ในใจก็เริ่มมีไฟลุกโชน ไฟนี้มันเกิดขึ้นอย่างแปลกประหลาด แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
เสียงของเขาเยือกเย็น “พวกเธอมาโชว์ความรักอะไรกันที่นี่?!”
เสียงนี้——
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันมานาน แต่ว่าหลินซินเหยียนแค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าเสียงนี้เป็นของใคร ร่างกายก็แข็งทื่อขึ้นทันที เธอหันหน้าไป แล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
เขายืนอยู่ไม่ไกล สีหน้าดูน่ากลัว “สิ่งที่ฉันพูดไปครั้งที่แล้ว เธอหูทวนลมรึยังไงกัน? ”
หลินซินเหยียนถอนตัวออกจากอ้อมแขนของเหอรุ่ยเจ๋อทันที เมื่อกี้เพราะว่าเป็นกังวลกับจวงจื่อจิ่น ก็เลยไม่ทันสังเกตเรื่องการสัมผัสกับเหอรุ่ยเจ๋อ
“ฉัน——”
หลินซินเหยียนกำลังอยากจะอธิบาย แต่ว่าก็ถูกเหอรุ่ยเจ๋อจับข้อมือเอาไว้ เขามองจงจิ่งห้าว “พวกนายจะแต่งงานกันแค่เดือนหนึ่ง ทำธุรกิจที่ต่างคนก็ต่างได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ มีเหตุผลอะไรที่ต้องเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอด้วย? ”
พอรู้เรื่องราวของหลินซินเหยียนทั้งหมด เหอรุ่ยเจ๋อก็ปวดใจ สงสารเธอ ดังนั้นตอนนี้ก็เลยอยากจะทะนุถนอมเธอ ดูแลเธอ
สายตาของจงจิ่งห้าวจ้องไปที่ข้อมือของหลินซินเหยียนที่เหอรุ่ยเจ๋อจับเอาไว้ เพียงชั่วครู่ ก็มีเสียงหัวเราะเยาะที่เต็มไปด้วยการเหน็บแนมดังขึ้น “นายปล่อยให้ผู้หญิงที่ตั้งท้องลูกของตัวเอง แต่งงานกับคนอื่น ตอนนี้จะมาแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของยังงั้นเหรอ? ”
รอยยิ้มที่เย้ยหยันที่อยู่ที่ริมฝีปากของเขา ก็หุบไปในทันที ดวงตาคมดุจดาบคม พังทลายเกราะป้องกันของเหอรุ่ยเจ๋อจนสิ้น “นายถือเป็นผู้ชายประสาอะไร? ”
หัวใจของหลินซินเหยียนสูบฉีดอย่างรุนแรง รู้สึกอับอายและทำอะไรไม่ถูก
นี่เขานึกว่าลูกในท้องของเธอคือลูกของเหอรุ่ยเจ๋อ เธอมีความรู้สึกขอบคุณ และเคารพต่อเหอรุ่ยเจ๋อมาโดยตลอด จะกล้าเอาความสกปรกของตัวเองไปแปดเปื้อนเขาได้ยังไงกัน?
เธอสะบัดมือที่เหอรุ่ยเจ๋อจับไว้ออก แล้วก็มองไปที่จงจิ่งห้าว “ถ้าคุณอยากจะว่าฉัน ก็ว่าฉัน ขอร้องอย่าเอาคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”
การปกป้องของหลินซินเหยียน อยู่นอกเหนือความคาดหมายของจงจิ่งห้าว!
รักกันจริงๆ !
แต่ว่าในสายตาของเขานั้น มีทั้งความรู้สึกตลอดและโมโห
ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของเขา แต่เธอแสดงความรักต่อผู้ชายคนอื่นต่อหน้าเขา!
ความโกรธที่อธิบายไม่ถูกเกิดขึ้นในอกของเขา!
แต่ว่าสิ่งที่เหอรุ่ยเจ๋อพูดนั้นก็ถูกต้อง การแต่งงานของพวกเขาเป็นเพียงแค่การทำธุรกิจเท่านั้น เขาไม่มีคุณสมบัติอะไรไปตำหนิ เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากเห็นพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันเท่านั้นเอง
“ที่ดินที่อ่าวรีพัลส์เบย์ ถ้าเกิดว่าเธอยังต้องการ ก็มาหาฉัน” พูดจบเขาก็หันหลัง แล้วก็เดินออกไป
หลินซินเหยียนเหม่อลอยไปหลายวินาที ไม่คิดเลยว่าที่เธอทิ้งโอกาสนี้ไปแล้ว เขากลับมาให้เธออีกครั้ง
เรื่องนี้สำหรับเธอแล้ว เป็นสิ่งล่อใจที่ใหญ่มากๆ
ถ้าเกิดว่าได้สิทธิในการซื้อขายที่ดินผืนนั้น เธอก็มีแต้มต่อเพื่อจะเจรจาต่อรองกับหลินกั๋วอัน
ไม่ใช่ถูกหลินกั๋วอันกดขี่อยู่แต่เพียงฝ่ายเดียว
“เหยียนเหยียน” เหอรุ่ยเจ๋อรู้สึกเป็นกังวล ดูเหมือนว่าคำพูดของจงจิ่งห้าวจะทำให้เธอเอาไปใส่ใจ
หลินซินเหยียนส่ายหน้า “ฉันไม่ได้เป็นไร”
หลังจากผ่านไป20นาที จวงจื่อจิ่นก็ถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด จวงจื่อจิ่นเป็นลมไปเพราะความโกรธ
ตอนนี้เธอเหลือลูกสาวเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น พอได้ยินคนอื่นดูถูกลูกสาวของตัวเองแบบนั้น จวงจื่อจิ่นก็รู้สึกรับไม่ไหว บวกกับสิ่งที่อยู่หน้าประตูนั้น ทำให้เธอรับไม่ได้
“ผู้ป่วยได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจ ไม่สามารถรับการกระตุ้นได้ พยายามอย่าปล่อยให้เธอมีอารมณ์แปรปรวน” หลังจากส่งเธอเข้าไปในห้องผู้ป่วยแล้ว หมอก็อธิบาย
หลินซินเหยียนพยักหน้า“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”
หลินซินเหยียนรู้ว่าการตายของน้องชายนั้นกระทบเธออย่างมาก ถ้าเกิดว่ายังไม่มีเธออยู่ เกรงว่าตอนนั้นแม่อาจจะตามน้องชายไปแล้วก็ได้
เธอนึกว่าให้แม่อยู่ไกลสถานที่ที่ทำให้ปวดใจแบบนั้นแล้วจะดีขึ้น
แต่ไม่เคยคิดเลยว่า เธอจะได้รับการกระตุ้นจากเรื่องของตัวเอง
เพียงแค่ คนที่รู้ว่าเธอตั้งท้องนั้นมีไม่เยอะ แล้วใครเป็นคนทำกัน?
แล้วอีกอย่างทำไมถึงต้องทำแบบนั้น?
เป้าหมายคืออะไร?
เหอรุ่ยเจ๋ออ่านความคิดของเธอออก ก็เดินเข้ามา “ที่นั่นอยู่ไม่ได้แล้ว ฉันจะหาที่อยู่ให้เธอใหม่แล้วกัน”
หลินซินเหยียนพยักหน้า สถานที่นั้นมันอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ เพื่อที่จะไม่ให้แม่ของเธออารมณ์แปรปรวน
“ฉันอยากจะรู้ให้ได้ ว่าพวกนั้นใครเป็นคนทำ” หลินซินเหยียนรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ว่ามีคนจงใจทำ
“ให้ฉันจัดการเถอะ” เหอรุ่ยเจ๋อยิ้ม “ฉันเป็นพี่ชายของเธอ แน่นอนว่าก็เป็นญาติของเธอคนหนึ่ง”
หลินซินเหยียนมองเหอรุ่ยเจ๋อ จู่ๆ ก็รู้สึกแสบจมูก เขาดีกับเธอเกินไป เธอไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไง
เธอค่อยๆ ก้มหน้าลง ไม่ได้พูดอะไร เธอตัดสินใจอยู่ในใจว่า เมื่อไหร่ที่เธอมีความสามารถ ต้องตอบแทนเขาให้ได้
ตอนนี้เธอต้องการใครสักคนที่ช่วยให้เธอรู้เรื่องนี้จริงๆ
ไม่ยังงั้นเธอจะไม่สบายใจ ต่อให้ย้ายออกไปอยู่ที่อยู่ใหม่ ใครจะไปรู้ว่าจะมีคนทำเรื่องแบบนี้อีกรึเปล่า จะจงใจกระตุ้นจวงจื่อจิ่นหรือไม่?
พอนึกถึงประโยคที่จงจิ่งห้าวพูดก่อนที่จะไปนั้น จงจิ่งห้าวก็กลุ้มใจ
เหอรุ่ยเจ๋อนึกว่าเธอเหนื่อย ก็เลยพูดว่า “เธอกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ตรงนี้เดี๋ยวฉันดูให้เอง”
“แต่——”
“ฉันทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลนี้อยู่แล้ว มีห้องทำงานและห้องพักผ่อนของตัวเอง แล้วก็สามารถดูแลแม่ของเธอได้ด้วย”
หลินซินเหยียนมองดูจวงจื่อจิ่นที่ยังไม่ได้สติ ก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็พูดว่า “งั้นถ้าเกิดว่ามีอะไรก็โทรหาฉันนะ”
หลินซินเหยียนทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้เหอรุ่ยเจ๋อแล้วก็ออกจากโรงพยาบาลมา
พอกลับมาถึงคฤหาสน์ ในบ้านก็มีแค่ป้าหยู เธอก็ขมวดคิ้ว “เขาไม่อยู่เหรอคะ? ”
สายตาของป้าหยูมองไปที่ห้องทำงาน “อยู่ด้านในค่ะ”
หลินซินเหยียนเปลี่ยนรองเท้าแล้วก็เดินเข้าไป แล้วก็เดินเข้าไปในห้องทำงาน ยืนอยู่หน้าประตู เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ยกมือขึ้นเคาะประตู
เธอเคาะอยู่หลายครั้งก็ไม่มีเสียงตอบรับ คิ้วของเธอก็ขมวดเข้าหากันอย่างอดไม่ได้ บิดที่จับแล้วก็ค่อยๆ เปิดประตูเข้าไป
ก็เห็นว่า จงจิ่งห้าวเอนหลังพิงเก้าอี้ หลับตา ไม่รู้ว่าแค่งีบหรือว่าหลับจริงๆ
หลินซินเหยียนค่อยๆ เดินเข้าไป ยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะ แล้วก็เอ่ยเรียกด้วยเสียงเบา “คุณจง?”
จงจิ่งห้าวค่อยๆ ลืมตาขึ้น จ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง คนอื่นจะเรียกเขาว่า ประธานจง คุณชายจง นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกเขาว่าคุณ
หลินซินเหยียนเอามือกุมไว้ด้วยกัน เหงื่อออกไปที่ฝ่ามือจนเปียก “ที่คุณพูด จะให้ที่ดินที่อ่าวรีพัลส์เบย์กับฉันเหรอคะ? ”
จงจิ่งห้าวหรี่ตา มุมปากคลี่ยิ้มอย่างมีแผนการ “ฉันเป็นนักธุรกิจ ไม่ทำธุรกิจที่ขาดทุนหรอกนะ”
อารมณ์ของหลินซินเหยียนนั้นจมดิ่งลงทันที
ใช่ เธอคิดเพ้อเจ้อไปเอง
ผู้ชายคนนี้จะช่วยเธอโดยไม่มีเงื่อนไขได้อย่างไร?
เธอไม่มีอะไรเลย แล้วเธอจะเอาอะไรไปแลกเปลี่ยนกับที่ดินกันล่ะ?
“ฉันคิดว่าที่กินผืนนี้น่าจะมีประโยชน์สำหรับเธอมาก”จงจิ่งห้าวสังเกตเห็นว่าเธอผงะไป
หลินกั๋วอันส่งเธอกับแม่ไปอยู่ที่ประเทศนั้น มีความเป็นอยู่ที่ไม่ดี น้องชายก็มาตายอีก เธอคงต้องเกลียดหลินกั๋วอันอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้คิดว่าที่หลินซินเหยียนต้องการที่ดินผืนนั้นเพราะว่าจะมอบให้หลินกั๋วอัน แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่
“แต่ว่าฉันไม่มีอะไรที่จะแลกกับคุณได้” ความจริงแล้ว หลินซินเหยียนอยากจะได้ที่ดินผืนนั้นจริงๆ
จงจิ่งห้าวเปิดตาขึ้น มุมตาของเขามีรสชาติของความเป็นชายที่เป็นผู้ใหญ่ “เธอมี”
“อะไรเหรอ?”
“เธอไง”
หลินซินเหยียนนิ่งไปหลายวินาทีถึงจะตอบสนอง “ฉันเหรอ? ”
จงจิ่งห้าวยืนขึ้น แล้วก็เดินเข้ามา เขาขยับเข้ามาใกล้ หลินซินเหยียนก็ถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ จงจิ่งห้าวจับไหล่ของเธอไว้ “เธอจะถอยทำไม ฉันไม่ได้กินคนซะหน่อย”
หลินซินเหยียนไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้กลัวเขา แค่รู้สึกว่าเขาไม่ได้สงบเงียบเหมือนกับที่แสดงออกอย่างแน่นอน
ทันใดนั้นมุมปากของเขาก็มีรอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “ทำไม หรือว่าไปทำเรื่องอะไรผิดมา ไม่กล้าเผชิญหน้ากับฉัน ขาดความมั่นใจเหรอ? ”
เธอทำเรื่องอะไรผิดกัน?
หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้นมา “ฉันมีเรื่องอะไรให้ต้องขาดความมั่นใจ? ”
เธอเชิดหน้าขึ้น ความร้อนจากลมหายใจของเธอกระทบกับปลายจมูกของจงจิ่งห้าว ลมหายใจนี้ มันเป็นความรู้สึกคุ้น
การแสดงออกของเขาหยุดไปชั่วขณะ วินาทีต่อมาก็บีบแก้มของเธอ ลมหายใจที่อันตรายก็ลอยออกมา “เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว มาพลอดรักกับผู้ชายคนอื่น มันไม่งาม!”