จงจิ่งห้าวพิงร่างอยู่อีกด้าน “คุณสามารถถอดเองได้ แต่ว่าผมไม่ออกไปนะ”
หลินซินเหยียนขึงตาใส่เขา “คุณจะลวนลามหรือคะ”
จงจิ่งห้าวหัวเราะ “กับคุณ ผมจำเป็นต้องลวนลามด้วยหรือ ไม่ว่าจะทำอะไร นั่นล้วนเป็นสิ่งที่ชอบด้วยเหตุและผล เปรียบเทียบง่ายๆ ดูคุณอาบน้ำ นี่ก็ถูกกฎหมายเช่นกัน”
“น่าไม่อายจริงๆ” หลินซินเหยียนลงไปในอ่างอาบน้ำโดยไม่ได้ถอดชุดชั้นในชิ้นสุดท้าย
จงจิ่งห้าวก้าวเข้ามาประคองเธอ “ช้าหน่อย”
ในอ่างอาบน้ำมีน้ำจึงกลัวว่าเธอจะลื่น
น้ำอุ่นกำลังดี ไม่ร้อนและไม่เย็น แช่อยู่ในน้ำนั้นรู้สึกสบายมากจริงๆ จงจิ่งห้าวจัดการตั้งแต่เช้า ทั้งยังจัดเตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ให้เธอที่โรงแรมด้วย
เธออาบน้ำ ล้างเครื่องสำอาง สระผม บนร่างสวมชุดนอนสีแดงสองชิ้น ด้านในคือเสื้อกล้าม ด้านนอกคือเสื้อคลุม เธอกึ่งนั่งกึ่งเอนอยู่บนเตียง จงจิ่งห้าวเป่าผมให้เธอ ผมยังไม่ทันจะแห้ง คนก็หลับไปแล้ว
จงจิ่งห้าวถอนหายใจ ตอนที่เธออาบน้ำก็รู้สึกว่าเบิกบานแจ่มใส เขาก็มีชีวิตชีวา ถึงอย่างไรในค่ำคืนของคู่แต่งงานใหม่ไม่ทำอะไรสักหน่อยก็รู้สึกว่าไม่ปกติ ใครจะไปรู้ว่า เธอจะหลับไปทั้งแบบนี้
เขาคิด นี่น่าจะเป็นค่ำคืนแรกในการส่งตัวเข้าหอที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติการณ์ ถ้าหากว่าแพร่ออกไป จะต้องพูดว่าเขาใช้ไม่ได้แน่นอน
เมื่อมองดูใบหน้าหลินซินเหยียนที่หลับลึกแล้ว เขาก็คิดว่า ความจริงแล้วกอดกันนอนหลับไปก็ไม่เลวเช่นกัน
จงจิ่งห้าวชะลองานทั้งหมดเอาไว้ ตอนเช้าไม่ต้องตื่นเช้า จึงหลับได้ค่อนข้างลึก ยากที่จะมีเวลาพักผ่อนดีๆเช่นนี้
ตอนที่หลินซินเหยียนตื่นขึ้นมาก็เก้าโมงเช้าแล้ว ผ้าม่านนั้นสามารถกันไม่ให้แสงเข้ามาได้ ดังนั้นแสงภายในห้องจึงไม่สว่างนัก ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้ถูกแสงแยงตา เธอคิดจะขยับแต่ก็พบว่าคนที่กอดตัวเองยังหลับลึกอยู่ ในสถานการณ์ปกติเมื่อเธอตื่นขึ้นมา เขาก็ตื่นนานแล้ว หลายครั้งเธอเป็นคนที่นอนไม่ยอมลุกจากเตียงคนนั้น หาได้ยากที่ตัวเองจะตื่นก่อนเขาอย่างเช่นวันนี้
เปลือกตาทั้งสองข้างของเขาปิดสนิท ลมหายใจทอดยาว แผงอกกว้างขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ นอนอยู่ในวงแขนของเขา ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยมาก หลินซินเหยียนยื่นมือออกไปลูบแก้มและคิ้วของเขา ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อเหลาเสียจริง ท่าทางที่สงบนิ่งเช่นนี้ทำให้ผู้คนหลงใหลมากเป็นพิเศษ เธอเชิดคางขึ้นประทับจูบลงบนริมฝีปากเขา ขณะที่เธอกำลังจะผละออกก็ถูกคนจับศีรษะเอาไว้ ถัดมาก็มีเสียงทุ้มต่ำและแหบพร่าอย่างคนที่เพิ่งตื่นนอนดังขึ้น “จูบแล้วคิดจะจากไปหรือ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณจะเอายังไงกันแน่คะ?” หลินซินเหยียนเบะปาก ระยะห่างอันใกล้ชิดเช่นนี้ ตอนที่ขยับริมฝีปากพูดก็คล้ายกับว่าสัมผัสโดนเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
จงจิ่งห้าวยันแขนทั้งสองข้าง พลิกตัวให้เป็นฝ่ายอยู่เหนือตัวเธอ ปัดเส้นผมที่ขวางอยู่บริเวณขมับเธอ ถามเสียงทุ้มต่ำว่า “ยังเหนื่อยอยู่ไหม”
เมื่อคืนนี้หลับสบายดีมาก เธอส่ายศีรษะ “ไม่…”
คำพูดของเธอเพิ่งหลุดออกมา ก็ถูกเขาปิดริมฝีปาก เลิกชุดกระโปรงของเธอขึ้นเสียแล้ว…
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ทับถูกท้องเธอ ทั้งตัวเขาล้วนถูกยันเอาไว้เหนือกายเธอ ใช้พละกำลังจากร่างกายส่วนล่างให้ร่างกายสอดแทรกผสานเป็นหนึ่งเดียวกันกับเธอ
การบุกรุกเข้าไปกะทันหันนั้นทำให้เจ็บปวดอยู่บ้าง แต่ในไม่ช้าก็ปรับตัวได้ และกลายเป็นความรู้สึกสบาย หลินซินเหยียนขมวดคิ้วแน่น ริมฝีปากที่เผยอเล็กน้อยส่งเสียงหอบหายใจออกมาแผ่วๆ
…
นับตั้งแต่ที่หลินซินเหยียนตั้งครรภ์ ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันกับเธอ เขาล้วนต้องยับยั้งชั่งใจเป็นอย่างมาก ครั้งนี้ก็ยับยั้งชั่งใจเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าในครั้งนี้ได้ขาดสติไปแล้ว
เมื่อเสร็จกิจ หลินซินเหยียนก็อ่อนแรง นอนอยู่บนเตียงโดยไม่อยากขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย จนถึงขั้นรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างล้วนไม่ใช่ของตัวเองแล้ว
กระทั่งคำพูดก็ไม่อยากจะเอ่ย รู้สึกว่าเหนอะหนะไปหมด แต่เธอก็ไม่อยากไปทำความสะอาด จึงนอนอยู่ทั้งแบบนี้
จงจิ่งห้าวอาบน้ำล้างเหงื่อไคลบนร่างกาย สวมเสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อยแล้ว ทั่วทั้งร่างก็รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย
เขาหยิบผ้าเช็ดตัวชุบน้ำเช็ดไปตามร่างกายของหลินซินเหยียน เธอก็ไม่ขยับ นัยน์ตาหรี่ลงไปครึ่งหนึ่ง
“เหนื่อยแล้วก็นอน วันนี้ผมไม่ได้จากไป” จงจิ่งห้าวเอ่ยขึ้น เมื่อทำความสะอาดร่างกายและห่มผ้าห่มให้เธอเรียบร้อยแล้ว
เธอก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง แต่เห็นได้ชัดว่าได้ยินคำพูดของเขา ร่างกายขยับเล็กน้อย ค้นหาท่าทางที่สบายและหลับตานอน
ตอนที่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาหลังจากนั้นสองชั่วโมง จงจิ่งห้าวให้คนนำมาอาหารมาเสิร์ฟ
เขายกอาหารมาที่เตียงเพื่อให้เธอกิน หลินซินเหยียนขยี้ตา “ฉันยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลยนะคะ”
“กินเสร็จค่อยล้างก็ไม่เป็นไร” หลินซินเหยียนขึงตาใส่เขา “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันจะนอนตื่นสายแบบนี้หรือคะ”
“โอเค ล้วนเป็นความผิดของผม คราวหน้าจะควบคุมเวลาให้ดี คุณน่าจะหิวแล้วสินะ กินอะไรสักหน่อยเถอะ” จงจิ่งห้าวที่ยกถาดอาหารอยู่นั่งลงข้างเตียง
ตอนเช้าก็ไม่ได้กินข้าว ตอนนี้จึงหิวอยู่บ้างจริงๆ จงจิ่งห้าวส่งนมให้กับเธอ หลังจากเธอดื่มไปสองอึกก็วางแก้วลง หยิบช้อนตักข้าวต้มกุ้งขึ้นมากิน ยังมีไข่ต้มและผลไม้อีกนิดหน่อยด้วย
“กินเสร็จแล้วพวกเราไปดูหนังกันเถอะ” จงจิ่งห้าวมองดูเธอกินอาหาร และยื่นมือไปดึงกระดาษทิชชู่แผ่นหนึ่งมาเช็ดมุมปากให้เธอ
หลินซินเหยียนผงกศีรษะ
รู้ว่าพวกเขาเป็น ‘คู่แต่งงานใหม่’ วันนี้โทรศัพท์ของพวกเขาล้วนไม่มีเสียงดังเลย
เมื่อกินอาหารเสร็จ หลินซินเหยียนก็อาบน้ำ จงจิ่งห้าวหยิบเสื้อผ้าให้เธอ ล้วนเป็นชุดใหม่ เขาเตรียมเอาไว้ให้หลินซินเหยียนก่อนหน้านี้
หลินซินเหยียนอาบน้ำเสร็จ สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย จงจิ่งห้าวก็โอบเอวเธอออกไปข้างนอก
จงจิ่งห้าวเสนอให้ดูหนัง แต่ความจริงแล้วการดูหนังไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักที่เขาต้องการ วัตถุประสงค์หลักก็คือเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศมืดสลัวในโรงภาพยนตร์ต่างหาก โรงภาพยนตร์ในช่วงเวลากลางวันมีคนค่อนข้างน้อย ในโรงหนึ่งมีคนเพียงไม่กี่คน ที่นั่งว่างมากมาย จงจิ่งห้าวและหลินซินเหยียนนั่งอยู่มุมหนึ่งของแถวสุดท้าย จงจิ่งห้าวโอบเธอเอาไว้
เธอก็แอบอิงอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ตลอดทั้งเรื่องจงจิ่งห้าวแทบจะไม่รู้เลยว่าภาพยนตร์เล่าเกี่ยวกับอะไร เพราะกำลังแลกจูบกับหลินซินเหยียนไม่หยุด
ในบางครั้งที่เสียงของภาพยนตร์ดังขึ้นมา เขาก็แกล้งจูบเสียจนมีเสียงดัง แต่ก็ถูกเสียงของภาพยนตร์ดังกลบไป เขามีความสุขในการทำเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย จนทำให้ริมฝีปากของหลินซินเหยียนบวมแดง
ตอนที่ออกจากโรงหนังเมื่อภาพยนตร์จบลง หลินซินเหยียนก็ก้มหน้าตลอดเวลาด้วยความกลัวว่าจะถูกใครเห็นเข้า
พวกเขากลับไปที่โรงแรม ห้องถูกทำความสะอาดเรียบร้อยมาก พวกเขาไม่ได้ออกไปไหนอีก อาหารเย็นก็สั่งมา ตลอดทั้งวันล้วนอยู่ด้วยกันจนเบื่อ
ช่วงเวลาเย็นหลินซินเหยียนถูกจงจิ่งห้าวลากเข้าไปห้องอาบน้ำไปอาบน้ำแบบนกเป็ดน้ำจู๋จี๋กันรอบหนึ่ง แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่การอาบน้ำธรรมดาทั่วไป ย่อมต้องทำเรื่องบางอย่างที่สามีภรรยาควรทำกัน
วันรุ่งขึ้นจงจิ่งห้าวไปตรวจครรภ์เป็นเพื่อนเธอ
คราวที่แล้วตอนอยู่เมืองC เขาต้องทำตัวลับๆล่อๆ ปลอมเป็นคุณหมอไปเป็นเพื่อนเธอ แต่ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว เพราะทุกคนล้วนรู้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยา จึงสามารถทำทุกอย่างได้อย่างเปิดเผย
ก่อนหน้านี้มีการนัดหมายเอาไว้แล้ว เมื่อมาถึงก็สามารถเข้าตรวจได้เลย โดยไม่ต้องต่อแถวเข้าคิว
ตอนนี้ก็หกเดือนกว่าแล้ว
หลังจากตรวจเสร็จจงจิ่งห้าวก็ไปรับผลการตรวจ ส่วนหลินซินเหยียนก็นั่งรอเขาอยู่บนม้านั่งตัวยาวบริเวณระเบียงทางเดิน
ในตอนนี้ข้างกายเธอมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งลง