เสิ่นเผยซวนพูด “ไม่แน่ใจเหมือนกัน น่าจะมั้ง”
เวลานี้ลิฟต์หยุดลง พวกเขาสองคนเดินไปทางออฟฟิศของจงจิ่งห้าว น่าจะเป็นเพราะว่าจงจิ่งห้าวสั่งไว้แล้ว พอเห็นพวกเขาสองคนเดินมา เลขาพูดว่า “ประธานจงอยู่ในออฟฟิศ บอกว่าพวกคุณถึงแล้ว ไปหาเขาโดยตรงได้เลย”
เสิ่นเผยซวนพยักหน้าแล้วพูดว่า “รู้แล้วครับ”
มาถึงหน้าออฟฟิศ เสิ่นเผยซวนผลักประตู ตอนแรกนึกว่ามีเพียงจงจิ่งห้าว คิดไม่ถึงว่าหลินซินเหยียนก็อยู่ เขาพูดทักทาย
หลินซินเหยียนพยักหน้ายิ้ม “เข้ามากันเลย”
จงจิ่งห้าววางงานในมือ เดินมา บอกให้พวกเขาสองคนนั่ง
กวนจิ้งนึกได้ว่ามือตัวเองยังถือกระเป๋าของผู้หญิงอยู่ เมื่อกี้อยู่หน้าประตูลืมวางไว้ข้างนอก ตอนนี้ดูเหมือนไม่สะดวกออกไป
มือของเขาหลบไปข้างหลัง
หลินซินเหยียนเห็นท่าทางของกวนจิ้ง มองเห็นกระเป๋าในมือของเขา ยิ้มพูดว่า “เป็นของคุณกู้เหรอ?”
กวนจิ้งสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ทำไมหลินซินเหยียนถึงรู้เรื่องกู้หุ้ยหยวน?
เธอเรียกคุณกู้ เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่อง
เธอรู้ได้ยังไง?
“คุณนาย…….”
“วันนี้ฉันอยู่ที่ถนนหนานฮั๋ว เห็นคุณกับคุณกู้ทะเลาะกันข้างถนน ทำไมถึงทะเลาะกันแล้ว?”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้น” กวนจิ้งรีบอธิบาย “เรื่องมันไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิด คือเธอที่คอยตื๊อผม…….”
“ทำไมเขาถึงตามตื๊อคุณ?” จงจิ่งห้าวพูดอย่างใจเย็น
กวนจิ้งเม้มปากแน่น ยังคงรู้สึกพูดยาก
จงจิ่งห้าวรู้สึกรำคาญ ถูกท่าทางอ้ำๆอึ้งๆของกวนจิ้งทำให้โมโห เขาเกลียดคนพูดจาอ้ำอึ้งที่สุด
“ทำไมยังไม่คิดจะพูดอีก?”
สิ่นเผยซวนก็แปลกใจที่เขาอยู่กับกู้หุ้ยหยวน แตะตัวเขาไปทีหนึ่ง “คุณรีบพูดซิ เรื่องอะไรกันเนี่ย?”
กวนจิ้งกัดฟัน พูดความจริงกับจงจิ่งห้าว “เธอ เธอวางแผนหลอกใช้ผม อยากใช้ผมทำลายความสัมพันธ์ของพวกคุณผัวเมีย ผมไม่ตกลง เธอก็เลยข่มขู่ผม…….”
“ข่มขู่คุณยังไง?” เสิ่นเผยซวนถามอย่างสงสัย
ความจริงทุกคนต่างก็สงสัย สายตาต่างก็มองมา รอคำตอบของเขา
กวนจิ้งเกลียดจนอยากหาหลุมแทรกแผ่นดินหนี แม่งช่างขายหน้าจริงๆ
ยากที่จะปริปากพูด พูดไม่ออกเลย
เสิ่นเผยซวยขมวดคิ้ว “กวนจิ้ง คุณกลายเป็นคนยืดยาดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
กวนจิ้งขึงตาใส่เสิ่นเผยซวน คิดในใจว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นบนตัวคุณ คุณจะพูดออกไหม
“คุณไม่พูดพวกเราจะช่วยคุณจัดการยังไง? คุณคิดว่าลาออกเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเหรอ?” จงจิ่งห้าวดึงคอเสื้อ ท่าทางใจร้อน
หลินซินเหยียนลุกขึ้นเทน้ำให้เขาแก้วหนึ่ง เขารับมา ดื่มไปคำหนึ่ง ตอนที่วางแก้วบนโต๊ะ เงยหน้ามองไปที่กวนจิ้ง “คุณตามผมมานานขนาดนี้แล้ว น่าจะรู้นิสัยผม ถ้าหากคุณตัดสินใจจะไปจริง ผมไม่ขวางคุณ แต่ถ้าหากสาเหตุที่คุณถูกกู้หุ้ยหยวนตามตื๊อเป็นเพราะผม ผมหวังว่าคุณจะพูดความจริงกับผม”
เห็นได้ชัดเจนว่ากวนจิ้งถูกกู้หุ้ยหยวนตามตื๊อ ยังตื๊อจนกวนจิ้งยื่นการลาออก ต้องมีความเกี่ยวข้องกับเขาแน่นอน กู้เป่ยเพิ่งถูกตัดสินโทษ ในใจเธอมีความโกรธแค้น เขาก็เข้าใจ มิฉะนั้นก็ไม่ส่งข้อความพวกนั้นให้หลินซินเหยียน
“เธอส่งข้อความให้หลินซินเหยียน คุณรู้ไหม?”
กวนจิ้งทุ่มออกไปเต็มที่แล้ว พูดว่า “ใช่ ผมมีความสัมพันธ์กับเธอ เธอถ่ายรูปบนเตียงของผม ข่มขู่ผม ผมไม่ยอม เธอก็จะเปิดโปง ผมไม่มีวันหักหลังอย่างแน่นอน ไม่มีทางเลือก ผมจึงต้องเลือกที่จะจากไป”
ฟู่—–
เสิ่นเผยซวนเกือบหัวเราะออกมา รีบเก็บอารมณ์ทันที
เขาถูกคำว่ารูปถ่ายบนเตียงของกวนจิ้งทำให้หัวเราะ
เขาเป็นผู้ชายตัวโตคนหนึ่ง ถูกผู้หญิงใช้รูปภาพบนเตียงข่มขู่
เสิ่นเผยซวนจับหัว
“คุณอยากหัวเราะก็หัวเราะ ไม่ต้องอั้นไว้” กวนจิ่งจ้องเขา
“ใครอยากหัวเราะ?” เสิ่นเผยซวนรีบทำหน้าจริงจัง “คุณเตรียมตัวจะทำยังไง?”
กวนจิ้งท่าทางอ่อนเพลีย “จะทำยังไงได้? ผมก็หลบหน้าเธอ คุณว่าเธอ ในใจคิดอยากทำร้ายคน? แต่ว่า ก็ไม่ได้ทำร้าย จะฟ้องเธอก็ไม่ได้ หรือว่าส่งเธอเข้าไปในคุก”
นี่เป็นเรื่องที่ทำให้คนปวดหัวจริงๆ
“ก็ฟันต่อฟันซิ เธอวางแผนคิดร้ายยังไงกับคุณ คุณก็วางแผนอย่างนั้นกับเธอ เธอเป็นผู้หญิง ห่วงหน้าตามากกว่าคุณ” เสิ่นเผยซวนพูด
กวนจิ้งสีหน้าอย่างกับกินอึ “คุณออกไอเดียบ้าอะไรเนี่ย?”
“ถ้างั้นคุณคิดจะทำยังไง? ในใจเธอคิดแต่อยากทำร้ายคนอื่น แต่ว่ายังไม่ได้ทำ ก็ทำอะไรเธอไม่ได้ แต่ว่าคนแบบนี้เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าเป็นระเบิดตั้งเวลา ไม่รู้ว่าจะออกมาทำร้ายคนเมื่อไหร่ ไม่จับจุดอ่อนของเธอไว้ เธอไม่มีวันเชื่อฟังแน่”
เสิ่นเผยซวนพูดถูก
ทุกคนต่างเข้าใจเหตุผลนี้
เวลาสั้นๆก็ทำอะไรเธอไม่ได้ ถึงจะรู้ว่าเธอคิดไม่ดี
วันนี้จงจิ่งห้าวก็จะพาหลินซินเหยียนไปต่างประเทศ ไม่มีเวลาไปจัดการกับเธอ เขาเงียบไปสักพัก “กวนจิ้ง”
กวนจิ้งตอบรับทันที
“วันนี้ผมจะไปต่างประเทศ เวลากลับมาที่แน่นอน ยังไม่ได้กำหนด ถือว่าช่วยผมครั้งหนึ่ง จับตาเธอไว้ก่อน ผมจะส่งคนคอยจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของเธอไว้” พูดจบเขาก็หันไปมองเสิ่นเผยซวน “ระยะเวลาที่ฉันไม่อยู่ นายก็พักที่คฤหาสน์”
“ทำไมถึงไปต่างประเทศตอนนี้?” เสิ่นเผยซวนถาม
เห็นได้ชัดว่าแปลกใจมาก
จงจิ่งห้าวไม่ได้พูดอย่างละเอียด พูดแค่ว่ามีธุระ
“นายวางใจได้” เสิ่นเผยซวนพูด “นายไปต่างประเทศก็ไม่สะดวกแล้ว เรื่องจับตาความเคลื่อนไหวของกู้หุ้ยหยวน มอบให้ฉันก็พอ”
“กู้หุ้ยหยวนก็มอบให้ผมเถอะ” กวนจิ้งพูด จงจิ่งห้าวต้องมีเรื่องแน่นอน มิเช่นนั้นไม่ไปต่างประเทศเวลานี้
“ยังไงเสียเธอก็ตามตื๊อผมอยู่ทุกวัน ผมต้อนรับขับสู้กับเธอเอง อย่างมาก ผมก็โกหกเธอว่า ผมตอบตกลงกับเธอแล้ว”
เสิ่นเผยซวนตบไหล่เขา “ผมว่านี่ไม่ใช่วิธีจัดการอย่างเด็ดขาด”
“งั้นคุณมีวิธี?” กวนจิ้งถามกลับ
“มีซิ คุณก็ลองวิธีใช้หน้าตายั่วยวนเธอ จัดการกับเธอเลย จัดหนักครั้งเดียวสบายไปตลอด” เสิ่นเผยซวนแบมือสองข้าง
กวนจิ้งมองเสิ่นเผยซวนตั้งแต่หัวจรดเท้าหนึ่งรอบ ทำเสียงจุ๊ไปทีหนึ่ง “คุณอยู่กับซูจ้านนานเกินไปแล้วใช่ไหม? ทำไมพูดจาทำนองเดียวกับเขาเลย?”
เสิ่นเผยซวนไม่รู้สึกเลยแม้แต่น้อย “ใช่เหรอ?”
กวนจิ้งมองเขาไปทีหนึ่งอย่างรังเกียจ “ต่อไปนี้คุณอยู่ห่างๆกับซูจ้านหน่อย คนดีๆทั้งคนกลายเป็นคนนิสัยเสียหมด”
วิธีการพูดของเขาเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว “ถ้าหากผมทำให้เธอรักผมอย่างสุดจิตสุดใจ ผมค่อยโน้มน้าวให้เธอล้มเลิกการแก้แค้น ความเป็นไปได้จะสูงไหม?”
เสิ่นเผยซวน “…….”
ฟู่!
“คุณยังบอกว่าผมเหมือนซูจ้าน ผมว่าคุณต่างหากที่เหมือน นี่ก็คือวิธีการที่สมองของเขาคิดออกมาได้”
กวนจิ้งเกาหัว “ใช่เหรอ?”
“รู้ว่าเธอมีใจอยากแก้แค้น และรู้จักคนของเธอ ป้องกันเธอไม่ใช่เรื่องยากเลย” เสิ่นเผยซวนพูดคำพูดนี้ เพราะอยากให้จงจิ่งห้าววางใจ
มีเสิ่นเผยซวนอยู่ แน่นอนว่าเขาวางไม่น้อย
กวนจิ้งก็พูด “งั้นผมก็กลับมาทำงาน คุณไม่อยู่บริษัทไม่มีคนไม่ได้ ผู้หญิงคนเดียวเอง ผมต้องดูได้แน่นอน ไม่ให้มีโอกาสสร้างความวุ่นวาย”
“ได้ มีเรื่องอะไรติดต่อผมได้เสมอ” จงจิ่งห้าวลุกขึ้นยืน พาหลินซินเหยียนกลับไป เที่ยวบินรอบบ่าย พวกเขายังมีของบางอย่างต้องเตรียม
กวนจิ้งอยู่ที่บริษัท ยังติดต่อกับกู้หุ้ยหยวนก่อน บอกเธอว่าตัวเองคิดตกแล้ว อยากพบหน้าเพื่อคุยกับเธอ
เสิ่นเผยซวนก็มีธุระ ออกจากบริษัทก็ไปจัดการธุระของซางหยู จากนั้นยังต้องไปพบผู้บัญชาการซ่ง
ตอนที่เธอไปพบผู้อำนวยการโรงเรียนเห็นรถของซ่งหย่าซินที่หน้าประตู
เสิ่นเผยซวนแปลกใจ ทำไมเธอถึงปรากฏตัวในโรงเรียน?