ฉินยาค่อยๆหันมา พอเธอขยับ ถึงรู้สึกว่าขาชาแล้ว เธอก้มตัวลงนวดที่หัวเข่า ซูจ้านรีบเดินเข้าไป ดูขาของเธอ “เจ็บขาเหรอ?”
ฉินยาไม่พูด
ซูจ้านยื่นมือไปนวดให้เธอ แต่กลับถูกฉินยาผลักออก
“คุณไม่ต้องช่วย”
ซูจ้านเงยหน้า “ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ เมื่อคืน…….”
“อยู่กับหลิวเฟยเฟย” เธอพูดอย่างยืนยัน ไม่ใช่สงสัย ไม่ใช่คำถาม แต่มั่นใจ
ซูจ้านเบิกตากว้าง “คุณรู้ได้ยังไง?”
ฉินยายิ้ม “คนรักเก่าพบกันใหม่ สนุกกันมากซินะ?”
ซูจ้านรู้สึกไม่สบายใจ “คุณอย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้มีอะไรกับเขา เขาบอกให้ผมอยู่เป็นเพื่อนหนึ่งคืน…….”
“ฉันรู้” ฉินยาชี้รอยลิปสติกบนคอของเขา อยากพูดอยากเย่อหยิ่งต่อหน้าเขาสักคำ ก็แค่แฟนเก่าเท่านั้น? ก็แค่นอนกันคืนเดียว? ฉันไม่ใส่ใจ
แต่ว่าเธอไม่ได้ใจกว้างขนาดนั้น ไม่สามารถทนต่อการนอกใจแบบนี้ได้
“ฉันเห็นแล้ว คุณไม่ใส่ใจความรู้สึกของฉันแม้แต่น้อยเลย ตั้งใจให้ฉันเห็นเหรอ?”
ซูจ้านยื่นมือจับที่คอ มีลิปสติกติดมือมาด้วย เขาย้อนคิด ตอนที่เขาออกมา หลิวเฟยเฟยกอดเขาไว้ไม่ให้เขาไป รู้สึกจูบที่คอเขา ต้องเป็นรอยที่ทิ้งไว้ตอนนั้นแน่นอน
“ฟังผมอธิบายนะ เราไม่ได้มีอะไรกัน เพราะเขาจะดึงตัวผมไว้ ผมพูดกับเขาอย่างชัดเจนแล้ว……”
“ซูจ้าน” ฉินยาพูดตัดคำพูดเขา เธอเงยหน้าขึ้นสูง ไม่ให้น้ำตาไหลลงมา “พวกเราไปดีมาดี ยังดีที่ตอนนี้ คุณกับฉันยังไม่ได้จดทะเบียน เรื่องที่ไป๋เฉิง พวกเราก็ถือสักว่าเป็นเรื่องเล่นสนุกละกัน ของของฉัน ฉันเก็บเรียบร้อยแล้ว”
เธอหยิบบัตรที่คุณย่าให้ครั้งที่แล้ว วางบนเตียง “ฉันไม่ควรรับไว้แต่แรก ตอนนี้ฉันจะไปแล้ว ยิ่งเอาไปด้วยไม่ได้ คุณจะเก็บไว้เอง หรือคืนให้คุณย่า ก็แล้วแต่คุณ ไม่ว่ายังไงก็ได้รู้จักกัน พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องทำให้มันดูน่าเกลียด”
เธอหันไปมองซูจ้าน รวบรวมความกล้า ถึงบีบรอยยิ้มออกมาได้ “สิ่งที่ฉันอยากพูดก็พูดจบแล้ว สุดท้าย ขอให้คุณมีความสุข”
พูดจบเธอก็ลากกระเป๋าเดินทาง เดินไปเปิดประตูห้อง ซูจ้านดึงกระเป๋าในมือเธอจากข้างหลัง “ผมไม่ให้คุณไป”
“คุณมีสิทธิ์อะไรบอกว่าจบก็จบ? บอกว่าเป็นเรื่องสนุกก็คือเรื่องสนุก? คุณใส่ชุดแต่งงาน ต่อหน้าคนที่ผมรักที่สุด เพื่อนที่ดีที่สุดของผม กล่าวคำสาบานแต่งงานกัน ตอนนี้คุณบอกจะไปก็ไป? ผมบอกคุณนะ ฉินยา ไม่มีทาง”
ฉินยาเช็ดน้ำตาตรงหางตา “ซูจ้าน คุณเป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่าทำตัวเป็นเด็ก”
“ผมทำตัวเด็กตรงไหน?” ซูจ้านชิดเข้าไป
ฉินยาถอยหลังหนึ่งก้าว น้ำเสียงหนักแน่น เธอยอมรับว่าเธอชอบเขา แต่ว่า เธอรับไม่ได้ที่เขานอกใจ
ไม่มีความอดทน มีแต่การยอมแพ้
“พฤติกรรมตอนนี้ของคุณก็เหมือนเด็ก ถ้าคุณไม่อยากพูดดีๆ เราก็เดินตามกฎหมาย”
ซูจ้านรู้สึกจุกที่ลำคอ เธอ เธอพูดอะไร?
เดินตามกฎหมาย?
“คุณอยากเดินตามกฎหมายยังไง?”
ฉินยากำมือไว้แน่น บังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์ “เราไม่ได้จดทะเบียน อันดับแรก งานแต่งของเราไม่ได้มีผลทางกฎหมาย คุณนอกใจก่อน ฉันมีสิทธิ์ตัดความสัมพันธ์กับคุณ ยุ่งจะมายุ่งเกี่ยวกับฉันไม่ได้”
“ผมไม่ได้นอกใจ” ซูจ้านยืนยัน “ผมบอกคุณแล้ว เราไม่ได้มีอะไรกันเลย……”
“คุณไม่ได้กลับมาทั้งคืน มีรอยลิปสติกบนคอ คุณบอกฉันว่า คุณกับเขาไม่มีอะไรกัน ซูจ้าน คุณคิดว่าฉันเป็นเด็กอายุสามขวบเหรอ?”
“ทำไมคุณถึงไม่เชื่อ? เขาให้ผมอยู่เป็นเพื่อนเขาคืนหนึ่ง จากนั้นจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับพวกเราอีก”
ฉินยาหัวเราะ หัวเราะจนน้ำตาไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้ เธอใช้แรงเช็ดน้ำตา “ซูจ้าน คุณใส่ใจฉันจริงเหรอ?”
“แน่นอน”
“คุณเห็นฉันเป็นคนในครอบครัว?”
“แน่นอน พวกเรานอนเตียงเดียวกัน ต้องเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุด”
“ถ้าอย่างนั้นคุณมีเรื่องปิดบังฉันไหม?”
ซูจ้านเงียบ
มี ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับหลิวเฟยเฟย แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพ่อแม่เขา
เขาไม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
“เราต่างก็มีเรื่องที่ไม่อยากพูดใช่ไหม?”
“แต่คุณเล่าให้แฟนเก่าคุณฟัง คุณกลับไม่อยากให้ฉันรู้ คุณบอกว่าเราเป็นคนที่ใกล้ชิดกันที่สุด แต่ว่า ดูเหมือนคุณจะสนิทสนมใกล้ชิดกับเขามากกว่า คุณสามารถแบ่งปันความลับของคุณให้เธอฟัง ส่วนฉัน อะไรก็ไม่ใช่” ฉินยาไม่อยากพัวพันกับเขาอีก เปลืองคำพูด
“คืนกระเป๋าให้ฉัน” เธอควบคุมสติ ทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์
ตอนนี้เธอไม่ควรไปโทษเขา
ตัดสินใจแยกทางกัน เรื่องผิดถูก ไม่จำเป็นที่ต้องตามสืบแล้ว
ยิ่งพัวพันกัน ใจก็ยิ่งเจ็บ
สู้ตัดให้ขาดเลย
“ผมไม่คืน” ซูจ้านไม่ปล่อยมือ
“ข้างในก็ไม่มีอะไร ไม่คืนก็ไม่คืน” ฉินยาไม่เอากระเป๋าแล้ว ไม่อยากเถียงกับเขาอีก
เธอเปิดประตูห้องนอน
“ผมไม่ยอมหย่า” ซูจ้านกอดเธอจากข้างหลัง
“ฉันพูดแล้ว การแต่งงานของเราไม่มีผลทางกฎหมาย ฉันไม่ได้หย่ากับคุณ ตอนนี้ฉันจะไป เหลือภาพลักษณ์สุดท้ายที่ดีให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
“ผมไม่ยอม” ซูจ้านตื่นตระหนกแล้ว ฉินยาเอาจริง เธอจะไปจริงๆ คำพูดของเธอ พฤติกรรมของเธอ ต่างก็ยืนยันหนักแน่นขนาดนี้
“ผมไม่มีอะไรกับเขาจริงๆ เขาดื่มจนเมา แล้วหลอกผมไป……”
“เราสองคนทำอะไรกัน?” คุณย่าได้ยินเสียงอย่างสะลึมสะลือ ตั้งใจฟังแล้ว เหมือนเป็นเสียงทะเลาะกันของซูจ้านกับฉินยา แม้แต่เสื้อก็ไม่มีเวลาใส่ เอาเสื้อคลุมไว้ก็เดินออกมา
พอดูก็รู้สึกไม่ดีแล้ว พวกเขาทะเลาะกันจริงๆ
แล้วเห็นกระเป๋าเดินทางข้างหลังซูจ้าน คุณย่างงไปหมดแล้ว “หนู นี่พวกเราทำอะไรกันเนี่ย?”
คุณย่ากังวลจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ชี้ไปที่ซูจ้าน “เราทำอะไรผิดใช่ไหม ถึงทำให้เสี่ยวยาโกรธ”
ซูจ้านปล่อยตัวฉินยา เข้าใจปลอบคุณย่า “พวกเราไม่มีอะไร ย่ากลับห้องก่อนครับ”
“เราสองคนเป็นแบบนี้ ย่าจะกลับห้องได้ยังไง?” คุณย่าตะโกนพูดเสียงดัง ตบลงไปที่หลังของเขา หลังตบเสร็จแล้ว ทั้งสงสารทั้งกังวล “โตขนาดนี้แล้ว ทำไมยังให้ย่าเป็นห่วงอยู่ทุกวัน?”
“ผมไม่ดีเอง” ซูจ้านเพื่อปลอบคุณย่า ไม่ให้ท่านโกรธ จึงรีบยอมรับผิด
“จะยอมรับผิดก็ยอมรับกับเสี่ยวยา” คุณย่าทิ้งซูจ้านไว้แล้วเดินเข้าไปจับมือของเสี่ยวยา “เสี่ยวยา เขาทำผิดหนูก็ตีเขาเลย นี่ก็เพิ่งแต่งงาน ทำไมบอกจะไปก็ไปเลย? เห็นแก่ย่านะ ยกโทษให้เขาสักครั้ง?”
ฉินยาไม่อยากให้คุณย่าเสียใจ แต่ว่า เธอก็ไม่อยากมีความพัวพันกับซูจ้านอีก “คุณย่า หนูกับเขาไม่มีใครถูกใครผิด เราสองคนเข้ากันไม่ได้ จึงตัดสินใจแยกทางกัน หนูว่า อีกหน่อยเขาก็เจอคนที่เหมาะสมกว่า……”
“จะมีที่เหมาะสมกว่าที่ไหน” คุณย่าตัดคำพูดเธอ “เมื่อวานหนูทำกับข้าวให้ย่ากิน ล้างเท้าให้ย่า ก็คิดเรียบร้อยว่าจะไปใช่ไหม?”
พูดไปคุณย่าก็น้ำตาคลอ จับมือของฉินยาไว้แน่น “หนูไม่พอใจอะไรในตัวเขา หนูบอกย่า เดี๋ยวย่าช่วยสั่งสอนเอง ตกลงกับย่าว่าไม่ไป ได้ไหม?”
ฉินยาก้มหน้าน้ำตาไหลพราก “ขอโทษค่ะคุณย่า”
คุณย่าร่างสั่น “ยังไงหนูก็จะไป?”
เวลาเดียวกันเสียงกริ่งประตูดัง