ตอนที่ 768 กลับมาแล้ว! ซาโรห์ คุณยังไม่มีสิทธิ์
ถึงแม้บิลจะรู้สึกอิจฉาเอสวายที่เป็นนักไลฟ์สดสายวิศวกรรมที่เพิ่งโด่งดังคนนี้มาก
แต่ก็ต้องยอมรับว่าความคิดสร้างสรรค์ของเอสวาย ความสามารถในการลงมือทำ และความรู้ที่มี ล้วนเหนือกว่าเธอทั้งนั้น
บิลดูไลฟ์สดของเอสวายทุกวันเพื่อพัฒนาตัวเอง
อีกทั้งยังย้อนกลับไปดูหลายรอบ
เพียงแต่มือของเอสวายขยับไวมาก ต่อให้กดย้อนดูช้าๆ แล้วก็ยังไม่รู้ว่าแต่ละชิ้นส่วนประกอบยังไงกันแน่
แต่บิลจำได้แม่นว่าปืนเลเซอร์รุ่นใหม่ที่ประกอบตอนนั้นก็คือแบบเดียวกับกระบอกนี้
แม้แต่ตำแหน่งของปุ่มกดก็ยังเหมือนกันไม่มีผิด
ตอนนั้นหลังจากเอสวายไลฟ์สดเสร็จก็เอาพวกอาวุธที่ทำในไลฟ์ไปเปิดประมูลในเว็บดับบลิว
บิลแย่งซื้อไม่ทัน
อิ๋งจื่อจินถึงขั้นกล้าเอาผลงานคนอื่นมาส่งเลยเหรอ
คิดว่าพวกอาจารย์กับคณบดีมองไม่ออกเหรอ
บิลล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาทันที เริ่มถ่ายรูปทุกมุมของผลงานที่อยู่บนโต๊ะ จงใจถ่ายให้เห็นชื่อของอิ๋งจื่อจิน
หลังจากถ่ายเสร็จเธอก็รีบร้อนออกจากห้องทดลองไป
…
ตอนเที่ยง
บาร์แห่งหนึ่งในโซนใจกลางเมือง
อิ๋งจื่อจินเปิดประตูเข้ามาแล้วถอดหมวกออก “เรียกหาฉันมีธุระอะไรเหรอ”
“ก็ต้องเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้ว” ซิวเดินเข้ามา “ผมก็เพิ่งรู้วันนี้เลยรีบมาบอกคุณทันที พระจันทร์กลับมาแล้ว”
“อืม” เดิมทีอิ๋งจื่อจินจะไปหยิบไวน์ แต่หยุดทันระหว่างเดินไป เปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้ “ฉันเป็นคนพาเธอไปเอง”
“…”
ทันใดนั้นบรรยากาศก็เงียบสงัด
ซิวช็อก
อะไรวะ
“ตอนนี้ผมสงสัยว่าคุณเป็นแม่เหล็ก” ซิวกุมขมับ แค่อยากกระอักเลือด “แม่เหล็กดึงดูดผู้วิเศษ”
ผู้วิเศษเปลี่ยนภพจะมีสักกี่คน
อย่างมากสุดสองมือก็พอนับ
ปรากฏว่าทยอยโผล่มาจากข้างกายอิ๋งจื่อจินทีละคน
ตอนนี้เขากลับกลายเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดแล้ว
“ฉันเหมือนเป็นแม่เหล็กจริงๆ” อิ๋งจื่อจินมองผมสีเขียวที่เพิ่งย้อมมาใหม่บนหัวเขา ชะงักเล็กน้อย “แม่เหล็กดึงดูดแต่พวกสติเพี้ยนๆ”
ซิว “…”
เขานั่งลงข้างเธอ ถอนหายใจ
อิ๋งจื่อจินดื่มน้ำผลไม้เหลือบมองเขา “เป็นอะไร”
“ผมทำรูปถ่ายของน้องสาวหายไป หาอยู่นานก็หาไม่เจอ” ซิวเอานิ้วเสยผม “ช่วยผมทำนายหน่อยสิว่ามันหายที่ไหน”
“ประสาท”
“ผมพูดจริงนะ หายไปหนึ่งใบผมปวดใจมาก”
อิ๋งจื่อจินหยิบไพ่ทาโรต์มาหนึ่งใบพลางตอบแบบขอไปที “ได้”
ซิวทำหน้าคาดหวัง
หนึ่งนาทีต่อมาอิ๋งจื่อจินก็ลืมตาขึ้น สีหน้าเรียบเฉย “ทำนายไม่ได้ ไม่ล้อเล่น”
“ขนาดคุณยังทำนายไม่ได้เลยเหรอ” ซิวชักงง “งั้นรูปถ่ายน้องสาวผมไปไหนแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะย่อยสลายไปเองหรือเปล่า”
อิ๋งจื่อจินเก็บไพ่ “เล่าเรื่องน้องสาวให้ฟังหน่อยสิ”
เธอค่อนข้างสนใจ ‘คนวงการเดียวกัน’ ที่ไม่เคยเจอหน้าคนนี้
“พวกเราไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ หรอก” ซิวพูดเสียงขรึม “ก็แค่นับถือกันเป็นพี่น้องตอนออกทำภารกิจครั้งแรก”
“คุณไม่รู้หรอก เด็กคนนี้เป็นเด็กสาวสามไร้ กว่าผมจะหลอกเธอมาเป็นน้องสาวได้ไม่ใช่ง่ายๆ หึ ผมดีใจมาก”
อิ๋งจื่อจินเงยหน้า สีหน้าจริงจัง “ขอความรู้หน่อย เด็กสาวสามไร้คืออะไร”
“เอ๊ะ คุณดูละครน้ำเน่าไม่ได้ดูการ์ตูนเหรอ” ซิวแปลกใจ “ก็แบบที่ไร้ปาก ไร้ใจ ไร้อารมณ์ ปกติไม่พูดจา ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ มองไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่”
อิ๋งจื่อจินนวดหัว
ที่แท้ผู้วิเศษสูบดื่มย้อมคนนี้ยังเป็นผู้ชายติดบ้านด้วย
“เธอก็ไม่ถึงกับเย็นชาเป็นน้ำแข็งหรอก เธอก็แค่สัมผัสไม่ได้” ซิวพูดต่อ “ช่วยไม่ได้ พลังพิเศษของเธอมันบัคเกินไป ร่างกายก็เลยต้องมีข้อบกพร่องอย่างอื่น”
อิ๋งจื่อจินพูดเสียงขรึม “ผู้วิเศษที่ดับสูญอย่างสิ้นเชิงไม่มีสักคนที่กลับมาได้เลยเหรอ”
“เป็นแบบนั้น” ซิวเงียบไปชั่วขณะ “ผู้โง่เขลากับเทวทูตดับสูญไปนานเท่าไรแล้ว หลายสิบศตวรรษแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้วิเศษได้ไม่นานก็ไปแล้ว”
“ตอนแรกสุดพวกเราก็ไม่เชื่อ สุดท้ายน้องสาวผมก็ทำนายออกมา ปรากฏว่าสุดท้ายแม้แต่เธอ…”
ที่แท้ผู้วิเศษก็ตายเป็น
เพราะพวกเขาไม่ใช่เทพ
ตอนนี้เขาหวังเพียงว่าพลังกับยุติธรรมจะยังไม่ดับสูญอย่างสิ้นเชิง
“พูดตามตรง นิสัยบางอย่างของคุณก็คล้ายน้องสาวผม แต่เธอเย็นชายิ่งกว่า” อยู่ๆ ซิวก็รู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมา “คุณเรียกผมว่าพี่สักคำได้ไหม ผมไม่ได้ยินคำเรียกนี้มานานแล้ว”
อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น มองสำรวจ “นาย เป็นป๋า”
ซิว “…”
นี่ต้องดูละครน้ำเน่ามาเยอะขนาดไหนเนี่ย
…
สำนักผู้วิเศษ
นักมายากลกำลังทำยาตัวใหม่อยู่ในห้องด้านใน
ในสำรับไพ่ทาโรต์ ไพ่นักมายากลหมายถึง ‘การสรรค์สร้าง’ ขณะเดียวกันก็เป็นพลังพิเศษของผู้วิเศษนักมายากลด้วย
บนโลกนี้ไม่มียาที่เขาทำออกมาไม่ได้
ในขณะที่เขาเตรียมใส่สสารเล่นแร่แปรธาตุลงไปอีกหนึ่งชนิด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังสนั่นจากด้านนอก
ตามมาด้วยเสียงร้องโอดครวญ
นักมายากลมือสั่น ตวาดเสียง “ใคร!”
เขาเดินพรวดออกไปด้วยความโมโห “ไม่รู้หรือไงว่าห้ามรบกวนฉันเวลานี้!”
“ท่านครับ!” คณบดีคณะพันธุศาสตร์ที่ถูกโยนลงพื้นเหมือนเห็นผู้ช่วยชีวิต เขาดีใจมาก “ท่านช่วยผมด้วยครับ!”
“นายเหรอ” นักมายากลก้มหน้าถึงสังเกตเห็นว่าเป็นคณบดีคณะพันธุศาสตร์ “นายมาได้ยังไง”
คณบดีกำลังจะตอบ “ผม…”
“นักมายากล คุณเป็นคนส่งอัศวินดัดแปลงพันธุกรรมระดับดับเบิลเอสไป” ฉินหลิงอวี๋เดินเข้ามาอย่างใจเย็น “อยากฆ่าฉันขนาดนี้ ทำเองเลยเป็นไง”
นักมายากลเงยหน้ามองไป ดวงตาเบิกโพลง ตะลึงขั้นสุด “พระจันทร์!”
เขายังไม่ทันได้ถาม วินาทีถัดมาก็ถูกฉินหลิงอวี๋กระชากคอเสื้อขึ้น
พลั่ก เขาถูกดันเข้ากระแทกกำแพง
นักมายากลอดส่งเสียงร้องโอดโอยไม่ได้ เริ่มร้อนใจ “พระจันทร์ คุณจะทำอะไร!”
เดิมทีเขาก็ร่างกายอ่อนแอเพราะปรุงยาอยู่แล้ว ทนการกระแทกแบบนี้ไม่ไหว
ฉินหลิงอวี๋ไม่ตอบ แค่ยกมือขึ้น
“หยุดนะ!”
เสียงเย็นชาของผู้หญิงดังขึ้น
ซาโรห์เดินเข้ามา “ทำอะไรกันอยู่”
ฉินหลิงอวี๋ไม่เงยหน้า “ทำไม นักมายากลอยากฆ่าฉัน ฉันจะฆ่าเขาบ้างไม่ได้เหรอ”
“ผมไม่ได้อยากฆ่าคุณ!” นักมายากลเถียงกลับ “ใครจะไปรู่ว่าคุณกลับมาเกิดในร่างทดลอง”
“แสดงว่าถ้าฉันกลับมาสำนักผู้วิเศษไม่ทันก็คงถูกคุณฆ่าไปแล้วงั้นสิ” ฉินหลิงอวี๋กดดันเข้าไปใกล้ จับศีรษะของนักมายากลกดเข้ากำแพง
หลังจากผู้วิเศษเปลี่ยนภพ หากชาตินี้ไม่ได้กลับสำนักผู้วิเศษก็จะเปลี่ยนภพต่อ
แต่เกิดแก่เจ็บตายตามปกติมันต่างจากถูกฆ่า
หากถูกฆ่าระหว่างเปลี่ยนภพ หนักสุดก็จะดับสูญอย่างสิ้นเชิง
นักมายากลร้องด้วยความทรมาน “ซาโรห์!”
“เขานึกไม่ถึงว่าเป็นเธอ เป็นปัญหาของเขาก็จริง” ซาโรห์อดทน ในที่สุดก็ทนไม่ไหว “แต่เธอก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้มันใช่เวลามาทะเลาะกันเองเหรอ”
แววตาของเธอเย็นชา บุคลิกเอาเรื่อง “พระจันทร์ เธอเพิ่งกลับมาก็จะก่อเรื่องเลยเหรอ”
บนตัวเธอมีรังสีกดดันอย่างไม่สิ้นสุดแผ่ซ่าน ทำให้คนรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง
ระหว่างผู้วิเศษด้วยกันก็มีข่มบารมีกันเอง
นอกจากผู้วิเศษที่มีพลังต่อสู้สูงแล้ว วงล้อแห่งโชคชะตาสามารถข่มผู้วิเศษทั้งหมดได้อย่างสิ้นเชิง
เพราะพลังพิเศษของเธอมันบัคเกินไป มองปราดเดียวก็รู้ว่าอีกฝ่ายวางแผนอะไรอยู่ในขั้นถัดไป
ศัตรูไม่มีทางสู้ได้
ลำดับถัดมาก็คือผู้วิเศษจักรพรรดินี
“ก่อเรื่องเหรอ” ฉินหลิงอวี๋หันหน้าไป “พันธุวิศวกรรมตัวอ่อนเป็นสิ่งที่เขาเสนอ และพวกเธอก็ล้มมัน พวกเธอทำร้ายไปตั้งกี่ชีวิต”
เธอไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย แสยะยิ้ม “ซาโรห์ เธอคงไม่ได้ลืมหน้าที่ของผู้วิเศษไปเพราะกุมอำนาจเบ็ดเสร็จในสำนักผู้วิเศษมาหลายปีหรอกใช่ไหม”
“ไม่อย่างนั้นภัยพิบัติครั้งหน้ามาถึงเธอไปขวางหน่อยเป็นไง”
หน้าที่ของผู้วิเศษคืออะไร
ปกป้องโลกใบนี้
“พวกเราไม่ใช่เทพ พวกเราก็ทำผิดกันได้” สายตาของซาโรห์เย็นชายิ่งกว่าเดิม “ผิดพลาดก็ต้องปรับปรุง ถ้าเธอเป็นเพียงผลงานล้มเหลว งั้นก็ต้องฆ่าทิ้ง”
ฉินหลิงอวี๋ชักสีหน้า
“ฉันขอเตือนเธออีกครั้งนะพระจันทร์” ซาโรห์พูดเสียงแข็ง “ฉันไม่อนุญาตให้เหล่าผู้วิเศษทะเลาะกันเองก่อนที่เดวิลจะกลับมา เธอก็ลองดูแล้วกัน ดูซิว่าพลังควบคุมความฝันของเธอใช้กับฉันได้ผลหรือเปล่า!”
สายตาของฉินหลิงอวี๋เปลี่ยนไปทันที
นักมายากลโล่งอก ตกใจจนเหงื่อแตกเต็มหลัง
แม้เขาจะไม่ใช่ผู้วิเศษประเภทต่อสู้ พลังพิเศษก็ทำอะไรศัตรูไม่ได้
แต่เขาสามารถทำยาได้ทุกชนิดบนโลก จุดนี้ทำให้สำนักผู้วิเศษขาดเขาไม่ได้
ใครๆ ก็ปกป้องเขา
ซาโรห์ใจเย็นลง นั่งพิงบัลลังก์ “ในเมื่อกลับมาแล้วก็ทำเรื่องที่ตัวเองควรทำ ภัยพิบัติใหญ่ที่กำลังจะมาถึงพาเธอกลับมาใช่ไหม”
“เธอเองก็น่าจะมีลางบอกเหตุ เกรงว่าภัยพิบัติใหญ่ครั้งนี้จำเป็นต้องให้พวกเราไปขัดขวาง”
ฉินหลิงอวี๋ค่อยๆ กำมือ
ถูกต้อง
ต่อหน้าภัยพิบัติใหญ่ ความแค้นส่วนตัวทุกอย่างกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย
เธอเป็นผู้วิเศษ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือทั้งโลกและชีวิตของผู้คน
ทันใดนั้นได้มีเสียงดังมาจากนอกห้องโถง
“ซาโรห์” เสียงนั้นกึ่งหยอกเย้า แต่เจือด้วยความเย็นชา “คุณยังไม่มีสิทธิ์มากดพวกเราให้ต่ำกว่า”
มือเรียวยาวข้างหนึ่งวางบนบ่าของฉินหลิงอวี๋