เสิ่นเผยซวนให้พนักงานเอาแก้วน้ำมา ช่วยเขาเทเหล้า “ลองเล่ามาให้ฟังหน่อยไหม?”
จงจิ่งห้าวเหล่ตามองเขา “นายชอบเมาส์มอยตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เสิ่นเผยซวนถอนหายใจ “ตอนแรกฉันคิดว่า ใกล้ตรุษจีนแล้ว คิดว่าเราสามคนนัดรวมตัวกันหน่อย แล้วพูดเรื่องเหอรุ่ยเจ๋อให้นายสองคนฟัง ใครจะไปรู้ พอฉันมาก็เห็นซูจ้านนั่งกินเหล้าซึมอยู่คนเดียว เจอเรื่องวุ่นวายไม่น้อย ก็คิดว่าพอนายมาก็คงดีขึ้นหน่อย ใครจะรู้ ดูนายก็อารมณ์ไม่ค่อยดี”
จงจิ่งห้าวยกเหล้าที่เสิ่นเผยซวนเทให้ ดื่มจนหมดแก้ว ปลดกระดุมเสื้อ วางแก้วลงอย่างแรง วันนี้ หลินซินเหยียนพาลูกทั้งสองคนไปทางโน้นแล้ว
เขาสังเกตเห็นอย่างชัดเจน ความสัมพันธ์ระหว่างหลินซินเหยียนกับยู่ซิ่วดีพอสมควร
พวกเขาเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง แต่ว่า ดูแล้วเหมือนใกล้ชิดสนิทสนม
จุดนี้ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบ
สนิทสนมกันขนาดนี้ แสดงว่า พวกเขาไปมาหาสู่กันลับๆ
แต่หลินซินเหยียนไม่พูดถึงเรื่องระหว่างเธอกับยู่ซิ่วเอง
“เผยซวน นายว่าฉันจะทำยังไงให้ฉินยากลับใจ?” ซูจ้านดื่มเยอะแล้ว ลุกขึ้นเดินเอียงไปเอียงมา เอามือกอดคอเสิ่นเผยซวนไว้ “เธอตัดสินใจจะไปอย่างแน่วแน่ ฉันไม่รู้จะทำยังไง”
เสิ่นเผยซวนขมวดคิ้ว พูดอย่างรังเกียจ “กลิ่นเหล้าเต็มตัวเลย ไปห่างๆจากฉันหน่อย”
เขายิ่งพูด ซูจ้านยิ่งกอดเขาไว้แน่น “ฉันกอดนายนี่ไว้หน้านายนะ อายุขนาดนี้แล้ว แม้แต่ผู้หญิงก็ไม่มี น่าสงสารกว่าฉันอีก”
เสิ่นเผยซวน “…….”
“ถ้าเป็นฉัน ฉันก็จะจากนายไปเหมือนกัน” เสิ่นเผยซวนซ้ำเติมเขา
ซูจ้านกำลังเสียใจ ไม่ได้โต้ตอบกลับ
ถ้าเป็นเวลาปกติต้องเถียงกันไม่หยุดแน่
เสิ่นเผยซวนถอนหายใจ “ดูสภาพเมาและแทะแบบนี้ คิดอยากจะรั้งเขาไว้ ก็เอาความจริงใจออกมา เรื่องของหลิวเฟยเฟย ทางที่ดีที่สุดก็คือพูดให้ชัดเจน ตัดขาดอย่างชัดเจน นายต้องให้ความมั่นใจกับเธอ”
“ความมั่นใจมันคืออะไร?” ซูจ้านยืนขึ้น เอามือตบหน้าอก “ฉันอธิบายแล้ว ฉันกับหลิวเฟยเฟยเป็นรักครั้งแรก ตอนนี้เลิกกันไปแล้ว ไม่มีความรู้สึกแล้ว แต่เธอไม่ยอมเชื่อ ฉันบอกว่าฉันไม่มีอะไรกับหลิวเฟยเฟยเลย เธอก็ไม่เชื่อฉัน”
“นายไปเจอกับหลิวเฟยเฟยใช่ไหม?” เสิ่นเผยซวนถาม
เขารู้สึกว่าฉินยาไม่ยืนยันหนักแน่นขนาดนี้โดยไร้เหตุแน่นอน
ซูจ้านสูดอากาศ “ตอนนั้นที่หลิวเฟยเฟยจากฉันไป เพราะว่าไม่สามารถมีลูกได้ ไม่อยากทำให้ฉันกระทบไปด้วย ก็เลยจากไป ตอนนี้กลับมาเพราะลืมฉันไม่ได้ รั้งฉันให้อยู่เป็นเพื่อนเขาหนึ่งคืน……”
“อะไรนะ?” เสิ่นเผยซวนโมโหจนตบโต๊ะ “ซูจ้านนายมีสมองหรือเปล่า? นายแต่งงานแล้ว ยังอยู่กับแฟนเก่าหนึ่งคืน? น้ำเข้าสมองนายใช่ไหม?”
“พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย แค่อยู่เป็นเพื่อนที่บ้านเธอคืนเดียว ฉันคิดว่าตอนที่เธอจากฉันไปก็ไม่ใช่ความผิดเธอ ฉันก็เลยยอม” ซูจ้านยิ่งพูดเสียงยิ่งเบา รู้สึกว่าเรื่องนี้เขาทำได้ไม่ดี ควรจะบอกฉินยาก่อน ควรบอกให้เธอรู้
“ตอนนี้ฉันจะทำยังไงดี?” ซูจ้านถาม
เสิ่นเผยซวนยักไหล่ “ฉันหมดปัญญา แต่ฉันว่า ต้องใช้ความจริงใจของนาย……”
ตื๊ดตื๊ด
เวลาเดียวกัน มือถือในกระเป๋าของจงจิ่งห้าวดังขึ้น เขาหยิบมือถือออกมา เห็นชื่อของคนที่โทรมา สายตาก็เคร่งขรึมไปบ้าง เขากดรับสาย วางไว้ข้างหู
“ฉันเอง”
จงจิ่งหาวตอบเสียงต่ำอืม
“พรุ่งนี้เที่ยงพาพวกเขามาหน่อย”
จงจิ่งห้าวตอบอืมอีกคำ
ทางโน้นวางสายแล้ว เขาก็วางมือถือ
เสิ่นเผยซวนมองเขา “ลุงนาย?”
จงจิ่งห้าวไม่ได้ตอบ สีหน้าเคร่งเครียดไม่พูดจา เสิ่นเผยซวนเงียบไปครู่หนึ่ง ยกมือเติมเหล้าให้เขา พูดอย่างยิ้มแย้ม “ถึงแม้นายจะไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับอำนาจของตระกูลเหวิน ยิ่งไม่ยอมใช้ชื่อเสียงตระกูลเหวินเพื่อความสะดวก แต่ว่า เขาก็ยังคงดีกับนาย ไม่รู้ว่านายกังวลอะไร”
“หลินซินเหยียนกับยู่ซิ่วใกล้ชิดกันเกิน…….”
ประตูห้องอาหารถูกเปิดออก
จงจิ่งห้าวหยุดพูด หันไปมอง โน้มตัวไปข้างหลังเพื่อหลบแสงไฟ ให้ใบหน้าอยู่ใต้ความมืด
พนักงานใส่ชุดเหมือนกัน เรียงเป็นแถว เสิร์ฟอาหารบนโต๊ะทีละอย่าง
สุดท้ายพนักงานพูดว่า “ต้องการอะไรเรียกฉันได้ค่ะ”
เสิ่นเผยซวนโบกมือ “รู้แล้ว ออกไปได้”
พนักงานก้มหน้าเดินออกไป แล้วปิดประตูห้องอาหาร
เสิ่นเผยซวนคิดแล้วก็พูดว่า “เพราะเรื่องของแม่นาย ทางโน้นกับคุณปู่บ้านนายไม่ถูกกันนานหลายปีแล้ว นายกลัวว่าหลินซินเหยียนกับยู่ซิ่วใกล้ชิดกัน ทางโน้นจะไม่พอใจ?”
จงจิ่งห้าวดื่มเหล้าคำหนึ่ง “ฉันก็ไม่ชอบที่พวกเขาใกล้ชิดกันเกินไป”
เขารู้สึกว่าเป็นเพราะยู่ซิ่วเหวินเสียนถึง…….
ถ้าเมื่อก่อนจงฉีเฟิงกับยู่ซิ่วไม่มีอะไรกัน ทำไมพอเหวินเสียนตายไปไม่ถึงเดือนก็แต่งงานกับเธอเลย อดใจรอไม่ได้เลยเหรอ?
ขอแค่ยู่ซิ่งมีความรู้สึกบ้าง ก็คงไม่ยอมหรอก
สำหรับเรื่องนี้ เขาติดใจมาโดยตลอด
อาหารมื้อนี้เสิ่นเผยซวยกินอย่างอึดอัด ต่างคนต่างมีความในใจ ทำให้เขาเหมือนคนโดดเดี่ยว ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วง ไม่มีเรื่องอะไรให้วุ่นวายใจ
ตอนแยกย้ายกัน เสิ่นเผยซวนส่งซูจ้านกลับไป เขาดื่มเยอะพอสมควร ถ้าไม่ส่งคงกลับไปไม่ได้
นั่งขึ้นไปบนรถแล้ว ซูจ้านก็ไม่อยู่นิ่งๆ ไม่ส่งเสียงรบกวนก็พลิกไปพลิกมา เสิ่นเผยซวนมองเขาแล้วถอนหายใจ “คนนี้เมาแล้วทำไมแย่ขนาดนี้? ดื่มไปไม่กี่แก้วก็เป็นแบบนี้แล้ว?”
ซูจ้านได้ยินก็เหมือนไม่ได้ยิน ยังพูดพึมพำ “ฉันอึดอัด”
“ทนไว้” ตอนแรกเสิ่นเผยซวนอยากพาเขากลับบ้าน จำได้เขาบอกว่าฉินยาดูแลคุณย่าอยู่ที่โรงพยาบาล คิดในใจ เขาดื่มจนขนาดนี้ ต้องให้ฉินยารู้ว่าเป็นเพราะเธอ
เขาหักรถกลับตรงสี่แยก ขับไปทางโรงพยาบาล
โรงพยาบาล คุณย่ายังไม่ตื่น ฉินยานั่งอยู่ข้างๆ ไม่กล้าไปไหน กลัวท่านตื่นมาแล้วไม่มีคนดูแล
ประตูห้องถูกเปิดออก เสิ่นเผยซวนกอดร่างซูจ้านเดินเข้าไป ฉินยาลุกขึ้นจากเก้าอี้ ถามเสิ่นเผยซวน “เขาเป็นอะไร?”
“ดื่มเยอะไปหน่อย” เสิ่นเผยซวนมองไปรอบห้อง ไม่มีที่ให้เขานอน มีแค่โซฟาสองที่นั่งที่ไม่ยาวไม่กว้างมาก ก็เลยวางเขาลง
ห้องVIPถือว่าสะดวกมากแล้ว มีทุกอย่าง ไม่ได้ต่างอะไรกับที่บ้าน แค่เล็กไปหน่อย ไม่มีเตียงเสริม
“พยาบาลบอกว่าเพิ่มเตียงได้ ฉันให้เขามาเพิ่มเตียงละกัน” โซฟาเล็ก ซูจ้านนอนบนนั้นต้องไม่สบายแน่
เสิ่นเผยซวนคิดในใจ ฉินยายังคงเป็นห่วงเขามาก พยักหน้าตอบ “ได้”
ฉินยาไปหาพยาบาล ให้พวกเขาช่วยเพิ่มเตียง เพราะว่าเป็นห้องผู้ป่วยVIP บริการก็ดี ไม่นานก็มีคนเข็นเตียงเข้ามาก วางไว้ตำแหน่งชิดผนังห้อง
เสิ่นเผยซวนวางคนลงไปบนเตียง “ดูผอม แต่หนักเหมือนกัน”
ฉินยาเทน้ำ แล้วยื่นให้เขา “ทำไมถึงดื่มเยอะขนาดนี้”
เสิ่นเผยซวนรับน้ำมาดื่ม ผ่อนลมหายใจแล้วก็พูดว่า “อารมณ์ไม่ดี” เขาไปฉินยา “รู้สึกว่าเป็นเพราะคุณ”
ฉินยาก้มหน้าหันตัว
เสิ่นเผยซวนตบไหล่เธอเบาๆ “เรื่องที่ซูจ้านไปเจอหลิวเฟยเฟย เป็นเพราะเขาคิดไม่รอบคอบจริง เขามาระบายกับผม ว่าเสียใจแค่ไหน หรือไม่ คุณให้โอกาสเขาอีกครั้ง?”