ตอนที่ 793 สัญลักษณ์หัวกะโหลกสีดำ คู่ควรเหรอ
“แม่คะ น่าจะเป็นช่างที่กำลังก่อสร้างอยู่” อิ๋งจื่อจินพูด “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร พวกเรากินข้าวดีกว่าค่ะ”
ซู่เวิ่นนึกถึงตอนอิ๋งจื่อจินกลับเข้าเมืองได้พาคนมาด้วยจำนวนมาก
อาณาเขตของคฤหาสน์ตระกูลเรนเกลกว้างขวางมาก กินพื้นที่หลายร้อยเฮกตาร์
จอมยุทธ์สามหมื่นคนอยู่ได้สบาย
ซิวก็ได้ใช้พลังพิเศษช่วยเหลือ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีอิทธิพลไหนสังเกตเห็นว่ามีกลุ่มจอมยุทธ์เข้ามาพักอาศัยอยู่ในตระกูลเรนเกล
ซู่เวิ่นพยักหน้า “ก็จริง ดูท่าทางพวกเขาจะยังไม่ชินกับสไตล์อาคารของที่นี่ ตกแต่งหน่อยก็ดี”
เธอไม่ได้สนใจอีก กินข้าวต่อ
คนอื่นๆ ที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารต่างมองหน้ากัน รู้ว่าอิ๋งจื่อจินพูดโกหกหน้าตาเฉยอีกแล้ว
ซู่เวิ่นมองไม่ออก แต่พวกเขามองออก
มีคนแอบบุกเข้าตระกูลเรนเกลยามวิกาล อีกทั้งได้ต่อสู้กับพวกจอมยุทธ์ที่กำลังดื่มด่ำกับเทคโนโลยีขั้นสูง
หลิงเหมียนซีได้ยินเสียงต่อสู้ปะปนกับเสียงร้องโอดครวญ เธอเอามือเท้าแก้มพลางถอนหายใจ “น่าสงสารจริงๆ”
ด้านนอกคฤหาสน์
ภายในสวนด้านหลัง
บนพื้นมีคนชุดดำนอนกองอยู่ไม่น้อย ล้วนเป็นคนที่ไชโลห์ส่งมา
ผู้อาวุโสรองกระชากชายชุดดำขึ้นมาคนหนึ่งแล้วตบหน้ารัวๆ พร้อมด่า “ถุย พวกแกน่ะเหรอคิดจะหักแขนหักขาคุณอิ๋ง คิดว่าแน่นักเหรอ ไม่รู้จักดูตัวเองเสียบ้างว่าคู่ควรหรือเปล่า”
ตบเสร็จก็ยังไม่สาแก่ใจ “แกไม่มีแฟนใช่ไหม ดูจากท่าทางไม่น่ามี ถุย ขนาดลูกชายฉันยังหาเมียไม่ได้ แกยิ่งไม่มีทาง!”
ผู้อาวุโสใหญ่ทนดูและทนฟังต่อไปไม่ไหว “ผู้อาวุโสรอง รีบๆ จัดการให้จบไป”
ผู้อาวุโสรองทำเสียงหึ หวดใส่อีกหนึ่งทีจนชายชุดดำกระเด็นออกไป จากนั้นก็ไปหาเหยื่อรายต่อไป
ก่อนมาเมืองแห่งโลก วรยุทธ์ของจอมยุทธ์สามหมื่นคนนี้ได้พัฒนาขึ้นมากภายใต้การช่วยเหลือของอิ๋งจื่อจินและทั้งโลกแพทย์แผนโบราณ
วรยุทธ์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณสองร้อยปี
ถือเป็นกลุ่มกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกจอมยุทธ์แล้ว
เฟิงซิวเฝ้าโลกจอมยุทธ์ไว้ แต่ประธานสหพันธ์จอมยุทธ์อย่างเฉิงหย่วนตามออกมาด้วย
วรยุทธ์ของเฉิงหย่วนเกือบสี่ร้อยปี ด้อยกว่าเซี่ยฮ่วนหรานในตอนนั้นแค่นิดเดียว
พวกคนคุ้มกันที่ไชโลห์ยืมมาจากผู้วิเศษหอคอย ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางสู้จอมยุทธ์ที่อาศัยความสามารถพัฒนาตัวเองให้ถึงขีดจำกัดของมนุษย์ได้
มาเพื่อเป็นกระสอบทรายโดยเฉพาะ
ชั่วขณะที่พวกเขาก้าวเข้ามาในอาณาเขตของตระกูลเรนเกลก็ถูกเฉิงหย่วนจับได้แล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฟู่อวิ๋นเซินกับอิ๋งจื่อจินที่ไม่เก็บคนคุ้มกันพวกนี้มาใส่ใจ
“คนพวกนี้ก็ไม่ธรรมดานะ” เฉิงหย่วนปัดมือ รู้สึกแปลกใจ “พวกเขาไม่มีกำลังภายในหรือพลังอื่นๆ ในร่างกาย แต่กลับมีฝีมือต่อสู้สูงขนาดนี้”
ผู้อาวุโสใหญ่ส่ายหน้า “เรื่องนี้คงต้องไปถามจากคุณอิ๋งกับท่านเงาแล้ว”
เดิมทีพวกเขากำลังดูหนังห้ามิติอย่างสนุกสนาน แต่ถูกผู้บุกรุกพวกนี้ขัดจังหวะ
เหล่าจอมยุทธ์จึงโมโหกันมาก
พวกคนชุดดำไม่มีแรงขัดขืนแม้แต่น้อย ถูกจัดการเรียบ
อีกทั้งยังถูกกำลังภายในสกัดจุดลมปราณไว้ แม้แต่จะฆ่าตัวตายก็ทำไม่ได้
อิ๋งจื่อจินกับฟู่อวิ๋นเซินมาในเวลานี้ ด้านหลังยังตามมาด้วยหลิงเหมียนซีและพวกเนี่ยอี้
เหล่าจอมยุทธ์เดินเข้าไปหา “ท่านเงา คุณอิ๋ง!”
นับตั้งแต่ถูกเฟิงซิวสั่งสอนให้เปลี่ยนคำเรียก ตอนนี้เวลาเฉิงหย่วนเจออิ๋งจื่อจินก็ยังรู้สึกเกรงกลัวอยู่บ้าง “ท่านบูรพาจารย์”
อิ๋งจื่อจินมองไปรอบตัว “จัดการเสร็จแล้วเหรอคะ”
“เสร็จแล้วครับ” ผู้อาวุโสรองถีบชายชุดดำคนหนึ่ง “โชคดีที่คุณอิ๋งช่วยเพิ่มวรยุทธ์ให้พวกเรา ไม่อย่างนั้นคงถูกลูกกระจ๊อกกลุ่มนี้เล่นงานแล้ว”
พวกชายชุดดำที่ถูกกดไว้บนพื้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้สติกลับมา
ถึงขั้นที่พวกเขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าแพ้ได้อย่างไร
จอมยุทธ์!
เมืองแห่งโลกมีจอมยุทธ์มากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน!
อีกทั้งจากการคาดการณ์ของสำนักผู้วิเศษ ศักยภาพโดยรวมของจอมยุทธ์ต้องไม่มีทางสูงได้ขนาดนี้สิ
พวกคนคุ้มกันเงยหน้าด้วยความหวาดหวั่น ความหวาดกลัวภายในจิตใจทะยานขึ้นถึงขีดสุดเมื่อเห็นอิ๋งจื่อจินกับฟู่อวิ๋นเซิน
ยิ่งพอได้ยินจอมยุทธ์เหล่านี้พูดคุยอย่างนอบน้อม แม้แต่สมองของพวกเขาก็ส่งเสียงอื้ออึง
จอมยุทธ์เหล่านี้ยังเรียกคุณหนูใหญ่ตระกูลเรนเกลเป็นเจ้านายด้วย
นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!
พวกคนคุ้มกันก็ได้ยินข่าวมาจากท่านหอคอยแล้วว่า ซาโรห์ วิคตอเรีย ถูกจอมยุทธ์หญิงคนหนึ่งจับอัดเข้ากำแพง
ไม่มีแรงจะสู้กลับแม้แต่น้อย
หรือว่า…
พวกคนคุ้มกันใจหายวาบ
แบบนี้ไม่เท่ากับว่าไชโลห์จงใจส่งพวกเขามาตายเหรอ!
แม้แต่ผู้วิเศษจักรพรรดินียังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอิ๋งจื่อจิน ไชโลห์ยังคิดสู้อีกเหรอ
คู่ควรเหรอ
“ลูกน้องของหอคอย” ฟู่อวิ๋นเซินโน้มตัวเล็กน้อย “ดีมาก มีสัญลักษณ์นี้”
หลังคอคนคุ้มกันมีสัญลักษณ์หัวกะโหลกสีดำที่ขนาดเล็กมาก
ถ้าไม่สังเกตดูให้ดีจะคิดว่าเป็นไฝ
“ตามคาด หอคอยก็ใช่” อิ๋งจื่อจินหันไป “ผู้บัญชาการ วันนั้นคุณก็สังเกตเห็นแล้วใช่ไหม”
“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินตอบ “หอคอยไม่ได้ทุ่มกำลังทั้งหมด ถ้าเขาใช้พละกำลังทั้งหมด เกรงว่าเสวี่ยเซิงกับคุณฉินก็เอาไม่อยู่”
ผู้วิเศษหอคอยไม่ได้ทำงานให้ซาโรห์ ย่อมไม่มีทางทุ่มเทพละกำลังความสามารถทั้งหมด
ผู้วิเศษดวงดาวเป็นผู้วิเศษสายสนับสนุนล้วนๆ แต่มีพลังต่อสู้ที่สูงมากภายใต้การช่วยเหลือจากท่านผู้นั้น
ผู้วิเศษหอคอยก็ย่อมมีพลังต่อสู้ที่สูงยิ่งกว่า
“ดูท่าจะเป็นงานยากแล้ว” สายตาของอิ๋งจื่อจินไปหยุดที่พวกคนคุ้มกัน เธอยิ้มพลางพยักหน้า “ผู้หญิงคนนั้นคิดจะหักแขนหักขาฉันเหรอ ความคิดไม่เลว”
เธอบีบคอคนคุ้มกันตรงหน้าอย่างไม่ออมมือแม้แต่น้อย
ท่านผู้นั้นระมัดระวังตัวมาก ไม่มีทางสืบหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้จากความทรงจำของพวกคนคุ้มกันเหล่านี้
ผู้อาวุโสใหญ่ขมวดคิ้ว “คุณอิ๋งครับ พวกเขา…”
“ที่ฉันเชิญทุกท่านมาก็เพื่อเผชิญหน้ากับคนพวกนี้” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “มีความเป็นไปได้ที่จะยังมีคนที่พลังต่อสู้สูงยิ่งกว่า”
ผู้อาวุโสใหญ่ลูบเครา “มิน่าล่ะ คนพวกนี้ฝีมือไม่เบา มีแค่จอมยุทธ์อย่างพวกเราที่รับมือได้”
ทันใดนั้นมีคนคุ้มกันคนหนึ่งร้องโวยวายขึ้นมา “ท่านพระจันทร์ ท่านเหยียน ทำไมพวกท่านถึงได้…”
แต่เขายังไม่ทันพูดจบก็หมดลมหายใจอย่างสิ้นเชิง
ทางด้านหลิงเหมียนซีก็เหมือนกัน
พวกคนคุ้มกันแทบจะบ้าคลั่งขึ้นมาทันที
ผู้อาวุโสใหญ่แอบแปลกใจ “ทำไมพวกเขาเห็นเสี่ยวเหมียนแล้วทำหน้าเหมือนเห็นผีกันล่ะ”
“พี่ใหญ่ยังไม่รู้ใช่ไหมล่ะครับ” เจียงหรานโอบบ่าผู้อาวุโสใหญ่แล้วพูดต่อ “แท้จริงแล้วพี่สาวผมเป็นผู้วิเศษ ผู้วิเศษคืออะไร รู้ใช่ไหม”
ผู้อาวุโสใหญ่เกือบกระตุกเคราหลุด “ผู้วิเศษเหรอ!”
ในโลกจอมยุทธ์ของพวกเขามีผู้วิเศษซ่อนตัวอยู่ด้วยเหรอ
“ก็ใช่น่ะสิครับ ผู้วิเศษคู่รัก สุดยอดไปเลย” เจียงหรานพูด “พี่ใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วง ต่อไปผมจะปกป้องพี่เอง”
พอเจียงหรานไปแล้วผู้อาวุโสใหญ่ถึงฉุกคิดขึ้นมาได้ เขาโมโหมาก “เอ็งเรียกใครพี่ใหญ่ ฉันเป็นผู้อาวุโสใหญ่นะโว้ย!”
…
เช้าวันต่อมา
มีคนมารอชมการแข่งขันคัดเลือกหัวหน้าตระกูลเรนเกลอย่างแน่นขนัดอีกครั้ง
มีถ่ายทอดสดผ่านเว็บดับบลิว
[วันนี้มาดูคุณหนูใหญ่!]
[คุณหนูใหญ่เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ ฝีมือการรักษามีเหรอจะแย่ รอชมคุณหนูใหญ่บดขยี้ไชโลห์]
[พอเถอะ อิ๋งจื่อจินเก่งแค่ไหนจะมีประโยชน์อะไร คงไม่มีใครไม่รู้ใช่ไหมว่าสุดท้ายต้องมีคะแนนโหวตจากบรรดาผู้วิเศษด้วย
พอถึงตอนนั้น ต่อให้อิ๋งจื่อจินชนะห้าสนาม แต่ถ้าคะแนนโหวตแพ้ให้ไชโลห์ ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลก็ไม่ตกถึงเธออยู่ดี]
[+1 หัวหน้าตระกูลเรนเกลจะเป็นใครฉันเฉยๆ ฉันศรัทธาแค่บรรดาผู้วิเศษ]
วันนี้ไชโลห์มาแต่เช้า อารมณ์ดีพอสมควร
มีแค่เธอที่รู้ว่าวันนี้อิ๋งจื่อจินมาแข่งไม่ได้หรอก
ต่อให้มาก็ได้แค่นั่งรถเข็นมา
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ อีกที่นั่งหนึ่งยังคงว่างอยู่
ไชโลห์ดูเวลาแล้วยิ้มพลางพูด “ผู้ตัดสินคะ ถ้าผู้เข้าแข่งขันไม่มาตามเวลาก็ต้องปรับแพ้หรือเปล่าคะ”
ผู้ตัดสินพยักหน้า “ใช่ครับ ยังเหลืออีกหนึ่งนาที ถ้าคุณหนูใหญ่ไม่มาก็จะตัดสินให้คุณไชโลห์ชนะในสนามที่สามครับ”
“ประกาศได้เลยค่ะ” ไชโลห์ส่ายมือ “เกิดเรื่องขึ้นกับหลานสาวของฉันนิดหน่อย คงมาไม่ได้แล้ว”
ผู้ตัดสินอึ้ง “ไม่มาแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ ไม่มา” ไชโลห์พูดเสียงหนักแน่น “ประกาศผลตัดสินได้เลยค่ะ”
ผู้ตัดสินมาจากสำนักผู้วิเศษย่อมเข้าข้างไชโลห์
เขาพยักหน้า กำลังจะประกาศผล
แต่มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นในเวลานี้ ขณะเดียวกันเข็มวินาทีก็เดินไปถึงเวลาเก้าโมงตรงพอดี
สองมือของอิ๋งจื่อจินล้วงกระเป๋า เดินเข้ามาในสนามอย่างไม่รีบร้อน
เธออยู่ในชุดลำลอง ศีรษะสวมหมวกเบสบอล
สีหน้าของไชโลห์เปลี่ยนไปมาก ร้องเสียงหลง “ทำไมเธอยังมาได้อีก!”
พวกคนคุ้มกันที่เธอให้ไปทำงานเป็นถึงลูกน้องของผู้วิเศษหอคอยเชียวนะ!
อิ๋งจื่อจินยังหนีรอดอีกเหรอ
“ดูตกใจมากนะ” อิ๋งจื่อจินถอดหมวกออกแล้วนั่งลง “ทำไมถึงมั่นใจมากล่ะว่าฉันจะไม่มา”
[อืมมม นั่นสิ ไชโลห์ทำอะไรหรือเปล่า]
[คงไม่ได้จ้างคนไปฆ่าใช่ไหม!]
“เห็นพี่สะใภ้ใหญ่บอกว่าเธอป่วย” ไชโลห์ฝืนยิ้ม สีหน้ายังคงซีดเซียว “เลยคิดว่าเธอคงไม่มาแล้ว”
อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ ยังคงมีท่าทีไม่แยแส
เธอไม่สนใจไชโลห์ เหลือบตาขึ้น “ฉันขอแข่งต่อสู้ก่อนค่ะ”