หลินซีเฉินขมวดคิ้ว ถอนสายตาจากโน้ตเปียโนไปมองน้องสาวของเขา
ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
ดูท่าจะจนปัญญากับน้องสาวคนนี้แล้ว
“ฉันเป็นห่วงอนาคตของเธอจริงๆ” ได้แค่ [ห่าน] หนึ่งบท ก็คิดว่าตัวเองเก่งมาก ไอคิวนี้น่าเป็นห่วงจริงๆ
“แด๊ดดี้ ท่านดู ท่านดูสิ” เด็กผู้หญิงเบะปาก โยกคอของจงจิ่งห้าว “พี่เขาดูถูกหนูอีกแล้ว”
เด็กผู้หญิงสวมชุดกระโปรงสีชมพู ถุงเท้าสีขาว เพราะอากาศเริ่มร้อน กระโปรงเป็นวัสดุฤดูร้อนแบบบาง นุ่มๆ ลื่นๆ เธอมัดผมหางม้า เผยใบหน้าที่งดงาม นั่งอยู่บนตักของจงจิ่งห้าว แขนสองข้างโอบคอขอเขา ดูเหมือนเขาจะต้องให้คำตอบกับตัวเอง
จงจิ่งห้าวหัวเราะเบาๆ จนปัญญากับลูกสาว ตบตูดเธอเบาๆ “หนูว่า ทำยังไง ฉันฟังหนู”
“พี่ชายของหนูดูถูกหนูยังไงอีกแล้ว” หลินซินเหยียนยืนอยู่หน้าบันได มองลูกสาว
ลูกคนนี้ยิ่งอยู่ยิ่งบอบบาง เธอเดินลงบันได จงจิ่งห้าววางลูกสาวลงบนโซฟา เดินขึ้นไปจะอุ้ม หลินซินเหยียนไม่ให้ “ไม่ต้อง ฉันรู้สึกว่าร่างกายดีขึ้นมากแล้ว”
เธอจับแขนของเขา “นายอย่าตามใจเธอแบบนี้ เดี๋ยวจะกลายเป็นคนนิสัยหยิ่งผยอง”
“ยังเด็ก” เขาคิดว่าลูกสาวกับลูกชายไม่เหมือนกัน หยิ่งผยองหน่อยไม่เป็นไร
ยังไงเขาก็เลี้ยงไหว ลูกสาวของเขา เขาชอบโอ๋เอง
หลินซินเหยียนมองเขา ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเขามากๆ “นิสัยเกิดจากการปลูกฝังตั้งแต่เด็ก เดี๋ยวก็จะขึ้นชั้นประถมแล้ว ในโรงเรียนมีนักเรียนเยอะขนาดนั้น ย่อมมีการถูกเนื้อต้องตัวกันเล็กน้อย จะให้ไปฟ้องครูทุกวัน? กลับบ้านฟ้องผู้ปกครอง? นิสัยแบบนี้ดีเหรอ?”
เธอหวังว่าลูกสาวต้องเพัฒนา ไม่เป็นเด็กทารกไปตลอด
“แม้แต่เสียใจก็พูดไม่ได้?” จงจิ่งห้าวคิดว่าเธอคิดมากไป “ต่อให้ไม่ไปโรงเรียน แล้วยังไง? ฉันเลี้ยงทั้งชีวิต”
หลินซินเหยียน “……”
เธอมองจงจิ่งห้าวอย่างพูดไม่ออก ขมวดคิ้วแน่น “นายแก่แล้วล่ะ? ใครตามใจเธอ?”
ครั้งนี้ตาจงจิ่งห้าวพูดไม่ออกแล้ว
“หม่ามี๊รู้เหตุรู้ผล” หลินซีเฉินพูดแทรก เมื่อก่อนน้องสาวก็ชอบอ้อน แต่ว่ายิ่งอยู่ยิ่งโต ยังชอบฟ้อง โดยเฉพาะต่อหน้าเฉิงยู่ซิ่วและจงจิ่งห้าว
ชอบอ้อนและฟ้องเป็นพิเศษ
เด็กผู้หญิงนั่งอยู่บนโซฟา ดูเหมือนจะรู้ว่าประโยคที่พูดไม่ดีต่อตัวเอง กะพริบตาปริบๆ ในใจน้อยใจ “เกลียดหม่ามี๊ มีทารกน้อยก็ไม่เอาหนูแล้ว”
พูดจบก็ลงโซฟา วิ่งไปทางห้องครัว “คุณย่า คุณย่า หนูจะกลับบ้าน หนูไม่อยู่ที่นี่แล้ว”
เฉิงยู่ซิ่วและป้าหยูกำลังเตรียมอาหารในห้องครัว บนตัวยังสวมผ้ากันเปื้อนไว้ ได้ยินเสียงของเธอแล้วหันไป เด็กผู้หญิงกอดขาของเธอ “คุณย่า พวกเรากลับบ้านกันเถอะ หม่ามี๊เอาแค่ลูกในท้องกับพี่ ไม่เอาหนูแล้ว หนูไม่อยากอยู่ที่นี่”
ตั้งแต่รู้ว่าในท้องของหลินซินเหยียนมีลูก เธอก็กลัว กลัวแด๊ดดี้และหม่ามี๊ไม่เอาเธอ ชอบทารกที่เล็กกว่าคนนั้นแล้ว
ขณะที่จงจิ่งห้าววางเธอลงแล้วไปพยุงหลินซินเหยียน เธอก็รู้สึกว่าตัวเองถูกทอดทิ้งแล้ว เหมือนแด๊ดดี้จะแคร์ทารกในครรภ์ของหม่ามี๊มากกว่า
เด็กผู้หญิงน้อยใจมาก ขอบตาแดง ละอองน้ำบาง ๆ สะสมในดวงตาหนาขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย ละลายเป็นน้ำตาไหลออกมา
เฉิงยู่ซิ่วล้างมือ ขณะที่กำลังจะก้มลงไปอุ้มเธอ จงจิ่งห้าวเดินเข้ามา สายตาของเขาไม่มองบนตัวเฉิงยู่ซิ่ว แต่พูด “ฉันอุ้มเอง”
เด็กผู้หญิงกอดขาของเฉิงยู่ซิ่วไม่ปล่อย “หนูไม่เอา หนูจะเอาคุณย่า”
“หรือให้ฉันอุ้มไหม” เฉิงยู่ซิ่วดูเธอร้องไห้ไม่ได้ หน้าบอบบางเหมือนหยก ตอนนี้ เต็มไปด้วยความน้อยใจ
จงจิ่งห้าวไม่พูด แกะมือของเธอที่กอดขาของเฉิงยู่ซิ่วออก อุ้มเธอแล้วเดินออกจากห้องครัว เด็กผู้หญิงดิ้นรน ร้องไห้เสียงดัง “หนูจะเอาคุณย่า หนูจะเอาคุณย่า”
เฉิงยู่ซิ่วเดินออกมาอย่างเป็นห่วง มองจงจิ่งห้าวอุ้มหลินลุ่ยซีเดินไปทางห้องหนังสือ แต่ก็ไม่กล้าเรียกให้เขาปล่อยลงมา อดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลินซินเหยียน “หล่อนยังเด็ก อาจจะเพราะรู้ว่าเธอตั้งครรภ์ กลัวตัวเองถูกเมินเฉย ก็เลยเป็นแบบนี้……”
หลินซินเหยียนเม้มปาก เมื่อกี้ก็ตกใจกับคำพูดของหลินลุ่ยซี คิดไม่ถึงว่าเธอจะคิดว่าตัวเองมีลูกก็จะไม่เอาเธอ
“ฉันรู้ เดี๋ยวฉันเข้าไปดู” เธอนั่งอยู่บนโซฟา ตอนนี้หลินลุ่ยซีกำลังโกรธ เดี๋ยวเธอค่อยเข้าไป
เฉิงยู่ซิ่วพยักหน้า
ห้องหนังสือ
หลินลุ่ยซีร้องไห้หนัก จงจิ่งห้าวไม่ได้ปลอบเธอ กอดเธอไว้ ให้เธอร้องไห้
ผ่านไปสักพัก ร้องไห้จนเหนื่อยแล้ว แค่สะอื้น ไหล่เล็กๆ สั่นไม่หยุด
จงจิ่งห้าวถึงจะเช็ดน้ำตาให้เธอ มือค่อยๆ เคลื่อนผ่านใต้ตาของลูกสาว “ไม่ชอบทารกในท้องของหม่ามี๊?”
หลินลุ่ยซีก้มหน้า แคะเล็บไม่พูด
“กลัวเด็กน้อยแย่งความรักที่หม่ามี๊และแด๊ดดี้ให้หนู?” เขากอบกุมใบหน้าเล็กที่แดงของลูกสาว
เด็กผู้หญิงหลุบตาลง ขนตายาวยังมีรอยน้ำ ยังคงไม่พูด ใช่แล้ว เธอกลัวหม่ามี๊และแด๊ดดี้รักทารกน้อยมากกว่าไม่เอาเธอแล้ว
จงจิ่งห้าวกอดลูกสาวไว้ในอ้อมกอด ฝ่ามือหนาลูบหลังของเธอ “หนูเป็นลูกของแด๊ดดี้และหม่ามี๊ พวกเราจะไม่ชอบเธอได้ยังไง? แด๊ดดี้นะ แทบรอไม่ไหวที่จะมอบสิ่งดีๆ ให้หนูเลย”
“จริงเหรอคะ?” เด็กผู้หญิงเงยหน้า
เขาจูบหน้าผากของลูกสาว “แน่นอนสิ”
“แต่ว่าถ้าหม่ามี๊คลอดน้องสาว ท่านจะชอบน้องมากกว่ามั้ง” คิดว่าเด็กในท้องของหลินซินเหยียนอาจจะเป็นน้องสาว หลินลุ่ยซีเสียใจขึ้นมาอีกครั้ง ขอบตายิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ
“ทำไมฉันถึงต้องชอบน้องสาวมากกว่าล่ะ? หนูไม่ใช่ลูกของแด๊ดดี้เหรอ?” จงจิ่งห้าวปลอบอย่างใจเย็น
“แต่ว่า เมื่อกี้เห็นได้ชัดว่าท่านแคร์ทารกในท้องของหม่ามี๊มากกว่า” เด็กผู้หญิงยังคงไม่เชื่อ
“ฉันแคร์หม่ามี๊ของเธอ แน่นอนก็รักทารกน้อยในครรภ์เช่นกัน แต่หนูรู้ไหมว่าทำไมฉันต้องระมัดระวัง?”
เด็กผู้หญิงสูดจมูก ถาม “ทำไมเหรอ?”
“ทารกยังเล็ก เล็กมาก ถ้าแด๊ดดี้และหม่ามี๊ไม่รักและดูแลเขาดีๆ เขาจะจากไปได้ตลอด”
“จากไป?” เด็กผู้หญิงกะพริบตาปริบๆ “ไปไหนเหรอคะ?”
เธอไม่รู้ว่าการจากไปนี้หมายถึงอะไร
“ก็คือ จะไม่มาบนโลกใบนี้ พวกเรามองไม่เห็นเขา เขาก็มองไม่เห็นพวกเรา”
เด็กผู้หญิงตกอยู่ในความคิด ในใจเหมือนจะเข้าใจความหมาย
ขณะนี้ หลินซินเหยียนเปิดประตูเข้ามา เด็กผู้หญิงเห็นเธอแล้วซุกหน้าเข้าไปในอ้อมอกของจงจิ่งห้าว ไม่มองเธอ
หลินซินเหยียนเดินมา จับมือของลูกสาว ลูกสาวอยากดึงกลับแต่หลินซินเหยียนจับแน่น เธอขยับไม่ได้
ขอบตาแดงอีกแล้ว
เธอนำมือของลูกสาววางบนท้องน้อย “เสี่ยวลุ่ย เมื่อก่อนเธอก็อยู่ในท้องของหม่ามี๊แบบนี้”
เด็กผู้หญิงกำมือ ไม่ยอมไปสัมผัส
“รู้ไหม? ทั้งเธอและพี่ชายล้วนเป็นเด็กที่ไม่ถูกคาดหวัง ไม่ถูกอวยพร”
เด็กผู้หญิงร้องไห้แล้ว เสียงไม่ดัง นอนอยู่ในอ้อมกอดของจงจิ่งห้าวและร้องไห้เงียบๆ
“แต่ว่า กลับเป็นลูกรักของหม่ามี๊ มีพวกหนู ฉันถึงจะรู้สึกว่าฉันมีชีวิตอยู่ หัวใจยังเต้น มีพวกเธอ ฉันถึงจะรู้ว่าฉันมีชีวิตต่อเพื่ออะไร เพราะว่ามีพวกหนู โลกของฉันเต็มไปด้วยสีสัน……”