อ๊า! เสียงกรีดร้องดังสนั่นขึ้น เป็นเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชกว่ากลุ่มแรกที่โดนพิษเสียอีก
ตุบ! ในตอนนี้ร่างของศิษย์พี่หวงล้มกระแทกลงไปกับพื้น สองมือจับไปที่บาดแผลบนร่างกาย สีหน้าเขียวคล้ำขึ้น
สีหน้าของคนอื่นก็เปลี่ยนไปพลัน พวกเขาอดที่จะสั่นสะท้านขึ้นไม่ได้จริง ๆ นี่มันจะต้องเจ็บปวดมากเป็นแน่!
ต้องรู้เอาไว้เลยว่านั่นเป็นจุดอ่อนที่สุดของบุรุษเลยก็ว่าได้
ต้องบอกเลยว่ากำลังในการต่อสู้ของศิษย์สำนักโอสถฯ ช่างอ่อนด้อยยิ่งนัก
อันที่จริงแล้วพลังของศิษย์พี่หวงผู้นี้ก็ไม่ได้นับว่าอ่อนแอเลย เพียงแต่เป็นเพราะการป้องกันและการประเมินศัตรูที่ต่ำไปของเขา จึงทำให้มู่เฉียนซีโจมตีเขาสำเร็จอย่างง่ายดาย
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “เมียรึ คอยปรนนิบัติอย่างนั้นรึ เจ้ามันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับสุนัขตัวหนึ่งหรอกนะ! เตรียมตัวเป็นขันทีตลอดชีวิตได้เลย!”
ศิษย์พี่หวงตะคอกขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด “ลงมือ! จับตัวนางเอาไว้ ข้าจะทรมานนางให้ตายทั้งเป็น”
ในตอนนี้เขาเจ็บปวดจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว สถานการณ์ในตอนนี้เลวร้ายมาก
แต่ฝีมือการรักษาของสำนักโอสถฯ นั้นเป็นเลิศ จะต้องรักษาเขาให้หายได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าวิธีการฝึกฝนในการหลอมยาของแดนซวนเทียนจะมีมากกว่าดินแดนสี่ทิศ แต่พวกเขาเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่ศิษย์วัยหนุ่มสาวเท่านั้น ความแข็งแกร่งก็ไม่ได้สูงนัก
มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงที่อายุน้อยเช่นนี้ ในดินแดนสี่ทิศนับดูมีไม่เกินห้าคน แต่พวกเขากลุ่มนี้ล้วนแต่เป็นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงทั้งสิ้น
ทว่า การฝึกฝนที่น้อยนิดเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องให้อู๋ตี้กับชิงอิ่งและพวกเป็นคนลงมือหรอก มู่เฉียนซีจัดการเองได้
มู่เฉียนซีเอากระบี่มังกรเพลิงออกมา นางที่มีพลังวิญญาณเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปด ทำให้พวกเขาไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรเลย
หลังจากที่ศิษย์พี่หวงระงับความเจ็บปวดได้แล้ว เขาก็พยายามลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบาก และได้แผ่ซ่านพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าออกมา “เจ้า ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ของเจ้าจะแข็งแกร่งมากในดินแดนสี่ทิศ แต่ในสายตาข้า เจ้ามันยังอ่อนแอยิ่งนัก และเจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า หากเจ้ายอมคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนข้า ข้าก็อาจจะเบามือให้เจ้าได้นะ มิเช่นนั้น…”
“มังกรเพลิงพิฆาต!” มังกรเพลิงสีแดงฉานพุ่งออกไป
เห็น ๆ กันอยู่ว่าพลังวิญญาณของนางไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก แต่พลังอำนาจของกระบี่เล่มนี้กลับทำให้สีหน้าของพวกเขาเคร่งขรึมขึ้นได้
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “อ่อนแอเหรอ! ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าตกลงแล้วใครกันแน่ที่อ่อนแอ”
“ทักษะเทียนซวน!”
“ทักษะโยวหลัว!”
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
ศิษย์สำนักโอสถฯ กลุ่มนี้ฝึกฝนแต่การปรุงยา เป็นดอกไม้ในแจกันอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ตอนนี้ได้เผชิญกับมู่เฉียนซีที่มีกำลังในการต่อสู้อย่างวิปริต ก็ถูกมู่เฉียนซีโจมตีจนกระเด็นลอยออกไปราวกับถูกลมพายุพัดโหมกระหน่ำเข้าใส่ก็มิปาน
ปัง ปัง ปัง!
ร่างของพวกเขาแต่ละคนเต็มไปด้วยบาดแผล และกระแทกลงไปบนพื้นดิน
พวกเขามองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความตกใจ “เป็นไปได้ยังไง?”
พวกเขาไม่ได้ตาฝาดไป! เห็น ๆ กันอยู่ว่าพลังของนางเป็นเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปด แต่เหตุใดถึงได้วิปริตถึงเพียงนี้
มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดก็เอานางไม่อยู่แล้ว!
ในตอนนี้ คนที่ยังยืนได้ก็มีเพียงแค่ศิษย์พี่หวงผู้นั้นแล้ว
เขายังไม่ทันปรับลมหายใจให้คงที่ มู่เฉียนซีก็โจมตีมาอีกครั้งแล้ว
“มังกรน้ำแข็งพิฆาต!”
กลิ่นอายอันเย็นยะเยือกพัดกระโชกมา เขารู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว แต่เขาก็ยังสามารถหลบหลีกการโจมตีนี้ได้
“ข้าเป็นถึงมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า จะแพ้จักรพรรดิแห่งภูตได้ยังไงกัน ข้าจะทำให้เจ้าต้องกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ ให้เจ้ากลายเป็นคนที่น่ารังเกียจ!” แววตาของศิษย์พี่หวงผู้นี้เผยความโหดเหี้ยมออกมา ชั่วครู่หนึ่งพลังของเขาก็ดูเหมือนว่าจะพุ่งขึ้นสูงมาก
มู่เฉียนซียิ้มเย้ยหยัน แล้วยังไงล่ะ คนไร้ความสามารถยังไงมันก็คือคนไร้ความสามารถอยู่วันยังค่ำ!
“บัวแดงพิฆาต!”
บัวอัคคีสีแดงฉานปรากฏขึ้นกลางอากาศ และพุ่งไปที่ศิษย์พี่หวงด้วยพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึง
เสียง ตูม! ดังสะเทือนฟ้าสะเทือนดินขึ้น ร่างของศิษย์พี่หวงร่วงลงมากระแทกพื้นดินจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้น
พรวด! ศิษย์พี่หวงกระอักเลือดออกมา
“เจ้า นี่เจ้ากล้าทำให้ข้าบาดเจ็บสาหัส สำนักโอสถฯ ของข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”
ปัง! มู่เฉียนซีเหยียบร่างของเขา ทำให้เขายิ่งกระอักเลือดออกมามากขึ้น
กระบี่มังกรเพลิงลอยอยู่กลางอากาศ มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าจะฆ่าปิดปากเจ้าที่นี่ เจ้าจะทำไม”
“ศิษย์ของสำนักโอสถฯ ทุกคนมีแผ่นบันทึกติดตัวทุกคน มันบันทึกทุกอย่างของพวกข้า และทุกการกระทำของเจ้า ผู้อาวุโสแห่งสำนักโอสถฯ จะเห็นทั้งหมด เจ้าตายแน่!”
“และหากว่าเจ้าฆ่าข้า สำนักโอสถฯ ก็จะฆ่าทำลายล้างกองกำลังของเจ้า ฆ่าญาติและสหายของเจ้าทั้งหมด”
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “พลังของกองกำลังระดับสี่มันช่างน่ากลัวเสียจริงเลยนะ!”
“ไม่ฆ่าพวกเจ้าก็ได้ แต่เรื่องที่จำเป็นต้องทำ ข้าก็จะทำ”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! มู่เฉียนซีขว้างเข็มยาไปหลายเข็ม จากนั้นพิษอันรุนแรงก็เริ่มออกฤทธิ์ และเสียงร้องโหยหวนก็ดังระงมขึ้นไม่น้อย
อ๊า อ๊า อ๊า! ช่วยด้วย!”
กลุ่มคนก่อนหน้านี้เห็นความน่าสังเวชของศิษย์พี่หวงและคนอื่น ๆ แล้วก็อดที่จะรู้สึกเห็นใจไม่ได้
พวกเขาไม่น่ารุกรานหญิงปีศาจผู้นี้เลย
ฤทธิ์ของพิษนั้นรุนแรงกว่าของคนอื่นมาก มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “ทุกคน อยากแก้พิษหรือไม่ หากอยากแก้พิษก็ส่งสมุนไพรวิญญาณมาแลกกับข้า!”
ศิษย์พี่หวงกัดฟันกรอดพลางกล่าว “ไม่มีทาง!”
“ข้าแลก! ข้าแลก!”
“แม่นาง เอาไปเลย ข้าแลกกับเจ้า!”
“แก้พิษ ข้าอยากแก้พิษ!”
ศิษย์พี่หวงปากแข็ง แต่คนอื่นต่างยอมเอาสมุนไพรวิญญาณออกมาแต่โดยดี
เมื่อมู่เฉียนซีหันไปมองก็ได้รู้ว่าคนกลุ่มนี้เก็บสมุนไพรวิญญาณมาได้ไม่เลวเลย
ส่วนศิษย์พี่หวงยังคงทนอยู่กับความเจ็บปวดทรมาน แต่เมื่อเห็นเหล่าบรรดาศิษย์น้องมีอาการดีขึ้นมากแล้ว เขาจึงกล่าวด้วยความจำใจว่า “ก็แค่สมุนไพรวิญญาณ ข้าแลกก็ได้”
ศิษย์พี่หวงเป็นผู้นำของพวกเขา สมุนไพรวิญญาณชั้นดีล้วนแต่อยู่ในมือเขาทั้งสิ้น
ถึงแม้ว่าจะมีสมุนไพรวิญญาณขั้นสวรรค์ไม่น้อย แต่ก็ยังไม่มีสมุนไพรวิญญาณที่มู่เฉียนซีต้องการอยู่ดี
เมื่อได้สมุนไพรวิญญาณมาแล้ว มู่เฉียนซีก็โบกมือขึ้นและมอบผงยาให้พวกเขาอีกครั้ง
พวกเขาโกรธเกรี้ยวจนแทบกระอักเลือด “นี่เจ้ายังจะวางยาพิษอีก จะ เจ้า…”
“ข้าบอกว่าจะแก้พิษให้พวกเจ้า แต่ข้าไม่ได้บอกว่าจะไม่วางยาพิษพวกเจ้าอีก เรื่องนี้พวกเจ้าไปถามสหายของพวกเจ้าก็จะรู้เอง”
ผู้โชคร้ายกลุ่มแรกยิ้มเจื่อน ๆ หญิงสาวผู้นี้ช่างใจดำอำมหิตเกินไปแล้ว!
ศิษย์พี่หวงมองมู่เฉียนซีด้วยความโกรธแค้นชิงชัง อีกเพียงไม่กี่วันแล้ว ต้องอดทน! อดทน!
เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะรอด เขาจะต้องทำให้หญิงสาวผู้นี้อยู่…
ตุบ! มู่เฉียนซียกขาเหยียบร่างศิษย์พี่หวงอีกครั้ง พร้อมกันนั้นก็ได้ทำลายความคิดนั้นของเขาให้แตกสลายไป
มู่เฉียนซีกล่าว “จู่ ๆ ข้าก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่มันยังเบาเกินไป ยังสั่งสอนเจ้าไม่พอ!”
มู่เฉียนซีง้างกระบี่มังกรเพลิงขึ้น ทันใดนั้นศิษย์พี่หวงก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น
“นี่เจ้า…เจ้าคิดจะทำอะไร? เจ้า อย่าได้ทำอะไรบ้า ๆ เชียวนะ!”
ศิษย์พี่หวงพยายามดิ้นอย่างสุดกำลังที่มี แต่เขาถูกมู่เฉียนซีเหยียบอยู่ ไม่สามารถขยับได้มาก!
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ข้าจะทำให้เจ้าเป็นขันทีไปตลอดชีวิต เจ้าไม่ต้องขอบใจข้าล่ะ!”
เมื่อคมกระบี่ตกลงมา ในขณะที่เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นนั้น มู่เฉียนซีก็ถอยไปไกลแล้ว
อ๊า อ๊า อ๊า! เสียงกรีดร้องอันน่าเศร้าและสะเทือนใจดังก้องขึ้น ศิษย์พี่หวงกรอกตามองบนและเป็นลมหมดสติไป
ทุกคนมองดูเลือดที่อยู่ใต้ขาเขา และมองไปที่มู่เฉียนซี พวกเขาอดที่จะหวาดกลัวจนตัวสั่นไม่ได้จริง ๆ
นี่มันปีศาจชัด ๆ โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!
บาดเจ็บถึงเพียงนี้ ต่อให้สำนักโอสถฯ ของพวกเขามีฝีมือมากเพียงใดก็ไม่อาจช่วยศิษย์พี่หวงได้แล้ว
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ข้าต้องขอตัวไปก่อนล่ะ สมุนไพรวิญญาณที่พวกเจ้าให้ข้า ข้าชอบมาก!”
มองดูรอยยิ้มอันงดงามนั้นแล้ว พวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก นี่มันยิ่งกว่ารอยยิ้มของปีศาจเสียอีก
เก็บสมุนไพรวิญญาณอยู่ดี ๆ ก็มาเจอกับศิษย์ที่มีตาแต่หามีแววไม่ของสำนักโอสถฯ นางจึงวางยาพิษพวกเขาและแย่งชิงสมุนไพรวิญญาณมาได้ ทำให้มู่เฉียนซีได้มาไม่น้อยเลย รวมทั้งสมุนไพรวิญญาณขั้นสวรรค์ก็ได้มาไม่น้อยเช่นกัน
แต่กลับไม่มีผลจิ่วหยางซวนที่นางต้องการ!
ดูท่า ดินแดนโอสถแห่งนี้จะไม่มีผลจิ่วหยางซวนกระมัง
ตูม ปัง ปัง! ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ก็พื้นดินก็สั่นสะเทือนขึ้น
สัตว์วิญญาณนับไม่ถ้วนพุ่งมาทางนางอย่างบ้าคลั่ง สีหน้าของมู่เฉียนซีพลันเปลี่ยนไป “บัดซบ! นึกไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาเจอการจลาจลของสัตว์วิญญาณเช่นนี้!”
.