บทที่ 56 ต่อสู้กับไป๋เจ๋อ (ปลาย)
บทที่ 56 ต่อสู้กับไป๋เจ๋อ (ปลาย)
ลู่หยวนชูกระบี่ขึ้น… กระบี่มหันตภัยที่เดิมเย็นยะเยือกอาบย้อมด้วยกลิ่นโลหิตเข้มข้น
ปราณกระบี่หนึ่งพันเล่มพุ่งไปในทันที! จนโลหิตสีแดงทั่วอาณาเขตเกิดความผันผวน
ชายหนุ่มยืนตระหง่านอยู่กลางท้องนภา กระบี่ยาวในมือสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ปราณมหาศาลรวมตัวในมือของเขา “ไป๋เจ๋อ อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ!”
หลังจากกล่าวเช่นนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์พลันก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวและฟันกระบี่ยาวในมือออกไป ปราณกระบี่พุ่งเข้าหาไป๋เจ๋ออย่างรุนแรง!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ปราณกระบี่ทรงพลังเล่มแล้วเล่มเล่า บดขยี้อากาศธาตุในท้องนภา
ชั้นปราณกระบี่กวาดออกไป ยิ่งนานก็ยิ่งเพิ่มพูนความเร็วขึ้น มันข้ามผ่านท้องนภาในพริบตา และพุ่งตรงไปอยู่เหนือศีรษะไป๋เจ๋อ!
สัตว์เทพพุ่งทะยานขึ้นทันที กลิ่นอายที่มาจากพลังวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในพริบตา หอกศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นรอบข้าง
มีแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์สีทองอยู่บนหอกยาว มันส่องสว่างวูบไหวที่ปลายคมอาวุธ หอกยาวสั่นไหว ความว่างเปล่ารอบข้างสั่นสะเทือนเป็นระลอกคลื่น
วิ้ง! วิ้ง! วิ้ง!
หอกยาวจำนวนนับไม่ถ้วนหันคมขึ้น แสงสว่างสีทองที่ปลายเรืองรองเจิดจ้า เปี่ยมด้วยจิตวิญญาณต่อสู้
เมื่อเห็นหอกศักดิ์สิทธิ์มาจากท้องนภา ไป๋เจ๋อตะโกนอย่างเคร่งขรึมว่า “ไป!”
หอกสีทองนับไม่ถ้วนพุ่งออกไป เสียง ‘ซู่ ๆๆ’ ดังขึ้น เงาของหอกนับพันพุ่งขึ้นจากด้านล่าง แทงออกไปอย่างบ้าคลั่ง
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
หอกศักดิ์สิทธิ์และปราณกระบี่ปะทะกันจนเกิดเสียงดังสนั่น จุดปะทะกันจนเกิดพลังงานผันผวน ความกดอากาศรอบข้างสั่นคลอนจากการโจมตีที่กระหน่ำรุนแรง!
ลู่หยวนเดินเข้ามาพร้อมกระบี่ เพียงหนึ่งก้าว เขาก็โจมตีอีกฝ่าย ปราณกระบี่พุ่งทะยานผ่าความว่างเปล่าจนแยกออกเป็นสอง ตรงเข้าสู่ดวงตาของไป๋เจ๋อ! ปราณกระบี่อาบด้วยพลังสีดำทมิฬ กระบี่ยาวในมือผู้ใช้ถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายโลหิตเย็นเยือกที่ไม่มีใครเคยเห็นแผ่ออกมาจากร่างของชายหนุ่ม ก่อนกระจายออกไปทั่วฟ้า
ไป๋เจ๋อหรี่ตา กลิ่นอายนี้ช่างคุ้นเคยยิ่งนัก มันคือพลังมาร!
ทันทีที่ไป๋เจ๋อขยับเท้า มันก็ถอยออกมาหลายสิบลี้ ปราณกระบี่ยาวที่ถูกห้อมล้อมด้วยกลิ่นอายทมิฬพลันตกลงมาจากอากาศ
ตู้ม!
ธุลีนับพันชั้นลอยขึ้นจากพื้น ปฐพีที่พังทลายยุบลงไปหลายจั้งอีกครั้ง
ไป๋เจ๋อมองลู่หยวนอย่างเคร่งขรึม เมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้น รูม่านตาเบิกกว้างขึ้น ดวงตาสีแดงค่อย ๆ กลายเป็นสีดำสนิท ดูแปลกประหลาดยิ่งนัก เพียงพริบตามันก็กลืนกินสีขาวในดวงตาของลู่หยวนจนหมดสิ้น พื้นที่สีแดงรอบข้างล้วนถูกย้อมให้กลายเป็นสีดำ
ใบหน้าของไป๋เจ๋อพลันดุร้ายขึ้นมา หน้าตาดูน่าเกลียด เต็มไปด้วยโทสะ ขณะพ่นคำออกมาช้า ๆ ว่า “เนตรมารเทวะ”
ลู่หยวนยืนขึ้นโดยถือกระบี่ไว้ในมือ ทั่วร่างเต็มไปด้วยพลังมาร ทำให้ผู้คนรู้สึกสั่นสะท้าน
กุ่ยซู่ผู้ดูจากด้านข้าง เข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริงของชายหนุ่มเช่นกัน นางกำค้อนขนาดใหญ่ในมือ สีหน้าเผยความประหลาดใจสักพัก จากนั้นเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมอีกครั้ง
สำหรับเผ่าภูตผี การที่ลู่หยวนเป็นมารหรือไม่นั้นมันสำคัญไฉน?
โลกนี้ถูกปกครองโดยผู้แข็งแกร่งมาตลอด ผู้อ่อนแอช่างไร้ค่า!
มันไม่สำคัญหรอกว่าลู่หยวนจะเป็นใคร สิ่งสำคัญก็คือ เขาคือคนที่สามารถนำเผ่าภูตผีไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้!
บุตรศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้เพิ่งอยู่ช่วงวัยหนุ่มเท่านั้น พลังของเขาสุดเกินหยั่ง กองกำลังและสายเลือดที่คอยหนุนหลังนั้นก็ร้ายกาจยิ่งกว่า ในอนาคตเขาจะต้องเป็นจ้าววรยุทธ์อย่างแน่นอน!
คนแบบนั้น… คือนายท่านที่เผ่าภูตผีควรจงรักภักดีมากที่สุด!
สีหน้าของกุ่ยซู่ผ่อนคลายเล็กน้อย นางยกค้อนขนาดใหญ่ในมือขึ้น ก่อนหันไปทางไป๋อู๋อีผู้อยู่ไกลออกไป
นายท่านต่อสู้กับไป๋เจ๋อ นางไม่สะดวกที่จะเข้าไปก้าวก่าย ส่วนไป๋อู๋อีผู้นี้คือคนที่นายท่านอยากสังหาร จะปล่อยให้หลุดมือไปไม่ได้!
ไป๋อู๋อียืนอยู่ที่มุมหนึ่ง ใช้พลังทั้งหมดเพื่อทำให้ตัวเองยืนตระหง่านอย่างมั่นคงอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ถูกคลื่นอากาศพัดพาไปทางอื่น
เขามองลู่หยวนผู้ยืนอยู่ตรงข้ามไป๋เจ๋อด้วยความตกตะลึง บุตรแห่งโชคชะตาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะทรงพลังขนาดนั้น ถึงขั้นต่อสู้กับสัตว์เทพไป๋เจ๋อได้อย่างไม่เป็นรอง
ชายผู้นี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน!
ตอนนี้ไป๋อู๋อีรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาไม่น่ามาท้าทายอีกฝ่ายในวันนี้เลย
มันเป็นทั้งความเสียใจและความไม่เต็มใจ หากฝึกฝนนานอีกสักหน่อย แม้จะเป็นลู่หยวนในตอนนี้ เขาก็สามารถต่อกรด้วยได้ ไม่ต้องเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังผู้ทรงพลัง จนไม่อาจไปต่อสู้ได้ เหมือนอย่างตอนนี้
ทว่า …ความเสียใจภายหลังเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ที่สุด เขาครุ่นคิด และควบคุมน้ำเสียงตนเองให้ราบเรียบ ก่อนสื่อสารไปยังไป๋เจ๋อ “พลังของลู่หยวนผู้นี้ร้ายกาจ ข้างเขายังมีเผ่าภูตผีผู้อยู่ขั้นเทียมเทพ พวกเราควรล่าถอยชั่วคราว!”
สัตว์เทพเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ก่อนหันไปมองบุตรศักดิ์สิทธิ์ตระกูลลู่ มันหักห้ามความโกรธทั้งหมดเอาไว้ในใจ
ตอนนี้มันอยากต่อสู้กับลู่หยวน! ถึงแม้ตนจะมีโอกาสชนะสูงกว่า แต่เพราะยังมียอดฝีมือขั้นเทียมเทพอยู่ด้านข้างอีกฝ่าย ตอนนี้จึงควรล่าถอยชั่วคราว
ไป๋เจ๋อส่งเสียงกลับมาหาบุตรแห่งโชคชะตา “ข้าจะเปิดทางให้ จากนั้นจะขวางศัตรูให้สักพัก เจ้าต้องหลบหนีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!”
หลังจากกล่าวเช่นนั้น ร่างของไป๋เจ๋อพลันสั่นสะท้าน ก่อนลำแสงศักดิ์สิทธิ์จะมารวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน และกระจายไปรอบข้างอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่อึดใจ มันเริ่มกัดกร่อนเขตแดนสีโลหิตที่ปกคลุมท้องนภาเอาไว้!
ทันทีที่ไป๋เจ๋อล่าถอย หอกศักดิ์สิทธิ์นับหมื่นพลันพุ่งทะยานจากด้านล่าง ตรงเข้าหาลู่หยวนอีกครั้ง
ตอนนี้ลู่หยวนยังมองไม่เห็นความตั้งใจที่จะถอยของสัตว์เทพ ดังนั้นเขาจึงยกกระบี่เข้าปะทะก่อนฟาดฟันอาวุธสวนออกไป
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ปราณกระบี่และหอกศักดิ์สิทธิ์ปะทะกันอีกครั้งจนความว่างเปล่าผันผวน ลู่หยวนทะยานลงไปเพื่อพุ่งโจมตีเข้าใส่ไป๋เจ๋อ
ตอนนี้เขาสำแดงพลังมารออกมา นอกจากบริวารที่ภักดีต่อเขาแล้ว คนที่เหลือล้วนต้องตาย!
ในพริบตา ไป๋เจ๋อมาถึงสุดเขตแดนสีโลหิตและกำลังจะจากไปในทันที ทว่าเมื่อสายตากวาดมอง กลับพบว่าภูตผีที่คุ้มกันอยู่ข้างลู่หยวนลงมือตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ มันเข้าประชิดตัวไป๋อู๋อีแล้ว!
กุ่ยซู่ยกค้อนขนาดใหญ่ในมือขึ้น และกำลังจะทุบศีรษะของบุตรแห่งโชคชะตา!
ส่วนบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็พุ่งตรงเข้ามาทางกลางอากาศเช่นกัน ในพริบตา เขากำลังจะลงมือสังหารสัตว์เทพ
หัวใจของไป๋เจ๋อมืดมน มันจะปล่อยให้ไป๋อู๋อีตายไม่ได้ คนผู้นี้คือบุตรแห่งโชคชะตาตระกูลไป๋
หากชายผู้นี้ตาย ลูกของมันก็จะเสียโชคลาภนี้ไป ทำได้เพียงอยู่ที่นี่ รอคอยให้ผู้ถูกชะตาลิขิตคนต่อไปมาปรากฏตัวเท่านั้น
มันรอคอยมาหลายพันปี ในที่สุดก็มีคนปรากฏตัว ลูกของมันรอนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว!
ไป๋เจ๋อไม่ลังเลอีกต่อไป มันย่างก้าวออกไปทันที ก่อนมาอยู่ด้านหลังไป๋อู๋อีในพริบตา
โล่ปรากฏขึ้นตรงหน้า และปกป้องบุตรแห่งโชคชะตาเอาไว้ข้างใน
ตู้มมม!!
ค้อนขนาดใหญ่ฟาดเข้าใส่โล่ จนทำให้เกิดคลื่นอากาศแผ่ไปรอบทิศ แรงกระแทกของมันปะทะร่างของกุ่ยซู่จนกระเด็นออกไปในทันที!
ประมุขเผ่าภูตผีกวัดแกว่งค้อนขนาดใหญ่อีกครั้ง เพื่อปรับร่างกายให้มั่นคง
อีกด้านหนึ่ง ลู่หยวนพุ่งทะยานมาหาพร้อมกระบี่มหันตภัย กลิ่นอายมารพลันเพิ่มขึ้นมหาศาล ก่อนปราณกระบี่ที่สว่างเป็นประกายจะตรงเข้าหาไป๋เจ๋อ
สัตว์เทพเข้าใจดีว่าการโจมตีนี้เป็นการทุ่มสุดตัวของชายหนุ่ม ย่อมแข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่แน่นอน!
มันกัดฟันยามแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์พุ่งขึ้นสู่ท้องนภา เขาสองข้างบนหน้าผากส่องแสงสีขาว ขณะนั้นเอง โล่นับสิบพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
ชายหนุ่มฟันกระบี่ลงไป ปราณกระบี่หนึ่งหมื่นจั้งพุ่งทะยานผ่าความว่างเปล่า!
เปรี้ยงงง!
เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียว ชั้นโล่จำนวนมากแตกสลาย!