คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 735 คุณอิ๋งก็คือคุณหนูใหญ่

ตอนที่ 735 คุณอิ๋งก็คือคุณหนูใหญ่

ชิงหลางก็เป็นองครักษ์ลับเพียงคนเดียวของลูเอล ยิ่งไปกว่านั้นเขาตายแทนลูเอลได้

ทั้งสองคนได้รับการฝึกฝนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโต ตัวติดกันตลอด

ถ้าลูเอลมีอันตราย ชิงหลางจะออกมาปกป้องทันที

ซู่เวิ่นกัดปลายนิ้วด้วยความแน่วแน่ สแกนลายนิ้วมือกับม่านตาเพื่อเปิดจดหมายฉบับนี้

กระดาษจดหมายเป็นแบบทำขึ้นมาเป็นพิเศษเช่นกัน ใช้วัสดุนาโน ผ่านมานานหลายปีขนาดนี้ก็ยังไม่เสียหายแม้แต่น้อย

เธอก้มหน้าอ่าน

[เรียนคุณนายใหญ่ ไม่รู้ว่าคุณนายใหญ่จะได้อ่านจดหมายฉบับนี้เมื่อไร ผมคิดว่าอาจเป็นอีกหลายสิบปีให้หลัง ทั้งนี้ก็เพื่อหลบซ่อนจากหูตาของคนพวกนั้น

วันที่ 24 มีนาคม 2003 ผมติดตามท่านหัวหน้าตระกูลออกไปข้างนอก ถูกลอบโจมตีที่เนินน้ำแข็ง ทีมคุ้มกันตายหมดทุกคน

ผมไม่เคยเห็นคนพวกนี้มาก่อน พวกเขาไม่เผยโฉมหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ฝีมือต่อสู้สูงมาก ผมกับท่านหัวหน้าตระกูลถูกศัตรูรุมล้อม

เดิมทีผมต้องสู้สุดชีวิตเพื่อช่วยท่านหัวหน้าตระกูลออกไป แต่ท่านหัวหน้าตระกูลกลับเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อนักฆ่าพวกนี้ พร้อมทั้งสั่งผมให้กลับตระกูลเรนเกลทันทีเพื่อปกป้องคุณนายใหญ่

พอกลับถึงตระกูลผมกลับพบเรื่องที่น่าตกใจ ข่าวเรื่องการหายตัวไปของท่านหัวหน้าตระกูลได้มาถึงก่อนแล้ว คุณนายใหญ่สะเทือนใจคลอดก่อนกำหนด คุณหนูใหญ่ได้ออกมาลืมตาดูโลกก่อนเวลา

ผมได้รับคำสั่งจากหัวหน้าตระกูลให้มาคุ้มกันอย่างเงียบๆ แต่กลับพบว่าหมอทำคลอดอุ้มเด็กทารกไว้สองคน หนึ่งในนั้นหน้าเขียวเสียชีวิตไปแล้ว

คุณนายใหญ่ครับ เด็กทารกที่ตายไปไม่ใช่คุณหนูใหญ่ เป็นศพทารกที่พาวเวล ไลน์เจอร์ แอบสับเปลี่ยนครับ!]

พาวเวล ไลน์เจอร์ นายใหญ่ตระกูลไลน์เจอร์ หรือก็คือพ่อของไซคูกับซู่เวิ่น

มือขอซู่เวิ่นที่ถือจดหมายกำแน่นขึ้น

ในช่วงเวลาสิบกว่าวินาทีตอนนั้นที่เธอยังไม่ทันได้ตั้งสติ ลูกสาวของเธอก็ถูกเปลี่ยนตัวไปแล้ว!

ตอนนั้นเธอเหนื่อยทั้งกายและใจ ไร้เรี่ยวแรงจะทำอะไร และก็ไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ

อีกทั้งยังเป็นฝีมือตระกูลไลน์เจอร์ด้วย

แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ทั้งที่ลูเอลยังอยู่เมืองแห่งโลก แล้วใครส่งข่าวกลับมาก่อน

[พวกเขาต้องการฆ่าคุณหนูใหญ่ หลังจากที่ผมช่วยคุณหนูใหญ่ออกมาได้แล้วก็เจอพวกคนที่ลอบโจมตีบนเนินน้ำแข็งอีกครั้ง

ด้วยความจนปัญญา ผมจำต้องพาคุณหนูใหญ่ออกจากเมือง

ในเวลาครึ่งปีผมหนีจากทางใต้ของยุโรปไปที่ตอนเหนือ คนพวกนั้นก็ยังตามล่าอย่างไม่ลดละ

ผมได้ฝากคุณหนูใหญ่ไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในยุโรป เพื่อล่อคนตามล่าชุดสุดท้ายออกไป

คุณนายใหญ่วางใจได้ครับ ที่ตัวคุณหนูใหญ่มีตัวล็อกพันธุกรรมเพียงหนึ่งเดียวของเมืองแห่งโลกไว้ ท่านหัวหน้าตระกูลเป็นคนให้ผมมา

ตัวล็อกพันธุกรรมจะช่วยปกป้องชีวิตของเธอได้ ปกปิดรหัสพันธุกรรมของเธอไว้

ด้วยเทคโนโลยีของเจ็ดทวีปสี่มหาสมุทรไม่มีทางตรวจรหัสพันธุกรรมที่แท้จริงของเธอได้ วิธีพิสูจน์ต่างๆ ก็ไม่มีผล

ท่านหัวหน้าตระกูลตั้งเวลาไว้ ตัวล็อกพันธุกรรมจะปลดล็อกเมื่อคุณหนูใหญ่มีอายุครบสิบแปดปีครับ]

ซู่เวิ่นมือสั่นอีกครั้ง

เธอย่อมรู้เรื่องตัวล็อกพันธุกรรม

ใครเป็นคนสร้างตัวล็อกพันธุกรรมกันแน่ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ แต่ไม่ใช่ผู้วิเศษแน่นอน

และคนทั่วไปก็ไม่มีความสามารถนั้น

ตัวล็อกพันธุกรรมใช้เทคโนโลยีหลายชนิด ส่วนประกอบตั้งต้นไม่เพียงแต่จะมีสสารเล่นแร่แปรธาตุ ยังมีพวกหินอุกกาบาตด้วย

เด็กทารกที่ถูกล็อกรหัสพันธุกรรม ความสามารถส่วนหนึ่งก็จะถูกล็อกไว้ด้วย เช่น ไอคิว อีคิว กลายเป็นคนธรรมดา

ตัวล็อกพันธุกรรมไม่เพียงแต่จะช่วยคุ้มกันความปลอดภัยของทารก ยังสามารถช่วยชีวิตในเวลาสำคัญได้ด้วย

แต่ในขณะเดียวกันเมื่อช่วยชีวิตแล้ว ตัวล็อกพันธุกรรมนั้นก็จะแหลกสลายไป

ซู่เวิ่นสูดลมหายใจเข้าลึก

ถ้าตัวล็อกพันธุกรรมไม่ปลดล็อกก่อนยังพอไหว

แต่ถ้ามันปลดล็อกก่อน ก็แสดงว่าตัวล็อกพันธุกรรมแหลกสลายเพราะช่วยชีวิตไว้

ลูกสาวของเธอ…เท่ากับเคยตายไปแล้วหนึ่งครั้ง

แม้ตัวล็อกพันธุกรรมจะเป็นของวิเศษ แต่ไม่ได้มีประโยชน์มาก ถูกผู้วิเศษเก็บไว้ที่หนึ่ง

แต่ลูเอลได้ตัวล็อกพันธุกรรมมา ต่อให้ไม่ตายก็บาดเจ็บสาหัส

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามีคนมากมายขนาดนั้นรุมโจมตีเขาด้วย

ซู่เวิ่นไม่อยากเชื่อมาตลอดว่าลูเอลจะตายไปแล้ว

แต่สติได้บอกเธอว่า ยี่สิบปีแล้วที่ไม่มีร่องรอยของลูเอล และไม่มีการส่งข่าวคราวกลับมาแต่อย่างใด

ความเป็นไปได้ที่จะตายแล้วมีสูง

ซู่เวิ่นสงบสติอารมณ์ เธออ่านต่อ

[คุณนายใหญ่ครับ มีคนต้องการกำจัดตระกูลเรนเกล ไม่ใช่แค่ท่านหัวหน้าตระกูลกับคุณหนูใหญ่ สมาชิกสายตรงคนอื่นๆ ก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน แต่ผมไร้ความสามารถแล้วครับ

คุณนายใหญ่โปรดยกโทษให้ผมที่ไม่สามารถพาคุณหนูใหญ่กลับไปส่งถึงมือคุณนายได้

ผมส่งข้อความนิรนามให้คุณซีนายไปแล้ว พร้อมทั้งระบุเวลา เพื่อขอให้เธอช่วยตามหาคุณหนูใหญ่

คนพวกนั้นมีทั้งความสามารถในการต่อสู้ เทคโนโลยีขั้นสูง อีกทั้งยังจิตใจโหดเหี้ยม ผมเลยไม่กล้าส่งข้อความมากมาย ทำได้เพียงเท่านี้

ถ้าคุณหนูใหญ่เติบโตอย่างปลอดภัยได้ นั่นจะดีที่สุดครับ

ถ้าคุณนายใหญ่ได้อ่านจดหมายฉบับนี้แล้ว ต้องกำจัดตระกูลไลน์เจอร์ก่อนเลยนะครับ!

ถ้าผมเดาไม่ผิด เดี๋ยวถึงเวลาพวกเขาจะอ้างเรื่องที่คุณหนูใหญ่ตายเพื่อบีบให้คุณนายใหญ่รับลูกหลานผู้ชายของตระกูลไลน์เจอร์มาเป็นลูกบุญธรรม จากนั้นก็จะฮุบตระกูลเรนเกล!

แต่อย่างไรเสียตระกูลไลน์เจอร์ก็เป็นครอบครัวของคุณนายใหญ่ คุณนายใหญ่จะจัดการยังไงผมไม่ขอแสดงความคิดเห็น

ท่านหัวหน้าตระกูลเป็นยิ่งกว่าพี่น้องของผม ไม่ว่าอย่างไรผมก็ต้องปกป้องครอบครัวของเขา

ผมขอขอบคุณที่คุณนายใหญ่เมตตาดูแลผมในช่วงหลายปีมานี้]

ชิงหลางเขียนด้วยตัวเอง!

บรรทัดล่างๆ ลายมือหวัดมากขึ้น อีกทั้งยังมีรอยหยดเลือด

ชวนสะพรึง

“…”

ซู่เวิ่นอ่านจบก็เงียบไปนาน

จดหมายฉบับนี้มีข้อมูลเยอะมากทีเดียว แต่ละประโยคล้วนสร้างความสะเทือนใจอันน่ากลัว

ชิงหลางเดาถูก

แต่เรื่องเดียวที่เดาไม่ได้คือ แก่นแท้ของร่างกายเธอสูญเสียหนักจนหมดสติไปเกือบยี่สิบปี

สาเหตุที่ตระกูลไลน์เจอร์ไม่เลือกสับเปลี่ยนทารกโดยตรงเป็นเพราะโอกาสที่จะถูกจับได้มีร้อยเปอร์เซ็นต์

แต่ถ้าตายไปแล้วก็พูดอะไรไม่ได้

แต่ที่น่าตลกคือ พาวเวลดีต่อเธอตั้งแต่เด็กจนโต ลำเอียงรักเธอมากกว่าไซคูด้วยซ้ำ

สุดท้ายก็ยังคงเป็น ‘ลูกสาวที่แต่งออกไปก็เหมือนน้ำที่สาดออก’ เธอเป็นเพียงเครื่องมือที่ตระกูลไลน์เจอร์ใช้ชิงอำนาจ

พ่อบ้านถามขึ้นด้วยความระมัดระวัง “คุณนายใหญ่ คุณชิงหลางว่าไงบ้างเหรอครับ”

ซู่เวิ่นสงบสติอารมณ์ พูดเสียงสั่น “ถานถานยังไม่ตาย”

เธอพูดจบก็เอาสองมือปิดหน้า น้ำตาร่วงเผาะ

ลูกสาวของเธอยังมีชีวิตอยู่

นี่เป็นเรื่องที่แม้แต่ในฝันเธอก็ยังไม่กล้าขอ

แต่ตอนนี้ความเพ้อฝันเป็นจริงแล้ว

พ่อบ้านดีใจมาก คุกเข่าลงอีกครั้ง “ยินดีด้วยครับคุณนายใหญ่ ยินดีด้วยครับ!”

เขากะแล้ว ในเมื่อชิงหลางทิ้งจดหมายไว้ ด้วยระดับความจงรักภักดีของเขา คุณหนูใหญ่ยังต้องมีชีวิตอยู่แน่นอน

ผ่านไปนานกว่าซู่เวิ่นจะใจเย็นลง “ถานถานยังไม่ตาย แต่ไม่รู้อยู่ที่ไหน”

ยุโรปใหญ่มาก ตามหาคนคนหนึ่งไม่ต่างจากงมเข็มในมหาสมุทร

เด็กทารกคนเดียว แถมที่ตัวก็ไม่มีลักษณะเด่นอะไร

นี่ก็จะโทษชิงหลางไม่ได้ที่ไม่บอกซีนายให้ชัดเจน

มิน่าล่ะ ถึงแม้ตราประทับจะมีแค่ลูเอลที่ใช้ได้

แต่วินาทีแห่งความเป็นความตายแบบนั้น ลูเอลจะให้ตราประทับแก่ชิงหลางมาก็เป็นเรื่องปกติ

พ่อบ้านกำมือคารวะ “คุณนายใหญ่ครับ พวกเราสืบเรื่องตระกูลอิ๋งมาแล้ว นี่ข้อมูลครับ”

เขาหยุดเล็กน้อย “ครอบครัวนี้ประหลาดมากครับ”

ลูกสาวแท้ๆ หายไปก็ไปหาเด็กผู้หญิงมาเลี้ยงเป็นลูกแท้ๆ ต่อ

เห็นแต่ผลประโยชน์ ใช้ลูกสาวแท้ๆ เป็นคลังเลือดมีชีวิต

ก็ไม่รู้ว่าสมองมีปัญหาขนาดไหนถึงทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้

พ่อบ้านพูดต่อ “คุณนายใหญ่ครับ แต่ตระกูลอิ๋งก็เกี่ยวข้องกับพวกเราอยู่บ้างจริงๆ เรื่องนี้คุณนายใหญ่อาจไม่ทราบ ในรุ่นของท่านผู้เฒ่ามีญาติสายรองถูกลบความทรงจำในเมืองแห่งโลกแล้วปล่อยตัวไปที่เจ็ดทวีปสี่มหาสมุทรครับ”

“น่าจะเป็นครอบครัวนี้ มิน่าคุณอิ๋งถึงได้หน้าคล้ายท่านหัวหน้าตระกูลอยู่บ้าง”

ซู่เวิ่นรับมา “ขอฉันดูหน่อย”

ข้อมูลบอกว่าตระกูลอิ๋งมีลูกชายกับลูกสาวอย่างละคน ทั้งยังบันทึกไว้อย่างละเอียดเรื่องที่อิ๋งจื่อจินถูกอิ๋งลู่เวยเอาไปโยนทิ้งตอนขวบกว่า

แต่สายตาของซู่เวิ่นจับจ้องไปยังวันที่ยี่สิบสี่มีนาคมปีสองพันสาม

เกิดวันเดียวกับถานซินของเธอ

ถึงแม้จะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่กลับยิ่งตอกย้ำความรู้สึกบางอย่างในใจเธอ

“คุณนายใหญ่ครับ ในข้อมูลดูเหมือนคุณอิ๋งจะถูกเอาไปทิ้งตอนขวบกว่า” พ่อบ้านลังเล “อีกทั้งยังอยู่ที่ประเทศจีนมาตลอด ไม่สอดคล้องกับที่ท่านชิงหลางพูด”

“เรื่องนั้นช่างมัน” ซู่เวิ่นพูด “ฉันอยากตรวจดีเอ็นเอกับเยาเยาก่อน”

ในเมื่อถานถานของเธอยังไม่ตาย ถ้าอย่างนั้นเรื่องอื่นก็ไม่สำคัญแล้ว

พ่อบ้านติดตามข้างกายซู่เวิ่น ย่อมรู้จักอิ๋งจื่อจิน

เขาพยักหน้า ดูเวลา “คุณนายใหญ่ครับ ตอนนี้สำนักวิจัยยังไม่ปิด ไปหาคุณอิ๋งได้ก็จริง แต่เมื่อครู่พวกเราถูกลอบโจมตีระหว่างทาง”

“อีกทั้งเวลานี้ข้างนอกไม่สงบ พวกเราไปหาคุณอิ๋งตอนนี้ไม่ได้ เกิด…”

ซู่เวิ่นมีสีหน้าตกใจ “พ่อบ้านพูดถูก”

ด้วยระดับสติปัญญาของซู่เวิ่น เธอพอจะเดาได้ว่าคนกลุ่มนั้นที่ตามฆ่าลูเอลเป็นกลุ่มเดียวกับวันนี้

อีกทั้งศัตรูก็รู้ว่าเธอกำลังสืบเรื่องในตอนนั้น ดีไม่ดีพวกเขาอาจเลือกลงมือไว้ก่อน

เธอทนรับการสูญเสียเป็นครั้งที่สองไม่ได้แน่

ซู่เวิ่นครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วพูดขึ้น “ส่งทีมคุ้มกันออกไปช่วยก่อน พรุ่งนี้พวกเราจะไปสำนักวิจัยแต่เช้า”

มือของเธอยังสั่นอยู่ ข่มความกระวนกระวายใจไม่อยู่

ทันใดนั้นพ่อบ้านก็ตะโกนด้วยความตกใจ “คุณลูน่า!”

ซู่เวิ่นเงยหน้าขึ้นทันที เห็นเซ่าอิ่งแบกลูน่าเข้ามา

“น้องสี่!” เธอสีหน้าเปลี่ยน “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเซ่าอิ่ง”

เซ่าอิ่งวางลูน่าบนเตียง ดวงตายังคงฉายแววอาฆาต “คุณแม่ถูกคนตระกูลไลน์เจอร์ลักพาตัวไป ผมกับคุณอิ๋งไปช่วย พบว่าพวกเขาต้องการฆ่าคุณแม่ครับ”

ซู่เวิ่นสีหน้าเปลี่ยนไปมาก “ตระกูลไลน์เจอร์เหรอ งั้นเยาเยาล่ะ”

เธอย่อมไม่มีทางลืมเรื่องที่ชิงหลางกำชับมาในจดหมาย

ต้องกำจัดตระกูลไลน์เจอร์ก่อน

“คุณอิ๋งล่อพวกคนคุ้มกันของตระกูลไลน์เจอร์ออกไปเพื่อให้ผมกับคุณแม่กลับมาอย่างปลอดภัยครับ” เซ่าอิ่งนึกถึงฝ่ามือนั้นของอิ๋งจื่อจิน “เธอมีฝีมือต่อสู้สูงมาก อย่างน้อยก็เทียบเคียงได้กับรองผู้บัญชาการหน่วยอัศวินครับ”

ซู่เวิ่นยังคงไม่วางใจ หันไปสั่งทันที “เร็วเข้า ส่งทีมคุ้มกันออกไปให้หมด ไปที่ตระกูลไลน์เจอร์ก่อน”

ไม่ว่าอิ๋งจื่อจินจะใช่ถานถานของเธอหรือเปล่า เธอก็ไม่มีทางปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับอิ๋งจื่อจิน

พ่อบ้านรับคำสั่ง “ครับ!”

“ตามหมอมาด้วย” ซู่เวิ่นสั่งเสร็จก็ถาม “วันนี้แม่เธอไปที่ไหนมา ทำไมถึงถูกคนตระกูลไลน์เจอร์จับไปได้”

“วันนี้คุณแม่ไปแค่โรงพยาบาลครับ เห็นบอกว่าจะตรวจดีเอ็นเอ แต่ก็ไม่รู้ว่าตรวจให้ใครครับ” เซ่าอิ่งห่มผ้าให้ลูน่า ดวงตาฉายแววสงสัย “ไม่รู้ว่าไปขัดผลประโยชน์ของตระกูลไลน์เจอร์เข้าหรือเปล่า”

เป็นเพราะอะไรกันแน่ถึงทำให้พวกเขายอมเสี่ยงที่จะถูกกวาดล้างตระกูลมาลักพาตัวลูน่าไป

คำว่าตรวจดีเอ็นเอเหมือนสายฟ้าที่ผ่าลงข้างหูของซู่เวิ่น

หรือว่า…

เซ่าอิ่งค่อยๆ เงยหน้าขึ้น “ป้าสะใภ้?”

เขาเป็นคนรอบคอบ ย่อมรู้ว่าตระกูลไลน์เจอร์เป็นครอบครัวฝ่ายซู่เวิ่น

ซู่เวิ่นใช้ชีวิตในตระกูลไลน์เจอร์มานานกว่าที่แต่งเข้าตระกูลเรนเกล

หรือซู่เวิ่นจะเข้าข้างทางนั้น

“เลิกพูดเรื่องนี้ก่อน” ซู่เวิ่นดึงสติกลับมา “ช่วยแม่เธอให้ฟื้นก่อน”

หมอมาพร้อมเข็นเครื่องมือมาอย่างรวดเร็ว

เซ่าอิ่งมองเครื่องตรวจ สายตาเย็นชา “โดนวางยา”

ถ้าเขาไม่ติดจีพีเอสที่ตัวลูน่าและไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ

เกรงว่าลูน่าคงไม่มีชีวิตรอดออกมาจากตระกูลไลน์เจอร์แล้ว

สายตาของซู่เวิ่นก็เย็นชาสุดขั้ว

ถ้าไม่นับเรื่องลูน่า เอาแค่เรื่องที่แอบสับเปลี่ยนทารกหลังเธอคลอด แค่นี้ก็เพียงพอให้เธอกับตระกูลไลน์เจอร์กลายเป็นศัตรูคู่แค้นกันได้แล้ว

ต่อให้พาวเวลเป็นพ่อของเธอ เธอก็ไม่มีทางปล่อยเขาไปเด็ดขาด

สามสิบนาทีต่อมาหมอก็กำจัดพิษในตัวลูน่าได้หมดพร้อมทั้งให้น้ำเกลือ

ลูน่าเริ่มได้สติฟื้นขึ้น

เซ่าอิ่งโล่งอก เขาเรียก “คุณแม่”

“น้องสี่” ซู่เวิ่นก็เป็นห่วงมาก “ยังรู้สึกเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”

สุขภาพของลูน่าสำคัญกว่า

พอลูน่าหายดีแล้วเธอค่อยไปคิดบัญชีกับตระกูลไลน์เจอร์

ลูน่าอึ้ง เหมือนจะยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ความทรงจำของเธอหยุดอยู่ที่โรงพยาบาล

“พี่สะใภ้ใหญ่!” พอลูน่าตั้งสติได้ ทันใดนั้นเธอก็จับบ่าซู่เวิ่น ตามมาด้วยร้องไห้คร่ำครวญ “พี่สะใภ้ใหญ่ ฉันเห็นคุณอิ๋งหน้าเหมือนพี่ แถมยังคล้ายพี่ใหญ่”

“ฉันคิดว่าฉันได้เซ่าอิ่งกลับมาแล้ว ถ้าเกิดพี่ก็เหมือนกันล่ะ ฉันเลยไม่ได้บอกพี่ก่อน แอบไปตรวจดีเอ็นเอให้”

ซู่เวิ่นใจสั่นขึ้นมาทันที “เธอบอกว่าเธอตรวจของฉันกับเยาเยา…”

เซ่าอิ่งตัวเกร็ง

“พี่สะใภ้ใหญ่ จริงๆ นะ” ลูน่าเช็ดน้ำตา “คุณอิ๋งก็คือคุณหนูใหญ่!”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset