บทที่ 214 เป็นภรรยาของข้า
บทที่ 214 เป็นภรรยาของข้า
“ผู้นำอู ช้าก่อนขอรับ ข้ามีเรื่องต้องรายงาน”
อูซือม่านหันกลับมาอย่างไม่พอใจ “เจ้ามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าเรื่องของฮั่วเสวียนจะรายงานข้างั้นหรือ”
เฟ่ยชินทั่วลดสายตาลง “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฮั่วเสวียนขอรับ”
อูซือม่านนั่งลงอีกครั้ง เขารินชาสมุนไพรหนึ่งถ้วยแล้วดื่ม “ว่ามา”
“ในระหว่างที่เราทรมานเขา ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างข้าพบว่าฮั่วเสวียนแท้จริงแล้ว… เป็นผู้หญิง”
ถ้วยลายครามในมือของอูซือม่านตกแตกในทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองเฟ่ยชินทั่วด้วยสายตาที่จริงจัง “เจ้ารู้ตัวหรือไม่ ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร”
“ข้าไม่กล้าโกหก และฮั่วเสวียนก็ยอมรับกับข้าเองว่านางเป็นหญิงขอรับ”
อูซือม่านไม่รู้ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรดี สายตาของเขาจับจ้องไปที่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ฮั่วเสวียนจะเป็นผู้หญิงได้อย่างไร?
แม้ว่านางจะงามกว่าหญิงทั่วไป แต่จะมีหญิงสาวคนไหนที่โหดร้ายเหมือนนางบ้าง?
วรยุทธ์ของอูซือม่านได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดฝีมือในหร่งตี๋ แต่เขากลับถูกฮั่วเสวียนแทงเข้าที่หน้าอกซ้ายในการต่อสู้ครั้งแรก เขาต้องพักฟื้นนานกว่าหนึ่งเดือน
มือของเขาสัมผัสรอยแผลเป็นที่หน้าอกด้านซ้าย และอยู่ ๆ หน้าอกของเขาก็ร้อนขึ้นด้วยความตื่นเต้นที่อธิบายไม่ได้
ฮั่วเสวียนเป็นผู้หญิง!
เมื่อนึกถึงการต่อสู้ระหว่างทั้งสองในสนามรบ อูซือม่านก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เสียงหัวเราะดังก้องไปทั้งค่าย
“เฟ่ยชินทั่ว เจ้าทำได้ดีมาก”
หลังจากเขาพูดประโยคนี้จบ อูซือม่านก็ลุกขึ้นและไปที่คุกใต้ดินโดยไม่แม้แต่จะถอดชุดเกราะออก
ในคุกใต้ดินอันมืดมิด ฮั่วเสวียนเหนื่อยมากจนผล็อยหลับไป
การทรมานอย่างไร้มนุษยธรรมเมื่อสี่วันก่อนทำให้นางหมดเรี่ยวแรง แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ นางจึงทนไม่ได้และผล็อยหลับไปในที่สุด
แต่เมื่อมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น นางก็ตื่นขึ้นทันที
หลังจากที่ทหารเปิดประตูห้องขังให้ผู้บัญชาการแล้ว พวกเขาก็จากไปอย่างรวดเร็วไม่กล้าอยู่ต่อ
อูซือม่านก้าวไปหาฮั่วเสวียน ดวงตาที่ดุดันของเขาจับจ้องไปที่หน้าอกของฮั่วเสวียนอย่างไม่สะทกสะท้าน
ผ้าสีขาวถูกพันไว้อย่างแน่นหนา แต่หากไม่มีผ้าพันไว้ จะสามารถมองเห็นส่วนที่นูนออกมาทั้งสองข้าง
นางเป็นผู้หญิงจริง ๆ
อูซือม่านยืนยันข้อเท็จจริงนี้และเสยคางของฮั่วเสวียนด้วยดาบในมือของเขา บังคับให้นางมองตรงมาที่ตน
อูซือม่านหัวเราะอย่างมีความสุข “ฮั่วเสวียน ในที่สุดเจ้าก็ตกอยู่ในกำมือของข้า วินาทีที่เจ้าทำร้ายข้า ข้าก็ตัดสินใจแล้วว่าข้าจะเอาคืนเจ้าเป็นร้อยเท่าพันเท่า”
ฮั่วเสวียนไม่แยแสเขา “เอาเลย”
หากนางไม่ใช่ฮั่วเสวียน นางคงร้องขอความเมตตา
อูซือม่านส่ายศีรษะ “แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า และบาดแผลเหล่านี้บนร่างกายของเจ้า…”
จากนั้นอูซือม่านก็เห็นว่ามือและแขนของฮั่วเสวียนได้รับบาดเจ็บสาหัส
นี่เป็นการทรมานเพื่อดึงคำสารภาพออกมา แต่เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นทุกข์
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจางหายไป “ข้าจะให้หมอทหารรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าให้เอง”
หลังจากพูดจบ เขาก็เสริมว่า “หมอทหารหญิง”
ฮั่วเสวียนหัวเราะเยาะ “อูซือม่าน เจ้าไม่ต้องเสแสร้ง เจ้าต้องการให้ข้าทรมานช้า ๆ ใช่หรือไม่ ข้า ฮั่วเสวียนผู้นี้ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด”
อูซือม่านเงียบไปครู่หนึ่ง “ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าอีก”
หืม
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฮั่วเสวียนก็อยากจะหัวเราะ “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ปล่อยข้าไป”
“ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าอีก แต่ข้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไป และต้องการให้เจ้ามาเป็นภรรยาของข้า”
คำพูดของอูซือม่านเหมือนเสียงฟ้าร้อง ทำให้ท่าทีของฮั่วเสวียนเปลี่ยนไป
นางไม่เคยคิดว่าอูซือม่านมีความรู้สึกดี ๆ ให้นาง ตรงกันข้าม นางแค่รู้สึกว่าอูซือม่านดูถูกนางและต้าเซี่ย
“อูซือม่าน ข้าเคยรบกับเจ้าหลายครั้ง ข้าคิดเสมอว่าถึงเจ้าจะโหดเหี้ยมใจร้าย แต่เจ้าก็ตรงไปตรงมา มีความเป็นชาย ทว่าตอนนี้ เจ้าดูเหมือนชายที่มีจิตใจสกปรกไม่มีผิด”
อูซือม่านจ้องมองที่ริมฝีปากของฮั่วเสวียนจนเขาไม่มีสมาธิกับสิ่งที่นางพูด
เขาเอาแต่คิดว่าฮั่วเสวียนดูดีแม้ว่านางจะบาดเจ็บก็ตาม
“ข้าจะย้ายเจ้าออกจากคุกใต้ดินและให้ไปพักแยก เราจะแต่งงานกันเมื่อเจ้าหายจากอาการบาดเจ็บ”
ฮั่วเสวียนโกรธจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง “อูซือม่าน เจ้ากล้าดีอย่างไร!”
“ข้าจะมอบตัวให้เจ้าได้อย่างไร ข้าคือเทพแห่งสงครามต้าเซี่ยผู้ยิ่งใหญ่นะ”
อูซือม่านลูบผมของนางลง “แน่นอนว่าเจ้าคงไม่ต้องการ แต่เจ้าไม่มีทางเลือก”
หลังจากพูดจบ เขาก็ฟาดสันมือเข้าที่ท้ายทอยของนาง
เมื่อฮั่วเสวียนตื่นขึ้นอีกครั้ง ก็เป็นเวลาเช้าตรู่ของอีกวันเสียแล้ว
ก่อนฟื้นคืนสติ กลิ่นหอมของนมและเนื้อวัวก็โชยเข้าจมูก
นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบากหลังจากที่ดวงตาคุ้นชินกับความมืดและไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์เป็นเวลานาน นางจึงสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างใจเย็น
ดังที่อูซือม่านกล่าว นางถูกย้ายมาที่ค่ายหร่งตี๋
นางรู้สึกดีอย่างน่าอัศจรรย์ เนื่องจากมือและเท้าไม่ได้ถูกมัดอีกต่อไป
อูซือม่านไม่กลัวนางวิ่งหนีหรือ?
ในวินาทีต่อมา ฮั่วเสวียนก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางไม่สามารถออกแรงใด ๆ ในร่างกายของนางได้ นางพยายามดิ้นรนที่จะลุกจากเตียงและเดินไป
นางถูกวางยา
ฮั่วเสวียนพยายามระดมกำลังภายในเพื่อบังคับคุณสมบัติทางยา แต่พบว่ามันไม่ตอบสนอง
เกิดอะไรขึ้น?
ฮั่วเสวียนพยายามอย่างดีที่สุดที่จะพยุงตัวกับข้างเตียงและลุกจากเตียง แต่นางก็ล้มลงภายในสองก้าว
ทันใดนั้น มือใหญ่เปิดม่านขึ้น อูซือม่านก้าวเข้ามาเพื่ออุ้มฮั่วเสวียนและวางนางลงบนเตียง
ทุกการกระทำนั้นอ่อนโยน แต่น้ำเสียงกลับแข็งกร้าว “เหตุใดเจ้าถึงได้รีบร้อนนัก? ถ้าอยากจะลุกจากเตียง จะไม่เป็นการดีกว่าหรือถ้าเรียกสาวใช้ให้มาช่วย”
มือและแขนที่พันผ้าพันแผลกลับมาเปื้อนเลือดอีกครั้งเนื่องจากแรงบีบ
“เอ๋อหว่าจา ไปตามหมอหญิงมา”
ฮั่วเสวียนเอียงศีรษะของนางเพื่อดูหญิงสาวที่มีผมเปียอยู่ข้างหลังนาง นางคนนั้นรีบออกจากกระโจมเมื่อได้ยินคำสั่งของอูซือม่าน
“ชื่อของนางคือเอ๋อหว่าจา จากนี้ไปนางจะมารับใช้เจ้าเป็นการส่วนตัว”
ฮั่วเสวียนจ้องมองไปในระยะไกล จากการสังเกตของนาง เอ๋อหว่าจาผู้นี้มีท่าทางเรียบร้อยอ่อนโยน แต่นางพอจะมีวรยุทธ์ป้องกันตัวอยู่บ้าง
จะบอกว่าดูดีกว่าสาวรับใช้ทั่วไปก็ว่าได้
ดวงตาของฮั่วเสวียนเย็นชา “เจ้าเอาอะไรให้ข้ากิน ทำไมข้าถึงไม่มีแรง”
อูซือม่านพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ว่า “กุ๋ยอิ่น ยาที่หร่งตี๋ทำขึ้นโดยการสกัดจากวัชพืชมีพิษและกลั่นเป็นเวลาครึ่งเดือน หลังจากกินเข้าไปจะรู้สึกอ่อนแรงไปทั้งตัวและไม่สามารถกระตุ้นพลังภายในได้”
เขาไม่ต้องการให้ฮั่วเสวียนกินยานี้แต่ไม่มีทางอื่น ฮั่วเสวียนนั้นแข็งแกร่งมาก จนแม้แต่อูซือม่านยังต้องหลีกเลี่ยง เมื่อฮั่วเสวียนฟื้นตัวดีขึ้นจนถึงที่สุด คงมีคนไม่มากนักในค่ายหร่งตี๋ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้
ฮั่วเสวียนพูดอย่างดูถูก “เจ้ากลัวหรือ”
“ข้ากลัวว่าเจ้าจะหนี ดังนั้นเจ้าจงอยู่เคียงข้างข้าอย่างเชื่อฟัง อยู่กับข้า เจ้าจะหนีไปไหนไม่ได้”
ฮั่วเสวียนไม่ต้องการคุยกับเขาอีกต่อไป และไม่ต้องการมองเขาแม้แต่น้อย
อูซือม่านจ้องมองไปที่ฮั่วเสวียนเป็นเวลานาน
แม้ไม่ได้พูดอะไร เขาก็รู้สึกสบายใจมากที่ได้อยู่กับนาง
ฮั่วเสวียนกำลังจะกลายเป็นภรรยาของอูซือม่าน
ไม่นานหมอหญิงก็เดินตามเอ๋อหว่าจาเข้ามา นางโค้งคำนับอูซือม่านด้วยความเคารพ “ทำความเคารพท่านผู้นำ”
“ไปดูนางเถิด” อูซือม่านมองไปที่ฮั่วเสวียน
หมอหญิงตอบรับอย่างรวดเร็ว นางก้าวไปข้างหน้าและวางกล่องยาลง “คุณหนูฮั่ว โปรดนั่งบนขอบเตียงและหันหน้าเข้าหาข้า เพื่อที่ข้าจะได้ทำการรักษาให้ท่านเจ้าค่ะ”
ฮั่วเสวียนต้องการที่จะยันเตียงด้วยมือของนางเพื่อขยับ
หากแต่อูซือม่านกลับยืนขึ้น “อย่าขยับ”
ไม่ว่าฮั่วเสวียนจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม เขาก็อุ้มนางขึ้นและย้ายตำแหน่งของนางโดยที่นางไม่ได้ร้องขอ