ได้ยินฉินต้าหย่งยังเล่นพนันอยู่ หยางเฉินขมวดคิ้วเบาๆ
นักพนัน น่าสงสารมาก คนแบบนี้ สุดท้าย มีแค่จุดจบเดียว นั่นก็คือบ้านแตกสาแหรกขาด
“ดูๆแล้ว ต้องใช้วิธีเฉียบขาดแล้วละ จึงจะทำให้เขาเลิกพนันได้” ทันใดนั้นหยางเฉินก็พูดขึ้นมา
“คุณมีวิธีอะไรดีๆมั้ย?”
ฉินซีได้ยิน จึงรีบถาม
ฉินต้าหย่งในมโนภาพของเขา ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ต่อให้อยู่บ้านนานๆ ไม่มีอะไรทำ ก็ไม่มีทางไปที่แบบนั้น
ตอนนี้แม้แต่บ้านก็ไม่กลับมาแล้ว โจวยู่ชุ่ยก็ไม่สนใจ แช่อยู่แต่ในโลกซีรี่ย์ของตัวเองตลอดทั้งวัน
“เรื่องนี้ ต้องได้รับความร่วมมือจากคุณ แค่นี้ก็ได้แล้ว……”
หลังจากที่หยางเฉินครุ่นคิดแล้วนั้น จึงได้พูดแผนการของเขาออกมา
“ทำแบบนี้ จะไม่เกิดปัญหาอะไรใช่มั้ย?” ฉินซีหน้าตาเป็นกังวล
“วางใจได้ มีผมอยู่ ไม่มีทางเกิดอะไรขึ้นแน่” หยางเฉินหน้าตามั่นใจ
หลังจากที่ให้เอาเสี้ยวเสี้ยวให้ฉินยีดูแลแล้ว หยางเฉินและฉินซีได้เดินทางออกจากยอดเมฆา
ประมาณยี่สิบนาที ทั้งสองได้มาถึงเมืองคิง
เมืองคิงคือคลับที่ไฮโซที่สุด ของเจียงเฉิง ด้านในมีคาสิโนต่างๆ แต่สิ่งที่ดึงดูดผู้คนมากที่สุดก็ยังเป็นวงไพ่ที่อยู่ชั้นบนสุด
“พวกเราต้องไปชั้นบนสุด!”
หยางเฉินพาฉินซีไปที่หน้าฟร้อนท์ กล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย กรุณาโชว์บัตรสมาชิกด้วยค่ะ!” หน้าฟร้อนท์กล่าวด้วยความเคารพ
หยางเฉินหยิบบัตรยูเนี่ยนขึ้นมาใบหนึ่ง แล้วกล่าว “ทำบัตรสมาชิกสองใบ โอเคมั้ย?”
หน้าฟร้อนท์เห็นบัตรสีดำที่อยู่ในมือของหยางเฉิน ก็ตะลึง ท่าทีดูดีขึ้นหลายเท่า ยิ้มออกมา “คุณผู้ชาย สมาชิกของที่นี่แยกเป็น……”
“ทำระดับสูงที่สุด สองใบ!”
หน้าฟร้อนท์ต้องการจะแนะนำ แต่ถูกหยางเฉินขัดคอทันใด
เพราะวงไพ่ที่อยู่ชั้นบนสุด เกี่ยวพันต่อความเป็นส่วนตัวของคนใหญ่คนโต ขอให้เป็นคนที่จะเข้าวงไพ่ชั้นบนสุด ล้วนต้องตรวจสอบทรัพย์สินก่อนทั้งหมด
สมัครเป็นสมาชิก ก็วิธีการตรวจทรัพย์สินที่ดีที่สุด
ไม่นาน บัตรสมาชิกระดับสูงสุดสองใบได้ทำเสร็จ ใช้เงินของหยางเฉินไปทั้งสิ้นสองล้าน
ความเป็นส่วนตัวของเมืองคิงคุ้มกันดีมากจริงๆ ชั้นสูงสุดต้องจัดคนรับผิดชอบโดยเฉพาะ แล้วยังต้องสแกนนิ้วอีกด้วย
“คุณมีเงินก็ทำแบบนี้ไม่ได้นะ!ใบสมาชิกสองใบก็สองล้าน แย่งเงิน?”
หลังจากที่พนักงานต้อนรับพาพวกเขาไปส่งที่ชั้นสูงสุดแล้วนั้น ฉินซีก็มองบนแล้วกล่าว
หยางเฉินหัวเราะ “นี่ไม่ใช่เพราะจะได้กลับบ้านเร็วๆหรอกเหรอ?”
พวกเขาเพิ่งจะออกจากลิฟต์ ก็ได้เห็นโต๊ะที่มีหน้ากากมากมายวางอยู่เต็มไปหมด ดูออกชัดเจนว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเปิดโปงตัวตนของบุคคลสำคัญ
หยางเฉินหยิบหน้ากากมาอันหนึ่งแล้วสวมที่หน้า จากนั้นก็พูดกับฉินซี “คุณไปหาพ่อก่อน อีกเดี๋ยวผมจะตามไป”
“โอเค!”
เฉินซีรู้แผนการ มีหยางเฉินอยู่ เธอก็ไม่เป็นกังวลใดๆ หันหลังแล้วไปที่วงไพ่
ในห้องโถงที่กว้างใหญ่ ผู้คนล้นหลาม หนึ่งในนั้นมีคนจำนวนไม่น้อย ได้สวมใส่หน้ากาก
ต้องยอมรับ ว่าเมืองคิงดำเนินการได้ไม่เลว เพียงแค่การเก็บความลับของลูกค้า ก็ดึงดูดลูกค้าระดับสูงมาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วก็ระบบสมาชิก เพียงแค่ค่าสมาชิก ก็เป็นรายรับที่มหาศาลแล้ว
แต่รายรับส่วนใหญ่ของเมืองคิง ก็คือห้องโถงวงไพ่ของชั้นบนสุด
“เสี่ยวซี มาแล้วเหรอ!”
ฉินซีเพิ่งเข้าห้องโถง ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นหู
เธอหันหลัง ก็เห็นผู้หญิงที่สวมกระโปรงยาวสีครีมเดินเข้ามา เป็นเพื่อนสมัยมัธยมของเธอ ซูซาน
ซูซานแต่งตัวธรรมดา ใส่เดรสปาดไหล่สีครีม สวมรองเท้าส้นสูงสีน้ำตาลอ่อน และแต่งหน้าบางๆ
“ซานซาน พ่อฉันอยู่ไหน?”
ฉินซีรีบเดินเข้าไป ถามอย่างค่อนข้างร้อนใจ
“ตามฉันมา”
ซูซานรู้ว่าฉินซีร้อนใจ ไม่มีเวลามารำลึกความหลังอยู่ จึงรีบจูงมือฉินซีไปที่โต๊ะวงไพ่โต๊ะหนึ่ง
ตอนที่ฉินซีเห็นฉินต้าหย่ง ฉินต้าหย่งหนวดยาว ตาแดง ในตาขาวเต็มไปด้วยเส้นเลือด ในมือกำลังจับไพ่อยู่
“พ่อ ตั้งหลายวันแล้ว ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ?”
ฉินต้าหย่งได้ไพ่ดีมาไม่ง่าย จู่ๆเสียงของฉินซีก็ดังขึ้น
ทันใดนั้นมือของเขาที่จับไพ่ก็สั่น อีกนิดไพ่เกือบหล่นลงกับพื้นแล้ว ใบหน้าของเขากระวนกระวาย “แกมาได้ไง?”
“ถ้าหนูยังไม่มา พ่อก็ไม่คิดจะกลับบ้านแล้ว”
ฉินซีเห็นท่าทีของฉินต้าหย่ง ก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
ไม่เจอหลายวัน หนวดของฉินต้าหย่งก็ยาวแล้ว ร่างกายก็ผอมลงไปมาก ผมเผ้ามั่วไปหมด ดูๆแล้วทุลักทุเลอย่างมาก
“เหล่าฉิน มึงแม่งจะเล่นอีกป่ะวะ?ไม่เล่นก็ไสหัวไป อย่าเสียเวลาคนอื่น”
ขณะนี้ พวกเศรษฐีใหม่ที่ใส่ทองเส้นโตๆบนคอ กล่าวอย่างรำคาญ
“เล่นสิ จะไม่เล่นได้ไง?”
ฉินต้าหย่งรีบกล่าว ไม่สนใจว่าฉินซีอยู่ข้างกายแล้ว วางเบี้ยพนันที่มีอยู่ด้านหน้าของตัวเองลงไป “เอาด้วย!”
“พ่อ ไม่ต้องเล่นแล้ว รีบกลับบ้านกับหนูเถอะนะ!”
ฉินซียื่นมือจะไปจับไพ่ของฉินต้าหย่ง
ฉินต้าหย่งโมโหทันใด ใช้มือหนึ่งป้องไพ่ไว้ อีกมือผลักฉินซี อย่างเกรี้ยวกราด “โชคจะเข้าข้างกูแล้ว รีบไสหัวไปซะ!”
“พ่อ ฉันขอร้องละนะ อย่าเล่นพนันอีกเลย ได้มั้ย?”
ฉินซีเจ็บปวด ไม่ใช่เพราะการแสดงที่อยู่ในแผนการ แต่เพราะเห็นท่าทีของฉินต้าหย่ง จึงทำให้เธอเจ็บปวดใจจริงๆ
“ไสหัวไป!”
ฉินต้าหย่งตวาดเสียงดัง จากนั้นก็วางเบี้ยพนันลงไป “เอาอีก!”
“ฉันเปิด!”
นักเล่นไพ่คนหนึ่งทิ้งเบี้ยพนันลงไปที่โต๊ะ แล้วเปิดไพ่โดยตรง
“ฮ่าฮ่า ฉันชนะ!”
เศรษฐีใหม่ใส่ทองเส้นโตหัวเราะเสียงดัง เอาเบี้ยพนันที่อยู่บนโต๊ะกลับไปที่หน้าตัวเอง
ฉินต้าหย่งเสียเงินไปไม่น้อยอีกแล้ว ทันใดนั้นก็เกรี้ยวกราดขึ้นมา “กว่ากูจะโชคดีได้ไม่ง่ายเลย ดันถูกโชคร้ายที่มึงพามาทำลายจนสิ้น มึงไสหัวไปซะ!รีบไสหัวไป!”
ดวงตาของฉินซีเต็มไปด้วยน้ำตา กัดริมฝีปากจ้องไปที่ฉินต้าหย่งอย่างไม่ละสายตา
เมื่อกี้เหล่าสหายพนันล้วนมีสมาธิอยู่ที่การเล่นไพ่ พอจบตานี้ ถึงได้เห็นฉินซี ที่สายตาเต็มไปด้วยความดุร้าย
“เหล่าฉิน อีกเดี๋ยวแกก็จะแพ้หมดตัวแล้ว ไม่งั้นเอาลูกสาวแกมาอยู่กับฉันสักกี่วัน แล้วฉันจะให้แกหนึ่งล้าน?”
ในขณะนี้ เศรษฐีใหม่ที่ใส่ทองเส้นใหญ่ กล่าวอย่างยิ้มกรุ้มกริ่ม ตอนพูด สายตาได้จ้องไปที่ฉินซีตลอดเวลา
“มึงหุบปากของมึงไปซะ!”
จู่ๆฉินต้าหย่งก็ระเบิดออกมา แล้วยืนขึ้น “ใครกล้าแตะต้องลูกสาวกู กูจะสู้จนสุดชีวิต ก็ต้องฆ่ามันให้ตาย!”
เดิมทีหยางเฉินที่ไม่พอใจฉินต้าหย่งเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ก็แอบชื่นชม
แต่พอเป็นแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าแผนการของตัวเอง จะสำเร็จราบรื่นไปได้ด้วยดีหรือไม่
เศรษฐีใหม่ถูกฉินต้าหย่งตะคอกใส่ จึงรู้สึกเสียหน้าทันที ยืนขึ้นมาอย่างเร็ว “ฉินต้าหย่ง มึงแม่งอยากตาย ใช่มั้ย?”
ในขณะเดียวกันนี้เอง หยางเฉินเดินมาถึงด้านหลังของเศรษฐีใหม่ แล้วจับไปที่ไหลของเขา ร่างกายของเศรษฐีใหม่ออกจากที่นั่งไปอย่างควบคุมไม่ได้
“ไสหัวไปเล่นที่อื่น!”
หยางเฉินตั้งใจพูดดัดเสียง
“เย็ดแม่ง……”
เศรษฐีใหม่กำลังจะด่าแม่ เมื่อเห็นหยางเฉินใส่หน้ากากผี ลำคอก็เหมือนถูกบีบไว้ เก็บคำด่าที่เกือบจะหลุดออกมาไว้
ที่นี่ ขอให้เป็นคนที่สวมหน้ากาก ก็อาจจะเป็นคนใหญ่คนโตได้ เขาเป็นแค่เศรษฐีใหม่ ไม่กล้าเสี่ยง