ถึงจะทราบว่าตนดูสะดุดตาในมรกตท่องฟ้าอยู่บ้าง แต่ถูกคนขวางทางท้าสู้แบบนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังรู้สึกประหลาดใจ
ถึงอย่างไรเขาก็นับว่าเป็นแขกของกษัตริย์ลี้ลับกับจักรพรรดิน้ำพุ
การมายังยอดเขาเมฆาสีชาดเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็ยังเป็นหลงเสวี่ยจี้ที่เพิ่งเลื่อนเป็นระดับเซียนจริงแท้พาขึ้นเขาด้วยตัวเอง
เยี่ยนจ้าวเกอยังไม่ทันตอบ ลูกศิษย์เขาขาวเรืองที่อยู่ด้านข้างก็ส่งกระแสเสียงกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน “อาจารย์อาเยี่ยนโปรดอภัยให้ด้วย ผู้อาวุโสเหวินท่านี้ฝักใฝ่ในมรรคากระบี่ นิสัยค่อนข้างตรงไปตรงมา…”
ในขณะเดียวกันก็มีลูกศิษย์ยอดเขาขาวเรืองคนอื่นๆ คล้ายกำลังส่งกระแสเสียงสนทนากับเหวินไต้หงนั่นในที่ลับ
เจอเหวินไต้หงขวางทางท้าสู้แขกของตัวเอง ตอนนี้จอมยุทธ์ยอดเขาขาวเรืองส่วนใหญ่ล้วนทำตัวไม่ถูก ทว่าไม่ได้ขุ่นเคืองใจ
‘ถ้ำประกายม่วงแห่งยอดเขางามเลิศ…’ เยี่ยนจ้าวเกอเงยหน้ามองท้องฟ้า คิดถึงเรื่องราวบางประการ
ตอนที่เคลื่อนไหวอยู่ในเขาคุนหลุนก่อนหน้านี้ เยี่ยนจ้าวเกอได้สนทนากับพวกหวังผู่ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของกษัตริย์กระบี่แห่งเขานครหยกบนยอดเขาเป่ยเกา ทราบข่าวมาไม่น้อย
ในนี้รวมถึงเรื่องราวส่วนหนึ่งของมรกตท่องฟ้าด้วย
โลกซ้อนโลกกับมรกตท่องฟ้าไม่ลงรอยกัน จอมยุทธ์ระดับกลางไปจนถึงระดับต่ำแม้ตายก็ไม่ยอมคบหากัน แต่ว่ายอดฝีมือระดับสูงมีการสืบข่าวและแทรกซึม ทราบถึงสถานการณ์ของอีกฝ่าย
สถานการณ์ที่ละเอียดเกินไปย่อมไม่มี แต่ก็ยังทราบถึงข้อมูลข่าวสารคร่าวๆ มากมายกับสถานการณ์ที่ผ่านมาไม่นาน
ดังนั้นเมื่อเยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงสร้างความเคลื่อนไหวใหญ่บนโลกซ้อนโลกไม่หยุด พวกจักรพรรดิน้ำพุหลงที่อยู่ทางมรกตท่องฟ้าต่างก็รู้ แม้จะได้ข่าวช้าไปบ้างก็ตามที
ในทางตรงกันข้าม ทางโลกซ้อนโลกทราบถึงสถานการ์ณคร่าวๆ เมื่อไม่นานมานี้ของมรกตท่องฟ้าเหมือนกัน
พวกหวังผู่ย่อมทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋สองพ่อลูกกับมรกตท่องฟ้าดี ดังนั้นพอเยี่ยนจ้าวเกอถาม พวกเขาก็ไม่ได้ปิดบัง
เขาได้ทราบจากพวกหวังผู่ว่า มรกตท่องฟ้าก็ไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
อำนาจบนมรกตท่องฟ้าของกษัตริย์ลี้ลับเกาชิงเสวียน ยังมีมากกว่าอำนาจของกษัตริย์ดินบนโลกซ้อนโลก
ทว่าสุดท้ายแล้ว มรกตท่องฟ้าก็ไม่ใช่ใต้หล้าของกษัตริย์ลี้ลับ
หากสืบย้อนเหตุผลขึ้นไป เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเยี่ยนจ้าวเกอเล็กน้อย
หวังผู่แม้จะพูดจาคลุมเครือ แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็เข้าใจ
เรื่องที่เยี่ยนซิงถางผู้เป็นปู่ชิงตัวตี๋ชิงเหลียนผู้เป็นย่าในยุคสมัยก่อน ทำให้บูรพาจารย์ของมรกตท่องฟ้า หรือก็คืออาจารย์ของเกาชิงเสวียนและตี๋ชิงเหลียนไม่พอใจ
ต่อมาตี๋ชิงเหลียนจากไปก่อนวัยอันควร ยิ่งถูกบูรพาจารย์แห่งมรกตท่องฟ้ามองว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากที่สุดในชีวิต
หลังจากความสัมพันธ์กับโลกซ้อนโลกพังทลาย ถึงแม้โดยรวมแล้วทั่วทั้งมรกตท่องฟ้าจะมองโลกซ้อนโลกเป็นศัตรู แต่โดยท่าทีสุดท้ายก็ยังแบ่งเป็นอ่อนโยนกับแข็งกร้าว
ผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดของมรกตท่องฟ้าคนอื่นๆ ส่วนใหญ่แล้วจะแข็งกร้าว ซึ่งเกี่ยวข้องกับท่าทีของบูรพาจารย์โดยตรง
ส่วนกษัตริย์ลี้ลับค่อนข้างอ่อนโยน ไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์กับจักรพรรดิน้ำพุหลงเท่านั้น ถึงแม้ว่ากษัตริย์ลี้ลับจะเศร้าเสียใจเรื่องของตี๋ชิงเหลียนในตอนนั้น แต่ไม่ได้เคียดแค้นเยี่ยนซิงถางแห่งโลกซ้อนโลก ต่อให้นางจะเคยแพ้อีกฝ่ายก็ตาม
กระนั้นก็เห็นได้ชัดว่าบูรพาจารย์แห่งมรกตท่องฟ้ากับยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ของมรกตท่องฟ้าคนอื่นๆ มีความเห็นไม่ตรงกัน
แน่นอนว่านอกจากนี้แล้วยังมีบุญคุณความแค้นอื่นๆ อีกมากมาย
ผ่านไปหลายปี ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ทำให้ภายในมรกตท่องฟ้าเกิดความเห็นมากมายในความคิดที่มีต่อคนจากโลกซ้อนโลก
และในเรื่องการปฏิบัติต่อเยี่ยนจ้าวเกอและเยี่ยนตี๋ ความเห็นนี้ก็ยิ่งชัดเจนกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองถ้ำประกายม่วงบนยอดเขางามเลิศในเขาแหนเขียวแห่งมรกตท่องฟ้า อันเป็นนิวาสถานและที่บำเพ็ญของจักรพรรดิอุรุ ก็เป็นจักรพรรดิเซียนจริงแท้ของมรกตท่องฟ้าเช่นกัน
ว่ากันว่าความรู้สึกที่จักรพรรดิอุรุมีต่อโลกซ้อนโลกไม่ได้เป็นความชิงชังที่รุนแรงเหมือนจักรพรรดิคนอื่นๆ
ตอนนี้หลังจากได้เห็นปฏิกิริยาของผู้สืบทอดของยอดเขาขาวเรือง เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้สึกว่าข่าวลือน่าจะเป็นจริงดังนั้น
จักรพรรดิอุรุ กษัตริย์ลี้ลับ และจักรพรรดิน้ำพุเกรงว่าจะมีความสัมพันธ์ไม่เลว คนในสำนักของทั้งสองฝ่ายคุ้นเคยกันดียิ่ง
ดังนั้นพอเกิดเรื่องที่เหวินไต้หงมาขวางทางท้าสู้ คนจากยอดเขาขาวเรืองจึงรู้สึกกระอักกระอ่วนมากกว่าขุ่นเคือง
ดูจากท่าทางของพวกเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่ากำลังไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย ทางหนึ่งปลอบตัวเอง ทางหนึ่งเกลี้ยกล่อมเหวินไต้หง
เยี่ยนจ้าวเกอสำรวจรอบๆ รู้สึกน่าสนใจยิ่ง
สำหรับความคิดที่มีต่อโลกซ้อนโลก ในเมื่อจักรพรรดิอุรุเอนเอียงไปทางนุ่มนวล เป็นฝ่ายเดียวกันกับกษัตริย์ลี้ลับ และจักรพรรดิน้ำพุหลง เช่นนั้นคนในสำนักของเขาไฉนจึงมาท้าสู้กับตนเล่า
นี่จะต้องทำให้ผู้สืบทอดของกษัตริย์ลี้ลับลำบากใจ และส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างจักรพรรดิอุรุและกษัตริย์ลี้ลับอย่างไม่ต้องสงสัย
ปัญหาอยู่ที่ เหวินไต้หงในตอนนี้คล้ายกลับไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้จริงๆ
ไม่ใช่ว่าในใจมีความคิดเป็นอื่น ต้องการทรยศความต้องการของจักรพรรดิอุรุ แต่เป็นไปตามที่ลูกศิษย์เขาขาวเรืองว่า ฝักใฝ่ในยุทธ์ นิสัยตรงไปตรงมา
บางทีเขาอาจไม่ได้มีความชิงชังผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์หรือสายเอกพิสุทธิ์ และไม่ได้ชิงชังตัวเยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน แต่ว่าสนใจในเรื่องที่เยี่ยนซิงถางใช้กระบี่สะกดมรกตท่องฟ้า
เมื่อได้ทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอได้มาถึงฟ้าท่องมกรต ก็รีบมาหาทันที
ในอีกมุมหนึ่งแล้ว เขาเป็นคนสัตย์ซื่อคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะมีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด แต่เมื่อดูจากอายุและเทียบกับระดับพลังฝึกปรือแล้ว เขากลับอายุน้อยถึงขีดสุด เรียกได้ว่ามีศักยภาพไร้จำกัด
แต่หากพูดถึงการใช้ชีวิตในสังคม บุรุษผู้นี้เกรงว่าจะไม่ได้ดีกว่าฮานหลงเอ๋อร์กับเซี่ยกวงเสียเท่าไร
“ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่ยอดเขาเมฆาสีชาด นอกจากนี้ยังรู้ด้วยว่าข้าจะลงจากเขาเมฆาสีชาดเวลาไหน” เยี่ยนจ้าวเกอพลันยิ้มขึ้น “ดูจากท่าทางของท่านแล้ว ไม่เหมือนกับรอข้าอยู่นอกเขามาตั้งแต่แรก”
เหวินไต้หงงงงันเล็กน้อย สีหน้าปรากฏแววลังเล ไม่ได้ตอบในทันที
ไม่ใช่แค่เยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้น พอลูกศิษย์ยอดเขาขาวเรืองเห็นดังนั้น ก็รู้ว่าเหวินไต้หงเกรงจะถูกคนยั่วยุ ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีพอก็รีบมาขวางทางท้าสู้ทันที
“อาจารย์อาเยี่ยน นี่ดูเหมือนจะเป็นความเข้าใจผิด…” มีลูกศิษย์ยอดเขาขาวเรืองรีบไกล่เกลี่ย
“หาเป็นไรไม่” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สหายร่วมเส้นทางเหวินกระมัง เช่นนั้นพวกเรามาประมือกันดู ทุกคนใช้การต่อสู้ทำความรู้จักกัน”
ลูกศิษย์ยอดเขาขาวเรืองร้อนรนแล้ว
การประมือครั้งนี้ใครแพ้ใครชนะ ต่างก็มีฝ่ายที่ดูไม่ดี
จักรพรรดิอุรุแห่งถ้ำประกายม่วงบนยอดเขางามเลิศอยู่ตรงกลางมาโดยตลอด เอนเอียงมาทางกษัตริย์ลี้ลับเล็กน้อย เมื่อเป็นเช่นนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นหรือไม่ก็ยากจะบอก
“โปรดชี้แนะ” เหวินไต้หงกลับไม่คิดมากความ แต่ประสานหมัดคำนับเยี่ยนจ้าวเกออย่างจริงจัง
เขาต้องการตั้งท่าลงมือ กลับเห็นเยี่ยนจ้าวเกอโบกมือ “พวกเราแค่แลกเปลี่ยนวรยุทธ์กัน ไม่ได้สู้กันเป็นตาย ตามกฎแล้ว เมื่อท่านเลือกเวลาและกำหนดวัน เช่นนั้นข้าเป็นคนเลือกสถานที่กระมัง”
เหวินไต้หงเก็บสภาวะ พยักหน้ากล่าว “ไม่ผิด สมควรเป็นเช่นนี้”
“เช่นนั้นก็ตามข้ามาเถอะ” เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางก้าวเท้าออกก้าวหนึ่ง เร็วจนทุกคนแทบมองไม่ทัน
มีแต่เหวินไต้หงที่พอจะมองเห็นว่า ทิศทางที่เยี่ยนจ้าวเกอไปเป็นเส้นทางที่เขาเหวินไต้หงมา
ทุกคนรีบร้อนติดตาม พุ่งไปยังที่ไกลออกไป
เห็นเยี่ยนจ้าวเกอยืนขวางทางคนกลุ่มหนึ่ง กำลังยืนยิ้มอยู่ที่นั่น
นั่นเป็นผู้ฝึกกระบี่สายเหนือพิสุทธิ์กลุ่มหนึ่ง ในตอนนี้ถูกเยี่ยนจ้าวเกอขวางทาง สีหน้าดูไม่ดีอยู่บ้าง “ท่านคิดทำอะไร”
“ข้าผู้แซ่เยี่ยนต้องการเปรียบวิชากระบี่กับสหายร่วมเส้นทางเหวินแห่งถ้ำประกายม่วงบนยอดเขางามเลิศ ไม่ได้ห้ามไม่ให้ใครชมดู” เยี่ยนจ้าวเกอพูดอย่างไม่สนใจ “ทุกท่านสามารถดูได้ตรงๆ ไยต้องรอผลลัพธ์อยู่ที่นี่ นั่นเป็นสิ่งที่พวกท่านคาดหวังไม่ใช่หรือ”
………………..