ตอนที่ 785 แผนการ (2)
ห่างจากโรงแรมของเยี่ยเทียนไปไม่ไกลนักมีหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งที่เป็นบ้านวิลล่าของเหมียวจื่อหลง ซ่งเสี่ยวหลงสามารถชักจูงคนแบบนี้ให้ทำงานรับใช้อยู่ข้างกายได้ เพราะเขาเป็นคนใจกว้าง บ้านวิลล่ามูลค่าสิบล้านยังกล้ายกให้ เหมียวจื่อหลง
“น้องเหมียว มีอะไรจะทำก็ไปทำเถอะ ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนฉันหรอก”
เหมียวจื่อหลงเป็นคนฝึกวิชายุทธ ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องที่พักอาศัยมากนัก แต่อุปกรณ์การฝึกยุทธในห้องออกกำลังกายนั้นเพียบพร้อมทุกอย่าง ตอนนี้เหลยหู่กำลังฝึกยุทธกับหุ่นไม้กระบอกอยู่ เขาฝึกหมัดมวยกับหุ่นไม้เสียงดังตึงตัง เห็นว่าเหมียวจื่อหลงเข้ามา เหลยหู่ถอยออกมาจากหุ่นไม้ วางท่าพักเก็บหมัด
“ศิษย์พี่เหลย พี่พูดแบบนี้ก็เกรงใจกันเกินไปแล้ว…..”
เหมียวจื่อหลงยิ้มแย้มเข้าไปต้อนรับ ยื่นผ้าขนหนูซับเหงื่อให้เหลยหู่ “อาจารย์มีพระคุณกับผมมาก พวกเราเป็น เหมือนพี่น้องแท้ๆ พี่มาที่เคปทาวน์ทั้งที จะไม่ให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ได้อย่างไร?”
เหมียวจื่อหลงกับเหลยหู่อายุไล่เลี่ยกัน เขาฝึกยุทธมาด้วยกัน ถ้าเทียบฝีมือกัน เหมียวจื่อหลงที่มีชาติกำเนิดต้อยต่ำยังเก่งกาจกว่าเหลยหู่
เพียงเพราะเหลยหู่มีบิดาเป็นผู้ใหญ่กว้างขวาง และค่อยๆก้าวขึ้นมาเป็นใหญ่ในสมาคมหงเหมิน ส่วนเหมียวจื่อ หลงเป็นได้เพียงผู้คุ้มกันที่มีความสำคัญคนหนึ่ง ความสนิทสนมระหว่างซ่งเสี่ยวหลงกับบ้านตระกูลเหลยที่แน่นแฟ้นนั้นผ่านทางเหมียวจื่อหลงทั้งนั้น เขากับเหลยหู่จึงสนิทสนมกัน
“ศิษย์น้องเหมียวเกรงใจเกินไป ทำไมหรือ มีธุระอะไรหรือ?”
เหลยหู่ยิ้มตอบ หลังจากถูกบิดาบีบบังคับให้ออกจากสมาคมหงเหมิน เขาก็ยังฝังใจกับเรื่องนี้ไม่หาย
เหลยเจิ้นเยวี่ยอายุอานามปาเข้าไปแปดสิบกว่าปีแล้ว การจะลามือจากวงการนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่เหลยหู่เพิ่งอายุสี่สิบกว่าปี กำลังอยู่ในช่วงสร้างตัว โดยเฉพาะเมื่อคนๆอื่นที่เคยไปมาหาสู่ห่างหายไปหมดจนบ้านเขาเหมือนเป็นบ้านร้าง ความพ่ายแพ้ที่อยู่ในใจทำให้เหลยหู่ไม่อาจทนอยู่ในซานฟรานซิสโกต่อไปได้อีก เขาจึงหาข้ออ้างเพื่อหลบมาอยู่กับเหมียวจื่อหลงที่นี่
ส่วนเหมียวจื่อหลงให้ความเคารพต่อเหลยหู่มาก จึงทำให้เหลยหู่รู้สึกสบายใจขึ้น เหลยเจิ้นเยวี่ยตามตัวเขากลับไปที่ซานฟรานซิสโกหลายครั้ง เตือนว่าอย่าเข้าใกล้ซ่งเสี่ยวหลงให้มาก แต่เหลยหู่ก็ทำเป็นหูทวนลม เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
“ศิษย์พี่เหลย ไม่ได้มีเรื่องอะไรใหญ่โตหรอก”
เหมียวจื่อหลงเห็นทีท่าของเหลยหู่แล้วต้องคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนพูดว่า “ผมเพิ่งได้ยินข่าวมาอย่างหนึ่งว่าเจ้าหนุ่มที่ชื่อเยี่ยเทียนนั่นมาที่เคปทาวน์”
“เยี่ยเทียน?” เหลยหู่ถลึงตาขึ้น ลมหายใจของเขาเร่งเร็วขึ้น สำลักออกมา “เขามาที่เคปทาวน์ทำไม?หรือว่ายังจะมารังแกบ้านเหลยของเราอีกเหรอ หรือจะมาสมน้ำหน้าฉันที่เป็นหมาหัวเน่า?”
คนที่มีจิตใจคับแคบต่างมองไม่เห็นปัญหาของตัวเอง เหลยหู่ไม่เคยคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขาใจร้อนอยากได้ตำแหน่ง ร่วมมือกับซ่งเสี่ยวหลงจัดการซ่งเวยหลัน เยี่ยเทียนก็คงจะไม่มาหาเรื่องเขาหรอก?
แต่สำหรับคนที่ดึงดันอย่างเหลยหู่ เขายอมรับที่บิดารามือจากวงการ แต่การที่ฐานอำนาจของเขาในสมาคม หงเหมินสูญเสียไปเป็นเพราะเยี่ยเทียน ทุกวันตอนที่ฝึกมวยกับหุ่นไม้ เขาจะคิดว่าหุ่นตรงหน้าคือเยี่ยเทียน
หลังจากได้ยินข่าวเยี่ยเทียนจากเหมียวจื่อหลงที่ได้ไปกระตุกต่อมความแค้นของเหลยหู่ขึ้น ใบหน้าจึงแสดงท่าทีจงเกลียดจงชัง
เหมียวจื่อหลงเห็นดังนั้นแล้วก็แอบดีใจ รีบเอ่ยต่อว่า “ศิษย์พี่เหลย เยี่ยเทียนน่ะน่ารังเกียจมาก ถ้าไม่ใช่เพราะเขา อาจารย์คงยังอยู่ในสมาคมหงเหมินมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนเจ้าของตำแหน่งประมุขสมาคมหงเหมินต้องเป็นของพี่แน่นอน”
“ไม่ผิดแน่ เจ้าเด็กนั่นเหิมเกริมมากเกินไปแล้ว เขาเอาเงินก้อนนั้นกลับคืนไปยังไม่เท่าไหร่ ยังจะมาตามล้างตามผลาญกันอีกหรือ ฉันกับเขาจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้!”
เหลยหู่ถูกเหมียวจื่อหลงยุแยงแล้วเกิดอารมณ์โมโหขึ้นมา ฟาดมือลงไปบนลูกตุ้มเหล็กที่เอาไว้ยกน้ำหนักวางอยู่ข้างตัวอย่างรุนแรงจนขอบลูกเหล็กเบี้ยวไป
“ศิษย์พี่เหลย โอกาสไม่ได้มาถึงแล้วหรือ?”
เหมียวจื่อหลงได้ยินก็หัวเราะออกมา “ฉันให้คนไปสืบแล้ว เยี่ยเทียนปลอมชื่อเป็นจ้าวเต๋อไฉ วันนี้เพิ่งเข้าประเทศมา ตอนนี้พักอยู่ที่โรงแรมซีแอตเติล เขาไม่กล้าใช้ชื่อจริงเข้าพัก น่าจะเป็นเพราะเขาไปทำเรื่องที่ไม่ดีมาแน่ ต่อให้เขาหายตัวไป คนอื่นก็ไม่กล้าเอาเรื่องเขามาพูดเสียหายหรอก!”
ในที่ๆกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์มีสองสิ่งที่ใช้ได้ประโยชน์มากที่สุด หนึ่งคือกำปั้น ใครหมัดหนักก็จะเป็นฝ่ายมีเหตุผลมากกว่า พอมาตอนยุคนี้ หมัดก็ได้เปลี่ยนเป็นปืนแล้ว ดังสำนวนที่กล่าวว่า อำนาจอยู่ที่ปลายกระบอกปืน
ส่วนอีกสิ่งหนึ่งก็คือเงินทอง เหมียวจื่อหลงใช้เงินเพียงไม่กี่หมื่นดอลลาร์ก็สามารถให้เจ้าหน้าที่คนหนึ่งในด่านตรวจคนเข้าเมืองเอารายชื่อชาวจีนที่เข้ามาในเคปทาวน์ในวันนี้ให้ เหมียวจื่อหลงมองรูปถ่ายในเอกสารนั้นแค่แวบเดียวก็รู้ว่าเป็นเยี่ยเทียนทันที
แต่ที่เหมียวจื่อหลงไม่ถึงกับสั่งให้คนไปเก็บเยี่ยเทียนถึงที่ทันที เพราะเขายังกังวลอยู่ เขาจำได้ว่าเมื่อปีนั้นที่กองทหารตามล่าสังหารเยี่ยเทียนในไต้หวัน ทั้งหมดเป็นกลุ่มทหารที่เหมียวจื่อหลงช่วยซ่งเสี่ยวหลงติดต่อให้
เพียงแต่ผลจากครั้งนั้นกลับทำให้เขาคิดไม่ถึง กลุ่มทหารที่เก่งกล้าในดินแดนเอเชียอาคเนย์ กลัยถูกทำลายหมดสิ้น ทั้งหมดเป็นทหารที่เก่งกาจไปพร้อมกับอาวุธหนัก แสดงว่าเยี่ยเทียนต้องมีฝีมือด้านการต่อสู้และยิงปืนอยู่พอสมควร
เหมียวจื่อหลงฝึกยุทธมาหลายปี เก่งกาจกว่าคนทั่วไป เขารู้ว่าอาจารย์ของเขาก็สามารถหนีเอาตัวรอดแบบตัวเปล่าจากห่ากระสุนที่ยิงไม่ยั้งได้ เยี่ยเทียนได้สู้ชนะเหลยเจิ้นเยวี่ยในงานประชุมสมาคมหงเหมิน เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่
ดังนั้นเหมียวจื่อหลงจึงยังไม่ตอบตกลงซ่งเสี่ยวหลงทันที แต่มาหาเหลยหู่ก่อน เขาอยากได้ยินว่าเยี่ยเทียนที่จริงแล้วมีฝีมือระดับไหน เพื่อจะได้เตรียมตัวให้พร้อมวางแผนอย่างรอบคอบ
“เอ๋? ศิษย์น้องจื่อหลง ฉันไม่มีอิทธิพลในเคปทาวน์เลย ฉันอยากจะให้เยี่ยเทียนตายไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่ฉันก็ไม่มีปัญญา!”
เหลยหู่อยู่ในสมาคมหงเหมินถือว่ามีตำแหน่งสูง เพราะผู้เป็นบิดามีฐานอิทธิพลเก่าอยู่แล้ว แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ จากความโกรธแค้นแต่เดิม ก็รีบตั้งสติกลับมา เขารู้ทันว่าศิษย์น้องคนนี้อยากใช้เขาเป็นทัพหน้า?
เหลยหู่รู้ตัวเองดี ถึงเขาจะโกรธแค้นเยี่ยเทียน แต่ยังรู้อีกว่าฝีมือของตัวเองสู้เยี่ยเทียนไม่ได้ ต่อให้เขาใช้ปืน เกรงว่ายังไม่ทันเหนี่ยวไกก็ถูกจัดการเสียก่อน เหมียวจื่อหลงอยากให้เขาออกหน้า มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก
“ศิษย์พี่เหลย พี่เข้าใจเจตนาของผมผิดไปแล้ว พี่ก็รู้ว่าเยี่ยเทียนทำให้นายน้อยคนนั้นเสียแผน เขาอยากให้เยี่ยเทียนตายมากกว่าพี่เสียอีก!”
เหมียวจื่อหลงรู้ทันว่าถ้าปิดบังจุดประสงค์ที่แท้จริงจะถูกเหลยหู่ตำหนิเอา จึงเอ่ยออกไปตรงๆว่า “ศิษย์พี่เหลย ผมแค่อยากรู้ว่า เจ้าหนุ่มเยี่ยเทียนนั่นฝึกวิชาไปถีงไหนแล้ว? จะทำอย่างไรให้เขาตาย แน่นอนว่าพวกเราไม่ต้องลงมือเอง!”
เหมียวจื่อหลงไม่ใช่คนวู่วามเหมือนตอนหนุ่มๆอีกแล้ว ตอนนี้เขามีทั้งสถานะทางสังคมและครอบครัว เป็นผู้มีศักดินาสูงส่ง ในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นที่ที่ใช้เงินแลกทุกอย่าง เงินดอลล่าร์ก้อนใหญ่ถูกหว่านออกไปก็จะมีคนเสนอหน้ามาให้ถึงที่
“ซ่งเสี่ยวหลงให้นายมาหรือ?”
เหลยหู่มองเหมียวจื่อหลง บอกตามตรงว่าตั้งแต่บ้านเหลยเกิดเรื่อง เขาไม่พอใจซ่งเสี่ยวหลงนัก เรื่องมาถึงขนาดนี้ เจ้าหนุ่มนั่นเผ่นหนีเร็วยิ่งกว่ากระต่ายเสียอีก ด้วยเหตุนี้เมื่อมาถึงเคปทาวน์ เขาจึงพักอยู่ในบ้านวิลล่าของเหมียวจื่อหลงและปฏิเสธคำเชิญของซ่งเสี่ยวหลงทุกครั้ง
เหมียวจื่อหลงยิ้มแหย “ศิษย์พี่เหลย เสี่ยวหลงเองก็มีเรื่องลำบากใจ เขาถูกซ่งเวยหลันปลดจากตำแหน่งสำคัญในบริษัท ตั้งแต่เรื่องอาจารย์ครั้งนั้นทำให้เขาช่วยอะไรไม่ได้”
“ที่นายว่าก็ถูก….”
เหลยหู่พยักหน้า สีหน้าดูใจเย็นลง ค่อยๆเอ่ยต่อว่า “เยี่ยเทียนถึงจะยังหนุ่มแน่น แต่การฝึกวิชานั้นล้ำลึกมาก ตอนเขาต่อสู้กับคุณพ่อแทบไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดที่มีเลย ฉันยังได้ยินมาว่าเขาเป็นวิชาคาถาอาคมด้วย!”
นิสัยของเหลยหู่เป็นคนซื่อตรงรู้เช่นไรก็เอ่ยออกมาอย่างนั้น ถึงเหลยเจิ้นเยวี่ยจะกำชับกับเขาหนักหนาว่าไม่ให้ไปยุ่งกับเยี่ยเทียน แต่เหลยหูยังแอบเก็บข้อมูลของเยี่ยเทียนแบบลับๆ แต่ในตอนนี้จิตใจเขาสงบลงมาก ความสามารถของเยี่ยเทียนแสดงออกเพียงผิวเผินนั้น เหลยหู่ยังไม่มีทางสู้ได้
“วิชาคาถาอาคม? ศิษย์พี่เหลย พี่เชื่อเรื่องแบบนี้ด้วย?”
เหมียวจื่อหลงรู้ว่าเยี่ยเทียนร้ายกาจ แต่พอได้ยินว่าวิชาคาถาอาคม เขากลับไม่ค่อยเชื่อ คนที่เป็นวิชาคาถาอาคมในสมาคมหงเหมินมีอยู่ไม่น้อย แต่แทบทั้งหมดนั่นเป็นพวกต้มตุ๋น ไม่มีใครเรียนมาอย่างแท้จริง
เหลยหู่ส่ายหน้าอย่างเคร่งขรึม “อย่าเพิ่งพูดว่าเชื่อไม่เชื่อ ศิษย์น้องจื่อหลง เยี่ยเทียนสู้กับทหารกองโจรเป็นสิบคนโดยไม่ได้รับบาดเจ็บเลยนี่แสดงว่าไม่ใช่ธรรมดา เคปทาวน์ถึงจะไม่ค่อยสงบ แต่นายคงไม่ถึงกับหาคนไปลอบวางระเบิดโรงแรมซีแอตเติลได้หรอกจริงไหม?”
เหลยหู่ออกจากวงการแล้ว ช่องทางการสืบข่าวลดน้อยลงกว่าเดิม เขาไม่รู้ถึงเหตุที่เกิดขึ้นในรัสเซียเมื่อหลายเดือนก่อน ถ้ารู้แล้วละก็ต่อให้เขาโกรธเกลียดเยี่ยเทียนแค่ไหนคงไม่กล้าหาวิธีทำร้ายเยี่ยเทียนแน่นอน
“ศิษย์พี่พูดถูก ที่โรงแรมน่ะไม่ได้ แต่พวกเราล่อให้เขาออกมาได้นี่ หาคนสักสิบคนลอบระดมยิงใส่เขา ผมไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะรอดไปได้?”
เหมียวจื่อหลงคิดเล็กน้อยแล้วพูดต่อว่า “เพียงแต่วิชาคาถาอาคมที่ศิษย์พี่บอกออกจะยุ่งยากสักหน่อย ถ้าเขามีวิชามารจริงๆ พวกเราก็ทำอะไรเขาไม่ได้”
เหมียวจื่อหลงยึดมั่นในคำพูดประโยคหนึ่งที่กล่าวว่า จูกัดเหลียงระวังตัวทั้งชีวิต ต่อให้เขาไม่เชื่อในคำบอกเล่าของเหลยหู่ที่บอกถึงวิชาคาถาอาคม แต่ก่อนที่จะวางแผนดำเนินการ ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยนี้เพิ่มด้วย
“การฝึกวิชาของเยี่ยเทียนนั้นอยู่ในขั้นสูงยังไงก็สู้ลูกกระสุนไม่ได้หรอก ศิษย์น้องจื่อหลง วิธีที่นายว่ามานั้นทำได้จริง แต่เราต้องเลือกเวลาที่เหมาะสม และต้องเลือกสถานที่คับแคบเขาจะไม่มีทางหนีได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่สำเร็จ”
ความหวังว่าจะให้เยี่ยเทียนตายของเหลยหู่ ไม่ได้ด้อยไปกว่าซ่งเสี่ยวหลงเลย หลังจากเงียบไปพักใหญ่ เขาพูดขึ้นอีกว่า “เรื่องวิชาคาถาอาคมนั้น ฉันจะคิดหาวิธีเอง ฉันรู้จักพ่อมดที่เก่งกาจคนหนึ่งในยุโรป อาจจะช่วยให้เราจัดการเยี่ยเทียนได้”