“ฉันไม่เอา!”
เหอรุ่ยหลินส่ายหัวอย่างกับบ้าไปแล้ว ในปากทวนซ้ำคำเดิมอย่างไม่หยุด“ฉันไม่เอา ฉันไม่อยากตัดขาดกับคุณ ฉันจะให้คุณรักฉัน”
น้ำตาที่หลั่งริน ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง หน้าตาเธอน่าอนาถมาก
ถึงจะอย่างนี้ก็เถอะ จงจิ่งห้าวก็ไม่ใจอ่อนเลยสักนิด
“กับข้าวเตรียมเสร็จ——”เซี่ยเจินหยูเข้ามา เดิมทีอยากบอกเหอเหวินหวยว่าเตรียมกับข้าวเสร็จแล้ว ทานข้าวได้แล้ว ปรากฏก็เห็นภาพที่เหอรุ่ยหลินถือมีดและกำลังแทงจงจิ่งห้าวอยู่
เลือดที่แดงสด คอยกระตุ้นสมองของเธอ
ส่งเสียงร้องด้วยความตกใจออกมา
ทีนี้ทุกคนถึงดึงสติกลับมา จงฉีเฟิงตะโกนเสียงดัง“รีบเรียกรถพยาบาลเร็ว”
เหอเหวินหวยที่มึนตึ๊บตะโกนให้เหอรุ่ยเจ๋อที่อยู่ข้างกายพวกเขา“ยังไม่รีบดึงน้องสาวแกออกอีก!”
เดิมทีเรื่องนี้เป็นความผิดของจงจิ่งห้าว ตอนนี้เขากลับได้รับบาดเจ็บที่ตระกูลเหอ
นี่ทำให้พวกเขาที่เดิมทีมีข้อได้เปรียบ ได้กลายเป็นผู้เสียเปรียบอีก
เรื่องกลายมาเป็นแบบนี้ ไม่มีผลดีกับเขาเลยสักนิด ในใจลุกเป็นไฟแต่ก็ระบายออกมาไม่ได้ โมโหจนมือจับขอบโต๊ะไว้แน่น เส้นเลือดดำที่หลังมือนูนออกมา
แกร๊ง!
เสี้ยววินาทีที่เหอรุ่ยเจ๋อดึงน้องสาวออก มีดปอกผลไม้ตกหล่นสู่พื้น ส่งเสียงดังก้องออกมา
บนใบมีดมีเลือดสีแดงสดเปื้อนอยู่
“อะ อะห้าวคุณเป็นอะไรมากมั้ยคะ?”เหอรุ่ยหลินอยากยื่นมือไปแตะบาดแผลของเขา
จงจิ่งห้าวปัดมือของเธอทิ้ง ในขณะนี้เอง จู่ๆในห้องรับแขกมีโทรศัพท์ดังขึ้น
สายตาของทุกคนต่างก็มองไปทางเสื้อคลุมที่วางอยู่บนโซฟาของจงจิ่งห้าว เสียงดังมาจากที่นั่น
แสงไฟสีขาวปกคลุมลงมาจากเหนือศีรษะของจงจิ่งห้าว ปกคลุมเขาให้อยู่ในวงแสงไฟทั้งคน
ในความพร่ามัว ถ้าไม่ดูอย่างละเอียด จะดูไม่ออกว่าหน้าผากเขามีเหงื่อซึมออกมา
เขาหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาล้วงมือถือ เห็นกวนจิ้งโทรมา เขาได้รับสาย
ไม่นานเสียงของกวนจิ้งก็ได้ก้องมา“ประธานจงครับ เรื่องที่ประธานให้ผมตรวจสอบผมตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับ หกปีก่อนหลินซินเหยียนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ถึงได้ผิดสัจจะไม่กลับมาทำเรื่องหย่าร้าง เหอรุ่ยเจ๋อพาเธอกับแม่ของเธอมาซ่อนไว้ที่ประเทศA ตอนแรกพวกเขาอยู่ที่ปานี ต่อมาถึงย้ายมาที่เมืองหลวงของประเทศAครับ ในระหว่างนี้ ร่องรอยที่พวกเธอเคยใช้ชีวิต เหอรุ่ยเจ๋อล้วนจงใจลบทิ้ง ไม่ให้ให้คนรู้ครับ”
จงจิ่งห้าวกุมมือถือไว้ ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา สายตาหล่นอยู่ที่บนตัวของเหอรุ่ยหลินกับเหอรุ่ยเจ๋อ
เขามองเหอรุ่ยเจ๋อ แต่กลับพูดกับกวนจิ้ง“หลายปีมานี้ เขาอยู่กับเธอตลอด?”
“ใช่ครับ……”
ก้อนเมฆดำได้ลอยไปมาอยู่บนใบหน้าดุร้ายของเขา“ในฐานะอะไร”
ถึงจะคุยกันทางโทรศัพท์กวนจิ้งก็รู้สึกได้ถึงความกดอากาศที่มาจากจงจิ่งห้าว อดกลืนน้ำลายไม่ได้ เขายังพูดไม่จบ อย่าเพิ่งโกรธขนาดนี้ได้มั้ย?
จงจิ่งห้าวไม่มีทางได้ยินคำวิจารณ์ของเขาอยู่แล้ว ได้แต่ตอบอย่างซื่อตรงว่า “ดูเหมือนว่าคุณหลินจะไม่ได้ยอมรับเขา เห็นเขาเป็นแค่พี่ชายเท่านั้นครับ นอกจากเขาแล้ว ข้างกายไม่มีชายอื่นอีกเลย ก็ใช่ว่าไม่มีผู้ชายครับ——เธอได้ให้กำเนิดลูกชายคนนึงครับ”
“ฉันรู้แล้ว”จงจิ่งห้าววางสาย ถลึงตาจ้องมองเหอรุ่ยเจ๋อทีนึงอย่างไม่เกรงกลัว จากนั้นได้กวาดสายตามองคนของตระกูลเหอทีนึง“พวกคุณยังคงสามารถเสนอเงื่อนไขได้อยู่”
พูดจบก็ได้ก้าวเท้าเดินออกจากตระกูลเหอไป เขาเหมือนไม่อยากราวีกับพวกเขาอีก
ในห้องรับแขกเละเทะไปหมด เงียบไปครู่หนึ่ง เหอเหวินหวยถึงฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมพร้อมฉีกรอยยิ้ม“จิ่งห้าว เรื่องนี้——”
จงฉีเฟิงลุกขึ้น ทำท่าพักตามระเบียบ เสียงที่สุขุมลุ่มลึกค่อนข้างไม่สบอารมณ์“ลูกชายฉันเป็นคนผิดก่อน เพราะเขาไม่ได้ทำตามสัญญา พวกนายมีข้อเรียกร้องอะไรก็เสนอมาได้เลย”
จงจิ่งห้าวก็ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว เขายังพูดแบบนี้อีก เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจแล้ว
“ฟังนายพูดเข้าซิ เรื่องรักๆใคร่ๆของเด็กๆ รักๆเลิกๆเป็นเรื่องปกติ ถึงเป็นญาติกันไม่ได้ ก็ยังมีมิตรภาพอยู่ไม่ใช่เหรอ ฉันจะเสนอข้อเรียกร้องได้ยังไง”เหอเหวินหวยแสร้งยิ้ม
เขาพูดแบบนี้แล้ว จงฉีเฟิงก็ไม่สะดวกที่จะพูดอะไรอีก ได้เรียกคำนึง“ลุงเฟิ๋ง เรากลับกันเถอะ”
ลุงเฟิ๋งรีบเดินมาข้างหน้า“คุณชายไปโรงพยาบาล เราจะไปด้วยมั้ยครับ?”
“ไม่ไปได้ยังไงล่ะ ฉันมีแค่ลูกชายคนเดียวเท่านั้น”ก็ไม่รู้ว่าเขาพูดให้ใครฟัง สีหน้าของเหอเหวินหวยเปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเขามีนัยยะแอบแฝง
หรือว่าจงใจพูดให้เขาฟัง?
เหอเหวินหวยอัดอั้นตันใจ จงจิ่งห้าวมีความกล้าหาญ ไม่ยอมรับไม่ได้ว่าเขามีห้าวหาญมาก ได้พลิกสถานการณ์ที่มีผลเสียต่อเขาอย่างรวดเร็ว
“รุ่ยสิง แกไปส่งหน่อย”เหอรุ่ยสิงที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินคำพูดของพ่อแล้ว รีบเดินตามไป“คุณลุงจงผมส่งคุณลุงครับ”
จงฉีเฟิงไม่ได้ตอบ ลุงเฟิ๋งเปิดประตูรถ เขาโน้มตัวนั่งเข้าไปในรถ มองเหอรุ่ยสิงที่ยืนอยู่ข้างๆทีนึง “ฝากไปบอกพ่อของนายทีนะ เรื่องนี้ลุงไม่ได้เอามาใส่ใจ”
แตกคอกัน มันไม่มีผลดีกับฝ่ายไหนเลย
“ได้ครับ ผมจะบอกกับคุณพ่อครับ”เหอรุ่ยสิงปิดประตูเบาๆพร้อมกำชับคนขับรถ “ขับช้าๆหน่อยนะ”
พอรถจากไป เหอรุ่ยสิงถึงหันหลังเข้าไปในบ้าน เหอเหวินหวยนั่งอยู่ตรงนั้น มองหน้าลูกชายและลูกสาวด้วยสีหน้าบูดบึ้ง อยากต่อว่าสักคำสองคำก็สรรหาคำพูดไม่ได้
สุดท้ายได้หัวเราะเยาะ“วิธีการของจงจิ่งห้าวนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
เหอรุ่ยสิงกลับมาได้ยินคำพูดนี้พอดี เขาอดมองหน้าน้องชายไม่ได้ จากนั้นได้ถอนหายใจลึกๆ “ฝีมือสู้คนอื่นไม่ได้ เราไม่มีความสามารถเหมือนเขาจริงๆ เดิมทียังคิดอยู่ว่าถ้าน้องสาวแต่งงานกับเขาแล้วจะได้กลายเป็นญาติกัน ไม่คิดเลยว่าจะทำให้เรื่องกลายเป็นแบบนี้——”
“พวกพี่พูดพอหรือยัง!”เหอรุ่ยหลินตะคอกเสียงดัง ถูกถอนหมั้นคนที่จะต้องเสียใจที่สุดคือเธอไม่ใช่เหรอ?
“ถ้าแกมีปัญญา เขาจะถอนหมั้นกับแกเหรอ?”เหอเหวินหวยตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น
เพราะเรื่องของเธอ ทำให้บ้านวุ่นวายไปหมด เธอยังมีหน้ามาใส่อารมณ์อีก?
เซี่ยเจินหยูมาลูบหลังให้เหอเหวินหวย พร้อมพูดปลอบโยน“เด็กไม่รู้เรื่อง คุณอย่าโกรธเลยนะ”
“ลูกชายของผมสู้คนอื่นไม่ได้ ผมยังจะว่าอะไรได้อีก?”เหอเหวินหวยสลัดแขนเสื้อแล้วหันหลังเข้าไปในห้อง
เซี่ยเจินหยูเดินเข้าไปเกลี้ยกล่อมสามี
กลัวเขาจะงอนอยู่ในใจ
เหอรุ่ยสิงเองก็รู้สึกผิดหวังกับน้องชายคนนี้ เขาเรียกแม่บ้านมาเก็บกวาดห้องรับแขก จากนั้นก็ได้กลับห้องนอนตัวเองเลย
ที่ห้องรับแขกเหลือแค่เหอรุ่ยเจ๋อคอยโอบกอดน้องสาวที่ตัวสั่น
“พี่ส่งเธอเข้าห้อง”เขาคอยประคองหลินซินเหยียน
“เพราะอะไร?”จนถึงตอนนี้เหอรุ่ยหลินยังก็ยังยอมรับความจริงที่จงจิ่งห้าวจะถอนหมั้นไม่ได้
เธอไม่เข้าใจ เรื่องมันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?
ผู้หญิงคนนั้นหายสาบสูญไปหกปีแล้วแท้ๆ
ทำไมต้องมาปรากฏตัวด้วย?
เธอจับคอเสื้อของเหอรุ่ยเจ๋อไว้“พี่ นี่ก็หลายปีแล้วนะ ทำไมพี่ยังไม่ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของพี่อีก?”
ถ้าหลินซินเหยียนคบกับเหอรุ่ยหลิน ถึงจงจิ่งห้าวเห็นหลินซินเหยียน ก็คงจะไม่มีใจให้เธอแล้วมั้ง?
“เธอเหนื่อยแล้ว ต้องพักผ่อนดีๆ”เหอรุ่ยเจ๋อประคองเธอไปที่เตียง
เหอรุ่ยหลินกลับไม่ยอมปล่อยเหอรุ่ยเจ๋อ“พี่คะ”เธอมองหน้าเขา“ทำไมตอนนั้นพี่ต้องช่วยมันด้วย ทำไมไม่ปล่อยให้มันตายๆไปซะ? มันตายไป ก็จะไม่มีคนมาแย่งอะห้าวกับฉันแล้ว……”
เหอรุ่ยเจ๋อขมวดคิ้ว“นี่เธอกำลังพูดจาเหลวไหลอะไรอยู่?”
“ฉันไม่ได้พูดจาเหลวไหล!”เหอรุ่ยหลินลุกขึ้นมาทันที จ้องเขาไว้และพูดอย่างโหดเหี้ยม “เพื่อให้อะห้าวรู้สึกละอายใจต่อฉัน แต่งงานกับฉัน ฉันแกล้งทำเป็นเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้สมจริง ฉันถูกรถชนจริงๆ เจ็บ มันเจ็บมากจริงๆ เพราะฉะนั้นฉันก็จะให้มันได้ลิ้มลองรสชาติของการถูกรถชนบ้าง——”
ฮ่าๆ……
เหอรุ่ยหลินหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
เหอรุ่ยเจ๋อกลับยืนอยู่ที่นั่นอย่างแข็งทื่อ ไม่รู้ควรจะมีปฏิกิริยายังไง จะปฏิบัติต่อน้องสาวคนนี้ยังไง
เธอ ทำไมเธอถึงได้จิตใจโหดเหี้ยมขนาดนี้?
ทั้งๆที่สมัยเด็กๆ เธอน่ารักไร้เดียงสามากเลย
“หลินหลิน”เหอรุ่ยเจ๋อมองหน้าเธอ“งั้นตอนนี้ เธอให้หลินซินเหยียนมาแทนที่เธอคือเพราะอะไร?”
นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่เข้าใจมาโดยตลอด