บทที่ 224 จับกลับมา
บทที่ 224 จับกลับมา
สมองของฮั่วเสวียนตื่นตัวจากสถานการณ์ที่เร่งรีบ
นางนึกถึงแผนผังของห้องนี้อย่างละเอียด ดูเหมือนว่ามุมลับที่พอจะนึกออกก็ไปหามาหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ที่เดียวที่นั้น
ใต้เตียง
ฮั่วเสวียนเคาะบนเตียงดู ก่อนจะพบว่ามันว่างเปล่า!
นางลองคลำ ๆ ดู และบังเอิญพบกับกลไกบางอย่าง ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นที่ด้านนอกเบา ๆ น่าจะเป็นทหารยามที่เห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวในห้องนานแล้วจึงไม่ค่อยวางใจและมาตรวจดู
ฮั่วเสวียนพลิกตัวและกดอูซือม่านเอาไว้ ปากก็ส่งเสียงคราง “อืม”
เธอจงใจกดเสียงให้ต่ำลง ราวกับไม่อยากให้ใครได้ยินแต่นั่นยิ่งทำให้คนเชื่อมากขึ้น
จากนั้นเสียงฝีเท้าด้านนอกก็หยุดลง ก่อนจะหมุนตัวและเดินออกไปไกล
ฮั่วเสวียนลุกขึ้นมาและดันอูซือม่านไปที่มุมเตียง นางยกที่นอนบนเตียงขึ้น สิ่งของในนั้นมีมากมาย ทั้งดาบที่เป็นสมบัติอันมีชื่อเสียง กระบี่อันล้ำค่า เครื่องประดับหยกที่วางผสมปนเปกันไปหมด
แต่ด้านบนสุดมีกล่องไม้วางอยู่ ฮั่วเสวียนรีบหยิบมันขึ้นมาก่อนจะเปิดออกดู ของในนั้นไม่ใช่หญ้าพิษ
แต่เป็นหยกหนีบผมระยิบระยับ
มันมีสีสันงดงาม
นางมองไปยังอูซือม่านที่กำลังนอนหลับด้วยใบหน้าอันสับสน เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ชายคนนี้มาที่กระโจมของนาง เขาบอกว่าต้องการมอบของขวัญแต่งงานชิ้นใหญ่ให้และถามนางว่าต้องการสิ่งใด
ฮั่วเสวียนไม่ได้มองเขาตรง ๆ แต่พูดออกไปแบบไม่จริงจังนัก ‘มันคือของหมั้นไม่ใช่หรือ?’
‘นั่นคือของในพิธีแต่งงาน สิ่งที่มอบให้เจ้าตอนนี้คือหัวใจของข้าต่างหาก’
ฮั่วเสวียนพูดไปเรื่อยและบอกว่าตัวเองไม่เคยมีที่หนีบผมมาก่อน ซึ่งอูซือม่านก็ถามว่าสีอะไร
‘สีเขียว’
อูซือม่านยิ้ม ‘อืม สีเขียวเป็นสีของทุ่งหญ้า’
คิดไม่ถึงว่าเขาจะหามาจริง ๆ ในบรรดากองสมบัติหายากทั้งหมด มีเพียงที่หนีบผมที่ถูกวางไว้อย่างดีในกล่อง แค่นี้ก็ทำให้เห็นว่าอูซือม่านทะนุถนอมมันมากเพียงใด
หรือจะพูดอีกอย่างก็คือไม่ได้ทะนุถนอมที่หนีบผม แต่ทะนุถนอมฮั่วเสวียนผู้นี้ต่างหาก
นางอดไม่ได้ที่จะคิดมาก ฮั่วเสวียนนำกล่องนั้นกลับไปวางไว้ที่เดิม ก่อนจะลงมือค้นหาต่อไป ในที่สุดก็พบกับหญ้าพิษแห้งที่อยู่ในมุมที่ไม่ค่อยสะดุดตา
มันมีสีเหลืองอ่อน รูปร่างหนา ปลายทั้งสองบานออก มีขนยาว ๆ
ฮั่วเสวียนมองแวบเดียวก็แน่ใจว่านี่คือหญ้าพิษที่นางตามหา
วิธีการแก้พิษที่บันทึกไว้ในหนังสืออาจไม่ถูกต้องสมบูรณ์ทั้งหมด แต่ฮั่วเสวียนทำได้เพียงลองเดิมพันดู นางเคี้ยวหญ้าพิษเข้าไปคำใหญ่
รสชาติฝาด ๆ ทำให้นางรู้สึกคลื่นไส้
นางกินหญ้าพิษหมดไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานนักก็รู้สึกแสบร้อนในช่องท้องส่วนล่าง รู้สึกมีอากาศไหลเวียนและแพร่กระจายไปทั่วทั้งแขนและขา
พลังภายในฟื้นฟูกลับมาแล้ว!
สีหน้าของฮั่วเสวียนมีความสุข นางเป็นหุ่นเชิดมากว่าครึ่งเดือน ในที่สุดก็มีแรงต่อสู้แล้ว!
นางดึงเสื้อผ้าของอูซือม่านจากในตู้มาเปลี่ยน ก่อนจะเจาะรูที่มุมกระโจมเพื่อหนีออกมาและหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
ภายในกระโจม อูซือม่านลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอ้างว้างและโดดเดี่ยว
เหตุใดนางถึงต้องไปจากข้า?
หุยเค่อตงเคยบอกอูซือม่านแล้วว่าฮั่วเสวียนขอยานอนหลับหนึ่งห่อหากชนะการแข่งขัน
‘ท่านพี่อู ข้าแพ้แล้ว ข้าจะไม่แย่งท่านมาจากนางอีก แต่ข้าจะไม่ยอมให้นางทำร้ายท่านเป็นแน่’
อูซือม่านหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง ‘มีเพียงข้าที่จริงจังอยู่ฝ่ายเดียว’
ฮั่วเสวียนตั้งใจวางแผนทุกอย่างเพื่อยานอนหลับเพียงห่อเดียว
น่าตลกเสียจริง
‘ให้นางไป’
หุยเค่อตงไม่เข้าใจ ‘หากนางนำยาไปใช้กับท่าน ท่านจะทำเช่นไรเจ้าคะ?’
‘ไม่เป็นไร ตอนเด็ก ๆ ข้าเคยกินยาพิษมาก่อน แค่ยานอนหลับทำอันใดข้าไม่ได้หรอก’
นี่เป็นเพียงการร่วมแสดงบทบาทฉากใหญ่ของอูซือม่านเพื่อให้ละครฉากนี้เสร็จสมบูรณ์
เขารอมาโดยตลอด อยากให้ฮั่วเสวียนยอมแพ้ที่จะหนีไป หากนางลังเลแม้เพียงสักน้อย อูซือม่านก็คงจะไม่เจ็บปวดถึงเพียงนี้
เหมือนมีคนหยิบมีดมากรีดหัวใจของเขาทีละน้อย ๆ
อูซือม่านลุกขึ้นนั่ง ในดวงตามีเพียงความโกรธเกรี้ยวผสมปนเปไปกับความเศร้า
ฮั่วเสวียน ข้าจะจับตัวเจ้ากลับมาและล่ามโซ่เอาไว้ ไม่ให้ไปจากข้าตลอดชีวิต!
หญ้าพิษก็คือหญ้าพิษ พวกมันช่วยคลายการปิดกั้นพลังภายใน จากนั้นพวกมันจะกัดกร่อนอวัยวะภายใน ซึ่งไม่สามารถถอนพิษได้หากไม่มียาถอนพิษ
เขาปรบมือเรียกทหารยามสิบคนให้ลงไปตามพื้นที่
“ไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ไปจับตัวนางกลับมา”
อูซือม่านหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ม่านในกระโจมถูกยกขึ้น ทันใดนั้นเฟ่ยชินทั่วพุ่งตัวเข้ามา “ท่านผู้นำอูขอรับ เผ่าทั้งสี่ร่วมกันก่อกบฏ อีกไม่นานกองทัพจะโจมตีถึงค่ายใหญ่แล้ว”
อูซือม่านมองไปยังทางที่ฮั่วเสวียนหายลับไป จากนั้นเขาเรียกรวมนายพลในทันที
ค่ายทหารของหร่งตี๋กำลังเดือดพล่าน
ส่วนฮั่วเสวียนหลบหนีไปอย่างระมัดระวัง ข่าวการหลบหนีของนางไม่น่าจะแพร่กระจายไปได้เร็วถึงขนาดนี้
ขณะที่นางกำลังตกอยู่ในภวังค์ กระบี่เล่มหนึ่งพาดลงมาที่คอของนางพร้อมกับน้ำเสียงเย็นชาที่ดังขึ้น “ท่านแม่ทัพ เชิญกลับไปกับพวกข้าเสีย”
ทหารยามทั้งสิบคนเข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบ คงมีการเตรียมการมาก่อนแล้ว
ฮั่วเสวียนไม่เข้าใจ นางจะถูกอูซือม่านรวบตัวไปอีกแล้วหรือ
หึ
อยากได้ตัวข้าไปมันไม่ง่ายนักหรอก
พลังของฮั่วเสวียนฟื้นฟูกลับมาแล้ว นางจึงใช้แรงที่มีใช้กระบี่ของตนกันกระบี่ของทหารยามเอาไว้
จนกระบี่ที่พาดผ่านคอกระเด็นออกไปอย่างแรง
สีหน้าของเหล่าทหารยามเคร่งเครียดมากขึ้น “ไปเอาตัวนางมา นางอยู่ได้อีกไม่นานนักหรอก”
“พยายาม… อย่าทำร้ายนาง”
ฮั่วเสวียนสังหารทหารยามไปถึงเจ็ดคนด้วยความโหดเหี้ยม
แต่นางรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างในร่างกาย เพียงแค่ใช้กำลังภายในก็เกิดความเจ็บปวดที่เสียดแทงหัวใจออกมา
นางไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ แต่กลับมีเลือดไหลออกมาจากปาก
นี่นางกำลังจะเสียเปรียบงั้นหรือ
นางยกมือขึ้นมาเช็ดเลือดของตัวเอง “พวกเจ้าใส่อะไรลงไปในหญ้าพิษ?”
ทหารยามครุ่นคิด “ยาพิษอีกชนิดหนึ่ง ท่านแม่ทัพกลับไปกับพวกข้าเถิด หากยังสู้ต่อไป เลือดคงไหลออกจากตัวท่านจนหมดแน่ ท่านเองก็คงควบคุมร่างกายตนเองไม่ไหว ร่างกายของท่านจะถูกทำลาย”
ดวงตาของฮั่วเสวียนเผยให้เห็นบางสิ่งที่ดูแปลกประหลาด
นางไม่มีทางยอมกลับไป นางยอมตายหากหนีไปไม่ได้ แต่นางจะไม่ยอมถูกควบคุมอีกต่อไป
เมื่อทหารยามเห็นว่าการเจรจาดูไม่เป็นผล “ท่านแม่ทัพ ขออภัยด้วย”
ทหารนายนั้นยกกระบี่ขึ้น ปลายกระบี่พุ่งเข้าหานางอย่างรวดเร็ว
ฮั่วเสวียนยกมือขึ้นป้องกัน หากแต่มีคนผู้หนึ่งในชุดคลุมสีดำ รูปร่างสูงสง่ากระโดดเข้ามาขวางหน้านางเอาไว้
หลี่จื้อ…
ฮั่วเสวียนนิ่งค้างไป “เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่?”
หลี่จื้อหันหน้ามา “จัดการพวกมันก่อนแล้วค่อยคุยกัน”
ชุยดาบเดียวและคนอื่น ๆ ยืนล้อมรอบทหารยามกลุ่มนั้นเอาไว้ ก่อนจะสังหารได้อย่างรวดเร็ว
ชุยดาบเดียวมองดูหน้าอกของฮั่วเสวียนที่เป็นรอยแดง “ท่านแม่ทัพ พวกคนป่าเถื่อนพวกนี้ทำอันใดกับท่าน? ข้าจะไปฆ่าพวกมัน”
“อย่าใจร้อนไป” หลี่จื้อพูดขึ้น “เป้าหมายของพวกเราในครั้งนี้มีเพียงช่วยท่านแม่ทัพกลับไป อย่าได้ก่อปัญหาเพิ่มอีก”
ฮั่วเสวียนพยายามเก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้ “ชุยดาบเดียว เฟยอิงอยู่ในคอกม้า พามันไปด้วย”
“ข้าน้อยรับคำสั่ง”
อีกด้านหนึ่ง คนกลุ่มหนึ่งใช้โอกาสความวุ่นวายนี้หลบหนีมาจากค่ายของหร่งตี๋ และหาที่หลบชั่วคราวที่ไกลออกมากว่าหนึ่งลี้
ในยามนี้ กระโจมขนาดใหญ่ของหร่งตี๋สว่างไสวไปด้วยแสงเทียน ชุยดาบเดียวพาเฟยอิงกลับมาอย่างรวดเร็ว
“เราอยู่ที่นี่นานมากไม่ได้ เราควรรีบไปจากที่นี่”
หลี่จื้อมองไปยังฮั่วเสวียน “ท่านแม่ทัพ ท่านมีอาการบาดเจ็บอยู่ ขี่ม้าตัวเดียวกันกับข้าแล้วกัน”
ฮั่วเสวียนพยักหน้า
ในที่สุดนางก็หลุดพ้นจากวันแห่งการถูกจองจำเสียที
พวกเขาขี่ม้ามาหนึ่งวันหนึ่งคืน และได้แวะพักผ่อนอยู่ที่แหล่งน้ำ
สีหน้าของฮั่วเสวียนขาวซีด ความเจ็บปวดในอวัยวะภายในยากที่จะทนได้ไหว เพียงแต่นางไม่ได้แสดงท่าทางเจ็บปวดออกมา
ชุยดาบเดียวยิ้ม “ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องรอให้เกิดความวุ่นวายภายในของหร่งตี๋มาโดยตลอด ก่อนจะหาโอกาสไปช่วยท่าน คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับคนป่าเถื่อนอย่างอูซือม่านที่กำลังจะแต่งงานมีภรรยา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เห็นเคยมีข่าวคราวอันใดเลย”
“ท่านแม่ทัพ ท่านได้ข้อมูลอะไรมาบ้างไหม? หญิงผู้น่าสงสารผู้ใดกันที่ต้องแต่งงานกับเขา?”
ฮั่วเสวียน “…”
“ข้าไม่รู้ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”
พวกเขามิได้สงสัยอันใด พวกเขาคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ฮั่วเสวียนคงจะถูกขังไว้ จะมีโอกาสได้พบกับคนที่จะแต่งงานกับอูซือม่านได้อย่างไร
“ได้ยินมาว่าชื่อเข่อลี่น่า รูปร่างหน้าตาของนางก็สวยงามยิ่งนัก”
ฮั่วเสวียน “…”