ตำหนักภูตใหญ่
กู่ฉิงซานได้กล่าวถึงจุดกำเนิดมังกรมาร
“ตามที่เจ้าว่ามา มันคืออาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดที่เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณสร้างขึ้นมาใช่หรือไม่” ชายชราจมูกยาวถาม
“ใช่แล้ว มันถวิลหาพลังหุบเหว ท้ายที่สุดก็จมดิ่งสู่หุบเหวก่อนกลายเป็นสัตว์ประหลาดหุบเหวที่มีชีวิตนิรันดร์” กู่ฉิงซานกล่าว
“แต่ก็น่าแปลกนะ” ชายชราจมูกยาวครุ่นคิด “เจ้าบอกว่ามันอยู่ก้นทะเลมารโกลาหลในโลกมารดึกดำบรรพ์มาช้านาน อาศัยอยู่ในศูนย์กักกันหุบเหวที่ซ่อนอยู่ลึกลงไป”
“ใช่” กู่ฉิงซานกล่าวยืนยัน
“ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อเป็นศูนย์กักกัน แล้วมันคุ้มกันอะไรล่ะ” ชายชราจมูกยาวถาม
“โทษที เรื่องนี้ถือว่าเป็นความลับอีกอย่าง ไม่ข้องเกี่ยวกับมังกรมาร” กู่ฉิงซานตอบ
“ความลับอีกอย่าง…”
ชายชราจมูกยาวตบหน้าผากตัวเองโดยที่ไม่กล่าวให้จบ
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “พูดตามตรง ข้าบอกทุกสิ่งเกี่ยวกับมังกรมารแล้ว ค่าของความลับนี้มากพอจะแลกเปลี่ยนกับตำแหน่งโลกลี้ลับแล้ว”
ชายชราจมูกยาวกล่าวว่า “ใช่แล้ว ไม่สงสัยเลย นี่เป็นความลับที่น่าทึ่งนัก มูลค่าของมันก็สูงมากด้วย”
ความลังเลปรากฏบนใบหน้าของเขา ในที่สุดก็อดที่จะถามออกมาไม่ได้ว่า “แต่เจ้ามีส่วนสำคัญมากที่ไม่ยอมพูดออกมา”
“อะไรหรือ”
“สิ่งที่มังกรมารแสวงหาในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายช่วงยุคโบราณคืออะไร”
กู่ฉิงซานอดที่จะหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น
“อืม เรื่องนี้ข้องเกี่ยวกับความลับที่ใหญ่ยิ่งกว่าน่ะ”
ก่อนอีกฝ่ายจะทันได้พูด เขาเสริมว่า “ตามการแลกเปลี่ยนของพวกเรา ข้าบอกตัวตนผู้ปกครองที่อยู่เบื้องหลังพื้นที่จ้าวโลกในโลกเก้าร้อยล้านชั้น บอกจุดจบของการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของยุคโบราณ บอกสิ่งที่มังกรมารประสบมาทั้งหมด นี่นับว่าเป็นข่าวที่ยิ่งใหญ่มาก ต่อให้เอาไปใช้แลกกับเวลาและตำแหน่งของโลกลับ มันก็น่าจะมากเกินพอแล้ว”
ชายชราจมูกยาวถอนหายใจออกมา “ใช่แล้ว ข้าเห็นด้วยกับเรื่องนั้น”
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ถ้างั้นโปรดทำการแลกเปลี่ยนของพวกเราตอนนี้ให้เสร็จก่อน”
ชายชราจมูกยาวกล่าวอย่างเหนื่อยล้าว่า “ข้าอยากเอาบางสิ่งมาแลกเปลี่ยนกับความลับที่เหลือที่แสนมีค่ายิ่งนั่น”
กู่ฉิงซานส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ต้องขอโทษด้วย ข้าไม่ตั้งใจจะขายข้อมูลในตอนนี้น่ะ”
ดวงตาของชายชราจมูกยาวกะพริบ
เขากล่าวช้าๆ ว่า “เอาเถอะตามกฎภูตแล้ว พวกเราตกลงที่จะแลกเปลี่ยนกัน เจ้าได้บอกข้อมูลที่จะใช้ในการแลกเปลี่ยนกับข้าแล้ว ถ้างั้นข้าจะบอกข้อมูลที่เจ้าอยากรู้ให้ฟังก็แล้วกัน”
“คืนนี้ เมื่อดวงจันทร์ลอยอยู่กลางท้องฟ้า สระน้ำที่นำไปสู่โลกลี้ลับจะปรากฏขึ้นที่สามร้อยไมล์ทางเหนือของภูเขาหิน”
“สระน้ำนี้จะคงอยู่เพียงแค่ห้าอึดใจ เจ้าต้องรีบหน่อย ไม่อย่างนั้นมันจะหายไปทันทีหลังจากเจ้าพลาดท่า ครั้งต่อไปที่มันจะปรากฏขึ้นคือในอีกสามเดือนต่อมา”
ชายชราจมูกยาวไม่รออีกต่อไป เขาหยิบเหรียญออกมา เอาปากเป่าแล้วโยนขึ้นสูง
‘ดิ๊งด่อง!’
เหรียญตกลงสู่พื้นด้วยเสียงดังชัด
“ออกก้อย! ดูซะ เหรียญความจริงและความลวงพิสูจน์แล้วว่าไม่มีอะไรผิดเพี้ยนในการแลกเปลี่ยนของพวกเรา” ชายชราจมูกยาวกล่าว
กู่ฉิงซานยิ้มแล้วพยักหน้า “การแลกเปลี่ยนเสร็จสิ้นแล้ว ขอบพระคุณมาก”
ชายชราจมูกยาวถามทันทีว่า “ใช่ การแลกเปลี่ยนเสร็จสิ้นแล้ว แต่เจ้าไม่คิดจะขายข้อมูลอื่นจริง ๆ หรือ”
“ตอนนี้ยังไม่คิดน่ะ” กู่ฉิงซานตอบ
เรื่องของดาบศักดิ์สิทธิ์กับดาบพิภพมันมากเกินกว่าจะพูดได้
สิ่งที่เกี่ยวกับผู้ถักทอชีวิตหุบเหวก็ไม่สามารถกล่าวได้ ตอนนี้นางเสียพลังหุบเหวไป ได้รับบาดเจ็บสาหัส จะให้ถูกพบตัวไม่ได้
ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น หากพูดเรื่องพวกนี้ออกมา มันมีวิธีแปลก ๆ เสมอในการติดตามรากเหง้าจนพบตัวตนที่ข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้
ตอนเขาอยู่บนหอคอยในเรือ ผู้ดูแลความรู้บอกกู่ฉิงซานว่าต้องให้ความสนใจกับเรื่องพวกนี้ด้วย
แบร์รี่และเสี่ยวเมียวยังกล่าวถึงกู่ฉิงซานเป็นการส่วนตัวอีกด้วย
ดังนั้น กู่ฉิงซานระแวดระวังมากเวลาจะบอกข้อมูล
ชายชราจมูกยาวเผยสีหน้าผิดหวังออกมาก่อนโบกไม้เท้าสั้นอย่างจนใจ
“เอาล่ะๆ เรื่องนี้ อา ช่างมันเถอะ”
ฉากรอบข้างเปลี่ยนไป
เมื่อพวกเขากลับมาที่บ่อน้ำ กู่ฉิงซานยังยืนอยู่ที่เดิม ชายชราจมูกยาวยังยืนอยู่ที่ขอบบ่อน้ำ
“ลาก่อน” กู่ฉิงซานประสานมือ
“ลาก่อน ข้าจะตั้งตารอวันที่เจ้ามาอีกครั้ง” ชายชราจมูกยาวคำนับเล็กน้อย
กู่ฉิงซานยืนขึ้นก่อนเหาะไปทางภูเขาหิน
ชายชราจมูกยาวมองเขาเหาะไปไกลจนกระทั่งไม่เห็นร่าง จากนั้นเขาโบกไม้เท้ายาวก่อนกลับตำหนักตัวเอง
“บัดซบ! บัดซบ! บัดซบ!”
เขาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดอยู่ในตำหนัก
“เจ้าเด็กตัวเหม็นนั่น เห็นได้ชัดว่ายังมีข้อมูลที่น่าทึ่งอยู่อีก แต่เขากลับซ่อนไว้โดยไม่บอกข้า!”
ชายชราจมูกยาวคว้านาฬิกาปลุกสีทองบริสุทธิ์อย่างเกรี้ยวกราดเพื่อเตรียมจะขว้างลงกับพื้น แต่พลันนึกขึ้นได้ว่านาฬิกาปลุกเรือนนี้แพงมาก เขาจึงเอามันกลับไปวางด้วยความเสียดาย
เขาตะโกนต่อว่า
“ข้าคือภูตใหญ่นะ ทำไมเขากล้ามาทำแบบนี้!”
“โกรธเหลือเกิน! โกรธเหลือเกิน!”
เขานั่งลงบนเก้าอี้แล้วกล่าวกับอากาศว่า “ไป เอาข้อมูลลับของมังกรมารไปแขวน ระดับความลับนี้คือสูงสุด ส่วนราคา ให้คนพวกนั้นบอกเอง”
“ได้” เสียงตอบรับดังขึ้นในอากาศ
ชายชราจมูกยาวนั่งลงก่อนถอนหายใจ เขารินชาใส่ถ้วยเพื่อจะเตรียมยกขึ้นดื่ม แต่ทันใดนั้น
‘ปัง!’
หมอกสีขาวระเบิดขึ้นตรงหน้า มันน่ากลัวจนเขาแทบจะโยนถ้วยทิ้ง
“บัดซ…”
ชายชราจมูกยาวกำลังจะสบถ แต่ก็ปิดปากลงในทันที
หัวจดหมายสีขาวปรากฏขึ้นตรงหน้า ข้อความในนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความยาวของหัวจดหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ชายชราจมูกยาวรับจดหมายมาอ่านก่อนกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “มีหลายคนที่อยากรู้ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังพื้นที่จ้าวโลกของโลกเก้าร้อยล้านชั้นสินะ”
“เดี๋ยวๆ ยังมีคนที่สนใจในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในยุคโบราณด้วย แต่ราคาออกจะต่ำไปเสียหน่อย…”
“อืม จุดกำเนิดมังกรมาร ต่อให้อยากรู้ข้อมูลนี้ ข้าก็จะไม่ขายหากไม่ยอมจ่ายเป็นโลกสองสามใบ”
ชายชราจมูกยาวคล้ายกับมองเห็นเงินจำนวนมาก ทำให้ค่อย ๆ ตื่นเต้น
ตอนนี้ ในชุดคลุมสีเขียวของเขา กบตัวหนึ่งกระโดดออกมาแล้วมองเขาก่อนกล่าวว่า
“นายท่าน ข้าหิว”
ชายชราจมูกยาวละสายตาจากจดหมายยาวก่อนมามองกบ
ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งเกิดขึ้นในใจ
“เจ้าคือกบเขียวลี้ลับที่เข้าใจชีวิตทั้งมวล บอกข้าซิ เจ้าเด็กนั่นแค่คุยโวไปเรื่อยหรือว่ามีข้อมูลสำคัญอื่นอยู่จริง”
กบเขียวตอบว่า “ข้าหิวจนไม่สามารถตอบคำถามอะไรได้”
ชายชราจมูกยาวขว้างชายร่างเล็กกว่าอย่างหงุดหงิด
ปากของกบขยับ
ก่อนชายร่างเล็กจะทันได้กรีดร้อง เขาถูกกบเขียวนั่นกิน
“เป็นไงบ้าง วันนี้ข้าให้เจ้ากินอาหารสดๆ เลยนะ ข้าก็ไม่ได้เลี้ยงเจ้าแย่เสียหน่อย รีบตอบคำถามของข้ามาได้แล้ว!” ชายชราจมูกยาวเร่ง
กบเขียวอ้าปากกว้างแล้วกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ชายในชุดคลุมแห่งความเงียบยามราตรี เขามีความลับไม่มีสิ้นสุด ตัวเขาเองก็คือความลับ แต่เขาจงใจปกปิดความลับของตัวเองไว้ มีเพียงความลับที่เขาพูดออกมาเท่านั้นที่ข้ารับรู้ได้”
“ว่าไงนะ! เขายังมีข้อมูลมากกว่านี้อีกหรือ!”
ชายชราจมูกยาวกระโดด
เขาเดินไปมาอยู่ในตำหนัก ดวงตาสั่นไหวไม่มีสิ้นสุด
…
อีกด้าน
หลังจากกู่ฉิงซานเหาะมาได้สักพัก เขาหยิบแผ่นค่ายกลออกมาเพื่อใช้งานค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาระยะไกล
ร่างของเขาหายไปจากอากาศทันที
ไม่มีใครสามารถตามรอยเพื่อหาสถานที่ที่เขาไปได้
ในถ้ำหิน
ร่างของกู่ฉิงซานปรากฏขึ้น
“นายท่าน การสืบสวนเป็นยังไงบ้าง” ฉานนู่ถาม
“อย่าห่วงไปเลย ข้ารู้แล้วว่าจะไปโลกต่อไปยังไง พวกเราจะไปกันคืนนี้”
กู่ฉิงซานยิ้ม
ดวงตาของเขาขยับเล็กน้อยก่อนถามเสียงอ่อนว่า “เจ้าได้สติหรือยัง”
ตรงข้ามเขา หญิงสาวร่างสูงเอนกายพิงพนักขณะมองเขาอยู่เงียบๆ
………………………………………….