนามประลอง
หลินจิ่นอวิ๋นแทบไม่อยากเชื่อ “เธอเป็นถึงปรมาจารย์จอมยุทธ์เลยเหรอ!”
ปรมาจารย์จอมยุทธ์เชียวนะ มีปรมาจารย์จอมยุทธ์อายุไม่ถึงยี่สิบที่ไหนกัน
ล้อเล่นอะไรน่ะ
ในที่สุดเซี่ยเนี่ยนก็เริ่มตื่นกลัว แต่ที่มากกว่าคือความรู้สึกเหลือเชื่อ “เธอเป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์ได้ยังไง!”
เมื่อก่อนอิ๋งจื่อจินใช้ชีวิตอยู่ในโลกปุถุชนมาตลอดไม่ใช่เหรอ
ใช่ว่าใครก็ขึ้นถึงระดับปรมาจารย์จอมยุทธ์ได้
เซี่ยเนี่ยนเริ่มดิ้น แต่ก็ดิ้นไม่หลุด
สองเท้าของเธอเริ่มลอยเหนือพื้น สูดอากาศได้เบาบางลง เธอกรีดร้อง “ปล่อยฉัน ปล่อยฉันนะ!”
นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยเนี่ยนรู้สึกกลัว
ตอนนี้เธอเชื่อสนิทแล้วว่าอิ๋งจื่อจินจะฆ่าเธอ
“ที่แท้เธอก็กลัวเป็นด้วย” อิ๋งจื่อจินบีบคอเซี่ยเนี่ยน เธอพูดเสียงเบามาก มีรอยยิ้ม “กลัวอะไรเหรอ”
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้เซี่ยเนี่ยนต้องส่งเสียงร้องออกมา
ดวงตาเบิกโพลง เริ่มมีเลือดหยดจากปากของเธอ “อิ๋ง…จื่อจิน…”
“เมื่อวานฉันบอกเหมียนซีว่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างทุกข์ทรมานต่อหน้าคนทั้งโลกจอมยุทธ์” อิ๋งจื่อจินมองเซี่ยเนี่ยน “บดขยี้ชื่อเสียงความมีพรสวรรค์ของเธอให้เละเทะ”
เธอพลิกมือ หว่างนิ้วมีเข็มเงินเจ็ดเล่ม
ฉึก!
ฉึกๆ!
เข็มเงินเจ็ดเล่มนี้ถูกปักเข้าไปในร่างกายเซี่ยเนี่ยนด้วยกำลังภายใน
“โอ๊ย!” เซี่ยเนี่ยนร้องเหมือนจะขาดใจตาย
ความเจ็บปวดในชั่วขณะทำให้รู้สึกเหมือนร่างกายจะระเบิดออก
แค่ฟังเสียงก็จินตนาการได้ว่าเธอทุกข์ทรมานขนาดไหน
“…”
เกิดความเงียบขึ้นริมทะเลสาบชิวเยี่ย แม้แต่คลื่นน้ำก็ยังหยุดนิ่ง
ทุกคนต่างตะลึงงัน
แม้แต่เจียงหรานที่รู้จักอิ๋งจื่อจินมานานก็ยังไม่ได้สติกลับมา
แต่ไหนแต่ไรอิ๋งจื่อจินเป็นคนไม่แสดงอารมณ์ มีความสามารถที่แข็งแกร่งและใจเย็นเกินคนวัยเดียวกัน
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่อิ๋งจื่อจินใช้วิธีป่าเถื่อนโหดเหี้ยมแบบนี้
สีหน้าของเธอไม่แสดงอารมณ์ใดๆ หยิบเข็มทองออกมาอีกสามเล่มแล้วปักเข้าที่จุดลมปราณสำคัญๆ ของเซี่ยเนี่ยน
“บ้าไปแล้ว!” หลินจิ่นอวิ๋นได้สติกลับมา แทบหยุดหายใจ “เธออยากฆ่าเซี่ยเนี่ยนจริงๆ!”
ตอนแรกสุดไม่มีใครคิดว่าคนชนะในการต่อสู้เสี่ยงตายครั้งนี้จะเป็นอิ๋งจื่อจิน
พวกเขาก็เลยมองว่าเป็นการต่อสู้ทั่วไป
แต่ตอนนี้กลับเหนือความคาดหมายอย่างสิ้นเชิง
ในที่สุดคนของตระกูลเซี่ยก็ตั้งสติได้ พากันตะโกนด้วยความโมโห
“กล้าเหรอ!”
“อิ๋งจื่อจิน หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“อิ๋งจื่อจิน อยากตายเหรอ!”
พอเห็นแบบนี้บรรดาผู้ใหญ่ในตระกูลเซี่ยก็โมโหมาก แยกเขี้ยวยิงฟัน ดวงตาแดงก่ำด้วยความอาฆาต
มีผู้อาวุโสหลายคนยืนขึ้น ใช้กำลังภายในจะเหาะไปยังลานประลองที่อยู่กลางทะเลสาบ
ผู้อาวุโสใหญ่ก็ลุกขึ้น “เซี่ยคงหมิง คิดจะทำอะไร นี่เป็นการต่อสู้เสี่ยงตายนะ!”
“ตระกูลเซี่ยของฉันเอาแต่ใจจนชินแล้ว เปลี่ยนกติกาหน่อยจะเป็นไรไป” เซี่ยคงหมิงแสยะยิ้ม “ทำไม ไม่ยอมเหรอ ไม่ยอมงั้นก็มาสู้กันสิ!”
“โลกจอมยุทธ์วัดกันที่หมัดของใครแข็งกว่ากัน!”
ผู้อาวุโสใหญ่หน้าบึ้ง “เซี่ยคงหมิง!”
บนอัฒจันทร์ผู้ชม พ่อบ้านหันไปมองหลินจิ่นอวิ๋นทันที “นายใหญ่ พวกเรายังไงดีครับ”
หลินจิ่นอวิ๋นตอบ “เรื่องของตระกูลเซี่ย เกี่ยวอะไรกับพวกเรา แค่ดูก็พอแล้ว”
ตระกูลหลินไม่มีทางแข็งข้อกับตระกูลเซี่ยเพื่อคนนอก มันจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาด
ต่อให้วันนี้เซี่ยเนี่ยนไม่ตาย แต่สภาพเธอก็สาหัสขนาดนี้แล้ว
อีกไม่กี่วันเซี่ยฮ่วนหรานออกมาจะต้องโกรธมากแน่นอน หลายคนจะต้องซวย
ทำไมตระกูลหลินจะต้องหาเรื่องใส่ตัวด้วย
ตระกูลเย่ว์คิดเหมือนกับตระกูลหลิน
เดิมทีตระกูลเย่ว์ก็ชอบอยู่เงียบๆ ไม่ร่วมต่อสู้แย่งชิง ยิ่งไม่มีทางเข้าไปยุ่ง
อีกทั้งยังมีแค่ศาลสถิตยุติธรรมที่ต่อสู้กับศัตรูเพียงลำพัง เดี๋ยวจะเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลิ่วเมื่อก่อนนี้
ตูม!
พลังฝ่ามือปะทะกันข้างเวทีประลอง
เซี่ยคงหมิงไม่เคลื่อนไปไหน แต่ผู้อาวุโสใหญ่กลับถอยหลังไปสิบกว่าก้าว
ผู้อาวุโสใหญ่เคยบาดเจ็บสาหัส ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซี่ยคงหมิง
เขาพูดด้วยความโมโห “เซี่ยคงหมิง แกกล้า!”
“ฮ่าๆๆ ฉันไม่สนหรอกว่าแกจะเป็นศาลสถิตยุติธรรมหรือเปล่า สมน้ำหน้าศาลสถิตยุติธรรมอย่างพวกแก ตระกูลเซี่ยให้พวกแกปกป้องโลกจอมยุทธ์หรือไง” เซี่ยคงหมิงแสยะยิ้มอีกครั้ง “สมควรแล้วที่พวกแกตายกันไปมากขนาดนั้น สมน้ำหน้า!”
แววตาของเซี่ยเนี่ยนเริ่มมีความหวัง “ปู่ทวดคงหมิง ช่วยด้วย…ช่วยหนูด้วย!”
“อิ๋งจื่อจิน วันนี้ถ้าแกกล้าฆ่าคุณหนูเนี่ยน ก็อย่าคิดรอดไปจากที่นี่เลย!” เซี่ยคงหมิงหันมา แววตาดุดัน “ดี แกไม่ปล่อยมือ งั้นฉันจะฆ่าแกเดี๋ยวนี้!”
เขาตะโกนพร้อมสะบัดแขนเสื้อเกิดลมสั่นสะเทือน
เขาใช้กำลังภายในเหาะไปห้าสิบเมตร เข้าไปที่เวทีประลอง
จอมยุทธ์ที่อยู่ในสนามประลองก็มีคนที่วรยุทธ์สูงกว่าเซี่ยคงหมิง
ผู้นำตระกูลของตระกูลหลินกับตระกูลเย่ว์ก็มากันหลายคน
แต่ไม่มีสักคนที่ลงมือ ต่างเลือกที่จะมองดูอยู่เฉยๆ
“อิ๋งจื่อจิน แกรอตายได้เลย” เซี่ยเนี่ยนทำสีหน้าได้ใจ อดทนต่อความเจ็บพลางพูดดูถูก “แกไม่มีใครหนุนหลังยังกล้ามาสู้กับฉัน คอยดูเถอะ ให้ความสำคัญกับหลิงเหมียนซีนักใช่ไหม”
“ฉันจะแย่งผู้ชายของหลิงเหมียนซีมา เอามาเย้ยต่อหน้า แล้วก็ตระกูลหลิง ก็ต้องถูกผู้นำตระกูลฉันทำลายเหมือนกัน…โอ๊ย!”
คำพูดสุดท้ายติดอยู่ในลำคอ แปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
ในมือของอิ๋งจื่อจินมีเข็มเงินยาวเจ็ดนิ้ว ครั้งนี้ปักเข้าที่ศีรษะของเซี่ยเนี่ยน
เกิดความเจ็บปวดที่ทุกข์ทรมานยิ่งกว่า เซี่ยเนี่ยนเจ็บจนลงไปนอนดิ้นบนพื้น ไม่มีแม้แต่แรงร้องตะโกน
ครั้งนี้เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด
“อยากตายจริงๆ สินะ!” เซี่ยคงหมิงโมโหมาก รวบรวมกำลังภายในมหาศาลไว้ที่มือ “วันนี้ถ้าไม่ฆ่าแกก็เสียแรงที่ฉันแซ่เซี่ย!”
ผู้อาวุโสใหญ่สีหน้าเปลี่ยน “เซี่ยคงหมิง!”
เซี่ยคงหมิงหัวเราะร่า “ฉันบอกแล้ว ในโลกจอมยุทธ์ไม่มีใครห้ามตระกูลเซี่ยได้! ไม่มีใครทั้งนั้น!”
เขายกฝ่ามือขึ้น เล็งไปตรงหัวใจของอิ๋งจื่อจิน หมายจะเอาให้ชีพจรหัวใจขาดสะบั้น
แต่ทันใดนั้นคลื่นพลังเย็นเฉียบได้ปกคลุมเซี่ยคงหมิง รวมถึงผู้อาวุโสตระกูลเซี่ยที่ตามเขามา
ฟึ่บ!
คลื่นกำลังภายในที่ไร้รูปร่างก่อตัวเป็นกำแพงโอบล้อมเวทีประลองที่อยู่กลางทะเลสาบ
วินาทีถัดมาก็เกิดเสียงตูม กำแพงกำลังภายในนี้สะท้อนเซี่ยคงหมิงให้กระเด็นกลับไป
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้น เจือไปด้วยรอยยิ้มที่ดูโหดเหี้ยมและไร้ความปรานี
“ฉันก็อยากรู้ว่าใครมันกล้า!”