ไม่ว่าจะเป็นสุราภูตผี ยันต์เหลืองเจ็ดทบฟ้าเร้น เตาผลึกหินชั้นใน กระดานก่อนพิรุณ ต่างเป็นของพิสดารล้ำค่าที่ยอดเยี่ยมทั้งสิ้น
สำหรับตัวเยี่ยนจ้าวเกอ บางทีอาจใช้ไม่ได้ แต่ว่าคนในเขากว่างเฉิง ไปจนถึงขุมกำลังที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเช่นเขานครหยก เขาโถงทอง ย่อมมีผู้ที่ระดับพลังฝึกปรือค่อนข้างต่ำใช้ได้อยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะเหลือของส่วนหนึ่งไว้ให้พวกตัวเองใช้ แต่การจำหน่ายเช่นนี้ จะมากจะน้อยก็ลบความได้เปรียบส่วนหนึ่งของฝ่ายตัวเอง
สามารแลกเปลี่ยนของวิเศษอย่างอื่นจำนวนมากได้ผ่านสิ่งของเหล่านี้
กล่าวโดยสรุปแล้ว ได้มากกว่าเสีย
จุดสำคัญอยู่ที่ อาศัยการรวบรวมนี้กอปรกันเป็น ‘สภาวะ’ ชนิดหนึ่ง ‘สภาวะ’ ที่ทำให้ผู้คนไม่อาจละทิ้ง ไม่อาจตัดใจ เฝ้าวนเวียนครุ่นคิด เข้าหาด้วยตัวเอง
“คุณสมบัติหอย่างหนึ่งที่ผู้เสนอราคาสูงจะได้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “ย่อมไม่น้อย แต่ก็ไม่อาจมากเกินไป”
การจ่ายเงินจะทำให้ผู้คนแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ข้อความนี้ไม่น่าฟังแม้แต่น้อย แต่ไม่อาจไม่ยอมรับว่า เป็นความจริงในหลายๆ ครั้ง
เศรษฐีมีเงินมักจะเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลัก
สำหรับความต้องการของแต่ละคนแล้ว ลูกค้าที่เยี่ยนจ้าวเกอเล็งไว้ เป็นเศรษฐีระดับสูงในกว้าง
เพราะว่าในยอดฝีมือระดับสูงเหล่านี้ อาจจะครอบครองทรัพยากรที่หายากที่สุดมากมาย
ของวิเศษบนโลกในตอนนี้มีราคาแต่ไม่มีตลาด จำนวนหายากจนแทบไร้ร่องรอย
ของบางอย่างไม่อาจใช้ราคามาประเมินได้ ได้แต่ต้องดูความต้องการของเจ้าของ ใช้สิ่งของแลกสิ่งของ มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย
ของวิเศษหลายอย่างมีค่าสำหรับเขากว่างเฉิง แต่กลับเป็นโครงไก่สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอ
ตอนนี้ของที่เข้าตาเขาได้ ย่อมเป็นของวิเศษหายาก
สามารถใช้วิธีแย่งชิงเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ในหลายๆ ครั้ง คนหลังจากได้ของล้ำค่ามามักไม่ป่าวประกาศ จึงไม่ทราบว่าใครมีของวิเศษอะไร
สมมติว่าไม่ได้ทำข่าวหลุดเพราะไม่ทันระวังเหมือนตระกูลเซี่ยแห่งยอดเขาสดับอัสนีในเขตตะวันอาคเนย์เมื่อครั้งกระโน้น คิดแย่งก็ไม่ทราบว่าต้องไปแย่งใคร
เพื่อเก็บรวบรวมทรัพยากรในลักษณะคล้ายกันในระยะเวลาสั้นๆ ด้วยประสิทธิภพสูง ตึกความลับฟ้าต้องคิดหาวิธีการบ้าง
หลายๆ ครั้งมีของที่จับต้องได้ มิสู้มีอำนาจพิเศษที่จับต้องไม่ได้ไว้ดึงดูดผู้คน
นอกจากนั้นแล้ว อำนาจพิเศษจับต้องไม่ได้อาจจะนำมาซึ่งของวิเศษที่จับต้องได้มากกว่าเดิม
แต่ว่าความสำคัญในนี้จำเป็นต้องขบคิดอย่างละเอียด
หากส่งผลกระทบต่อสมดุลมกาเกินไป สุดท้ายจะต้องปิดกิจการอย่างรวดเร็ว
แต่ว่าพื้นที่สำหรับหาที่ตายของตึกความลับฟ้าก็ยังมีมากอยู่ เมื่อมีการสนับสนุนจากหอหนังสือหวังเทพที่เยี่ยนจ้าวเกอเคยได้อ่าน ในระยะเวลาสั้นๆ ยากจะเกิดขุมกำลังที่เทียบเท่าหรือมาแทนที่ตึกความลับฟ้า ดังนั้นมันจึงมีพลังชีวิตแข็งแกร่งยิ่ง
ถ้าหากบอกว่ามีแรงกดดันที่ยิ่งใหญ่จากโลกภายนอกคิดทำลายตึกความลับฟ้า เช่นนั้นความเป็นไปได้มีต่ำยิ่ง
ลูกศิษย์เขานครหยกเช่นพวกชิวเจียไห่เฝ้าอยู่ ไม่อาจยึดถือเป็นไม้ประดับ
“กระนั้น พวกเราเปิดร้านทำธุรกิจความสงบสุขนำมาซึ่งความร่ำรวยไม่ใช่หรือ?” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะฮาๆ
ชิวเจียไห่ที่อยู่ตรงข้ามเขาสีหน้าประหลาดพิกล ดูเหมือนศิษย์น้องเยี่ยนผู้นี้จะเป็นหนึ่งในคนที่สร้างปัญหามากที่สุดในรอบหลายปีมานี้ของโลกซ้อนโลกแล้ว
“คุณชาย ถึงเวลาแล้ว” เสี่ยวอ้ายพูดขึ้นหลังดูเวลา
เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฝากเจ้าแล้ว ข้าจะรออยู่เงียบๆ”
“คุณชายไม่ต้องห่วง” เสี่ยวอ้ายเดินไปยังโถงด้านหน้า
ส่วนชิวเจียไห่ว่า “ข้าจะไปคอยดูที่ด้านหน้า”
เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ “รบกวนศิษย์พี่ชิวแล้ว”
วันที่ตึกความลับฟ้าจะเปิดอย่างเป็นทางการในที่สุดก็มาถึง จอมยุทธ์จากสถานที่ต่างๆ บนโลกซ้อนโลกต่างมายังเมืองหยวนโจวบนที่ราบสูงมู่เหยี่ย
ที่นี่เป็นสถานที่สำคัญที่ใช้สำหรับการสัญจรแห่งหนึ่งบนเขตมหานภากลาง เชื่อมต่อไปยังทุกที่ ที่แล้วมาเจริญรุ่งเรือง
สถานที่สุดท้ายที่เยี่ยนจ้าวเกอเลือกให้ตึกความลับฟ้า ก็คือเมืองหยวนโจวแห่งนี้
ในแขกที่มาย่อมมีคนที่มาสังเกตการณ์มากมาย กระนั้น เมื่อมีพวกชิวเจียไห่ควบคุม ก็ยังไม่ถึงขั้นที่มีคนที่ไม่มีตามาก่อเรื่อง
ของวิเศษที่ตึกความลับฟ้าจำหน่าย คนส่วนใหญ่ในสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิไม่ต้องใช้
พวกเขามีลูกศิษย์ในสำนัก แต่ว่าคนส่วนใหญ่แค่มาดูการเปิดธุรกิจเป็นครั้งแรกของตึกความลับฟ้าเท่านั้น
และผลลัพธ์ก็ทำให้ผู้คนได้เปิดหูเปิดตา
นอกจากของวิเศษต่างๆ เช่นเตาผลึกหินชั้นใน และสุราภูตผีที่ทุกคนคุ้นเคยดีอยู่แล้ว ยังมีของล้ำค่าอย่างอื่นมากมายหลายชนิด
ทว่าจำนวนมีจำกัดยิ่ง
“มากสุดซื้อได้แค่สามอย่างหรือ” ทุกคนมองเสี่ยวอ้ายด้วยความประหลาดใจ
เสี่ยวอ้ายพยักหน้าอย่างจริงจัง “ไม่ผิด ได้แค่สามอย่าง นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มละสามชิ้น ไม่ใช่คนละสามชิ้น”
คิดถึงของล้ำค่าเหล่านี้ ไม่อาจเปิดให้ทุกคนซื้อได้อย่างกว้างขวาง ทุกคนก็ยังพอรับได้
ราคาสิ่งของที่เยี่ยนจ้าวเกอกำหนดไว้ยุติธรรมยิ่ง แต่ต่อให้ยุติธรรมอย่างไร คุณค่าของพวกมันก็มีให้เห็นชัดเจน ล้วนเป็นของล้ำค่าหายาก ย่อมไม่อาจขายถูกๆ ได้
ถึงแม้จะเป็นเพราะการประกาศก่อนหน้า ครั้งนี้คนจึงได้เตรียมตัวมาแล้ว ต่างไม่ขาดแคลนเงินทอง แต่ก็ต้องวางแผนมาให้พร้อม
หลัวเป่ยจากตระกูลหลัวแห่งยอดเขาพยัคฆ์กระโจนเอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ขอกระดานก่อนพิรุณกับยันต์เหลืองเจ็ดทบฟ้าเร้นอย่างละสามชิ้น จากนั้นขอเตาผลึกหินชั้นในหนึ่งเตา สุราภูตผีสองขวด…”
ไม่รอเขาพูดจบก็ถูกเสี่ยวอ้ายตัดบท “ผู้อาวุโสหลัวเข้าใจผิดแล้ว ความหมายของผู้เยาว์คือ ท่านซื้อของจากตึกของเราไปได้สามชิ้นเท่านั้น”
“หือ?” ไม่เพียงแต่หลัวเป่ยเท่านั้น ทุกคนต่างเบิกตามองเสี่ยวอ้าย
เสี่ยวอ้ายสง่างามและมีมารยาท กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านอาจจะเลือกกระดานก่อนพิรุณสามอัน หรือกระดานก่อนพิรุน ยันต์เหลืองเจ็ดทบฟ้าเร้น และเตาผลึกหินชั้นในอย่างละหนึ่งชิ้น หรืออาจเป็นสุราภูตผีสองขวด กระดานก่อนพิรุณหนึ่งชิ้น อย่างไหนก็ได้ จะจัดการจำนวนสามชิ้นนี้อย่างไร ล้วนเป็นท่านตัดสินใจเอง กระนั้นไม่ว่าท่านจะเลือกอย่างไร วันนี้ท่านก็ซื้อของจากตึกเราไปได้แค่สามชิ้น คนอื่นๆ ก็เหมือนกัน”
หลัวเป่ยไม่พอใจ “ข้ามาพักที่เมืองหยวนโจวนี้อยู่หลายวัน เป็นคนที่มาถึงคนแรก พวกท่านเคยบอกว่าคนมาถึงก่อนได้ก่อน หรือไม่คิดรักษาคำพูดแล้ว”
“ย่อมรักษาคำพูด” เสี่ยวอ้ายยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาว “ของที่ตึกเราจะขายในวันนี้มีจำนวนจำกัดจริงๆ มีแต่คนที่มาก่อนถึงจะได้รับการจัดหากลุ่มละสามชิ้น ต่อจากนี้ถ้าหากเกิดว่าของขาด ก็ได้แต่ขอให้สหายร่วมเส้นทางทุกท่านให้อภัย ครั้งหน้าได้โปรดมาเร็วๆ สหายร่วมเส้นทางที่ไม่ได้ของก็ไม่จำเป็นต้องกังวล ทุกๆ ต้นเดือนตึกเราจะเปิดตึกจำหน่ายของวิเศษ เป็นข้อกำหนดนับแต่วันนี้”
ทุกคนอ้าปากตาค้าง จากนั้นก็สบตากันเอง
ไม่ว่าพวกท่านจะมั่งมีขนาดไหน มีเบื้องหลังแข็งแกร่งถึงเพียงไร สุดท้ายก็ซื้อของได้แค่สามชิ้น
หากต้องการการปฏิบัติแบบพิเศษก็ไม่ใช่ไม่ได้ แต่โอกาสอยู่ครั้งหน้า…
ครั้งนี้ต้องดูว่าใครเสนอราคาสูงจะได้ไปแล้ว
แต่ละคนต่างไม่พอใจ แต่กลับทำอะไรไม่ได้
เป็นเพราะของของตึกความลับฟ้ายอดเยี่ยมจริงๆ อีกทั้งยังมีที่นี่ที่เดียว เป็นของวิเศษที่หายากอย่างแท้จริง
การเปิดกิจการครั้งแรก ราคาที่เยี่ยนจ้าวเกอกำหนดก็ยุติธรรมยิ่ง เขาไม่ได้กังวลเส้นทางการค้าขายอยู่แล้ว แต่กลับต้องการขยายอิทธิพลในขอบเขตสูงสุดมากกว่า
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ครั้งนี้ข้าขอกระดานก่อนพิรุณสามชิ้น!” หลัวเป่ยจ้องมองเสี่ยวอ้าย ตาใหญ่จ้องตาเล็กอยู่นานสองนาน แต่เห็นชิวเจียไห่ที่ดื่มชาอยู่ด้านข้าง ก็อับจนปัญญา
ชายชราแซ่จงที่ครั้งนั้นได้ไปสืบข่าวจากเหิงเซียนต๋าเอ่ยปากหลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่งว่า “ข้าขอสุราภูตผีสามขวด”
ทุกคนต่างเริ่มคิดคำนวณ จากนั้นก็พากันบอกความต้องการของตัวเอง
ก่อนหน้านี้เยี่ยนจ้าวเกอจงใจให้เสี่ยวอ้ายแสดงป้ายสัญญาณเพื่อบอกว่า ในการเปิดกิจการครั้งแรกนี้จะรักษาหลักใครมาก่อนได้ก่อนอย่างเคร่งครัด
คนที่อยู่แถวหน้าสุดสามารถแลกเปลี่ยนของวิเศษได้สามชิ้น
มาถึงตอนหลัง คนส่วนใหญ่จะได้แค่สองชิ้น
สุดท้าย กลับมีคนมากกว่าครึ่งกลับไปมือเปล่า
เกิดความวุ่นวายไปทุกหย่อมหญ้าชั่วขณะ
เทียบกับการประมูลที่คนให้ราคาสูงได้ไป คนแพ้ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ อย่างมากสุดก็ด่าทอว่าเศรษฐีมีดีแค่เงินแล้ว
ในตอนนี้ คนส่วนใหญ่ต่างไม่ยินยอม เสียใจที่ตัวเองไฉนจึงโลเล ทำให้ตกอยู่ท้ายแถว
………………..