เมื่อฟังนางาฮิโกะ อิโตะพูดจบ เย่เฉินก็ต้องมองเขาใหม่อยู่บ้าง
ดูเหมือนว่า นางาฮิโกะ อิโตะจะมีวิสัยทัศน์โดยรวมที่ดีอย่างยิ่ง อีกทั้งยังสามารถควบคุมความโลภในใจได้ ไม่โลภเกินไป อีกทั้งยังไม่หุนหันพลันแล่น
หากเปลี่ยนมาเป็นตระกูลที่มีความทะเยอทะยานและโลภมาก เวลานี้เกรงว่าคงเริ่มวางตัวสูงส่งทันทีและลงมือพร้อมกันทั้งสองด้าน
ด้านหนึ่งกดตระกูลอื่นๆในประเทศลงและพยายามกินส่วนแบ่งของพวกเขาให้ได้ภายในเวลาอันสั้น ให้ตนเองได้กินจนอ้วน
อีกด้านหนึ่งก็ยังคงร่วมมือกับตระกูลใหญ่ในต่างประเทศโดยเร็วที่สุด เพื่อเปิดช่องทางการทำกำไร และพัฒนาตนเองอย่างรวดเร็ว
แต่ว่า นางาฮิโกะ อิโตะนั้นกลับสามารถมองเห็นสถานการณ์ในนั้นได้อย่างชัดเจนอย่างยิ่ง รวมถึงอันตรายและภัยพิบัติที่แอบแฝงอยู่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตระกูลซูเป็นตระกูลที่โหดเหี้ยมอย่างแท้จริง
ตระกูลแบบนี้ ไม่เพียงแต่ไม่มีศีลธรรมในวงการ แต่ทั้งยังไม่มีมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานอีกด้วย
หากร่วมมือกับตระกูลเช่นนี้ ก็จะต้องระมัดระวังอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นก็อาจถูกอีกฝ่ายแทงข้างหลังอย่างโหดเหี้ยมเอาได้
แต่ถ้าหากหันทิศไปคู่แข่งของตระกูลซูแทน แบบนั้นก็เท่ากับกำลังยืนเผชิญหน้ากับตระกูลซูโดยตรง ปัจจัยเสี่ยงก็ยิ่งใหญ่ขึ้น
ในเมื่อเป็นแบบนี้ การปิดประตูลงและพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นมายังดีเสียกว่า
เอมิ นานาโกะเองก็เข้าใจความกังวลและการมองการณ์ไกลของพี่ชายเธอ เธอเอ่ยอย่างจริงจังว่า “พี่ชายคุณพูดถูก เป็นเอมิที่ โง่เขลาเกินไป ไม่มองเห็นถึงขั้นนี้”
นางาฮิโกะ อิโตะโบกมือ “ความคิดของเธอถือเป็นเรื่องปกติ การสร้างธุรกิจก็เหมือนกับการพนันฉากหนึ่ง จะเดิมพันให้มากขึ้นหน่อย บางทีก็อาจจะชนะและมีอนาคตที่ไม่มีใครเทียบได้ หรือไม่ก็เมื่อเก็บชิปได้มากพอถึงขั้นหนึ่งแล้ว พอเรียนรู้เข้าใจแล้วก็เลิก….”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ นางาฮิโกะ อิโตะก็ถอนหายใจ “หากเป็นก่อนหน้าคืนนี้ บางทีฉันคงเหมือนกับเธอ อาศัยโอกาสนี้ไปสู้กับเขา แต่ว่า หลังจากเดินเข้าประตูนรกไปแล้วรอบหนึ่งและสูญเสียขาไป ในที่สุดฉันก็รู้คุณค่าของชีวิต เข้าใจความหมายของการมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ หลังจากรู้ว่าเกือบจะสูญเสียนานาโกะไป ฉันก็ยิ่งตระหนักเรื่องนี้มากขึ้น…”
“ดังนั้น ตอนนี้ฉันคิดอย่างระมัดระวังอยู่บ้าง การดำเนินการอย่างมั่นใจสำคัญกว่าสิ่งใดๆทั้งสิ้น”
เอมิ นานาโกะพยักหน้าอย่างจริงจัง
ในเวลานี้ นางาฮิโกะ อิโตะมองดูอิโตะ นานาโกะ และพูดอย่างจริงจังว่า “นานาโกะ ในเมื่อตอนนี้ลูกหายดีแล้ว ต่อจากนี้ไปก็พักอยู่ที่โตเกียวกับโอโต้ซังเถอะ”
อิโตะ นานาโกะลังเลเล็กน้อย
เธอชอบสภาพแวดล้อมของเกียวโต และตัดใจไปจากเกียวโตไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่คิดถึงสถานการณ์พิเศษในตอนนี้ ตนเองก็ไม่สามารถทำตามความชอบของตัวเองได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงพูดในทันทีว่า “ได้ค่ะโอโต้ซัง นานาโกะจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ!”
นางาฮิโกะ อิโตะ “ให้ลูกอยู่ในโตเกียว ไม่เพียงแค่เพราะให้มาอยู่เป็นเพื่อนพ่อ แต่นี่ก็เพื่อให้ลูกได้เข้ามาติดต่อกับธุรกิจและอุตสาหกรรมของตระกูลให้เร็วขึ้น และเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับการสืบทอดตำแหน่ง”
อิโตะ นานาโกะ รีบพูด “โอโต้ซัง นานาโกะไม่มีประสบการณ์ในการจัดการอุตสาหกรรมของตระกูลเลยสักนิด ตอนนี้ออกจะยังเร็วเกินไปหรือไม่?”
นางาฮิโกะ อิโตะพยักหน้าและพูดอย่างจริงจัง “ยังเร็วไปอยู่หน่อยจริงๆ แต่ตอนนี้สถานการณ์พิเศษออกไป พ่อไม่มีขาแล้ว จากนี้ไปไม่สะดวกที่จะเคลื่อนไหว… ”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางาฮิโกะ อิโตะก็ถอนหายใจด้วยความโดดเดี่ยวเล็กน้อย “นอกจากนี้ พ่อในฐานะคนพิการคนหนึ่ง ไม่เหมาะที่จะเป็นตัวแทนในการออกหน้าต่อสาธารณะของตระกูล นี่จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตระกูล”
“ดังนั้น ตอนนี้ลูกควรเตรียมพร้อมที่จะเข้ามาสืบทอดต่อจากพ่อ อย่างน้อยๆ ลูกจะต้องแบกรับภาพลักษณ์ภายนอกของตระกูลอิโตะก่อน ในอนาคต ลูกจะเป็นตัวแทนของตระกูลอิโตะต่อภายนอก”
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 1713
Posted by ? Views, Released on September 25, 2021
, ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment