ตอนที่ 681 คุณหนูใหญ่ตัวจริงของตระกูลเรนเกล เผยตัวตนอย่างจัง
เทียนเยียนไม่เคยเจอนักศึกษาระดับต้นที่ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือเท่านี้มาก่อน
เธอใช้โต๊ะนี้แล้ว คนอื่นจะมาแตะต้องข้าวของได้ยังไง
เทียนเยียนเป็นนักศึกษาระดับสูง แต่ไหนแต่ไรมาทำตัววางอำนาจในห้องทดลองนี้จนชินแล้ว
พวกนักศึกษาระดับต้นต่างเกรงกลัวเธอ จึงไม่มีใครออกหน้าช่วย
มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดด้วยความลังเล “เทียนเยียน อย่า…”
“ยุ่งอะไรด้วย ถ้ายังไม่เลิกยุ่งเดี๋ยวเธอจะโดนตบอีกคน” เทียนเยียนแสยะยิ้ม “พลเมืองชั้นต่ำมันต้องโดนตบ!”
แต่ยังไม่ทันที่มือของเธอจะแตะถูกอิ๋งจื่อจิน ทันใดนั้นได้มีแรงมหาศาลพุ่งเข้ามา
“พลั่ก!”
เทียนเยียนกระเด็นออกไปในชั่วพริบตา ร่างกายกระแทกผนังอย่างรุนแรง
เธอไม่แม้แต่จะได้ร้อง เอียงศีรษะหมดสติไปทันที
บรรดานักศึกษาตกใจสะดุ้งโหยง
มีนักศึกษาหญิงเอามือปิดปากตัวเอง หวาดกลัวมาก
มีแค่อิ๋งจื่อจินที่ยังนั่งอยู่หน้าโต๊ะทดลอง มองคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
บนหน้าจอคือหน้าต่างสนทนาระหว่างเธอกับผู้วิเศษนักพรต ซิว เคนเซล
[ซิว : มาแล้วเหรอ]
[ซิว : พรุ่งนี้ผมมีเวลา ถือโอกาสเลี้ยงข้าวคุณด้วย อยากซื้อเสื้อผ้าด้วยไหม รองเท้ากับหมวกล่ะ ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองลงสินค้าใหม่เยอะแยะเลยนะ]
จุ้นจ้านจริงๆ ทำตัวอย่างกับพ่อที่เป็นห่วงลูกสาว
ช่วยไม่ได้ นับตั้งแต่เขารู้ว่าสหายเก่าของเขาเป็นสาวน้อย ความรักของพ่อก็เริ่มทะลักในตัวเขา
[อิ๋งจื่อจิน : ฉันไม่เชื่อรสนิยมของนาย]
[ซิว : …]
“ยะ…แย่แล้ว” นักศึกษาชายยืนขึ้นทั้งที่ตัวสั่น “โทรหาโรงพยาบาล รีบโทรหาโรงพยาบาลเร็วเข้า!”
แต่ไม่ต้องให้พวกเขาลงมือ
ชิปที่อยู่ในตัวเทียนเยียนได้ช่วยเหลือโดยอัตโนมัติแล้วตั้งแต่ชั่วขณะที่เธอสลบไป
ในเวลาไม่ถึงห้านาทีก็มีเจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้ามาในห้องทดลอง หามเทียนเยียนออกไปทันที
เกิดความเงียบภายในห้องทดลอง
นักศึกษาหญิงที่เข้าไปห้ามยังงงอยู่ จนกระทั่งเธอได้ยินคำว่า “ขอบใจ”
นักศึกษาหญิงอึ้ง เงยหน้ามองไป หายใจติดขัดอย่างควบคุมไม่ได้
อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว ดวงตาหงส์คู่งามมีหมอกปกคลุม
สวยชวนตะลึง ดุจกิ่งซากุระที่บานสะพรั่งโน้มกดลงมาที่หัวใจ
“ฉันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ฉันชื่อปิงหลาน เป็นพลเมืองชั้นสอง” นักศึกษาหญิงยิ้มอย่างเขินอาย ประหม่าเล็กน้อย “เธอล่ะ”
“อิ๋งจื่อจิน” อิ๋งจื่อจินหยุดเล็กน้อย จากนั้นถึงนึกคำที่เหมาะสมออก “พลเมืองเร่ร่อน”
ปิงหลาน “…”
ขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรต่อก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้น
“คนไหนอิ๋งจื่อจิน”
“ฟึ่บ” นักศึกษาแปดสิบคนที่อยู่ในห้องทดลองต่างหันไปมองอิ๋งจื่อจิน
ปิงหลานชักกลัว “นักศึกษาอิ๋ง พวกเขา…”
อิ๋งจื่อจินตบมือเธอเบาๆ เป็นการปลอบโยนแล้วยืนขึ้น “อยู่นี่”
สายตาเฉียบคมของอาจารย์ที่ปรึกษามองสำรวจอิ๋งจื่อจินแล้วพูดขึ้น
“มาที่ออฟฟิศห้องเอศูนย์หนึ่งหน่อย”
มีหลายคนในห้องทดลองรู้สึกสะใจ
นักศึกษาระดับต้นที่อยู่ๆ ก็โผล่มามันหมายถึงว่าพวกเขาต้องถูกแบ่งทรัพยากรไปด้วย
นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากเห็น
สำนักวิจัยเข้มงวดมากเรื่องระดับชั้น นักศึกษาระดับต้นร้อยคนยังสู้นักศึกษาระดับสูงคนเดียวไม่ได้
และตอนนี้เทียนเยียนได้รับบาดเจ็บ
อิ๋งจื่อจินต้องถูกไล่ออกแน่นอน
…
ภายในห้องทำงานเอศูนย์หนึ่ง
อาจารย์ที่ปรึกษาวางคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ ในนั้นแสดงภาพกล้องวงจรปิดของห้องทดลอง สีหน้าเคร่งเครียด “บอกมาว่ามันเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องทำร้ายรุ่นพี่ด้วย”
อิ๋งจื่อจินมีสีหน้าสุขุม “หนูไม่ได้แตะต้องเธอ ไม่เชื่อลองสังเกตดูให้ดีอีกครั้งค่ะ”
บรรดาอาจารย์ต่างขมวดคิ้ว
ก็จริง ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าอิ๋งจื่อจินไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย ห่างจากเทียนเยียนสองเซนติเมตรจะผลักเทียนเยียนออกไปได้ยังไง
อีกทั้งเทียนเยียนเป็นฝ่ายเข้าไปหาเรื่องก่อน เห็นได้ชัดว่าไม่เกี่ยวข้องกับเธอ
อาจารย์ที่ปรึกษาเปิดคลิปกล้องวงจรปิดดูหลายรอบ ถึงขั้นที่ดึงข้อมูลตัวจับเซนเซอร์ของห้องทดลองออกมาดูด้วย สุดท้ายก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ
“หนูขอแนะนำให้ตรวจสมองเธอว่าได้รับการกระทบกระเทือนหรือเปล่า ร่างกายอาจเสียสมดุล” อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น พูดอย่างไม่รีบร้อน “ถึงได้ซัดตัวเองกระเด็นออกไป”
“…” อาจารย์ที่ปรึกษาถึงกับไปไม่ถูก ทำได้เพียงส่ายมือ “เอาล่ะ เธอกลับไปเถอะ เธอก็คงตกใจเรื่องนี้มากเหมือนกัน”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าแล้วยืนขึ้น
เสียงของอาจารย์ที่ปรึกษาดังขึ้นอีกครั้ง
“เธอลงสมัครสอบของคณะวิศวกรรมวันที่ยี่สิบสี่กรกฎาคมใช่ไหม เหลือเวลาอีกแค่อาทิตย์เดียวแล้ว หวังว่าเธอจะไม่ใช่พวกอวดดีหลงตัวเอง”
เป็นแค่นักศึกษาระดับต้นกลับลงสอบของคณะวิศวกรรมเครื่องกลและการบิน
ไม่รู้จักประมาณตนเลยจริงๆ
…
อิ๋งจื่อจินกลับเข้าห้องทดลองอีกครั้งในเวลาไม่ถึงสิบนาที
ทำให้นักศึกษาหลายคนผิดหวังมาก
แต่ก็ทำได้แค่ทำหน้าที่ของใครของมันไป
“นักศึกษาอิ๋ง เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
“อืม” อิ๋งจื่อจินหาวออกมา “มีกล้องวงจรปิด ฉันไม่เป็นไร”
“แต่ว่านะนักศึกษาอิ๋ง เธออย่าไปงัดข้อกับเทียนเยียนเลย เทียนเยียนคงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ” ปิงหลานเม้มริมฝีปาก พูดเสียงเบา “เทียนเยียนเป็นลูกน้องของคุณหนูบิล พวกเราเป็นแค่นักศึกษาระดับต้น ไม่มีใครกล้าล่วงเกินตระกูลเรนเกลหรอก”
“ขอบคุณที่เตือน” อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น “บิลเหรอ”
“บิล เรนเกล ปีนี้อายุยี่สิบสองปี” ปิงหลานมองไปรอบๆ แล้วถึงพูด
“คุณหนูบิลก็เคยอยู่สำนักวิจัย แต่กลับเข้าตระกูลแล้ว บางครั้งจะไลฟ์สดบรรยายพวกการประกอบอาวุธอะไรพวกนี้”
“คณะที่เธออยู่ก็คือคณะวิศวกรรมที่เป็นหนึ่งในสองคณะใหญ่ ตอนนี้เป็นนักศึกษาระดับเอ ได้ยินว่ากำลังมุ่งมั่นจะเป็นนักศึกษาระดับเอสให้ได้”
นักศึกษาระดับเอสของสำนักวิจัยเป็นบุคคลที่แม้แต่ผู้วิเศษของสำนักผู้วิเศษก็ยังต้องให้ความสำคัญ
ถ้าบิลเลื่อนระดับสำเร็จก็จะเป็นนักศึกษาระดับเอสที่อายุน้อยที่สุด
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ
“แต่ว่าน่าเสียดาย” ปิงหลานส่ายหน้า
“ถ้าลูกสาวของคุณนายซู่เวิ่นไม่ตาย คนนี้ต่างหากที่เป็นคุณหนูใหญ่อย่างแท้จริง”
พูดจบเธอก็เหมือนตระหนักอะไรได้ รีบเอามือปิดปากตัวเอง “โทษทีๆ ฉันหลุดปากไป เธอห้ามพูดออกไปนะ นี่เป็นเรื่องต้องห้าม”
อิ๋งจื่อจินนึกถึงรูปถ่ายของซู่เวิ่นที่เธอเห็นจากนาฬิกาข้อมือของซีนาย เธอเงียบไปชั่วครู่ “ฉันรู้”
“จริงสิ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง คุณหนูบิลเป็นสมาชิกระดับเอสของเว็บดับบลิว” ปิงหลานพูดต่อ “เทียนเยียนติดตามเธอก็ได้สมาชิกระดับบีด้วย”
“อย่างพวกเราที่เป็นพลเมืองชั้นสอง อย่าว่าแต่สมาชิกระดับบีเลย ต่อให้เป็นสมาชิกระดับซีก็ต้องเสียเงินซื้อ”
อิ๋งจื่อจิน “เว็บดับบลิวเหรอ”
สังคมชนชั้นของเมืองแห่งโลกเข้มงวดกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก
เทคโนโลยีอยู่ในกำมือของคนส่วนน้อย และคนส่วนนี้กุมทรัพยากรกับอำนาจเอาไว้มากมาย
เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า แต่ระบบสังคมกลับถอยหลัง
“ก็คือเว็บเวิลด์ไง เรียกสั้นๆ ว่าเว็บดับบลิว เป็นเว็บไซต์อันดับหนึ่งของเมืองแห่งโลก มีมานานแล้ว น่าจะต้นศตวรรษที่สิบหกได้มั้ง” ปิงหลานครุ่นคิดแล้วพูด
“ฉันจำได้ว่าแอคเคาท์ที่ลงทะเบียนในปีพันหกร้อยห้าถูกประมูลไปสูงถึงพันล้านเมื่อปีที่แล้ว”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า
เมืองแห่งโลกมีอินเตอร์เน็ตตั้งแต่ปลายศตวรรษที่สิบหก
“เว็บดับบลิวก่อตั้งโดยผู้วิเศษนักพรต” ปิงหลานพูดต่อ
“มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก แฮกเกอร์เก่งแค่ไหนก็โจมตีไม่ได้ ดังนั้นเก็บอะไรไว้ในนั้นได้อย่างสบายใจ”
อิ๋งจื่อจินไม่แสดงอารมณ์ใดๆ “…”
หึๆ
ตอนอยู่ประเทศจีน ไม่รู้ว่าเธอถูกแฮกเกอร์ของเมืองแห่งโลกโจมตีตั้งกี่ครั้งแล้ว
เธอไม่เชื่อฝีมือของซิวในด้านเว็บไซต์หรอก
สุดท้ายก็เธอที่เพิ่มเกราะป้องกันให้เขาไปหนึ่งรอบ
ซิวก่อตั้งเว็บไซต์ไม่ได้พึ่งฝีมือของแฮกเกอร์ แต่อาศัยความสามารถพิเศษของเขาที่ซ่อนตัวเก่ง
และก็เพราะอาศัยความลึกลับนี้ เว็บบอร์ดเอ็นโอเคถึงได้ไม่มีแฮกเกอร์คนไหนโจมตีได้สำเร็จมานานขนาดนี้
อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดแล้วพูดขึ้น “ขอเว็บไซต์หน่อย ฉันอยากลองเข้าไปดู”
“ได้ๆ” ปิงหลานบอกชื่อเว็บด้วยความยินดี “เวิลด์ไวด์เว็บดอตทีซีโอทีดับบลิวดอตซีเอ็น จำง่ายมาก ก็คืออักษรย่อแต่ละตัวของเมืองแห่งโลก”
อิ๋งจื่อจินพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ เข้าสู่หน้าเว็บได้สำเร็จ
เว็บดับบลิวมีฟังก์ชันหลากหลายรูปแบบ
ซื้อของได้ พูดคุยได้ หรือจะไลฟ์สดดูคลิปวิดีโอก็ได้เหมือนกัน
สมกับเป็นเว็บไซต์อันดับหนึ่งของเมืองแห่งโลก
อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดอยู่สองวินาทีแล้วลองใส่แอคเคาท์ของเว็บบอร์ดเอ็นโอเคตรงช่องล็อกอิน
ยังไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็มีหน้าต่างเด้งขึ้นมา
[กำลังล็อกอิน…]
[ล็อกอินสำเร็จ!]
[ยินดีต้อนรับเทพพยากรณ์!]
อิ๋งจื่อจินหรี่ตามอง เธอแก้ชื่อไอดีเป็นอย่างอื่นก่อนที่ปิงหลานจะชะโงกหน้าเข้ามาดู
ปิงหลานเขียนไอดีกับรหัสผ่าน
“ถ้าเธออยากใช้ฟังก์ชันในหน้าเว็บ ฉันมีแอคเคาท์ระดับเอฟ แต่ทำได้แค่ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันกับดูคลิปวิดีโอ ใช้อย่างอื่นไม่ได้”
“เฮ้อ อีกทั้งพวกเครื่องมืออุปกรณ์ระดับสูงอย่างมอเตอร์ไซค์เวหา ฉันยิ่งไม่มีสิทธิ์ซื้อเข้าไปใหญ่”
ขณะพูดเธอก็ชะโงกหน้า สายตามองไปที่ข้อมูลผู้ใช้งานตรงกรอบด้านขวาพอดี
ไอดี : SY
ระดับ : ///
ตรงระดับว่างเปล่า แต่ประเภทแอคเคาท์ที่อยู่บรรทัดสุดท้ายกลับมีอักษรเพิ่มเข้ามา
เป็นอักษรสีทองที่เด่นสะดุดตา
แอคเคาท์ผู้ก่อตั้ง!