เคล็ดกายานวดารา – ตอนที่ 57 การลงมือของยิงฮวา

“สิ่งของที่จะนำมาประมูลชิ้นต่อไปก็คือ——หญ้าสลายดาราพันปี”

เมื่อได้ยินเสียงประกาศ ‘หญ้าสลายดาราพันปี’ ภายในอกของหลงเฉินก็เกิดอาการสั่นระรัวขึ้นมาอย่างรุนแรงจนไม่อาจยับยั้งให้เป็นปกติได้ นี่เป็นเป้าหมายสำคัญในการเข้าร่วมงานประมูลในครั้งนี้

หญ้าสลายดาราพันปีเป็นสมุนไพรที่ล้ำค่าที่สุดที่จะช่วยให้หลงเฉินหลอมโอสถสลายดาราระดับสูงขึ้นมาด้วยโอกาสสำเร็จที่ค่อนข้างมาก หากหลอมจนได้โอสถสลายดาราแล้วนั้นก็จะนำไปขจัดสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ภายในเส้นลมปราณของฉู่เหยา

เดิมทีหลงเฉินไม่ได้ความต้องการหญ้าสลายดาราที่มีอายุถึงพันปี แค่หลักร้อยปีก็ค่อนข้างที่จะพบเจอได้ยากอย่างยิ่งอยู่แล้ว เพราะหญ้าสลายดาราถือว่าเป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญในการหลอมโอสถระดับสูงหลายชนิด

ด้วยเหตุนี้การคัดสรรหญ้าสลายดาราจึงต้องพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ให้แก่โอสถ ตามปกติแล้วหญ้าสลายดาราที่ยิ่งมีอายุมากก็จะไร้ซึ่งช่องว่างของผลลัพธ์ภายหลังจากการใช้โอสถเป็นอย่างมาก

เพื่อฉู่เหยาแล้วไม่ว่าจะต้องสูญเสียไปมากเพียงใดก็จะต้องชนะการประมูลในรอบนี้ให้จงได้ หลงเฉินจำเป็นจะต้องใช้หญ้าสลายดาราประมาณสิบชิ้นในการแก้ไขปัญหาทั้งหมดของเขา

หมู่ตึกฮวาหวินจะให้ความสำคัญต่อชื่อเสียงของตนเป็นอย่างยิ่ง หากมีสิ่งของใดถูกบันทึกลงไปในรายการประมูลแล้วย่อมไม่อาจนำออกมาแลกเปลี่ยนกับผู้คนภายนอกได้ ด้วยเหตุนี้หลงเฉินจึงไม่สามารถซื้อได้โดยตรงเมื่อครั้งที่พบเจอกับฟู่กุ้ย ไม่เช่นนั้นคงจะทำให้ผู้อื่นกระอักกระอ่วนใจขึ้นมาไม่น้อย

เดิมทีต่อให้หญ้าสลายดาราจะล้ำค่ามากถึงเพียงใด แต่ในสถานที่แห่งนี้ก็มีผู้หลอมโอสถเพียงไม่กี่คนเท่านั้น หลงเฉินจึงเชื่อมั่นกว่าเก้าส่วนว่าเขาจะประมูลหญ้าสลายดารามาไว้ในครอบครองได้

ทว่าบัดนี้กลับต่างออกไปแล้ว หญิงสาวโง่งมอย่างเซี่ยปายฉือกำลังคอยจับผิดเขาอยู่ หากปล่อยให้นางทราบว่าหญ้าสลายดาราเป็นเป้าหมายของเขา เกรงว่าหญิงสาวนางนั้นคงจะต้องทำให้เขาสิ้นเนื้อประดาตัวไปอย่างแน่นอน แม้แต่อาภรณ์ที่สวมใส่อยู่นี้ก็คงถึงขั้นต้องปลดเปลื้องออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย

ด้วยเหตุนี้นับตั้งแต่รอบแรกของการประมูลหลงเฉินจะขานเสนอราคาออกไปเพียงแค่ครั้งเดียว ไม่ว่าสิ่งของชิ้นนั้นจะเป็นสิ่งใดก็ตามแต่ ขอเพียงเซี่ยปายฉือลงมือตอบ เขาก็จะขานต่อไปอย่างจงใจที่จะลวงให้นางติดกับ

“หญ้าสลายดาราพันปีสิบก้านถือได้ว่าเป็นสมุนไพรระดับสองอันมีค่าต่อการหลอมโอสถอีกหลายสิบชนิด ด้วยความล้ำค่าเช่นนี้ข้าคงจะไม่จำเป็นต้องกล่าวอันใดให้มากความ

หญ้าสลายดาราพันปีสิบก้านนี้จะเริ่มประมูลด้วยราคาห้าสิบหมื่นตำลึงทอง” เหย่าหนีเชวียนกล่าวขึ้นมาพร้อมกับชูมืออันขาวผ่องขึ้นท่ามกลางอากาศ

“เจ็ดสิบหมื่น”

“แปดสิบหมื่น”

“……”

เพียงไม่ถึงลมหายใจเดียวก็ได้มีผู้เฒ่าชราหลายสิบคนขานราคาแข่งกันขึ้นมาอย่างดุเดือด

หลงเฉินกวาดสายตามองไปยังเฒ่าชราทั้งหลายนั้นก็รู้สึกคุ้นหน้าคร่าตาอยู่หลายคน พวกเขาต่างก็เป็นคนของชุมนุมผู้หลอมโอสถ และอยู่ในระดับโอสถสามัญเช่นเดียวกันกับตัวเอง

“สองร้อยหมื่น”

เหล่าเฒ่าชราผู้นั้นขานราคามาจนถึงหนึ่งร้อยแปดสิบหมื่นเรียกได้ว่าสยบคู่ต่อสู้ไปได้ทั้งหมดในคราเดียว ในขณะที่เหย่าหนีเชวียนกำลังจะเริ่มนับต้นนับอยู่นั้น หลงเฉินก็ได้ขานราคาออกมาสองร้อยหมื่นตำลึงทอง

เมื่อสิ้นเสียงนั้นภายในจิตใจของหลงเฉินก็ว้าวุ่นขึ้นมาในทันที เขากำลังภาวนาให้เซี่ยปายฉือเสนอราคาออกมาด้วย เช่นนั้นเขาก็จะได้ลงมือให้ผู้คนเห็นว่าเขาเพียงแต่มุ่งเป้าไปที่เซี่ยปายฉือเท่านั้นเอง

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้เขาต้องการจะครอบครองหญ้าสลายดาราด้วยราคาที่ต่ำที่สุดโดยการใช้วิธีการที่รัดกุม

ทว่าสวรรค์กลับไร้ซึ่งนัยน์ตา เสมือนกับไม่ได้ยินเสียงพร่ำเพ้อภาวนาของเขาเลยแม้แต่น้อย เซี่ยปายฉือที่อยู่ในระดับโอสถสามัญกลับไม่แยแสต่อหญ้าสลายดาราเลย ทำให้หลงเฉินด่าทอขึ้นมาในใจเสียยกใหญ่

“คุณหนูปายฉือ เป็นเช่นไรไป อยากจะลองกันอีกสักตั้งหรือไม่?” หลงเฉินท้าทายขึ้นมา

หลังจากที่หลงเฉินกู่ร้องออกไป ตลอดทั่วทั้งงานเงียบสงัดราวกับป่าช้า: แท้ที่จริงแล้วหลงเฉินคิดจะกดดันเซี่ยปายฉืออย่างนั้นหรือ?

“ปายฉือ อย่าได้ไปติดกับเจ้านั่น มันจงใจกระตุ้นโทสะของเจ้าอยู่” เซี่ยฉางเฟิงรีบทักท้วงขึ้นมาทันทีที่เห็นเซี่ยปายฉือคล้ายจะมีปฏิกิริยาตอบกลับ

“เจ้าคิดว่าข้าจะโง่เขลาถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? สิ่งของด้อยค่าเช่นนั้นจะเสนอไปเพื่ออันใดกัน? ”เซี่ยปายฉือปั้นหน้าขรึมแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง

เมื่อได้ยินคำตอบของเซี่ยปายฉือก็ทำให้หลงเฉินรู้สึกดีใจขึ้นมายกใหญ่ พยายามอดกลั้นไม่ให้แสดงออกมา แล้วตอบกลับไปว่า “คุณหนูปายฉือ คงจะไม่ใช่ถุงเงินถุงทองของเจ้านั้นเริ่มร่อยหรอแล้วหรอกนะ”

“เจ้า…ผายลม เงินของมารดาไม่จำเป็นที่จะต้องมาให้เจ้าสนใจไม่” เซี่ยปายฉือมีใบหน้าแดงก่ำขึ้น พร้อมกับพุ่งตัวออกจากห้องพิเศษแล้วยกนิ้วชี้หน้าด่าทอไปยังห้องพิเศษที่หลงเฉินอยู่

เป็นถึงองค์หญิงแห่งจักรวรรดิแต่กลับกระทำเรื่องน่าอับอายต่อผู้คนหมู่มากเช่นนี้จึงทำให้ผู้คนทั่วทั้งบริเวณนั้นต่างก็เกิดความประหลาดใจขึ้นมา ได้แต่สบสายตามองกันไปมาอย่างฉงนสงสัย

เซี่ยฉางเฟิงที่อยู่ใกล้ๆ มีใบหน้าสีม่วงคล้ำขึ้นมา พลันก็รีบลุกขึ้นไปฉุดดึงเซี่ยปายฉือที่กำลังด่าทอประดุจแม่ค้าในตลาดกลับมานั่งที่เดิม นางกระทำตัวเช่นนี้ช่างน่าขายหน้าต่อหน้าจักรวรรดิเฟิงหมิง อีกทั้งยังคล้ายกับตบเข้าไปที่หน้าของคนทั้งจักรวรรดิต้าเซี่ยอีกด้วย

เมื่อบรรยากาศภายในห้องประมูลเริ่มตลบอบอวนไปด้วยความกดดัน เหย่าหนีเชวียนจึงรีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็วว่า “หลงเฉินซื่อจื่อเสนอราคาสองร้อยหมื่น ยังมีผู้ใดอยากจะให้ราคาที่สูงกว่านี้อีกหรือไม่?

สองร้อยหมื่นครั้งที่หนึ่ง

สองร้อยหมื่น……”

ในที่สุดหลงเฉินก็ผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่ออกมาเมื่อเห็นว่าเหย่าหนีเชวียนกำลังจะตัดสินแล้ว ในที่สุดก็หลอกลวงหญิงสาวโง่งมผู้นั้นได้สำเร็จแล้ว

“สองร้อยหมื่นครั้งที่……”

“สามร้อยหมื่น”

เพียงอึดใจเดียวก่อนที่เหย่าหนีเชวียนจะขานครั้งที่สามออกมาจนจบ ก็มีเสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้นประดุจเข็มนับพันเล่มเสียดแทงเข้ามาภายในจิตใจของหลงเฉิน อีกทั้งบรรยากาศที่แปลกประหลาดก็แผ่ออกมาจากห้องพิเศษอีกห้องหนึ่ง

หลงเฉินขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วหันหน้าไปยังห้องพิเศษห้องที่ว่านั่น หากเขาจำไม่ผิดนั่นคือห้องพิเศษที่ยิงฮวาอยู่นั่นเอง

ยิงฮวาไม่ใช่คนของวิถีโอสถและพ่อค้าจึงไม่อาจทราบถึงราคาที่แท้จริงของหญ้าสลายดารานี้ได้ และที่หลงเฉินเสนอราคาออกมาถึงสองร้อยหมื่นก็ถือว่าเป็นราคาที่สูงมากแล้ว ถึงแม้ว่าหญ้าสลายดาราจะเป็นสมุนไพรที่พบเจอได้ยาก ทว่าหากมีเวลาที่มากพอก็สามารถเสาะหาได้อยู่

หากหลงเฉินไม่รีบร้อนที่จะต้องใช้มันย่อมไม่มาสูญเงินทองมากมายถึงเพียงนี้เพื่อให้ได้มาครอบครอง  การเสนอราคาในงานประมูลนั้นไม่มีเพดานของราคา ผู้ใดจะเสนอขึ้นไปถึงเท่าใดก็ได้ตามต้องการ

ทว่าในบัดนี้ยิงฮวากลับเสนอราคาถึงสามร้อยหมื่นตำลึงทองอันเป็นราคาที่มากกว่าเดิมถึงเท่าตัว และที่สำคัญที่สุดก็คือสิ่งของชิ้นนี้ไม่ได้มีประโยชน์อันใดต่อยิงฮวาเลยแม้แต่น้อย

หลงเฉินสาดประกายแววตาเจ็บแค้นออกมาอย่างท้วมท้น ยิงฮวาผู้นี้ช่างยากจะต่อกรกว่าที่เขาเคยคาดคิดไว้ ชายผู้นี้เป็นถึงหนึ่งในสามของสุดยอดฝีมือแห่งจักรวรรดิเฟิงหมิงซึ่งเทียบเคียงได้กับบิดาของเขา เพียงแค่ยิงฮวาปรายตามองมาก็สามารถเห็นหลงเฉินได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

“สามร้อยสิบหมื่น”

หลงเฉินเสนอราคาออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา ผู้ที่แย่งชิงหญ้าสลายดารากันอยู่ในขณะนี้หลงเหลือแค่เขากับยิงฮวาเท่านั้น ส่วนผู้คนอื่นต่างก็ยกธงขาวไปจนหมดสิ้นแล้ว ไม่เช่นนั้นคงจะต้องรับศึกหนักไปตามๆ กัน

“เหอะเหอะ หญ้าสลายดารานี้ไม่ได้ก่อประโยชน์ต่อข้าอยู่แล้ว หากหลานชายต้องการ ข้าเองคงไม่สะดวกที่จะยื้อแย่งด้วยแล้ว จะยอมให้เจ้าไปก็แล้วกัน” ยิงฮวาเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

หลงเฉินปะทุเพลิงโทสะขึ้นมาอย่างเดือดพล่าน ยิงฮวาผู้นี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก ฆ่าผู้คนได้โดยไม่จะเป็นต้องให้หลั่งโลหิตออกมาเสียด้วยซ้ำ

“สี่ร้อยหมื่น”

เมื่อยิงฮวากล่าวจบเพียงครู่เดียว เสียงเล็กแหลมเสียงหนึ่งก็ดังมาจากปากของเซี่ยปายฉือ นางเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่มุมปาก

ใบหน้าของหลงเฉินปรากฏสีดำคล้ำขึ้นมาบางส่วน เจ้าอ้วนและพวกพ้องที่เห็นเช่นนั้นต่างก็มีใบหน้าเหยเกขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง หลงเฉินกำลังถูกยิงฮวาเล่นงานเข้าให้แล้ว

“หลานชายอย่างนั้นหรือ คิดว่าบิดาของข้านั้นอยู่ระดับใดกัน ผู้กล้าที่ปกป้องชายแดนเพื่อประชาชน เพื่อจักรวรรดิ ผู้ที่มีความกล้าหาญอย่างยืดหยัดมาโดยตลอด อย่างไรเสียข้าก็เป็นสายโลหิตเดียวกับบิดาย่อมไม่อาจเรียกขานต่อรองกับท่านได้อยู่แล้ว”

เดิมทีหลงเฉินก็ไม่ได้คิดจะกล่าววาจาอันใดออกมา ทว่าเมื่อถูกยิงฮวาเล่นงานเข้าที่จุดอ่อนของเขาจนเกิดเพลิงโทสะแผดเผาอยู่ภายในอก หากไม่กล่าวสิ่งใดออกมาบ้างก็คงจะต้องตายทั้งเป็นไปอย่างแน่นอน

วาจาของหลงเฉินได้ทำให้งานประมูลเข้าสู่ความเงียบงันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว เสียงพูดของเขาดังสะท้อนไปทั่วห้องพิเศษ การกระทำของเขาในตอนนี้ไม่ต่างจากการตบเข้าไปที่ใบหน้าของยิงฮวา ช่างเป็นความกล้าที่เลวร้ายอย่างมากเลยทีเดียว

ผู้คนทั้งจักรวรรดิทราบกันดีอยู่แล้วว่ายิงฮวานั้นเป็นดั่งเสาหลักของจักรวรรดิ ต่อให้เป็นไทเฮาหรือเหล่าองค์รัชทายาทต่างก็ไม่อาจขัดขืนต่อชายผู้นี้ได้ ทว่าหากเป็นหลงเทียนเซียวแล้วเหล่าคนพวกนี้ก็คงจะไม่เกรงใจมากเท่ายิงฮวา

ถึงแม้ว่าคำพูดเมื่อครู่ของหลงเฉินจะไม่ได้มีถ้อยคำด่าทอรุนแรงเลยแม้แต่คำเดียว ทว่าหากเป็นผู้ที่ในหัวไม่ได้มีแต่ขี้เลื่อยก็พอจะเข้าใจได้ว่าหลงเฉินกำลังด่าทอยิงฮวาว่าเป็นเหมือนคนต่ำช้าอยู่

“เหอะเหอะ ผู้เยาว์ย่อมมีความคิดมุทะลุกันบ้าง หลานชายยังจำเป็นจะต้องเรียนรู้อีกมากนัก กับเรื่องเล็กน้อยเท่านี้ยังไม่อาจอดกลั้นเอาไว้ได้ เช่นนี้คงจะส่งผลเสียต่อการเติบโตของเจ้าในภายภาคหน้าได้นะ”

ยิงฮวาไม่ได้มีความเกรี้ยวกราดเลยแม้แต่น้อย เขามีสีหน้าและน้ำเสียงที่ราบเรียบคล้ายกับว่าสิ่งที่กำลังพบเจออยู่นี้เป็นเพียงแค่เรื่องที่น่าขบขันอย่างหนึ่งเท่านั้น

ผู้คนไม่น้อยอดไม่ได้ที่จะเกิดความเลื่อมใสขึ้นมาภายในจิตใจ หนึ่งในสุดยอดฝีมือแห่งจักรวรรดิเฟิงหมิงสามารถควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้ถึงเพียงนี้ก็คงจะไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเคียงเขาได้แล้ว

“สี่ร้อยหมื่นแล้ว หลงเฉิน เจ้าไม่คิดจะลองอีกสักตั้งหรือย่างไรกัน ฮาฮา” ทันใดนั้นเองเซี่ยปายฉือก็กล่าววาจาเย้ยหยันออกมาประดุจผีเสื้อที่กำลังติดปีกบินอย่างไรอย่างนั้น

เซี่ยปายฉือเองก็ไม่ใช่คนโง่งมไปเสียทั้งหมด เมื่อรู้สึกถึงการสะกิดเพียงเล็กน้อยจากยิงฮวา เป็นผู้ใดก็ดูออกว่าหลงเฉินกำลังให้ความสำคัญต่อหญ้าสลายดาราชิ้นนี้อยู่

เซี่ยปายฉือที่เคยพลาดท่าไปหลายครั้ง มีหรือจะปล่อยให้โอกาสที่จะได้แก้แค้นหลุดลอยไปได้กัน?

หลงเฉินสูดลมหายใจเข้าลึกเฮือกหนึ่ง มีสุภาษิตหนึ่งได้กล่าวไว้ว่ายิ่งกลัวสิ่งใดก็ยิ่งจะพบเจอได้เร็วขึ้นเท่านั้น ขณะนี้เซี่ยปายฉือที่เกลียดชังเขาเข้ากระดูกดำได้ทราบแล้วว่าเขาต้องการหญ้าสลายดารา เช่นนั้นเขาก็คงจะต้องเตรียมกระอักโลหิตออกมาคำโตเสียแล้ว

“ห้าร้อยหมื่น” หลงเฉินเสนอราคาต่อ

ความแตกตื่นของผู้คนคละคลุ้งขึ้นมาทั่วทั้งบรรยากาศ ดูเหมือนว่าหลงเฉินจะต้องการหญ้าสลายดาราชิ้นนี้เป็นอย่างมากถึงกับเสนอราคาที่สูงลิบออกมาได้

“หนึ่งพันหมื่น”

ทว่าเซี่ยปายฉือกลับอำมหิตเสียยิ่งกว่า นางเสนอราคาเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัว ยิ่งทำให้ผู้คนทั้งหมดแตกตื่นกันมากกว่าเดิม

หลงเฉินในตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่าภายในภวังค์แห่งความคิด ไม่หลงเหลือสภาพแห่งความสุขุมดังเช่นก่อนหน้านี้จนเผยความอ่อนแอออกมาต่อหน้ายิงฮวา

เพราะเหตุใดยิงฮวาถึงได้มุ่งเป้ามาที่ตน? แท้ที่จริงแล้วผู้ที่ลงมือต่อร่างกายของเขาจะเป็นชายผู้นี้อย่างนั้นหรือ?

หลงเฉินพยายามสลัดความคิดอันว้าวุ่นออกไป ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาครุ่นคิดถึงเรื่องราวเหล่านี้ ต้องสนใจหญ้าสลายดาราที่อยู่เบื้องหน้าสายตาในตอนนี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เวลาก็ช่างเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ไม่ควรให้เกิดข้อผิดพลาดอันใดได้

“พันห้าร้อยหมื่น” หลงเฉินตะโกนขึ้นมา

“พันแปดร้อยหมื่น”

เซี่ยปายฉือเสนอราคาขึ้นมาทันทีเมื่อสิ้นเสียงของหลงเฉิน หญิงสาวโง่งมนางนี้ไม่ได้สนใจเงินทองอีกต่อไป ขอเพียงได้สิ่งที่หลงเฉินต้องการมาครอบครองเสียเองย่อมเป็นอะไรที่สะใจอย่างถึงที่สุดอยู่แล้ว

“สองพันหมื่น”

หลงเฉินเสนอราคาขึ้นมาอีก ผู้คนทั้งงานประมูลต่างใจเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากอก นี่ไม่ใช่ตัวเลขที่จะเรียกขานกันขึ้นมาสุ่มสี่สุ่มห้า นี่เป็นเงินเป็นทองไม่ใช่หมากเบี้ยที่จะเก็บตามข้างทางได้ ต่อให้เป็นเพียงการชิงชัยด้วยลมปาก ทว่าลมปากเช่นนี้ก็ช่างไม่คุ้มค่าอย่างยิ่งยวดเลยทีเดียว

“หากเจ้ายังจะเสนอขึ้นมาอีกครั้ง ข้าขอรับรองเลยว่าหญ้าสลายดาราคงจะกลายเป็นของเจ้าอย่างแน่นอน” หลังจากหลงเฉินเสนอราคาครั้งนี้ออกไป ภายในจิตใจของเขาก็ได้สงบลงไปมาก

โอสถของเขาได้ถูกวางมัดจำกับหมู่ตึกฮวาหวินเอาไว้เพียงสองพันหมื่นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เมื่อมูลค่าของสินค้าแลกเปลี่ยนถูกใช้ไปจนหมด เขาก็คงไม่อาจต่อกรอันใดได้แล้วนอกจากสงบนิ่งเท่านั้น หากเซี่ยปายฉือยังขานราคาต่อไป เขาก็ทำได้เพียงแค่ยินยอมมอบหญ้าสลายดาราให้นางไปอย่างจนใจ

“ปายฉือ นี่คงเพียงพอที่จะทำให้เขากระอักโลหิตได้แล้ว เจ้าเสนอราคาที่สูงกว่าเดิมถึงสิบเท่า ถือว่าได้แก้แค้นแล้ว” เซี่ยฉางเฟิงดึงไปที่ข้อมือของเซี่ยปายฉืออย่างรีบร้อน เกรงว่านางจะฮึกเหิมขึ้นมาอีก

“ใช่แล้ว ปายฉือ ช่างมันเถิด ครั้งนี้หลงเฉินถือว่าได้พ่ายแพ้แล้ว เจ้าเองก็ได้ระบายความแค้นไปแล้วเช่นกัน” องค์ชายใหญ่ฉู่หยางยิ้มแล้วกล่าวเสริมขึ้นมา

เซี่ยปายฉือพยักหน้าไปมาอย่างว่าง่าย ครั้งนี้นางสามารถทำให้หลงเฉินตกอยู่ในสภาพอเนจอนาถด้วยการใช้เงินซื้อหญ้าสลายดาราด้วยราคาที่สูงกว่าเดิมถึงสิบเท่า ก็ถือว่าได้ระบายความแค้นออกมาแล้วส่วนหนึ่ง

“ชิ ถือว่าทำทานให้แก่ชนชั้นต่ำอย่างเจ้าก็แล้วกัน หญ้าขยะเช่นนี้เป็นของเจ้าแล้ว”

หลงเฉินชนะการประมูลในครั้งนี้และได้ครอบครองหญ้าสลายดาราทั้งสิบก้าน ถึงแม้ว่าจะน่าเจ็บใจอยู่บ้าง ทว่าก็สามารถผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกได้

หลังจากที่การประมูลอันน่าอึดอัดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ความคึกคักของงานประมูลก็บังเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ผู้คนมากมายเริ่มต้นการเสนอราคาประมูลกันอย่างดุเดือดในสิ่งของชิ้นต่อไป

หลังจากการประมูลผ่านไปสองรอบ ประตูของห้องพิเศษที่หลงเฉินอยู่ก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นร่างของคนผู้หนึ่งกำลังเดินเข้ามา  . .

เคล็ดกายานวดารา

เคล็ดกายานวดารา

เป็นจักพรรดิโอสถกลับเกิดใหม่งั้นหรือ ? เป็นการผสานจิตวิญญาณกันหรือ ? หลงเฉิน เด็กหนุ่มที่ถูกช่วงชิงรากปราณ โลหิตปราณ กระดูกปราณทั้งสามสิ่งไป ได้หยิบยืมวิชาการหลอมโอสถระดับเทวะภายใต้ความทรงจำ ฝึกปรือวิชาเคล็ดกายานวดาราอันลี้ลับ แหวกม่านหมอกที่หนาทึบออก ปลดปล่อยโชคชะตาครอบครองพลังวงแหวนเทวะแห่งฟ้าดิน เหยียบย่างชั้นดาราตะวันจันทรา พบพานสาวงามต่างๆ กำราบมารร้ายเทพแห่งความชั่วจนกลายเป็นที่เลื่องลือก้องแดนเจียงหนาน หลงเฉินมาถึง สวรรค์คำรนพสุธาคำราม หลงเฉินไปจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพร่ำไรจนเป็นที่ตำนานแห่งยุทธ์ภพ หลงเฉินปรากฎ ฟ้าดินสั่นสะเทือน หลงเฉินเดินจาก ภูตผีหลั่งน้ำตาเทพยดาร้ำไห้ ระดับพลัง 1.ขอบเขตก่อรวม 2.ขอบเขตก่อโลหิต 3.ขอบเขตเปลี่ยนเส้นเอ็น 4.ขอบเขตปรือกระดูก 5.ขอบเขตเชื่อมชีพจร 6.ขอบเขตแห่งการก่อฟ้า ระดับโอสถ 1.โอสถสามัญ 2.โอสถปัญญา 3.เชี่ยวชาญโอสถ 4.ราชาโอสถ 5.ราชันโอสถ 6.จ้าวโอสถ 7.เซียนโอสถ 8.ปราชญ์โอสถ 9.จักรพรรดิ์โอสถ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset