กู้หุ้ยหยวนยังคงไม่อยากจะเชื่อ ว่ากวนจิ้งจะยอมทิ้งอนาคตของตัวเองได้ นึกว่าครั้งที่แล้วเขาแค่ตอบโดยอารมณ์ชั่ววูบ
“กวนจิ้ง คุณอย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะ อย่ามาปากดีใส่ฉันแบบนี้!”
กวนจิ้งแสยะยิ้ม “ผมก็แค่ปากดี ผมถูกคุณบังคับจนเหลือเพียงศักดิ์ศรีอันน้อยนิดนี้แล้ว ทำไม ยังไม่อยากให้ผมรักษามันไว้เหรอ?”
“คุณ………”
กู้หุ้ยหยวนโกรธมาก
“ผมไม่อยากเจอคุณ และไม่อยากคุยกับคุณอีก คุณอยากจะทำอย่างไรก็ทำไป ต่อไปนี้ก็อย่าโทรมาหาผมอีก!”
พูดจบ กวนจิ้งก็กดวางสายทันที เหมือนทำแบบนี้ยังไม่พอ เขากดปิดเครื่องอีกด้วย เขาหายใจถี่ แล้วพูดกับตัวเอง “นี่เหรอคุณหนูผู้สูงศักดิ์ ให้ตายเถอะ เหมือนกับคนชั้นต่ำ!”
จงจิ่งห้าวถามขึ้นอย่างไม่เร่งรีบ “ใครกัน ที่ทำให้นายโมโหขนาดนี้?”
กวนจิ้งหันหลังกลับก็พบกับจงจิ่งห้าวที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู ตัวของเขาก็แข็งทื่อทันที
“ประ ประธานจงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?” กวนจิ้งพูดตะกุกตะกักด้วยความประหม่า
จงจิ่งห้าวคลายคอเสื้อของเขา จากนั้นก็ดึงเก้าอี้ที่อยู่หน้าโต๊ะทำงานออกมานั่ง “เพิ่งถึงไม่นาน ไม่ได้ยินอะไรเยอะหรอก”
กวนจิ้งรีบเดินมาด้านหน้า “ผมเลิกกับแฟนน่ะครับ……..”
“นายมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่?” จงจิ่งห้าวเลิกคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อ
“เพิ่งไม่นานมานี้เองครับ” กวนจิ้งไม่อยากบอกเรื่องนั้นกับจงจิ่งห้าว เพราะมันน่าอาย เขาเป็นผู้ชาย แต่กลับถูกแอบถ่ายตอนเขาเปลือยกายแล้วนำมาข่มขู่เขา? ถ้าพูดเรื่องนี้ออกไปเขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว
“ประธานจงครับ” กวนจิ้งปรับอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลง แล้วเดินไปยังหน้าโต๊ะทำงานอย่างจริงจัง แล้วนำจดหมายลาออกวางไปที่ตรงหน้าเขา “ผมซาบซึ้งในความไว้วางใจที่ท่านมีต่อผม และสอนผม ผมอยากพัก………”
“มีคนเสนอเงินราคาสูงกับนาย?” จงจิ่งห้าวทำเพียงกวาดมองจดหมายผ่านๆ ไม่ได้หยิบขึ้นมา
“ไม่มีครับ ไม่มีจริงๆ ผมแค่อยากพัก……”
“แต่นายเคยบอกฉันว่า นายแค่อยากหาเงินไม่ใช่เหรอ?” จงจิ่งห้าวมองดูเขาด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ กวนจิ้งถูกมองจนรู้สึกไม่เป็นตัวเอง จึงรีบหลบสายตาเขาแล้วพูดอธิบาย “ไม่มีคนมาเสนอจริงๆ นะครับ ผมแค่อยากจะพักจริงๆ ครับ”
“ฉันได้ยินมาว่าประธานของฟู่หยวนกรุ๊ปมาซื้อตัวนาย บอกว่าจะให้นายดำรงตำแหน่งรองประธานด้วย? ” จงจิ่งห้าวหมุนเก้าอี้มามองกวนจิ้ง
สำหรับคนที่มีความสามารถ มีคนมาเสนอข้อเสนอดีๆ แบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา
“นั่นมันเรื่องหลายเดือนก่อนแล้วนะครับ ท่านรู้ได้ยังไงครับ?” มีคนมาซื้อตัวเขาจริงๆ ทว่า เขาไม่เคยสนใจ เพราะเขารู้ดีว่าอยู่ที่ไหนจะมีอนาคตที่ดี
ไม่นาน กวนจิ้งก็นึกหัวเราะเยาะตัวเอง “คำถามนี้ เป็นคำถามที่ดูโง่มากจริงๆ”
ถ้าแม้แต่เรื่องมีคนมาซื้อตัวลูกน้องตัวเองจงจิ่งห้าวก็ยังไม่รู้ งั้นเขายังจะนายคนได้อย่างไร?
ว่านเยว่จะมีทุกวันนี้ได้อย่างไร?
จงจิ่งห้าวถามขึ้นอย่างตรงไปตรงมา “พูดมาเถอะ ทำไมนายถึงอยากลาออก? มีปัญหาหรือความคิดเห็นอะไร บอกมาได้”
กวนจิ้งรีบส่ายหัว จงจิ่งห้าวดีกับเขามาก เขาไม่มีปัญหาหรือความคิดเห็นอะไร
“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผมจริงๆ ครับ ท่านประธานจงครับ ผมขอโทษท่านจริงๆ ที่เพิ่มปัญหาให้ท่าน”
จงจิ่งห้าวหรี่ตาลง “กวนจิ้ง นายอยู่กับฉันมานานเท่าไหร่แล้ว?”
กวนจิ้งโพล่งออกมาว่า “ประมาณแปดปีครับ”
จงจิ่งห้าวลุกขึ้นมา “นายไปคิดก่อนแล้วค่อยมาบอกฉัน”
พูดจบเขาก็เดินออกไป กวนจิ้งยืนอยู่กับที่ ภายในใจของเขารู้สึกผิดมาก เพราะความประมาทของตัวเองถึงสร้างปัญหาให้จงจิ่งห้าว
เขาคิดไม่ถึงว่า กู้หุ้ยหยวนจะหมายหัวเขา
จงจิ่งห้าวเดินออกจากห้องทำงานของกวนจิ้ง เขาไม่ได้ออกไปจากบริษัท แต่กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง
เห็นได้ชัดว่ากวนจิ้งกำลังมีปัญหา แต่ไม่ยอมบอกเขา
นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เขาปวดหัวมาก เนื่องจากเรื่องของหลินซินเหยียน ส่งผลให้หลังจากนี้ เขาอาจจะไม่ค่อยมีเวลามาดูแลกิจการของบริษัท ตอนนี้กวนจิ้งก็มาบอกว่าจะลาออก