หลินซินเหยียนเปิดกล่อง ข้างในมีโหลใส่ปลาแก้วทรงกลม ในโหลใส่ปลามีถุงพลาสติกที่เติมลมอยู่ ในนั้นมีปลาหลากสีที่มีลวดลายสวยงามอยู่สองตัว ไม่ใช่แบบที่หาได้ตามตลาด มันหายากมากเลย
ครั้งก่อนที่บ้านของไป๋ยิ่นหนิง ไม่เหมือนกับของที่เขาให้ แต่ว่าแบบนี้มันก็ทำให้เธอคิดถึง เรื่องที่ไป๋เฉิง
จงจิ่งห้าวถอดกระดุมเสื้อออกก่อนจะเข้าไปในห้องอาบน้ำ ครั้งนี้เขาเดาผิดไปแล้ว อุตส่าห์ให้ปลาในงานแต่งงาน เขาคิดว่าน่าจะเป็นโจวฉุนฉุนถึงได้ประหลาดขนาดนี้
แต่ไม่รู้เลยว่าจริงๆ โจวฉุนฉุนไม่ได้เป็นคนให้ แต่เป็นไป๋ยิ่นหนิง
งานแต่งงานเขากับซูจ้านนั้นไม่ต่างกันมาก ต่างนั่งอยู่ในมุม แล้วก็ให้ของขวัญแบบเงียบๆ
หลินซินเหยียนหันมามองคนที่เข้ามาในห้อง จากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ
ชายคนนี้ขี้ใจน้อย เกรงว่าเขาจะไม่พอใจ ดูท่าทีเหมือนจะไม่รู้ว่าไป๋ยิ่นหนิงเป็นคนให้ของขวัญนี้ ไม่อย่างนั้นคงจะหึงอีกแน่ๆ
เธอแกะถุงพลาสติกออก จากนั้นก็เอาปลาเลี้ยงไว้ในโหลใส่ปลา
ตอนที่เธอเอาถุงกับกล่องทิ้งขยะ กล่องนั้นมีการ์ดใบหนึ่งหล่นออกมา เธอหยิบขึ้นมาเปิดออก มันเป็นลายมือของไป๋ยิ่นหนิง เขียนว่า【ไม่ได้เจอบ่อยๆ ไม่ได้หมายความว่าความรู้สึกจะลดน้อยลง ตัวอยู่ห่างไกล ไม่ได้หมายความว่าใจจะห่างกัน ความรู้สึกที่จริงใจ ทลายทุกขอบเขตของโลก ขออวยพรให้คุณอย่างสุดใจ ขอให้คุณมีความสุขตลอดไป】
หลินซินเหยียนผลุบตาลง ขนตาสั่นเบาๆ ริมฝีปากก็ยิ้มขึ้นเล็กน้อย คำเหล่านี้ไม่ยาวมาก ด้านหน้าแสดงความรู้สึกของเขา ด้านหลังก็อวยพร มันหมายความว่าเขายอมแพ้แล้ว
เธอชอบการที่เขาสามารถเข้ากับโจวฉุนฉุนได้ดีจริงๆ
เธอปิดการ์ดลง ก่อนจะวางบนโต๊ะ ของขวัญบนโต๊ะอีกมากมายนั้นจงจิ่งห้าวคงไม่สนใจ ของขวัญที่เหวินชิงให้เธอก็อยู่บนโต๊ะเหมือนกัน เธอยื่นมือหยิบขึ้นมา จากนั้นก็เปิดออก ในนั้นเป็นภาพถ่ายรูปรวม
นิ้วมือของเธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะเปิดออก ใบแรกนั้นมันเป็นรูปทั้งครอบครัว ในนั้นมีคนที่เธอไม่เคยเจอ ก็คือคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตายายของเธอ พวกเขานั่งบนเก้าอี้ ด้านหลังเป็นเหวินชิงกับเหวินเสียน ตอนนั้นพวกเขายังเด็ก
เธอเปิดต่อไป ด้านหลังเป็นรูปของเหวินเสียน แล้วก็รูปที่ถ่ายกับเหวินชิง ไม่ใช้ภาพที่ตั้งใจถ่ายที่ร้าน แต่เป็นภาพในชีวิตประจำวัน มองผ่านรูปพวกนี้ ก็พอจะรู้ถึงวิวในตอนนั้นได้
ตระกูลเหวินมีเพียงเด็กสองคน คือเหวินเสียนกับเหวินชิง บวกกับความรักของพ่อแม่ เลี้ยงลูกออกมาด้วยความรักที่ดี มองรูปพวกนั้นก็รู้ ว่าแววตาที่เหวินชิงเผลอไปมองน้องสาวนั้น มันเต็มไปด้วยความรักขนาดไหน
เหวินชิงไม่สงสัยการตายของเหวินเสียน น่าจะเป็นเพราะรักน้องสาวคนนี้มาก เลยทำเรื่องที่คลุมเครือมากมายออกไป
เธอถอนหายใจอย่างไม่สบายอารมณ์ ก่อนจะปิดภาพถ่ายรวมไป แล้วนอนบนโซฟา ดีที่ตอนนี้ต่างกำลังพัฒนาไปได้ดี
เสียงน้ำในห้องอาบน้ำยังไม่หยุด เธอรู้สึกอ่อนล้า ไม่ได้พักมาทั้งวัน ตอนนี้ได้นอนลงก็ไม่อยากลุก พลางอยากจะพักผ่อนสักหน่อย ใครจะไปรู้ ว่าจะหลับทั้งๆ ที่นอนอยู่บนโซฟา
จงจิ่งห้าวอาบน้ำเสร็จแล้ว พอออกมาก็เห็นว่าเธอหลับอยู่บนโซฟา จากนั้นก็เดินไปพลางอยากจะอุ้มเธอเข้าไปนานในห้องนอน ในตอนนั้นเองก็เห็นรูปในมือของเธอ เขาหยิบมาเปิดดู ข้างในมีแต่คนที่เขารู้จัก และเคยให้ความรักกับเขามากมาย
เขาเพลิดเพลินกับทุกอย่างที่ควรจะเป็นของเธอ เขาไม่ได้มีอารมณ์สั่นไหวมาก ก่อนจะปิดรูปถ่ายรวมนั้นลง ตอนที่คิดจะให้อภัยพวกเขา ก็ไม่ได้ลังเลกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตอนนี้เขาแต่อยากมีชีวิตธรรมดาๆ
แขนของเขาลอดผ่านเอวของเธอ ขาของเธอ ก่อนจะอุ้มขึ้นมา
เมื่อเข้าไปถึงห้องนอนก็วางเธอลงบนเตียงเบาๆ ชุดที่ใส่ก็ยังเป็นชุดในงานแต่งงาน ด้านหลังมีซิป เวลานอนน่าจะไม่สบาย จงจิ่งห้าวเลยพลิกตัวของเธอ แล้วก็รูดซิปด้านหลังลง พลางเตรียมจะถอดชุดของเธอออก ถึงแม้ว่าจงจิ่งห้าวจะทำเบาๆ หลินซินเหยียนก็ยังตื่นขึ้น เธอขยับอย่างไม่สบาย ก่อนจะลืมตาขึ้นแล้วเห็นว่ามือของจงจิ่งห้าวยังดึงชุดอยู่ ในหัวก็เบลอไปหมด แต่ก็มีสติขึ้นมาได้ในทันที ก่อนจะผลักเขา “วันนี้ฉันเหนื่อยมาก”
จงจิ่งห้าวยังเป็นมือปลาหมึกต่อไป พลางพูด “ฉันรู้”
หลินซินเหยียนขบริมฝีปากบิดตัวไปมา “คุณรู้แล้ว ยังจะ……”
ท่าทีของจงจิ่งห้าวชะงักไป พลางมองไปที่ใบหน้าของเธออย่างช้าๆ “คุณกำลังคิดอะไร?”
อารมณ์ของเธอนั้นเหมือนเขาจะทำอะไรเลยล่ะ
จงจิ่งห้าวมือก่ายหน้าผากพลางยิ้ม “วันนี้เป็นวันเข้าเรือนหอของเขา ฉันควรจะทำอะไรสักหน่อย แต่ว่าเห็นคุณเหนื่อยขนาดนี้ ฉันจะทำอะไรคุณได้ลงล่ะ”
หลินซินเหยียนยิ้มพลางออดอ้อนเขา “งั้นคุณเปลี่ยนเป็นชุดนอนเถอะ”
จงจิ่งห้าวถาม “ใส่ชุดนี้เหรอ?”
บนเตียงมีกล่องสวยอยู่ เป็งของขวัญวันแต่งงานที่ฉินยาให้หลินซินเหยียน มันเป็นชุดนอนสีดำสุดเซ็กซี่
หลินซินเหยียนมองเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวจริงจัง “ไม่ใส่”
“งั้นคุณจะแก้ผ้าเหรอ?”
หลินซินเหยียน “……”
“ฉันบอกว่าไม่ใส่ชุดนอนชุดนี้ ใครบอกว่าจะไม่ใส่เสื้อผ้านานกันล่ะ” หลินซินเหยียนจ้องเขา
จงจิ่งห้าวบีบใบหน้าของเธอ “ไม่ล้างหน้าด้วยเหรอ?”
ยังมีเครื่องสำอางอยู่เลย นอนแบบนี้มันไม่สบายแน่นอน
หลินซินเหยียนนอนลงอย่างขี้เกียจ “ไม่อยากขยับ”
วันนี้เธอเหนื่อยจริงๆ ไม่อยากทำอะไรเลย
“ฉันอาบให้ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวนอนไม่สบาย” จงจิ่งห้าวถอดชุดในงานออก โยนไปตรงปลายเตียง จากนั้นก็ดึงผ้าห่มมาห่มให้เธอ “ฉันไปเติมน้ำร้อนก่อนนะ คุณอาบน้ำก่อนค่อยนอน จะได้ไม่เพลีย”
หลินซินเหยียนตอบรับ บนผ้าห่มสีแดงนั้นมีลายกุหลาบสวยปักอยู่ เนื้อผ้านุ่มนิ่ม เธอห่อตัวเองเอาไว้ในผ้าห่ม เหลือเพียงหัวที่โผล่ออกมา พลางมองจงจิ่งห้าวเดินไปใส่น้ำในห้องอาบน้ำ
สักพักจงจิ่งห้าวก็ออกจากห้องอาบน้ำ ดึงผ้าห่มของเธอ หลินซินเหยียนหดตัวเล็กน้อย เพราะไม่ได้ใส่เสื้อผ้า มีเพียงชุดชั้นในเท่านั้น ไม่ได้อยากเปิดเผยตัวเองขนาดนั้น
“ห้ามดู ห้ามขำด้วย”
จงจิ่งห้าว “……”
“คุณเรื่องเยอะจริงๆ ฉันทำไม่ได้ คุณเป็นภรรยาที่ถูกต้องของฉัน เป็นคนของฉัน ฉันอยากดูอย่างไรก็ได้ นี่เป็นสิทธิ์ของสามี”
หลินซินเหยียน “……”
จากนั้นจงจิ่งห้าวก็อุ้มเธอเข้าไปในห้องอาบน้ำ อ่างสีขาวมีน้ำเต็มไปหมด ด้านบนก็ยังมีกลีบดอกไม้สีชมพูโปรยอยู่ หลินซินเหยียนมองจงจิ่งห้าว ชายคนนี้รู้จักการเอาใจโรแมนติกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
จงจิ่งห้าวถอดชุดชั้นในให้เธอ “มองฉันแบบนี้ทำไม?”
“กลีบดอกไม้นี่ คุณโปรยเหรอ?” หลินซินเหยียนถาม
จงจิ่งห้าวชี้ไปที่ขวดต่างๆ มากมายที่วางอยู่ตรงกำแพง มีของใช้อาบน้ำมากมาย แล้วก็มีแจกันแก้วข้างในมีกลีบดอกไม้ที่สดใหม่อยู่
“โรงแรมยังเตรียมพร้อมขนาดนี้” เธอพูดจากนั้นก็หนาวไปทั้งตัว มือทั้งสองข้างก็อดไม่ได้ที่จะเอามากอดอกตรงหน้า บังวิวสวยด้านหน้าไป
“คุณออกไปก่อน เดี๋ยวที่เหลือฉันถอดเอง” เธอแววตาเป็นประกาย
จงจิ่งห้าวพูดเสียงเบา “ฉันอาบให้นะ”
“ไม่เอา” หลินซินเหยียนปฏิเสธ