นอกจากนี้ มักจะกล่าวกันว่า ‘ญาติผู้พี่ ญาติผู้น้อง เป็นเนื้อคู่กัน’ ไม่ใช่หรือ
หากมั่วเชียนเสวี่ยเพิ่งตบแต่งเข้าตระกูลหนิง ญาติผู้น้องก็กลายเป็นภรรยาที่มีศักดิ์ทัดเทียม ไม่แน่อาจจะ…แต่งตั้งให้ป็นกุ้ยเชี่ย[1]ก็ได้!
แม้มั่วเชียนเสวี่ยจะยังไม่ได้แต่งเข้าตระกูล แต่ก็เป็นภรรยาที่ถูกต้อง หากขอโทษ แล้ววันข้างหน้าจะมีตำแหน่งอะไรในตระกูลหนิง…
ต่างคนต่างคิด พูดคุยกัน ซุบซิบนินทา ประจบสอพลอ มีเสียงต่างๆ ดังขึ้นไม่หยุด คล้ายลืมคำพูดเมื่อครู่ของสาวใช้ไปโดยสนิท แต่ทุกคนยังคงไม่ละสายตาและไม่หยุดที่จะเงี่ยหูฟัง
ซูซูมองพวกคนที่ส่งเสียดัง ขมวดคิ้วเป็นปม
“ตื่นเต้นกันจริงๆ แค่ญาติผู้น้องเพียงคนเดียวก็แปลกใจเช่นนี้แล้ว หากเป็นพี่สาวสายเลือดเดียวกัน คนพวกนี้ไม่คุกเข่าประจบประแจงเลยหรือ”
มองสีหน้าขุ่นเคืองของท่านหญิงซูซู มั่วเชียนเสวี่ยอบอุ่นไปทั้งหัวใจ!
นี่แหละคือเพื่อนแท้ ไม่ว่าจะยามใด ล้วนร่วมทุกข์กับเรา!
“ฟังเจ้าพูดเล่า นางอยากจะทำเช่นไร ก็เป็นเรื่องของนาง พวกเราห้ามปรามได้ด้วยหรือ อีกอย่าง หนิงเซ่าชิงก็ไม่มีพี่สาว”
ซูซูเห็นมั่วเชียนเสวี่ยที่ยังยิ้มได้ โมโหขึ้นมาทันที! ยื่นมือออกไปหยิกเอวของมั่วเชียนเสวี่ย ทั้งยังพูดสั่งสอนไม่หยุด
“เจ้ายังยิ้มได้หรือ เป็นเรื่องจริงที่ว่าหนิงเซ่าชิงไม่มีพี่สาว แต่เจ้าไม่กลัวว่าเขาจะมีน้องสาวให้เจ้าหนึ่งโขยงหรือ ยกตัวอย่างเช่นญาติผู้น้องที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากแห่งหนใด ไม่แน่ว่าวันหนึ่งอาจจะต้องทำคำนับเจ้าและพูดว่า ‘น้อมคำนับท่านพี่เจ้าค่ะ!’”
ซูซูหยิกเอวของนางจนเจ็บไปหมด มั่วเชียนเสวี่ยรีบเอามือมาป้อง หลังจากฟังคำพูดของท่านหญิงซูซูแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยยิ้มบางๆ
“ข้าเชื่อใจหนิงเซ่าชิง! เขาไม่มีวันทำเช่นนั้น!”
“จะไม่ทำได้อย่างไร บุรุษมีหลายภรรยาเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะหนิงเซ่าชิงที่มีฐานันดรศักดิ์เด่นตระหง่านเช่นนั้น เกรงว่าต้องมีอนุภรรยาสามสี่สิบคน!”
ท่านหญิงซูซูพูดถูก เพราะบุรุษในยุคสมัยนี้ล้วนเป็นเช่นนี้ ! บุรุษมีหลายภรรยาเป็นเรื่องปกติ!
ในทางตรงกันข้าม หากบุรุษคนใดชั่วชีวิตนี้มีภรรยาเพียงคนเดียว จะถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ! ถูกต่อว่าว่ากลัวภรรยา! โดยทั่วไปสตรีคนนั้นก็ไม่ได้ประโยชน์ใดๆ
สำหรับเรื่องนี้ มั่วเชียนเสวี่ยรู้สึกเศร้า ไม่ได้รู้สึกเศร้ากับตนเอง แต่รู้สึกเศร้าแทนคนที่เป็นภรรยาหลวง เจ็บปวดแทนสตรีที่ต้องข่มความเจ็บปวดยอมให้สามีของตนมีอนุภรรยา
“แม้บุรุษทั่วหล้าจะเป็นเช่นนั้น แต่ข้าก็เชื่อมั่นว่า หนิงเซ่าชิงไม่มีวันทำเช่นนั้น!”
หากวันหนึ่งเขามีอนุภรรยา มีหญิงอื่น แม้มั่วเชียนเสวี่ยจะยังรักเขา ยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา แต่นางก็เลือกที่จะไปจากเขา!
ความรักของนาง มีศักดิ์ศรีเช่นเดียวกัน
เดิมทีซูซูอยากจะพูดบางอย่างอีก แต่เมื่อเห็นมั่วเชียนเสวี่ยเชื่อมั่นในตัวหนิงเซ่าชิงเช่นนี้ นางก็หยุด ไม่ได้พูดอะไรอีก
ท่านหญิงซูซู นางเองก็หวังที่จะได้ครอบครองใจของบุรุษแต่เพียงผู้ใด ครองรักกันจนแก่เฒ่า ทว่า เป็นไปได้หรือ
มั่วเชียนเสวี่ยไม่สนใจเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่สนใจว่าสตรีคนนั้นและสาวใช้ที่อยู่ด้านหลังพูดสิ่งใด ทำเหมือนดูการแสดงเท่านั้น แต่ชูอีและสืออู่กลับทนไม่ได้ที่สตรีคนนั้นกล้าท้าทายคุณหนูของพวกนางเช่นนี้
คุณหนูของพวกนางเป็นใคร เป็นถึงบุตรีของท่านกั๋วกง เป็นว่าที่นายหญิงตระกูลหนิง แค่ญาติผู้น้องต่ำต้อยคนหนึ่งและสาวใช้มีสิทธิ์ใดมาสั่งสอน
สืออู่เป็นคนอารมณ์ร้อน อยากจะชักดาบออกมาแล้วสู้สุดชีวิตกับพวกเนาง ทางที่ดีที่สุดคือหั่นพวกนางเป็นชิ้นๆ! จึงจะคลายความคับแค้นใจของนางได้!
ทว่านางกำลังจะก้าวเท้าพุ่งตัวไปหาอวี่เหวินหันเหล่ย ก็ถูกสายตาที่มองกลับมาด้วยคามนิ่งสงบของมั่วเชียนเสวี่ยห้ามปรามเอาไว้
“คุณหนู! พวกนางข่มแหงรังแกกันเกินไปแล้ว!”
มั่วเชียนเสวี่ยครุ่นคิดครู่หนึ่ง ยิ้มแล้วพยักหน้า พูดอย่างเห็นด้วย “ใช่ พวกนางทำเกินไปเล็กน้อย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สืออู่เลือดพลุ่งพล่าน “คุณหนูเจ้าคะ! เช่นนั้นบ่าวจะสั่งสอนพวกนางแทนคุณหนูเอง! ให้ปากปีจอของพวกนางพูดไม่ออก!”
ขณะพูด สืออู่ก็พุ่งตัวไปทางอวี่เหวินหันเหล่ยทันที
ครั้งนี้ มั่วเชียนเสวี่ยไม่ได้ห้ามปราม ทว่ามุมปากของนางยกขึ้นและยิ้มด้วยความเกียจคร้าน มองดูสืออู่พุ่งตัวไปด้วยความขุ่นเคือง แววตาของนางเปี่ยมไปด้วยความหมายลุ่มลึก
แม้ชูอีจะขุ่นเคืองเช่นเดียวกัน แต่นางไม่อารมณ์ร้อนเหมือนสืออู่ นางรู้จักวางตัวอย่างเหมาะสม! และรู้ว่า การทะเลาะวิวาทกันในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องที่ดี ดังนั้นนางจึงยืนนิ่งอยู่ด้านหลังมั่วเชียนเสวี่ย!
แต่เมื่อเห็นสืออู่พุ่งตัวไปด้วยความขุ่นเคืองเช่นนี้ ชูอีกลัวเหลือเกินว่าจะเกิดความปั่นป่วนขึ้น จึงรีบโน้มตัวลง “คุณหนู คุณหนูให้สืออู่ทำแบบนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ! ตอนนี้มีคนมากมาย หากเกิดเรื่องขึ้นย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดี”
“ไม่เป็นเช่นไร ให้สืออู่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับงานชมดอกไม้เถอะ วันข้างหน้าจะได้ไม่ต้องมีใครกล้าล้อมวงเห่าหอนข้าอีก!”
มั่วเชียนเสวี่ยไม่สนใจ นางยังคงยิ้มบางๆ แล้วมองดูสืออู่เดินถือกระบี่ออกไป
ชูอียังอยากจะพูดบางอย่างอีก แต่เมื่อครุ่นคิดแล้ว ปรนนิบัติรับใช้คุณหนูมานาน นางรู้ดีว่า คุณหนูไม่ใช่คนที่จะสร้างปัญหาโดยไม่สนใจผลลัพธ์ที่ตามมา ตอนนี้คุณหนูอนุญาตให้สืออู่สร้างปัญหา ย่อมมีเหตุผล!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ชูอีจึงปิดปากเงียบ
นางเชื่อมั่นในตัวคุณหนู! เหมือนที่คุณหนูบอกเมื่อครู่ ต้องสั่งสอนพวกสตรีที่มีความคิดโสมมม มิเช่นนั้น วันข้างหน้าจะมีคนมาหาเรื่องคุณหนูไม่หยุด แม้จะไม่โกรธเคือง แม้จะไม่สนใจ แต่ก็น่ารำคาญยิ่งนัก!
อาศัยโอกาสนี้ที่มีคนอยู่มากมาย สั่งสอนพวกนางเล็กน้อย เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
เทียบกับความกังวลของชูอี ท่านหญิงซูซูตรงไปตรงมากว่ามาก!
“ควรจะทำเช่นนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าเกลียดพวกคนต่อหน้าอย่างลับหลังอีกอย่าง เสแสร้งแกล้งทำเช่นนี้เป็นที่สุด! ให้สืออู่จัดการพวกนาง!”
หลังจากนั้น ท่ามกลางเสียงด่าทอของผู้คน สืออู่ยืนอยู่ตรงหน้าอวี่เหวินหันเหล่ยและสาวใช้จมูกชี้ขึ้นฟ้า
“ใจกล้ายิ่งนัก! เจ้าเป็นใคร! จึงกล้ามายืนตรงหน้าคุณหนูของข้า ไสหัวไปซะ!”
คนที่พูด ยังคงเป็นสาวใช้ที่แอบอ้างบารมีของเจ้านายมาข่มขู่ เสียงของนางดังยิ่งนัก พวกมั่วเชียนเสวี่ยที่ยืนห่างจากพวกนางกว่าห้าจั้งยังได้ยินอย่างชัดเจน
ความเยือกเย็นบนใบหน้าในตอนนแรก เย็นยะเยือกยิ่งกว่าเดิม ถึงขั้นที่ว่าเวลานี้มีไอดำแผ่ซ่าน!
สืออู่เงยหน้าขึ้นมองสาวใช้ แววตาของนางที่คมเฉียบ เคล้าไปด้วยไอสังหารจับจ้องไปทางสาวใช้ ทำให้นางตกใจจนความโอหังเมื่อครู่เตลิดเปิดเปิงเหลือเพียงสั่นเทา!
“เจ้า…เจ้าจะทำสิ่งใด ข้า…ข้าขอบอกเจ้า คุณหนูของข้าเป็นถึงญาติผู้น้องของตระกูลหนิง กล้า…กล้าล่วงเกินคุณหนูของข้า กลับไปข้าจะให้คุณชายหั่นเจ้าเป็นชิ้นๆ!”
[1] กุ้ยเชี่ย อนุภรรยาที่มีศักดิ์สูง