บทที่ 47 ซื้อรถบีเอ็มอีกคัน
พ่อตากับแม่ยายได้ยินว่าพรุ่งนี้เขาจะไปซื้อคันใหม่ที่ดีกว่านี้มาให้ ทั้งสองคนต่างก็ยิ้มจนหน้าบาน
แต่ทั้งสองคนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองนั้นคิดผิดแล้ว ที่ไม่ได้บีเอ็มคันนี้ที่เป็นรุ่นท็อปเลย
เซียวชูหรันกังวลเล็กน้อย พอกลับเข้าห้อง แล้วอาบน้ำเสร็จ เธอก็ถามขึ้นเบาๆ : “คุณยังมีเงินซื้อรถอีกเหรอ? ฉันพอจะมีเงินอยู่ ไม่งั้นพรุ่งนี้เอาเงินฉันไปซื้อรถเถอะ!”
เย่เฉินรีบส่ายมือไม่เอาทันที : “ไม่ต้องหรอก ผมยังพอมีอยู่ ซื้อได้”
เธอจึงพูดขึ้นอย่างละอายใจ : “ขอโทษแทนพ่อแม่ฉันจริงๆ นะ คิดไม่ถึงว่าพ่อกับแม่จะเป็นแบบนี้……”
เย่เฉินหัวเราะแล้วพูดขึ้น : “คุณพูดอะไรแบบนี้ พ่อแม่คุณก็เหมือนพ่อแม่ผม พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน การตอบแทนคุณพ่อแม่เป็นสิ่งที่ควรทำ”
พูดไป เขาก็ถ่างขาออกไปบนที่นอน พลันหัวเราะ : “คุณวางใจได้ เช้าพรุ่งนี้ผมจะไปซื้อคันใหม่มาให้นะ!”
เซียวชูหรันรู้สึกซาบซึ้งแล้วพูดขึ้น : “เย่เฉิน ขอบคุณมากนะ!”
เย่เฉินหัวเราะออกมาเสียงดัง : “ยังจะมาเกรงใจทำไมกันอีกละที่รัก!”
เซียวชูหรันหน้าแดงด้วยถามเขิน พลางถามขึ้น : “คุณนอนข้างล่าง กลางคืนจะหนาวมั้ย?”
เย่เฉินตอบทันที: “ไม่หรอก ไม่รู้สึกหนาวเลย คุณวางใจได้ หลับสบายเลยล่ะ!”
ทันใดนั้นเธอจึงพูดขึ้นอย่างประชด : “ไม่หนาวก็นอนไปเลย! คนโง่!”
หาโอกาสยากมากที่เธอจะอยากให้เขาขึ้นมานอนด้วย แต่แล้วตาบ้านี่กลับไม่ยอมขึ้นมา……
และในตอนนี้เย่เฉินถึงฉุกคิดขึ้นได้ว่า เหมือนตัวเองพลาดอะไรบางอย่างไป……
ดังนั้นเขาจังรีบพูดขึ้น : “เฮ้ย ที่รัก นอนพื้นมันเย็นมากเลย เย็นจนผมจามไปหลายทีแล้ว!”
เซียวชูหรันตอบกลับด้วยเสียวไม่ประสบอารมณ์ : “หนาวก็ห่มผ้าห่มอีกสิ!”
“โธ่……”
เย่เฉินเริ่มงงทันที
ผ่านไปพักหนึ่ง เขาก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง : “ที่รัก เหมือนอุณหภูมิมันลดลงอีกแล้ว ผมหนาวมากเลย!”
เซียวชูหรันก็ยังไม่สนใจเขา แล้วก็ถีบผ้าห่มลงไปให้เขาทันที แล้วพูดขึ้นเสียงประชด : “ตอนกลางคืนของหน้าร้อนแบบนี้มันจะหนาวอะไรขนาดนั้น? ถ้ายังหนาวอยู่ ฉันจะไปเอาเสื้อขนมาให้ใส่!”
และเขาก็รู้สึกหมดหวังทันที ดูเหมือนว่าวันนี้เธอไม่มีทางยอมให้เขาขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วล่ะ!
……
เช้าวันต่อมา เซียวชูหรันเตรียมตัวไปทำงานตั้งแต่เช้า
เย่เฉินตื่นมาเตรียมอาหารเช้าให้เธอ แล้วก็เอากุญแจรถให้เธอ : “วันนี้ขับรถไปทำงานนะ”
เซียวชูหรันถามขึ้นมาทันที : “คุณซื้อมา แต่ฉันเอาไปขับ มันดูไม่ดีมั้ง?”
เย่เฉินพูดขึ้น : “มันจะมีอะไรไม่ดี? คุณเป็นภรรยาของผม และรถคันนี้ผมก็ซื้อให้คุณ ไม่ใช่ซื้อให้ตัวเองซะหน่อย”
เซียวชูหรันพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดขึ้น : “ของคุณนะ!”
พูดจบ เธอก็รับกุญแจมาจากเขา
พ่อตายืนอยู่ข้างๆ ก็อิจฉาอย่างมาก จึงพูดขึ้น : “เย่เฉิน เรื่องที่แกบอกว่าจะซื้อคันใหม่ให้ ไม่ได้ลืมใช่มั้ย?”
“ไม่ลืมไม่ลืม!” เย่เฉินรีบพูดทันที : “ผมจะออกไปซื้อตอนนี้ คุณพ่อรอขับอยู่ที่บ้านได้เลย!”
พ่อตายิ้มหน้าบานเลย พร้อมกับพูดขึ้น : “งั้นฉันก็คงต้องรอดูแล้วล่ะ! บีเอ็ม รุ่น 530 แกพูดออกมาเองนะ อย่าซื้อผิดล่ะ!”
เย่เฉินยิ้ม พร้อมกับพยักหน้า : “คุณพ่อวางใจได้ บีเอ็ม 530 คุณพ่อจะได้วันนี้แหละ!”
พูดจบ เขาก็ตามเธอลงไปข้างล่าง เพื่อไปเอากุญแจรถมอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่ในรถบีเอ็มของเขาออกมา
เซียวชูหรันขับบีเอ็ม 760 ออกไปทำงาน แต่เย่เฉิน กลับขับมอเตอร์ไซค์ออกไป แล้วตรงไปที่ร้านรถบีเอ็ม 4S
พอตอนใกล้ถึงนั้น ก็ขับผ่านร้านออดี้พอดี
พอพนักงานในร้านเห็นเขา ก็มีคนหนึ่งพูดขึ้น : “โห นั่นมันคุณชายที่ซื้อบีเอ็ม 760 ไปนี่นา เขาขับมอเตอร์ไซค์มาอีกแล้ว!”
“โอ้โห วันนี้ถ้าต้องคุกเข่า ฉันก็จะยื้อเขาไว้ เพื่อจะขายรถออดี้รุ่นท็อป A8!”
“พูดได้ดี!”
และขณะนั้น พนักงานร้านออดี้ก็พากันวิ่งออกมาล้อมเขาเอาไว้
“คุณชาย! มาดูรถออดี้รุ่นท็อปร้านพวกเราเถอะ!”
“คุณชาย! รถออดี้ A8 เครื่องยนต์แรงมากนะ ให้เครื่อง W12 แรงกว่า V12ของบีเอ็ม 760 อีก!”
เย่เฉินจึงถามขึ้นอย่างสงสัย : “มันแรงกว่าจริงเหรอ?”
“จริงสิ!” พนักงานร้านออดี้คนหนึ่งรีบตอบทันที พลางพูดแนะนำ : “คุณพี่ ผมจะแนะนำให้ เครื่องW12 ของเราสามารถเปิดปิดซ้ายขวาได้ 12 ถัง ปิดครึ่งหนึ่งก็คือ 6 ถัง แบบนี้ยิ่งประหยัดน้ำมัน!”
เย่เฉินถามขึ้นอีก : “คุณจะบ้าเหรอ? เพื่อให้มันประหยัดน้ำมัน ผมถึงซื้อ 12 ถัง แล้วจะปิดมาที่ 6 ถังทำไม? อย่างงั้นไม่สู้ซื้อตัวที่ 6 ถัง ไม่ดีกว่าเหรอ?”
“เอ่อ……เอ่อ……อันนี้……”
พนักงานพึ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองพูดผิด จึงเริ่มหน้าแดง
เย่เฉินหันไปหัวเราะพวกเขา พร้อมพูดขึ้นเสียงแข็ง : “ผมรู้แผนการพวกคุณ เมื่อวานซื้อบีเอ็ม 760 ไป พวกคุณเลยเจ็บใจ วันนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องรั้งผมให้ได้ อย่างงั้นใช่มั้ย?”
ทุกคนต่างพยักหน้า
เย่เฉินสบถแล้วพูดออกมา : “จะบอกให้นะ! มันสายไปแล้ว! เมื่อวานพวกคุณไม่สนใจผมสักนิด วันนี้ผมจะทำให้พวกคุณรู้ว่าใครสูงกว่ากัน!”
พูดจบ เย่เฉินก็บีบแตร
“ปี๊ด ปี๊ด…”
“ถอยไปถอยไป! พี่จะไปซื้อรถบีเอ็ม!”
พนักงานร้านรถบีเอ็มก็วิ่งกรู่กันออกมา พลันพูดใส่ : “พนักงานร้านออดี้พวกแกทำอะไร? คิดจะแย่งลูกค้าเราเหรอ! ไม่เคยเห็นลูกค้าที่ไม่สนใจพวกแกเหรอ? ถ้ายังจะล้อมลูกค้าเราอีก ฉันจะลงข่าวพวกแกเอาให้ดังไปเลย!”
สีหน้าพนักงานแต่ละคนเริ่มถอดสี และทำได้แค่ถอยออกไป
ผู้จัดการร้านขายรถบีเอ็มออกมาต้อนรับเย่เฉินด้วยตัวเอง พลางก้มลงทักทายอย่างนอบน้อม : “คุณชายเย่ วันนี้จะมาซื้อรถอีกคันเหรอ?”
เย่เฉินพยักหน้า พลางพูดขึ้น : “มีบีเอ็มรุ่น 530 มั้ยตอนนี้? วันนี้ฉันต้องการจะเอา!”
“มีมีมี!”
ผู้จัดการดีใจจนเนื้อเต้น
เมื่อวานเขาพึ่งขายรุ่น 760 ไป วันนี้ได้ขาย รุ่น 530 ไปอีก เย่เฉินช่างเป็นลูกค้ารายใหญ่เลยจริงๆ!
ดังนั้นเขาจึงรีบตอบทันที : “คุณชายเชิญตามผมมา ผมจะพาไปดูรถ”
เย่เฉินตอบรับ แล้วก็เดินตามเขาไปที่ห้องจัดแสดงรถ
ภายในนั้นก็มีรุ่นนี้พอดี เย่เฉินเข้าไปนั่งดูก็รู้สึกดี และก็พบว่ารถรุ่นนี้แม้ว่าดูแล้วจะคล้ายกับระบบ7 แต่ว่าด้านในยังต่างกันอยู่บ้าง แต่สำหรับพ่อตาที่ฟังแต่ภรรยาแล้วก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว
ดังนั้นเขาเลยเตรียมจะรูดบัตร และในตอนนั้นเอง อยู่ดีๆ เขาก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งที่คุ้นหูมาก กำลังพูดอยู่ : “โถ่ ที่รัก ฉันชอบบีเอ็ม X6 มากเลย! คุณซื้อให้ฉันได้มั้ย?”
เย่เฉินที่นั่งอยู่ในรถหันขวับไปดูทันที และพบว่า ว่าที่ภรรยาของหวังเต้าคุน ที่เป็นเพื่อนสมัยมหาลัย ตอนนี้เดินควงมากับชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความอบอุ่น
เย่เฉินขมวดคิ้วทันที และครุ่นคิด หล่อนเรียกชายคนนั้นว่า ที่รัก หรือว่าหล่อนสวมเขาให้หวังเต้าคุนงั้นเหรอ?
แล้วในใจของเขาก็เดือดขึ้นมาทันที เพราะสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือผู้หญิงที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีแบบนี้ และเห็นความรู้สึกคนอื่นเป็นของเล่น
แถม หวังเต้าคุนก็หมกตัวทำงาน แต่หล่อนกลับสวมเขาให้ ผู้หญิงแบบนี้นี่มันจิตใจสกปรกมาก!
และในขณะนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นถามขึ้น : “ถ้าผมซื้อรถให้คุณตอนนี้ แล้วคุณจะอธิบายกับหวังเต้าคุนยังไง?”
“หวังเต้าคุนเหรอ?” หล่อนทำสีหน้าเบื่อหน่ายแล้วพูดขึ้น : “อย่าพูดถึงคนโง่ๆ แบบนั้นเลย เขาเป็นคนไร้ค่ามาก อยากได้อะไรก็ไม่ได้เลย ถ้าไม่เห็นแกความซื่อสัตย์และคอยดูแลเอาใจใส่ละก็ ฉันไม่มีวันอยู่กับเขาหรอก!”
ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 47 ซื้อรถบีเอ็มอีกคัน
Posted by ? Views, Released on September 25, 2021
, ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment