Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1108

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1108 โศกนาฏกรรม

แปลโดย iPAT 

 

เนื่องจากการหยุดชะงักของปีศาจเฒ่าซากศพพิษ อี้เหราจึงมีเวลารักษาพิษและสามารถหลบหนีได้ในที่สุด

 

เหนียงเอ๋อปิงซื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนข้างหนึ่งของเขาถูกกัดกร่อนจนเหลือเพียงกระดูกขณะที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีม่วง

 

แต่เขายังเงยหน้าขึ้นด้วยความหยิ่งยโส “เจ้าไม่สามารถจากไปจนกว่าจะมีการตัดสินแพ้ชนะ!”

 

ปีศาจเฒ่าซากศพพิษโกรธมากแต่ในความโกรธยังมีความเสียใจปนอยู่

 

เหตุใดเขาจึงดึงดูดคนโรคจิตผู้นี้?

 

“เด็กผู้นี้บ้าเกินไปแล้ว” จากระยะไกล เหนียงเอ๋อฝูส่ายศีรษะก่อนจะโบกมือและนำอินทรีย์มงกุฎเหล็กที่พยายามหลบหนีอย่างสิ้นหวังเข้าไปในมิติช่องว่างของตน

 

ปีศาจเฒ่าซากศพพิษโจมตีเหนียงเอ๋อปิงซื่ออย่างรุนแรงแต่ความสนใจส่วนใหญ่ของเขากลับอยู่ที่เหนียงเอ๋อฝู

 

เหนียงเอ๋อปิงซื่อเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก แม้เขาจะได้รับมรดกที่แท้จริงบางส่วนจากผู้พิทักษ์ดาบ แต่เขายังไม่สามารถเปรียบเทียบกับปีศาจอมตะระดับเจ็ดเช่นปีศาจเฒ่าซากศพพิษ

 

เหนียงเอ๋อปิงซื่อสามารถอยู่รอดมาถึงตอนนี้เพราะเหนียงเอ๋อฝูให้ช่วยเหลือจากระยะไกลมาโดยตลอด

 

เหนียงเอ๋อฝูเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เขาสามารถปล้นสะดมทรัพยากรทุกหนทุกแห่งขณะเดียวกันก็สามารถปกป้องเหนียงเอ๋อปิงซื่อจากการโจมตีที่รุนแรงของปีศาจเฒ่าซากศพพิษ

 

ปีศาจเฒ่าซากศพพิษรู้สึกเสียใจมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ตอนนี้เป็นโอกาสอันล้ำค่าในรอบร้อยปีแต่เขากลับต้องต่อสู้กับผู้อมตะบางคนอยู่ที่นี่ขณะที่คนอื่นๆสามารถปล้นสะดมทรัพยากร

 

ปีศาจเฒ่าซากศพพิษมีชื่อเสียงและภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นสมาชิกกองกำลังพันธมิตรผีดิบในฐานะมนุษย์ที่มีชีวิตก่อนที่เขาจะทรยศ กองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือพยายามจับตัวเขาแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

 

การต่อสู้ระหว่างเหนียงเอ๋อปิงซื่อและปีศาจเฒ่าซากศพพิษร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปแม้เหนียงเอ๋อปิงซื่อจะไม่สามารถเอาชนะแต่เขายังได้รับชื่อเสียง

 

หลังจากนี้โลกของผู้อมตะภาคเหนือจะรู้จักอัจฉริยะที่น่าทึ่งของเผ่าเหนียงเอ๋อผู้นี้

 

โดยปกติกองกำลังขนาดใหญ่จะไม่รุนรานผู้อมตะฝ่ายปีศาจโดยปราศจากเหตุผลที่เพียงพอ แต่เผ่าเหนียงเอ๋อเป็นข้อยกเว้น

 

กองกำลังตระกูลฮวงจินส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ำสวรรค์ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์

 

ด้วยวิธีนี้แม้ผู้อมตะฝ่ายปีศาจจะต้องการบุกโจมตี พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้โดยง่าย

 

ท้ายที่สุดแม้พวกเขาจะสามารถเข้าไป แต่การอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ของศัตรูก็จะทำให้พวกเขาสูญเสียความได้เปรียบ

 

“ผู้เยาว์นี่ช่างยอดเยี่ยมนัก” เหนียงเอ๋อฝูถอนหายใจ

 

เหนียงเอ๋อฝูให้ความช่วยเหลือเหนียงเอ๋อปิงซื่อหลายสิบครั้งแล้วแต่เขายังทำร้ายปีศาจเฒ่าซากศพพิษได้เพียงไม่กี่ครั้ง

 

หลังจากจับอินทรีย์มงกุฎเหล็กได้อีกหลายตัว เหนียงเอ๋อฝูก็มองเห็นรังนกขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า

 

‘ข้าเคยได้ยินว่าเผ่าไห่มีวิธีเลี้ยงอินทรีย์มงกุฎเหล็กโดยใช้โลหะชนิดพิเศษและสามารถเพิ่มอัตราการขยายพันธุ์ของพวกมัน โลหะเหล่านั้นอยู่ในรังนกเหล่านี้หรือไม่?’

 

เหนียงเอ๋อฝูกำลังจะเคลื่อนไหวแต่ในจังหวะนี้ใบหน้าของเขากลับเปลี่ยนแปลงไป

 

ร่างหนึ่งบินไปยังรังนกที่อยู่ด้านหน้าเหนียงเอ๋อฝูด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า

 

เขาคือฮุ้ยฟงซื่อ!

 

คนผู้นี้เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งวายุที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคคลที่รวดเร็วที่สุดของภาคเหนือ กระทั่งเหยากวงก็ไม่สามารถหยุดเขา เขาเคยเข้าร่วมกันนิกายเงาก่อนจะถูกจับโดยผู้อมตะภาคกลาง แต่ฐานะคนทรยศของเขายังไม่ถูกเปิดเผย

 

ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความโกลาหล ฮุ้ยฟงซื่อสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระราวกับสายลม

 

ในไม่ช้าเหนียงเอ๋อฝูก็เห็นฮุ้ยฟงซื่อบินผ่านอุปสรรคนานัปการก่อนจะเข้าสู่รังนกถัดไป

 

‘เห้อ…เด็กผู้นี้ช่างขัดโชคลาภของข้านัก!’ เหนียงเอ๋อฝูมองกลับไปที่เหนียงเอ๋อปิงซื่อและถอนหายใจอีกครั้ง

 

การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับนกอินทรีย์ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด

 

จำนวนนกอินทรีย์มงกุฎเหล็กลดลง รังทั้งหมดของพวกมันถูกรุกรานโดยกลุ่มผู้อมตะ

 

“ดี ดี ดี โลหะชนิดนี้เป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด!” ผู้อมตะซื่อเฮามีความสุขกับผลกำไรที่ได้รับ

 

“เจ้าบ้าฮุ้ยฟงซื่อ เขากล้าขโมยสมบัติของข้า!” เมิ้งจี๋โกรธมาก

 

ฮุ้ยฟงซื่อไม่กล่าวสิ่งใดแต่เขายังรู้สึกหนักใจมาก เขาไม่ได้สัมผัสรังนกแม้แต่รังเดียวแต่ดูเหมือนบางคนจะปลอมตัวเป็นเขาและโยนความผิดให้เขา!

 

ในรังนกอินทรีย์เต็มไปด้วยทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด

 

สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้อมตะที่ได้รับผลประโยชน์แสดงออกด้วยความสุข

 

ผู้อมตะที่แข็งแกร่งกว่าจะได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่า นี่คือกฎของโลกผู้อมตะ

 

ผู้อมตะเผ่าไห่ยังไม่เคลื่อนไหว

 

พวกเขามองรังนกที่ถูกปล้นชิงและรู้สึกราวกับถูกเหยียบย่ำ

 

โกรธ เกลียด ชิงชัง หวาดกลัว

 

อารมณ์ทุกประเภทเกิดขึ้นในใจของผู้อมตะเผ่าไห่ พวกเขาแทบไม่กล้าหายใจ

 

“พอแล้ว!” ผู้อมตะของเผ่าไห่บางคนผุดลุกขึ้นยืน

 

เขามองไปรอบๆก่อนจะหันหน้าไปทางผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง “เราจะรอถึงเมื่อใด? ท่านไว้ใจเขา แต่เห็นหรือไม่ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น? พวกเราไม่สามารถรักษาทรัพยากรและยังต้องติดอยู่ที่นี่!”

 

“ช่างน่าอายนัก! เขากำลังล้อเล่นกับพวกเรา! ทุกท่าน ความกล้าของพวกท่านหายไปที่ใด? พวกท่านไม่โกรธไม่เกลียดบ้างเลยงั้นหรือ? เราจะนั่งรอความตายอยู่ที่นี่โดยไม่ออกไปต่อสู้เยี่ยงวีรบุรุษผู้กล้าเช่นนั้นหรือ? นี่คือบ้านของเรา! แต่ตอนนี้คนนอกกำลังปล้นและทำลายมัน!”

 

“ไท่เฉิง…” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองแสดงออกด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนและเรียกชื่อผู้อมตะเผ่าไห่ผู้นี้ด้วยน้ำเสียงตำหนิ

 

“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง โปรดกล่าวบางสิ่ง!” ไห่ไป่เฉิงมองผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าไห่ด้วยสายตามุ่งมั่น

 

ทุกคนมองไปที่ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าไห่เงียบไปชั่วขณะก่อนจะเปิดปากกล่าว “ในสถานการณ์เช่นนี้ทรัพยากรเป็นเพียงของนอกกาย หากเรายอมแพ้จะเป็นอย่างไร? หากเราไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเขาจะไม่เหลือที่ใดในภาคเหนือให้พวกเราอยู่อาศัย! รอดูไปก่อน”

 

ได้ยินเช่นนี้ช่วยไม่ได้ที่ร่างกายของไห่ไท่เฉิงจะสั่นสะท้านขึ้น เขาสูดหายใจลึกและพยายามสงบจิตใจ เขาไม่โกรธแต่เขารู้สึกโศกเศร้า

 

“ผู้อาวุโส ในความคิดเห็นที่ต่ำต้อยของข้า ข้าคิดว่าท่านไท่เฉิงกล่าวได้ถูกต้อง” ผู้อมตะระดับหกอีกคนเปิดปากกล่าว

 

“ข้าก็คิดเช่นเดียวกัน”

 

“หากเราไม่สู้ตอนนี้แล้วจะรอถึงเมื่อใด?”

 

“กรณีเลวร้ายที่สุดก็คือตาย!”

 

ผู้อมตะเผ่าไห่ไม่สามารถอดทน

 

ไห่ไท่เฉิงรู้สึกมั่นใจมากขึ้น

 

“พวกเจ้า…” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองตกใจ

 

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งยังเงียบ

 

ไห่ไท่เฉิงหัวเราะเสียงดัง “แนวป้องกันสามชั้น! กระทั่งเราจะมีแนวป้องกันสามสิบชั้น ในสถานการณ์นี้มันจะช่วยสิ่งใดได้! ไปเผชิญหน้ากับศัตรูกันเถอะ! ศักดิ์ศรีของเผ่าไห่จะถูกเหยียบย่ำได้อย่างไร? ทรัพยากรของเผ่าไห่ไม่สามารถปล้นชิงโดยง่าย! พวกเราจะเสียสละเลือดและชีวิตเพื่อปกป้องพวกมัน!”

 

ไห่ไถ่เฉิงหันหลังกลับและเดินจากไปทันที

 

ผู้อมตะเจ็ดคนของเผ่าไห่ไม่กล่าวสิ่งใดและเดินตามไห่ไท่เฉิงออกไป

 

“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ท่านจะไม่ห้ามพวกเขางั้นหรือ?” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองรู้สึกไม่สบายใจ

 

“ปล่อยพวกเขาไป” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งถอนหายใจ

 

แนวป้องกันด่านแรกของเผ่าไห่พังทลายลงแล้ว อินทรีย์มงกุฎเหล็กบางส่วนตาย บางส่วนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะที่บางส่วนถูกจับ

 

กลุ่มผู้อมตะบินสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าและเริ่มเห็นอินทรีย์มังกร

 

ฝูงอินทรีย์มังกรเป็นแนวป้องกันด่านที่สองของเผ่าไห่

 

“อินทรีย์มังกรมากมายนัก!” ดวงตาของกลุ่มผู้อมตะส่องประกายขึ้น

 

“แม้อินทรีย์มังกรจะมีไม่มากเท่าอินทรีย์มงกุฎเหล็ก แต่พวกมันยังเป็นโชคลาภก้อนใหญ่!” บางคนแสดงความคิดเห็น

 

ผู้อมตะใจร้อนบางคนเริ่มโจมตีแต่บางคนยังอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

 

“อินทรีย์มังกรเหล่านี้ไม่ธรรมดา”

 

“ถูกต้อง ข้าเคยพบอินทรีย์มังกรมาก่อน พวกมันไม่ทรงพลังเช่นนี้”

 

“อินทรีย์มังกรเหล่านี้มีพลังและความเร็วสมคำร่ำลือจริงๆ”

 

ห้าสิบถึงหกสิบปีก่อนเผ่าไห่ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในการเลี้ยงดูอินทรีย์มังกร พวกเขากระทั่งสามารถผลิตอินทรีย์มังกรสายพันธุ์ใหม่ที่แตกต่างจากอินทรีย์มังกรป่า

 

“นี่ไม่ใช่อินทรีย์มังกรแต่เป็นอินทรีย์คลื่นเสียง พวกมันถูกสร้างขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของเผ่าเฉียวของข้า!” ผู้อมตะบางคนกล่าวด้วยความปวดใจ

 

ทุกคนมองไปทางต้นเสียงและเห็นเฉียวตง

 

เขาเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะของเผ่าเฉียว

 

เผ่าเฉียวเป็นกองกำลังย่อยของเผ่าไห่ พวกเขาต้องการแยกตัวออกจากเผ่าไห่นานแล้ว เมื่อเกิดเรื่องขึ้นกับเผ่าไห่ พวกเขาจึงแยกตัวออกมาทันที

 

หลังจากทั้งหมดเผ่าไห่และเผ่าเฉียวมีความขัดแย้งซ่อนอยู่มากมาย

 

ผู้อมตะคนอื่นไม่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้

 

นี่คือกฎทั่วไปของโลกผู้อมตะ

 

เฉียวตงอาจกลายเป็นผู้อมตะได้เพราะการสนับสนุนจากเผ่าไห่ แต่ตอนนี้เผ่าไห่กำลังตกที่นั่งลำบาก เผ่าเฉียวจึงฉวยโอกาสนี้บุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กพร้อมกับกองกำลังอื่น

 

ผู้อมตะฝ่ายธรรมะตระกูลฮวงจินมองเฉียวตงด้วยสายตาเย้ยหยันและเกลียดชัง

 

พวกเขาไม่ชอบคนอกตัญญู

 

แต่เฉียวตงมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง นั่นคือผู้อมตะเผ่าหลิว หลิวซวนเฉิง

 

เผ่าหลิวกับเผ่าไห่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนัก เผ่าเฉียวเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเผ่าไห่ แต่ตอนนี้เผ่าไห่กำลังจะล่มสลาย มันไม่ใช่เรื่องแปลกหากเฉียวตงจะหันไปหาเผ่าหลิว

 

“คนทรยศสมควรตาย!”

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงสายหนึ่งดังขึ้นจากระยะไกล!

Reverend Insanity

Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา! Humans are the spirit of all living beings, Gu are the essence of heaven and earth. With his three views* unrighteous, a demon is reborn. Former days are but an old dream, an identical name is made anew. The story of a time traveller who keeps on being reborn. A unique world that nurtures, refines, and uses Gu. Spring Autumn Cicada, Moonlight Gu, Liquor Worm, Great Qi Golden Light Worm, Slender Black Hair Gu, Hope Gu… And a great demon of the world that acts as his heart pleases! A story of a villain, Fang Yuan who was reborn 500 years into the past with the Spring Autumn Cicada he painstakingly refined. With his profound wisdom, battle and life experiences, he seeks to overcome his foes with skill and wit! Ruthless and amoral, he has no need to hold back as he pursues his ultimate goals. In a world of cruelty where one cultivates using *Gu – magical creatures of the world – Fang Yuan must rise up above all with his own power. Notes : *Gu is a legendary venomous insect, often used in black magic practices. It can take on the form of several insects, usually snakes, crickets, worms etc. *Three views = one’s world view, values of worth, and philosophy on life.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset