ไหปีศาจ – ตอนที่ 316 ผลไม้ลึกลับและรองเท้าเหินฟ้า

บทที่ 316 ผลไม้ลึกลับและรองเท้าเหินฟ้า
บทที่ 316
ผลไม้ลึกลับและรองเท้าเหินฟ้า

ลิงเผือกตัวน้อยที่มีชื่อว่าเสี่ยวกงนั้นเป็นสัตว์วิญญาณที่น่าสงสาร มันอ่อนแอกว่าพี่ชายทั้งสองของมันมาก

ลั่วอู๋คิดว่ามันน่าจะมีความบกพร่องนี้มาตั้งแต่กำเนิด
แต่ต่อมาเมื่อเขาได้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับลิงเผือกตัวน้อย เขาก็คิดว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น

เนื่องจากเสี่ยวกงนั้นไม่ได้สืบทอดทักษะใด ๆ ที่ลิงเผือกควรมีมาเลย กลับกันแล้วมันมีทักษะระดับ S ที่หาได้ยากอย่าง [ศิลปะแห่งจักรพรรดิดาบ]มาแทนที่

นี่ทำให้ลั่วอู๋ตั้งข้อสงสัย
บางทีลิงเผือกน้อยตัวนี้อาจจะเป็นลิงเผือกกลายพันธุ์ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงทางรูปลักษณ์ของมันนั้นยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ มีเพียงขนสีทองทั่วร่างกายปะปนมาสองถึงสามเส้นกระจัดกระจายไป

นี่เป็นการกลายพันธุ์ที่หาได้ยาก เรียกได้ว่าเป็นการกลายพันธุ์ที่ทำให้ทั่วทั้งแผ่นดินต้องสั่นสะเทือนเกินกว่าการกลายพันธุ์ทั่ว ๆ ไปอย่างแน่นอน

ไม่ว่าการกลายพันธุ์นี้จะมีผลดีหรือไม่นั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถสรุปได้ในขณะนี้ แต่ลั่วอู๋คิดว่าถ้าปล่อยให้เจ้าลิงเผือกน้อยตัวนี้ตายไปคงจะน่าเสียดาย

ยิ่งไปกว่านั้นความปรารถนาที่จะครอบครองดาบของลิงเผือกตัวน้อยเองก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากจริงๆ

ลั่วอู๋จึงเหลาไม้ไผ่มาเป็นดาบให้กับมัน นี่คงจะดีไม่น้อยหากมันสามารถกระตุ้นเจตจำนงในการดำรงชีวิตอยู่ของเจ้าลิงน้อยได้
ลั่วซงที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้แต่กล่าวด้วยความเสียใจ “ลิงน้อยตัวนี้อ่อนแอเกินไป แม้ว่ามันจะมีชีวิตรอด มันก็น่าจะเป็นลิงเผือกที่อ่อนแอที่สุดในประวัติศาสตร์”

“ก็อาจจะ” ลั่วอู๋ดูไม่แน่ใจเท่าไหร่
ยังไงซะมันก็เป็นถึงสัตว์วิญญาณที่มีทักษะ ศิลปะแห่งจักรพรรดิดาบ มันไม่น่าจะเป็นอะไรที่สูญเปล่าแน่ ๆ

หลังจากได้เห็นลิงเผือกแล้ว ลั่วอู๋ก็พร้อมที่จะเดินทางกลับ

ลั่วอู๋เข้าพักที่โรงเตี๊ยมแถว ๆนั้น
ในคืนเดียวกันนั้นเอง
หอคอยสีขาวในมิติไหได้ถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง แสงสีขาวสว่างกระจายออกไปทั่วมิติไห

ลั่วอู๋พยายามสังเคราะห์หาสินค้าใหม่ ๆ เขาลองสังเคราะห์สมุนไพรวิญญาณทั้งหมดที่นำมาจากสำนักโล่พิทักษ์
วิธีในการตัดสินว่าผลลัพธ์จากการสังเคราะห์นั้นเป็นของหายากหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากพลังวิญญาณที่เขาต้องใช้ในการสังเคราะห์วัตถุดิบสองอย่างเข้าด้วยกัน

ความน่าจะเป็นในการใช้ของระดับขยะสังเคราะห์ออกมาให้ได้เป็นของมีค่าออกมานั้นมีเพียงเล็กน้อย อีกทั้งยังเป็นการทำให้พลังวิญญาณของลั่วอู๋หมดไปโดยใช่เหตุ ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าหากจะสังเคราะห์ด้วยวัตถุดิบชั้นดีที่มีพลังวิญญาณสูง

เมื่อเร็ว ๆ นี้เขาได้รับสมุนไพรวิญญาณระดับสูงสำหรับใช้ในการสังเคราะห์มาสะสมไว้เป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามผลจากการสังเคราะห์ สมุนไพรเหล่านั้นกลับไม่ได้เม็ดยาออกมาเลย

วัตถุดิบในครั้งนี้คือหญ้าราตรี ซึ่งเป็นสมุนไพรวิญญาณระดับสูง ส่วนวัตถุดิบอีกอันคือสมุนไพรที่สามารถใช้เป็นยาได้ และยังมีฤทธิ์พิเศษอื่น ๆ อย่าง กิ่งกาหลิน

[ได้รับผลไม้ลึกลับ แต้มเซียน+ 50]
“ไม่ใช่ยางั้นเหรอ ? นี่มันคืออะไรกัน ?” ลั่วอู๋มองไปที่ผลไม้ลึกลับตรงหน้า

ผลไม้ลึกลับนั้นมีขนาดประมาณเท่าหัวแม่มือ มันมีสีม่วงเข้มและดูเหมือนผลไม้ป่าที่หาได้บนภูเขา

ทว่าสิ่งที่ทำให้มันดูแตกต่างก็คือ มันถูกหุ้มด้วยออร่าแสงสีแดงจาง ๆ และละอองหมอกสีขาวที่ดูลึกลับคล้ายลมปราณ ราวกับว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิต

เขาไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับผลไม้แบบนี้มาก่อน และไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้

อย่างไรก็ตามจากจำนวนแต้มเซียนที่เขาได้รับในการสังเคราะห์มัน เขาสามารถสันนิษฐานได้ว่าผลไม้ลึกลับนี้ไม่น่าจะเป็นผลไม้ธรรมดา ๆ

“มันคงไม่ใช่ยาพิษหรอกใช่ไหม ?” ลั่วอู๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ใช้ปลายนิ้วของเขากรีดพื้นผิวของผลไม้ลึกลับ ทำให้น้ำสีแดงสดสองสามหยดก็ค่อยๆไหลออกมา
ลั่วอู๋หยดมันลงบนมือและทาลงบนมืออีกข้างของเขา
ไม่มีความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น ถ้ามันเป็นพิษล่ะก็เขาน่าจะสามารถรู้สึกได้ถึงอาการระคายเคือง กลับกันแล้วน้ำจากผลไม้ลึกลับนี้ดูเหมือนจะมีพลังวิญญาณมากมายมหาศาลอยู่ภายใน

“ลองกินมันดูก่อนก็แล้วกัน” ลั่วอู๋กลืนผลไม้ลึกลับลงไป
ทันใดนั้นพลังวิญญาณมหาศาลก็ได้หลั่งไหลเข้าสู่แขน ขาของเขา ให้ความรู้สึกสบายตัวกระปรี้กระเปร่า พลังวิญญาณในร่างของลั่วอู๋ ไหลเวียนไปมาอย่างรวดเร็วทำให้เขารู้สึกว่าทั่วทั้งร่างกำลังลุกเป็นไฟ

ราวกับว่ามีพลังงานบางอย่างไหลเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่องคอยให้ความอบอุ่นกับเขา ทำให้ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะดื่มด่ำไปกับมัน

เมื่อเวลาผ่านไปสักครู่หนึ่ง ความอบอุ่นดังกล่าวก็หายไป จากนั้นลั่วอู๋หายใจเข้ายาวออกมาแล้วลืมตาขึ้น

“ดูเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรสินะ ?”
ลั่วอู๋งงงวย พลังวิญญาณของเขาไม่ได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้กล้ามเนื้อและกระดูกของเขาเองก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เส้นลมปราณของเขาก็ยังคงมีสภาพเหมือนเดิม และความรู้เกี่ยวกับแก่นวิญญาณของเขานั้นก็ยังมั่นคงเป็นปกติ

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในร่างกาย ยกเว้นว่าสภาพจิตใจที่ดีขึ้น และมันทำให้เขารู้สึกสบายใจมากในตอนที่ได้กลืนมันเข้าไป

“เจ้านี่มันเหมือนกับผงหวู่ฉีรึเปล่านะ?” ลั่วอู๋อดสงสัยไม่ได้

ผงหวู่ฉีเป็นแป้งชนิดหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกมีความสุขได้ในตอนแรก แต่ผลกระทบสืบเนื่องนั้นยิ่งใหญ่มาก ทำให้ผู้ใช้ถึงขั้นเสพติดมัน จนนำไปสู่การล่มสลายของผู้ใช้ได้เลยทีเดียว

ลั่วอู๋รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่ เขาตื่นตัวมาก
มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะสังเคราะห์ได้ของที่มีมูลค่าสูงเช่นนี้ออกมา แต่ปัญญาก็คือมันกลับเป็นยาเสพติดอย่างนั้นเหรอ?

“พอลองคิด ๆ ดูแล้ว ตอนนี้ข้าก็ไม่ได้มีอาการไม่พึงประสงค์ใด ๆ เลยนี่นา” ลั่วอู๋ลองสังเคราะห์ผลไม้ลึกลับออกมาอีกหนึ่งผลแล้วเก็บมันไว้

เขาคงต้องหาใครสักคนมาช่วยตรวจระบุตัวตนของมัน ถ้ามันมีผลคล้ายกับผงหวู่ฉีจริงๆล่ะก็ ลั่วอู๋จะไม่สังเคราะห์มันออกมาอีกในอนาคต

วันนี้ลั่วอู๋ยังไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้เท่าไหร่ เขาไม่อาจพักอยู่นิ่ง ๆ ได้ เพราะเขายังมีแร่วิญญาณอีกมากมายในเหมืองวิญญาณที่เขายังไม่ได้ลองสังเคราะห์ดู

ลั่วอู๋ยุ่งวุ่นวายกับพวกมัน จนถึงตอนเที่ยงของวันรุ่งขึ้น
การเก็บเกี่ยวแร่มันน่าสนใจมากสำหรับเขา

แร่วิญญาณระดับสูงไม่ได้สังเคราะห์ออกมาได้สิ่งที่มีประโยชน์เสมอไป กลับกันกับแร่ระดับกลางสองอันเมื่อเอามาสังเคราะห์ด้วยกันยังได้ผลดีเสียกว่า

แคมเบรียนและคลอโรพลาสต์
แม้ว่าแร่วิญญาณทั้งสองชนิดนี้จะมีลักษณะที่ผิดปกติ แต่มันก็ไม่ได้มีค่าอะไร มูลค่ารวมของแร่ทั้งสองนี้รวมกันไม่เกิน 500 หินวิญญาณด้วยซ้ำ

[ได้รับรองเท้าเหินฟ้า 1 คู่ แต้มเซียน + 10]
มันคือรองเท้าบูทสำหรับการเดินทาง มันจะดูดซับพลังวิญญาณของผู้ใช้และสามารถปลดปล่อยพลังวิญญาณที่กักเก็บๆไว้ออกมาได้ ทำให้ได้ผลแบบเดียวกันกับการร่อนไปในท้องฟ้า

การบินนั้นเป็นความฝันของคนส่วนใหญ่มาโดยตลอด
มันก็เป็นเรื่องยากมากที่ครอบครองสัตว์พาหนะที่มีทักษะการบิน และหากต้องการที่จะบินได้ด้วยพลังของตัวเองล่ะก็ คงไม่มีวิธีอื่นนอกจากต้องไปให้ถึงมิติวิญญาณของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูง
แน่นอนว่ามิติวิญญาณของผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสูง นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะบรรลุไปถึงได้ ผู้คนทั่วไปส่วนใหญ่จึงไม่เคยได้มีโอกาสได้บินขึ้นไปบนฟ้าตราบจนชั่วชีวิตของพวกเขา

อย่างไรก็ตามด้วยพลังของรองเท้าเหินฟ้าคู่นี้ มันสามารถช่วยให้ผู้คนทั่วไปเหาะเหินกลางอากาศได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วยความสามารถในการกระโดดและร่อนอันยอดเยี่ยม มันจึงเทียบได้กับการมีทักษะเหินฟ้าอยู่ในครอบครอง

แม้ภายนอกคุณภาพของมันจะดูไม่ดีเท่าไหร่ ไม่ต่างจากรองเท้าหนังธรรมดาและง่ายที่จะทำลาย แต่มันกลับมีคุณค่าที่แท้จริงซ่อนอยู่มากมายมหาศาล

ลั่วอู๋นั้นได้บริหารร้านค้ามาเป็นเวลานาน และในครั้งนี้เขาก็พบโอกาสทางธุรกิจ นั่นก็คือการขายรองเท้าเหินฟ้าคู่นี้

รองเท้าเหล่านี้สามารถช่วยให้ผู้ใช้พลังวิญญาณธรรมดาทั่วไปเพลิดเพลินไปกับการบินได้
แม้ว่ามันจะบินต่ำลงมาเรื่อย ๆ เสมอ แต่มันก็ตกลงมาในระยะเวลาที่ช้ามาก! หลายคนคงไม่สามารถรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างการบินกับการร่อนด้วยรองเท้าเหินฟ้าคู่นี้ได้

“มันไม่ใช่สูตรที่ดีที่สุด แต่เป็นสูตรสังเคราะห์ที่มีคุณค่ามาก” ลั่วอู๋ กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ

ทันใดนั้นหลี่หยินเข้ามาก็เคาะที่ประตูห้องของเขา
ดูเหมือนว่าจะมีแขกแวะมาเยี่ยม
และก็เป็นตามที่เขาคาดไว้จริง ๆ เซาฉางได้เดินทางมาหาเขา ทำให้ลั่วอู๋ต้องออกมาจากมิติไห

อารมณ์ของ เซาฉางนั้นสงบมาก ทำให้ผู้คนโดยรอบสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสบาย ๆ และเรียบง่ายของเขา เขายิ้มอย่างอบอุ่นขณะนั่งรออยู่ที่โต๊ะไม้

ข้างๆเขามีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาสง่างาม ชายหนุ่มคนนี้ดูสงบ และบางครั้งสายตาของเขาก็ทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันมากมหาศาล

อาฟูยืนมองอยู่ข้างๆด้วยความตื่นเต้น โดยพยายามสุดความสามารถที่จะระงับความตื่นเต้นในใจ

เขาไม่ใช่คนงานตัวน้อยที่โง่เขลาอีกต่อไปแล้ว
เขารู้ว่าผู้บริหารทั้งเก้าคนของคฤหาสน์ชวนเทียนนั้นถือว่าเป็นตัวแทนของอะไรบ้าง นอกจากนี้เซาฉางเองก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ

นายน้อยมีอิทธิพลมากถึงขนาดที่ทำให้ เซาฉางต้องมาเยี่ยมเขาด้วยตัวเองเลยเหรอเนี่ย ?

ลั่วอู๋เดินเข้าไปในห้องรับรอง
เมื่อเห็นลั่วอู๋เดินเข้ามา เซาฉางยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มต้อนรับราวกับว่าได้เห็นเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน “น้องชายลั่ว”

มันผ่านมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว นับจากที่พวกเขาได้พบกันครั้งสุดท้ายในสำนักเฉียนหลง

มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกรังเกียจในท่าทีของเขา
“ท่านผู้บริหาร เซาฉาง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะขอรับ” ลั่วอู๋ตอบกลับ

การแสดงออกของเซาฉางดูเศร้าเล็กน้อย “น้องชายลั่ว มาถึงคฤหาสน์ชวนเทียนแท้ ๆ แต่ข้ากลับไม่รู้ได้อย่างไรกัน นอกจากไม่ได้ส่งใครออกไปทักทายแล้ว ยังมีคนกล้าเมินเฉยต่อเจ้าอีก นั่นทำให้ข้ารู้สึกผิดมาก”

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” เนื่องจากอีกฝ่ายพูดออกมาเช่นนี้ ลั่วอู๋จึงรู้สึกอายที่จะเสียอารมณ์

ท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังคงมีมิตรภาพระหว่างกันอยู่บ้าง
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก เมื่อวานนี้น้องชายลั่วทำถูกต้องแล้ว” เซาฉาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เลขาหลี่คนนั้นถูกข้าขับไล่ออกไปจากคฤหาสน์ชวนเทียนแล้วเรียบร้อย คนแบบนั้นไม่เหมาะสมที่จะเป็นเลขาของคฤหาสน์ชวนเทียนเลยสักนิด”

ลั่วอู๋พยักหน้า
ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่
จากนั้นสายตาของเขาก็มองไปที่ชายหนุ่มผู้ยืนอยู่ข้างหลังเซาฉาง

เพราะเขาจับสังเกตได้ว่าชายหนุ่มคนนั้นกำลังแอบประเมินตรวจสอบเขาอยู่

ใช่เลย ไม่ผิดแน่…
มันเป็นการตรวจสอบแบบเดียวกับที่ผู้บังคับบัญชากำลังมองไปที่ผู้ใต้บังคับบัญชา

ท่าทางแบบนี้ทำให้ลั่วอู๋อึดอัดมาก

ไหปีศาจ

ไหปีศาจ

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ไหปีศาจลั่วอู๋ โดนไหหล่นใส่หัวจนข้ามมิติไปอยู่ในร่างของ นายน้อยลั่ว ผู้ถูกเนรเทศ เพราะไม่สามารถทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรได้ แต่แล้วเขาก็พบว่าเจ้าไหที่เป็นปัญหาได้เชื่อมต่อกับเขา ความสามารถของเจ้าไหปีศาจนี้ท้าทายสวรรค์ยิ่งนัก เพียงแค่ ลั่วอู๋ใส่ ดอกหญ้าลงไปมั่วๆ มันสังเคราะห์สัตว์วิญญาณระดับเงินให้กับเขา ยิ่งเขาลองใส่ของลงไปมั่วซั่วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสังเคราะห์ สิ่งต่างๆออกมา ทั้ง ยาวิญญาณ อาวุธวิญญาณ สัตว์อสูร ภูต

Comment

Options

not work with dark mode
Reset