ซ่งหย่าซินพูด “มาทำธุระที่นี่เล็กน้อย คุณยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอ?ถ้าไม่มีแล้ว เราไปหาที่นั่งกันไหม?”
เสิ่นเผยซวนไม่มีที่ให้ไป เลยตอบตกลง
“คุณขับรถมาเหรอ?” ซ่งหย่าซินถาม
“เปล่า” เสิ่นเผยซวนตอบ
ซ่งหย่าซินชี้ไปที่รถที่จอดอยู่ที่ข้างถนน พลางพูด “รถของฉันจอดอยู่ที่ข้างถนน นั่งรถของฉันก็ได้”
เสิ่นเผยซวนไม่ได้ปฏิเสธ
“นายคนนี้” ซูจ้านมองเสิ่นเผยซวนกับผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นรถมา ด้วยแววตาของความสงสัยตัวเองมากกว่าเดิม
เขาถามคนขับรถข้างหน้า “ชายที่เพิ่งออกมาจากร้านเล็กๆ ขึ้นรถไปกับผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า?”
คนขับรถพูด “ใช่แล้วล่ะ ผู้หญิงคนนั้นสวยไม่เบาเลย”
ซูจ้านหัวเราะ มีผู้หญิงอยู่ในใจแล้ว ยังจะมาทำเป็นเศร้าต่อหน้าเขาอีก อีกอย่าง ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันนะ?
เป็นอะไรกับเสิ่นเผยซวนนะ?
หรือว่าเสิ่นเผยซวนมีแฟนแล้ว แต่ปิดบังเอาไว้?
แต่ก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังสักหน่อย?
ซูจ้านสงสัยเป็นอย่างมาก น่าเสียดายที่ไม่มีใครสามารถทำให้เขาออกจากความสงสัยนี้ได้
คนขับรถมองเขาทางด้านหลัง “เราจะไปกันไหม?”
เขาไม่สามารถรอดรถเอาไว้แล้วไม่ทำงานได้ใช่ไหม
เมื่อเห็นว่าเสิ่นเผยซวนมีคนไปด้วย เขาก็วางใจไม่น้อย แล้วบอกที่อยู่บ้านพักของจงจิ่งห้าวกับคนขับรถ
หลังจากที่ซ่งหย่าซินขับรถไปที่เขตของเมืองแล้ว ก็หาร้านกาแฟที่ค่อนข้างมีบรรยากาศของคู่รัก “เราดื่มกาแฟกันสักหน่อยเถอะ”
เสิ่นเผยซวนไม่ได้อยากไปร้านกาแฟเท่าไหร่ แต่ว่าเพราะตัวเองเพิ่งตอบตกลงไป เลยเปิดประตูรถลงมา
“ดื่มแค่กาแฟแก้วเดียวนะ ทำไมถึงรู้สึกว่าคุณไม่ค่อยอยากมาเลยล่ะ” ซ่งหย่าซินยิ้มพลางพูด
“ฉัน……”
“ฉันล้อคุณเล่นน่ะ” ซ่งหย่าซินตั้งใจตัดบทเขา เพราะรู้ว่าอารมณ์ของเขานั้นไม่สู้ดีนัก อาจจะเป็นเพราะเรื่องของซางหยูก็ได้
ก่อนที่ซางหยูจะไปก็เคยมาหาเธอ
ซางหยูรู้สึกได้ว่าซ่งหย่าซินคิดอะไรกับเสิ่นเผยซวน อีกอย่างเธอเป็นลูกของผู้บัญชาการซ่งด้วย ด้านการงานนั้นมีผลดีกับเสิ่นเผยซวน ผู้บัญชาการซ่งจะชอบเขาอย่างไร ก็ยังเป็นแค่ลูกน้อง แต่ถ้าเกิดเป็นลูกเขยถึงจะสนับสนุนเขามากอย่างเต็มที่
ดังนั้นก่อนจะไป เธอเลยบอกทุกอย่างที่กับซ่งหย่าซินไป
ร้านกาแฟตกแต่งอย่างอบอุ่น และโรแมนติกมาก มีคู่รักมากมายมากินกาแฟที่นี่
ซ่งหย่าซินนั่งลงตรงหน้าหน้าต่าง ต้นไม้ด้านนอกบดบังแสงอาทิตย์ เลยไม่ได้แยงตามาก แจกันสีขาวตรงกลางนั้นมีดอกเดซีอยู่
“คุณอยากดื่มอะไร?” เธอมองเสิ่นเผยซวนถาม
เสิ่นเผยซวนพูด “ชาเขียว”
“ชาเขียวแก้วหนึ่ง กับคาปูชิโนเพิ่มนมแก้วหนึ่ง” ซ่งหย่าซินพูดกับพนักงาน
“โอเค”
หลังจากที่พนักงานไปแล้ว ซ่งหย่าซินก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ผู้ชายไม่ชอบกินหวานใช่ไหม?ถึงแม้ว่าจะกินกาแฟ แต่ก็ไม่ชอบเพิ่มน้ำตาลกับนมใช่ไหม?”
เสิ่นเผยซวนพูด “แล้วแต่คนมากกว่า”
“ฉันได้ยินมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าคุณเองก็จะมีช่วงที่เหมือนเด็กด้วย” ซ่งหย่าซินพูด
เสิ่นเผยซวนฟังแล้วก็หัวขาวโพลนไปหมด ไม่รู้ว่าเธอหมายความว่าอะไร “คุณรู้อะไรมาเหรอ?”
“คุณเดาสิ” ซ่งหย่าซินยิ้มพลางพูด
เสิ่นเผยซวนพูด “ฉันเดาไม่ถูกหรอก”
“คุณเนี่ย ไม่มีอารมณ์ขันเลย แต่ว่า คุณกลับเป็นชายที่เหมาะจะฝากชีวิตเอาไว้ อันที่จริงฉันเสียดายมากนะ ถึงอย่างไรตอนแรกพ่อฉันก็อยากให้ฉันกับคุณแต่งงานกัน……”
“เรื่องมันผ่านไปแล้วล่ะ” เสิ่นเผยซวนตัดบทเธอ เพราะไม่อยากคุยอะไรกับเธอ
ซ่งหย่าซินถาม “คุณไม่ชอบฉัน?รังเกียจฉันหรือเปล่า?”
“เปล่า”
เสิ่นเผยซวนตอบอย่างตรงไปตรงมา ถ้าเกิดตอนนั้นซ่งหย่าซินยอมรับ เขาจะตอบตกลง แต่ว่าก็ไม่ได้เสียดายอะไร
ไม่ได้รัก แค่ไม่ได้เกลียด อายุเหมาะสมแล้ว แค่นั้นเอง
ตอนนี้เองมีพนักงานเอากาแฟมา “พวกคุณค่อยๆ ดื่มนะ”
ซ่งหย่าซินยกขึ้นมาจิบ เมื่อพนักงานเดินออกไปไกล ก็เปิดปากพูดขึ้น “คุณจะรังเกียจฉันในตอนนี้ไหม?”
เสิ่นเผยซวนขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไร
ซ่งหย่าซินหัวเราะหยอกตัวเอง “ถึงอย่างไรฉันก็เคยแต่งงาน”
“หย่าก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร” เสิ่นเผยซวนไม่ได้ปลอบเธอแต่สังคมก็เป็นแบบนี้ ทุกปีมีอัตราการหย่ามากมาย มีชายหญิงที่หย่ากันมาก แต่ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร
ซ่งหย่าซินวางกาแฟแก้วนี้ลง “ตอนอายุยังน้อย ฉันยกยอความโรแมนติก หวังว่าจะมีอีกครึ่งหนึ่งของชีวิต ที่จะบอกตัวเองว่าฉันรักคุณ ให้ช่อดอกกุหลาบในบางครั้ง ถึงจะรู้สึกว่ามีความสุข แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความตื่นเต้นก็หายไป ชีวิตเหลือเพียงสิ่งสำคัญ ส่วนมากก็ทนความเหงาไม่ไหวเหมือนฉัน สามีที่เลือกมาอย่างยากเย็นนั้น เลยหักหลังฉัน ตอนที่ชีวิตมันธรรมดา”
เธอชายตาขึ้นมามองเสิ่นเผยซวน “ถ้าเกิดตอนแรกฉันเลือกคุณ เราจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ บางที เรามีลูกกันแล้ว เผยซวน ฉันเสียใจจริงๆ เสียดายที่ตอนแรกฉันมองผิดไป”
เสิ่นเผยซวนไม่ได้สบตาเธอ “นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่เขาไม่รู้จักรักษาเอง”
แต่พวกเขาไม่มีวาสนา ก่อนหน้านี้ไม่มี ตอนนี้ไม่มียิ่งกว่า
“เผยซวน……”
“จู่ๆ ฉันก็คิดได้ว่าฉันยังมีธุระ ฉันไปก่อนนะ” เสิ่นเผยซวนลุกขึ้น
ซ่งหย่าซินเม้มปากเล็กน้อย ในใจก็คิด ว่าเธอไม่รีบ สวรรค์จะต้องให้โอกาสครั้งที่สองแน่นอน เธอจะต้องคว้าให้ได้
“ฉันไปส่งคุณนะ” เธอตามไป
เสิ่นเผยซวนปฏิเสธ “เราไม่ได้ไปทางเดียวกัน”
“แต่ทว่าไปด้วยกันได้” ซ่งหย่าซินยิ้มแล้วพูด “ไปเถอะ คุณทำตัวห่างเหินแบบนี้ มันทำให้ฉันคิดว่าคุณเกลียดฉัน”
เธอพูดขนาดนี้แล้ว เสิ่นเผยซวนก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะถ้าเขาปฏิเสธต่อ จะยิ่งทำให้คนอื่นคิดว่าเขาไม่พอใจซ่งหย่าซิน
เมื่อออกมาจากร้านกาแฟทั้งสองคนก็ขึ้นรถไป ซ่งหย่าซินถาม “คุณจะไปไหน?”
เสิ่นเผยซวนกำลังจะออกจากสถานี จากนั้นก็มีสติกลับมาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาไม่มีงานทำ เลยไม่ต้องไปที่สถานีแล้ว
“ตอนนี้โทรศัพท์ในกระเป๋าเขาดังขึ้น” เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา หน้าจอก็ขึ้นเบอร์ของจงจิ่งห้าว เขาเลยรีบรับ