คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 675 บังอาจรังแกอาจารย์ของเขา!

ตอนที่ 675 บังอาจรังแกอาจารย์ของเขา!

เฟิงซิวไม่ได้มีความทรงจำเกี่ยวกับเซี่ยฮ่วนหรานเท่าไร

ที่ฟันธงได้ว่าคลื่นกำลังภายในนี้เป็นของเซี่ยฮ่วนหรานก็เพราะเฟิงซิวเคยเห็นเซี่ยฮ่วนหรานต่อสู้กับคนอื่น

กำลังภายในของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็เหมือนกับลักษณะใบหน้าและรอยนิ้วมือ สามารถใช้กำลังภายในจำแนกลักษณะได้

แน่นอนว่าก็ต้องเป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงด้วยถึงจะทำได้

เฟิงซิวขึ้นมาที่บนภูเขาหิมะลูกนี้เมื่อหนึ่งร้อยห้าสิบปีก่อน จากนั้นก็เข้าสู่ห้วงหลับใหลไปยาวนาน

ตอนนั้นตระกูลเซี่ยยังไม่ใช่ตระกูลอันดับหนึ่งของโลกจอมยุทธ์

เซี่ยฮ่วนหรานก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร

คนรุ่นผู้นำตระกูลของโลกจอมยุทธ์มีรวมตัวกันบ้างเป็นครั้งคราว เซี่ยฮ่วนหรานเป็นคนที่ดูเงอะงะมากที่สุด เจอใครก็ต้องนอบน้อม

คนที่นิสัยแบบนี้ จิตใจไม่มีทางใฝ่สูงไปถึงขั้นไหน

เรื่องเดียวที่เฟิงซิวจำเกี่ยวกับเซี่ยฮ่วนหรานได้คือ ถือว่าเขาอายุยืนมาก

ด้วยเหตุนี้เขาจึงแปลกใจมากทีเดียว ทำไมผ่านมานานหลายปีขนาดนี้กลับเป็นเซี่ยฮ่วนหรานที่บรรลุขั้นนี้ได้ก่อนใคร

เฟิงซิวเป็นลูกศิษย์ที่อิ๋งจื่อจินสั่งสอนด้วยตัวเอง ย่อมไม่ใช่คนที่จอมยุทธ์คนอื่นที่แค่ฝึกตามคัมภีร์จะมาเทียบได้

หากว่ากันด้วยเรื่องจอมยุทธ์ที่ฝึกมาถูกต้องตรงตามสายมากที่สุดก็มีแค่เฟิงซิวคนเดียว

วิทยายุทธ์ท่าลับเฉพาะก็มีแค่เฟิงซิวที่ใช้เป็น

สีหน้าของชายชราบึ้งลง พูดพึมพำ “อาจารย์…”

นับตั้งแต่เขาบรรลุเป็นปรมาจารย์จอมยุทธ์ เขาก็ไม่เคยเจออาจารย์อีกเลย

ก่อนที่จะเข้าสู่ห้วงหลับลึก เขาเคยออกจากโลกจอมยุทธ์ไปยุโรป และก็เคยไปประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก็ไม่เคยเจออาจารย์ของเขา

ตอนนี้ผ่านไปแล้วอีกหนึ่งร้อยห้าสิบปี อายุขัยของเขาก็ใกล้ถึงขีดจำกัดของมนุษย์เต็มที เกรงว่าชีวิตนี้คงไม่มีโอกาสได้เจออาจารย์อีกแล้ว

เฟิงซิวยืนขึ้น ถอนหายใจเบาๆ “ช่างเถอะ ไปดูในโลกจอมยุทธ์หน่อยแล้วกัน”

เขาไม่ได้ลงจากเขา แต่เหาะจากยอดเขาออกไป

ไม่นานเฟิงซิวก็หายไปท่ามกลางชั้นเมฆที่เต็มไปด้วยหิมะ

อีกด้านหนึ่ง

“ตูม!”

ฝ่ามือปะทะกัน เกิดเสียงระเบิดกลางอากาศดังต่อเนื่อง

เฉิงหย่วนถอยหลังไปหลายสิบก้าว ระหว่างนั้นมีต้นไม้ใหญ่ถูกกระแทกหักสองต้น

เขาล้มลงบนพื้น ร่างกายสั่นเทา จากนั้นก็กระอักเลือดออกมา

เซี่ยฮ่วนหรานเก็บฝ่ามือ พูดด้วยความอวดดี “เฉิงหย่วน ฉันบอกแล้วว่าแกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉัน ฉันยังไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดแกก็เจ็บหนักแล้ว”

“ไหนลองว่ามาซิ แกจะสู้กับฉันยังไง”

เฉิงหย่วนกระอักเลือดอีกครั้ง สายตาเย็นชา “เซี่ยฮ่วนหราน อย่าทำเป็นอวดดี แกจำคำพูดนี้ไว้ให้ดี เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน”

แต่ในใจของเขาก็ร้อนรุ่มมากเช่นกัน

เขาจนมุมแบบนี้ แล้วอิ๋งจื่อจินกับฟู่อวิ๋นเซินจะทำยังไง

อายุของทั้งสองคนรวมกันยังไม่ถึงหนึ่งในสี่ของเซี่ยฮ่วนหรานด้วยซ้ำ

“หึ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคนอะไรกัน ฉันก็คืออันดับหนึ่งของโลกจอมยุทธ์!” เซี่ยฮ่วนหรานแสยะยิ้ม “อ้อ แกหมายถึงเฟิงซิวสินะ ฉันจะบอกแกให้ เฟิงซิวตายไปแล้ว ถ้าเขายังไม่ตาย มีเหรอจะไม่ออกมานานขนาดนี้”

แววตาของเฉิงหย่วนแข็งกร้าว แต่กลับต้องยอมรับว่า อาจารย์ของเขาอาจไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

“อิ๋งจื่อจิน ฉันล่ะชื่นชมแกจริงๆ แกอายุไม่ถึงยี่สิบปีก็มีวรยุทธ์ร้อยห้าสิบปีแล้ว” เซี่ยฮ่วนหรานหันหน้ามา “อัจฉริยะ อัจฉริยะจริงๆ ถ้าแกมาเกิดในตระกูลเซี่ย ฉันจะทุ่มเทอบรมสั่งสอนแกอย่างสุดกำลังแน่นอน”

“น่าเสียดายนะน่าเสียดาย วันนี้ฉันต้องฆ่าแกให้ได้!”

เขายกมือขึ้น เล็งไปที่ตำแหน่งหัวใจของอิ๋งจื่อจิน

“ตูม!”

เฉิงหย่วนเบิกตาโพลง

ฝ่ามือนี้ของเซี่ยฮ่วนหรานถูกฟู่อวิ๋นเซินรับไว้!

แต่วรยุทธ์ของทั้งสองคนก็ต่างกันมากจริงๆ

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินวูบไหว กลิ่นคาวเลือดจุกอยู่ที่ลำคอ ถูกเขากลืนกลับไป

“ใช้ได้นี่!” เซี่ยฮ่วนหรานตะลึง “กำลังภายในบริสุทธิ์ได้ขนาดนี้!”

แม้เขาจะฝึกมาได้ถึงขั้นนี้แล้ว แต่กำลังภายในก็ยังคงไม่บริสุทธิ์

แค่เสียสมาธินิดหน่อยก็ไม่มีทางทำได้

นี่ก็คืออัจฉริยะจอมยุทธ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน!

ดวงตาของเซี่ยฮ่วนหรานเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น

ไม่เพียงแต่เขาต้องฆ่าอิ๋งจื่อจิน ยังต้องจัดการฟู่อวิ๋นเซินด้วย

อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไร แววตาเคร่งขรึมและเย็นชา ไม่มีตัวสั่นเพราะความกลัว

เธอยกฝ่ามือขึ้น ทิ่มเข็มทองสามเล่มกับเข็มเงินเจ็ดเล่มเข้าไปตรงข้อมือตัวเอง

เข็มทั้งสิบเล่มนี้จมเข้าไปในร่างกายของเธอ ผนึกลมปราณและชีพจร

คลื่นพลังในตัวอิ๋งจื่อจินได้พุ่งสูงขึ้นในเวลานี้ เพิ่มขึ้นทีละนิด

เธอค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออก ยืนขึ้นช้าๆ ปล่อยกำลังภายในออกไป

“ครืน!”

ทันใดนั้นชั้นเมฆสีครามที่อยู่เหนือศีรษะก็ลอยมากระจุกตัวที่อิ๋งจื่อจิน

เกิดเสียงลมพัดกระหน่ำในชั่วพริบตา

เฉิงหย่วนสีหน้าเปลี่ยน “มะ มันคือ…”

นี่มันพลังอะไรกัน!

สามารถสั่งลมกับเมฆที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติแบบนี้ได้ด้วยเหรอ

เฉิงหย่วนสัมผัสได้ว่า ไม่ใช่เพราะวรยุทธ์ของอิ๋งจื่อจินล้ำเกินเขา แต่เป็นเพราะวิชานี้ได้ระเบิดพลังที่แม้แต่เขาก็ไม่มี

วิชาลับจอมยุทธ์ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน

สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินเปลี่ยนในชั่วขณะ น้ำเสียงเย็นชาจนน่ากลัว “อิ๋งจื่อจิน!”

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตะโกนเรียกชื่อเต็มๆ ของเธอ

เฉิงหย่วนไม่รู้ แต่ฟู่อวิ๋นเซินรู้ดี

อิ๋งจื่อจินคือคนที่ตายแล้วได้กลับมาเกิดใหม่

เธอเป็นอาจารย์ของฝูซีแพทย์แผนโบราณอันดับหนึ่ง ตี้อู่เซ่าเสียนนักพยากรณ์อันดับหนึ่ง และเฟิงซิวจอมยุทธ์อันดับหนึ่ง ฝีมือของเธอย่อมไม่ธรรมดา ถึงขั้นเทียบเคียงได้กับเทพ

เธอเป็นคนริเริ่มการรักษาแผนโบราณ พวกวิทยายุทธ์ก็เธอสร้างขึ้นมา

แต่เนื่องจากตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้ตัวเธอไม่หลงเหลือวรยุทธ์แล้ว

ต่อให้ช่วงสองปีนี้อิ๋งจื่อจินฝึกจนมีวรยุทธ์กลับคืนมาบ้างแล้ว แต่ต่อให้ฝึกจนก้าวหน้าเร็วแค่ไหนก็ไม่มีทางสู้เซี่ยฮ่วนหรานที่อยู่มาแล้วสี่ร้อยปีได้

ไม่ใช่เพราะเธออ่อนแอ แต่เป็นเพราะเวลามันต่างกันมากเกินไป

การฝืนทำให้วรยุทธ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบนี้มีแต่จะทำให้ร่างกายของเธอได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

“อืม ไม่เป็นไรผู้บัญชาการ” น้ำเสียงของอิ๋งจื่อจินไม่ทุกข์ร้อน ทั้งยังมีรอยยิ้ม เธอขยับข้อมือ “ก็แค่เพิ่มวรยุทธ์ชั่วคราว ไม่อย่างนั้นพวกเราได้ตายอยู่ที่นี่กันหมด”

เดิมทีเธอวางแผนให้ตัวเองตายคนเดียวก็พอแล้ว

ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตของคนอื่นด้วย

อิ๋งจื่อจินเดินฝ่าสายลมทีละก้าวพลางพูด “เรียกเมฆ”

“ครืน…”

ชั้นเมฆเปลี่ยนแปลงเร็วยิ่งกว่าเดิม มืดฟ้ามัวดิน

อิ๋งจื่อจินยืนอยู่ท่ามกลางชั้นเมฆ ดุจเทพ

แม้เซี่ยฮ่วนหรานจะตะลึง แต่ก็ไม่ได้หยุดลงเพราะเหตุนี้

เขาแสยะยิ้ม “การละเล่นเด็กๆ! ก็ดี งั้นฆ่าแกก่อนเลย!”

เสียงลมกระโชกแรง ก้อนเมฆเคลื่อนตัว รวมกันเป็นกลุ่มก้อนอย่างรวดเร็ว

สามารถมองเห็นฝ่ามือขนาดใหญ่นี้ได้จากทั่วทุกมุมของโลกจอมยุทธ์ กำลังค่อยๆ เคลื่อนจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ

เซี่ยฮ่วนหรานฝึกสำเร็จออกมาครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างความตกใจให้หลินอู๋เลี่ยง เย่ว์ชิงเหอผู้นำตระกูลเย่ว์ก็ตกใจจนต้องออกมาเช่นกัน

ดังนั้นหลังจากที่หลินอู๋เลี่ยงกับเย่ว์ชิงเหอเห็นภาพนี้ก็ย่อมคิดว่าเป็นฝีมือเซี่ยฮ่วนหรานทำ

“เซี่ยฮ่วนหราน!” เย่ว์ชิงเหอตกใจมาก “วรยุทธ์ของเขาเข้าขั้นสุดยอดแล้ว!”

“เร็วเข้า พวกเรารีบไป” หลินอู๋เลี่ยงตัดสินใจเด็ดขาด “ขืนไปช้าพวกเฉิงหย่วนถูกฆ่าหมดแล้วเดี๋ยวไม่มีอะไรให้ดู”

คนอื่นๆ ของตระกูลหลินกับตระกูลเย่ว์ก็มุ่งไปยังสถานที่ต่อสู้

ไม่ได้ไปช่วย แค่ไปมุงดู

อย่างไรเสียการต่อสู้ระดับนี้ก็มีน้อยมากในโลกจอมยุทธ์ ต่อให้เป็นการดูอยู่ข้างๆ ก็ได้รับประสบการณ์ไม่น้อยแล้ว

ส่วนเรื่องสู้กับเซี่ยฮ่วนหรานน่ะเหรอ

คนโง่เท่านั้นแหละที่จะทำแบบนั้น

เฟิงซิวที่เดินทางจากภูเขาหิมะมาโลกจอมยุทธ์ก็ย่อมเห็นแล้ว

ตอนที่เขาเห็นฝ่ามือขนาดมหึมาดวงตาก็เบิกโพลงทันที เผยให้เห็นสีหน้าเหลือเชื่อ

พลังฝ่ามือชั้นเมฆ!

ต่อให้เฟิงซิวลืมแล้วหมดทุกสิ่งก็ไม่มีทางลืมอาจารย์ของเขา

แม้คำพูดของอาจารย์ในตอนนั้นจะมีที่เขาไม่เข้าใจอยู่บ้าง

‘วันนี้อาจารย์จะถ่ายทอดวิชาลับให้เจ้า’ อาจารย์ของเขาพูด ‘ถ้าเป็นสถานที่อย่างโลกบำเพ็ญเพียร การใช้วิชาลับนี้สามารถถล่มภูเขาที่สูงสามพันเมตรได้’

‘แต่น่าเสียดายที่โลกมนุษย์ไม่มีพลังวิเศษ บำเพ็ญเพียรเพื่อเป็นเซียนก็ไม่ได้ ดูจากขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ พลังฝ่ามือชั้นเมฆคงอ่อนกำลังลงมาก อย่างมากก็ได้แค่ถล่มเนินที่สูงห้าสิบเมตร’

พลังฝ่ามือชั้นเมฆมีอานุภาพทำลายล้างที่สูงมาก ไม่ใช่ว่าใครก็จะฝึกจนสำเร็จได้

เฉิงหย่วนมีพรสวรรค์จอมยุทธ์ที่สูงมากก็จริง แต่ก็ยังไม่พอ เฟิงซิวก็เลยไม่ได้ถ่ายทอดให้ลูกศิษย์อย่างเฉิงหย่วน

นอกจากเขาแล้ว ในโลกจอมยุทธ์ก็มีแค่คนเดียวที่ทำได้

สีหน้าของเฟิงซิวแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “เซี่ย ฮ่วน หราน!”

บังอาจรังแกอาจารย์ของเขา!

อาจารย์ของเขากลับมาแล้วจริงๆ ด้วย!

เฟิงซิวไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น เรียกกำลังภายในเพื่อเพิ่มความเร็วขั้นสูงสุด รีบไปยังสถานที่ต่อสู้

ในระหว่างที่แต่ละทิศทางมีคนรุดไป ฝ่ามือขนาดมหึมานี้ก็ได้ประทับลง!

“ตูม!”

เซี่ยฮ่วนหรานส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

แววตาของฟู่อวิ๋นเซินเปลี่ยนไปทันที “เยาเยา!”

เขาเหาะไปกอดอิ๋งจื่อจินไว้ทันที “เยาเยา!”

“บังอาจทำฉันโมโห!” เซี่ยฮ่วนหรานตะโกนด้วยความโกรธ “พวกแกต้องตายให้หมด!”

ในเวลานี้เองมีกระบี่เล่มหนึ่งพุ่งมากลางอากาศ!

เย่ว์ฝูอีมาถึงแล้ว!

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset