เสิ่นเผยซวนหันกลับมา พูดว่า “ไม่มีอะไร ผมจะจัดการเอง ซางหยิง พวกเรากลับไปกันเถอะ”
สีหน้าซางหยิงชะงักไปเล็กน้อย ไม่นานก็ฉีกยิ้มออกมา “ฉันเชื่อคุณค่ะ”
เธอลุกขึ้นมาจากบนหลังของเสิ่นเผยซวน “ฉันจะไปเก็บของ และต้องไปบอกลาพวกเด็กๆด้วย ใช่แล้ว
ฉันมาเรียกคุณไปทานอาหารเช้า”
เสิ่นเผยซวนลุกขึ้นยืน เอาโทรศัพท์ใส่ไปในกระเป๋ากางเกง เดินตามเธอเข้าไปในบ้าน
ภายในบ้านเสียงของซางหยิงดังมา “ฉันทำใจไม่ได้เลยที่ต้องจากเด็กๆพวกนี้ไป”
“ต่อไปคุณก็กลับมาเยี่ยมพวกเขาได้” เสิ่นเผยซวนพูด
“คุณบอกว่าจะช่วยพวกเขา คุณอย่าลืมนะ”
เสิ่นเผยซวน “ไม่ลืม”
เมืองB
ตอนที่หลินซินเหยียนตื่นขึ้นมาจงจิ่งห้าวก็ไม่อยู่แล้ว จงเหยียนซียังนอนหลับอยู่ซี
เธอตื่นนอนแล้วไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ลงมาก็พบว่าจงจิ่งห้าวยังอยู่ที่ห้องรับแขก
เธอคิดว่าเขาไปที่บริษัทแล้ว
เธอเดินมาโอบเอวบางของเขาจากด้านหลัง “ตื่นเช้าขนาดนี้เลยเหรอคะ”
จงจิ่งห้าววางแก้วน้ำในมือที่เพิ่งดื่มหมดลง หันหน้าไปมองเธอ“ทำไมไม่นอนนานอีกหน่อย”
หลินซินเหยียนแนบอยู่ที่หลังเขาพูดว่า“นอนไม่หลับแล้ว”
จงจิ่งห้าวมองไปยังคุณแม่หยูที่กำลังเช็ดตู้เก็บไวน์ มั่นใจแล้วว่าเธอจะไม่หันมามองทางนี้
หมุนตัวเอาหลินซินเหยียนมาไว้ในอ้อมกอด โน้มตัวไปจูบริมฝีปากเธอ
หลินซินเหยียนหดตัวถอยเล็กน้อยกลัวว่าคุณแม่หยูจะเห็น
จงจิ่งห้าวไม่ยอมให้เธอถอยหนี ยึดศีรษะเธอไว้ให้แนบตัวเขาพอดี
หลินซินเหยียนรู้ว่าตนเองเอาชนะเขาไม่ได้ จึงปล่อยให้เขาตามใจ
ตอนที่จงจิ่งห้าวปล่อยเธอ เธอกอดคอเขาไว้ไม่ปล่อย กัดลงบนไหล่เขาที่มีชุดนอนกั้นอยู่ทีหนึ่ง
เธอจใใจออกแรงมากหน่อย รู้ดีว่าคุณแม่หยูอยู่ด้วย เขาเจ็บก็ไม่กล้าส่งเสียงร้อง
ไม่นานเธอก็เห็นสีหน้าจงจิ่งห้าวฝืนกลั้นความเจ็บเเธอถอนหายใจอย่างโล่งอกด้วยความยินดี
จงจิ่งห้าวเปิดคอเสื้อขึ้น มองไปที่แผล รอยฟันเรียงเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เกือบจะมีเลือดซึมออกมาแล้ว
เขากระพริบตาปริบๆ “นี่คุณจะทำร้ายคุณนายเหรอคะ”
หลินซินเหยียนไม่ค่อยอยากจะเชื่อเขา ฉันไม่ได้ออกแรงเลยนะ ”
“ออกแรงแล้วจะเป็นอย่างไร” จงจิ่งห้าวสงสัยหูของตนเอง ต้องกัดให้เลือดออกแล้วถึงเรียกว่าออกแรงเหรอ
หลินซินเหยียนมองเขาดูเหมือนจะเจ็บจริง ก็ยื่นมือออกมาจัดระเบียบคอเสื้อของเขา รอยฟันบนไหล่ไม่ได้ลึกมาก
มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย เธอไม่รู้เลยว่าตนเองจะหุ้นออกแรงมากขนาดนี้
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันจะไปหากล่องยามาให้คุณ……”
จงจิ่งห้าวรั้งเธอไว้ “ไม่ต้อง”
หลินซินเหยียนไม่ได้คิดจะกัดเขาให้บาดเจ็บ ต้องโทษที่ตนเองไม่ทันระวัง “เจ็บมั้ย……”
“ไม่เป็นไร ก็ถือเสียว่าคุณทิ้งรอยที่ระลึกไว้ให้ผมแล้วกัน ดังนั้นผมก็จะทิ้งไว้ให้คุณหนึ่งอัน……”
“ฉันไม่ได้อยากได้” หลินซินเหยียนไม่ได้โง่ กัดจนเจ็บแบบนั้น เธอไม่ได้ต้องการรอยอะไรนั่น
“ไม่เอาไม่ได้” จงจิ่งห้าวกอดเธอเอาไว้ จงใจเปิดคอเสื้อเธอ ไม่ได้อยากจะกัดเธอจริงๆ
แค่อยากหยอกเธอเล่นเท่านั้น
หลินซินเหยียนจั๊กกะจี้จนอดหัวเราะออกมาไม่ได้
คุณแม่หยูได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็เดินมาดูทางนี้ จึงมองเห็นจงจิ่งห้าวกอดอยู่กับหลินซินเหยียน
ด้วยท่าทางรักใคร่ เธอรีบหมุนตัว อาจจะเป็นเพราะเคลื่อนไหวเร็วเกินไป
หรืออาจจะตื่นตระหนกมากเกินไป มือก็ลื่น ขวดไวน์ที่ยังไม่ได้เปิดตกลงบนพื้น เพล้ง!เสียงดัง
ขวดไวน์แตกกระจาย ของเหลวสีแดงสดไหลเจิ่งนองเต็มพื้น
ในอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆของไวน์ทันที
จงจิ่งห้าวและหลินซินเหยียนมองมาพร้อมกัน คุณแม่หยูยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ ยิ้มหวานอย่างเขินๆ
“พวกคุณทำต่อไปเลยค่ะ ต่อไปเลยฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น บนพื้นเดี๋ยวฉันทำความสะอาดเดี๋ยวนี้ค่ะ”
หลินซินเหยียนหน้าแดง ผลักจงจิ่งห้าวออก เดินมาก็มองเห็นขวดไวน์ตรงกลางชั้นขวดนั้นที่ซ่งหย่าซินพูดถึงแตก
เธอพูดอย่างเสียดายว่า “ไวน์ดีๆแบบนี้น่าเสียดายจัง”
จงจิ่งห้าวมองไปยังเธอ “คุณรู้ด้วยเหรอว่านี่ไวน์อะไร”
เขาจำได้ว่าหลินซินเหยียนไม่ได้มีความรู้เรื่องไวน์นี่
ไวน์พวกนี้วางอยู่ที่นี่มานานแล้ว เธอไม่เคยไปดูมาก่อน เธอก็รู้จักไวน์ขาวในประเทศที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง
“ซ่งหย่าซินบอกค่ะ เธอมีความรู้เรื่องไวน์ดีทีเดียว”หลินซินเหยียนพูด นึกถึงว่าเธอมักจะพูดโยงไปที่จงจิ่งห้าว
ในใจก็อดที่จะแปลกใจขึ้นมาไม่ได้
จงจิ่งห้าวส่งเสียงฮึ่มออกจากในจมูก เห็นชัดว่าไม่ชอบอะไรผู้หญิงคนนั้นเลย แถมยังเยาะเย้ยดูถูก
แขนที่แข็งแรง ดึงหลินซินเหยียนเข้ามาในอ้อมกอด โอบเธอขึ้นไปชั้นบน “ต่อไปถ้าเขามา ไม่ต้องให้เข้ามา
ไม่อย่างนั้นจะมารบกวนเวลาพักผ่อนของคุณ”
หลินซินเหยียนพูดว่า “รู้แล้ว”
“แต่ผมคิดว่าต่อไปเธอคงจะไม่มาอีกแล้ว ผมบอกให้เสิ่นเผยซวนรู้เรื่องแล้ว ด้วยนิสัยเขา
จะต้องกลับมาคุยกับซ่งหย่าซินให้รู้เรื่องแน่นอน”
หลินซินเหยียนพยักหน้า คิดว่าเสิ่นเผยซวนกลัยมาจัดการก็ถูกต้องแล้ว ยิ่งยื้อเวลาถึงเวลาจะยิ่งพูดกันไม่เข้าใจ
รอจนเธอกับเสิ่นเผยซวนไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว แน่นอนว่าก็จะไม่มาที่คฤหาสน์อีก
เธอเงยหน้ามองเขา โครงหน้าด้านข้างกระจ่างทั้งชัดเจน และรับกับลำคอได้อย่างสง่างาม
,เขาผิวขาวมาก จากด้านข้างมองเห็นสันจมูกยิ่งโด่งชัดเจน แม้แต่ขนตาก็ยาวจนทำให้ผู้หญิงอิจฉา เธอเบะปาก
“บริษัทของพวกคุณ มีผู้หญิงแอบชอบคุณอยู่หรือเปล่า”
ทันใดนั้นจงจิ่งห้าวก็มองมา แปลกใจ“ทำไมถามแบบนี้”
หลินซินเหยียนนึกถึงข้อความที่ได้รับเมื่อคืน พูดว่า “ก็มีคนชมว่าคุณมีเสน่ห์ ตอนทำงานถ้ามีผู้หญิง
อยู่ให้ห่างเธอหน่อยนะ”
จงจิ่งห้าวหัวเราะ “ทำไม หึงเหรอ”
หลินซินเหยียนเหล่มองเขา ไม่ได้พูดอะไร
จงจิ่งห้าวหุบยิ้ม กำลังจะถามว่าใครบอก เวลานี้เองจงเหยียนซีตื่นแล้ว พบว่าไม่มีใครอยู่ข้างๆ ก็ร้องไห้ทันที
หลินซินเหยียนยื่นมือมาอุ้มเธอ จงจิ่งห้าวพูดว่า “ผมอุ้มเอง”
จงเหยียนซีที่เพิ่งตื่นยังไม่ได้สตินัก พาดอยู่บนบ่าจงจิ่งห้าวขยี้ตา
หลินซินเหยียนหาเสื้อในตู้มาให้ลูกสาว
จงจิ่งห้าวอุ้มจงเหยียนซีไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ หลินซินหยวนหาชุดที่จะให้ลูกสาวใส่วันนี้ได้แล้ววางไว้บนเตียง,
ตอนนี้เอง โทรศัพท์มือถือที่เธอวางไว้บนหัวเตียงก็สั่นเล็กน้อย เธอยื่นมือไปหยิบมา
เป็นข้อความจากหมายเลขเมื่อคืนคนนั้นส่งมา
เธอขมวดคิ้วเปิดอ่าน